สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 2
เมื่อก่อน - เป็นวลีที่เอาไว้ใช้แขวะพวกที่โลกสวย(เกินไป) จริงๆ เช่น เกิดเหตุการณ์มีคนมางัดห้องผู้เสียหาย พวกโลกสวยก็จะมาคอมเม้นต์ประมาณว่า เขาอาจแค่เอากุญแจมาคืนให้ก็ได้ ไม่ได้คิดอะไรไม่ดีหรอก (หรา...)
ปัจจุบัน - วลีนี้ถูกใช้อย่างพร่ำพรื่อและมั่วซั่ว จนกลายเป็นวลีที่พวกโลกทรามใช้ในการ protect การกระทำผิด หรือการกระทำทรามๆของตนเอง เช่น ตนขับรถฝ่าไฟแดง พอมีคนไปว่า ก็ด่าคนที่ไปว่า ว่าโลกสวย เอ็งไม่เคยฝ่าไฟแดงหรือยังไง , ใช้ของละเมิดลิขสิทธิ์ พอมีคนว่า ก็บอกว่าอย่ามาโลกสวย ใครๆเขาก็ใช้กัน , จอดรถในที่ห้ามจอด - อย่ามาโลกสวย ใครๆเขาก็จอดกัน , เล่นเกมแล้วใช้โปรแกรมโกง - อย่ามาโลกสวย ใครๆเขาก็ใช้กัน (สรุปคือพวกโลกทรามนี่ถ้าใครไม่ทำชั่วเหมือนมัน มันด่าโลกสวยหมด)
ประมาณนี้แหละครับ
ปัจจุบัน - วลีนี้ถูกใช้อย่างพร่ำพรื่อและมั่วซั่ว จนกลายเป็นวลีที่พวกโลกทรามใช้ในการ protect การกระทำผิด หรือการกระทำทรามๆของตนเอง เช่น ตนขับรถฝ่าไฟแดง พอมีคนไปว่า ก็ด่าคนที่ไปว่า ว่าโลกสวย เอ็งไม่เคยฝ่าไฟแดงหรือยังไง , ใช้ของละเมิดลิขสิทธิ์ พอมีคนว่า ก็บอกว่าอย่ามาโลกสวย ใครๆเขาก็ใช้กัน , จอดรถในที่ห้ามจอด - อย่ามาโลกสวย ใครๆเขาก็จอดกัน , เล่นเกมแล้วใช้โปรแกรมโกง - อย่ามาโลกสวย ใครๆเขาก็ใช้กัน (สรุปคือพวกโลกทรามนี่ถ้าใครไม่ทำชั่วเหมือนมัน มันด่าโลกสวยหมด)
ประมาณนี้แหละครับ
ความคิดเห็นที่ 5
เคยพิมพ์ไปหลายๆ กระทู้ก่อนหน้านี้แล้ว ขอยกมาอีกรอบละกัน
สำหรับผมมีสองความหมาย แล้วแต่บริบทว่าจะใช้เมื่อไหร่
ความหมายแรก คือคนที่มองโลกในแง่ดีจนเกินไป คิดว่าทุกสิ่งทุกอย่างจะเป็นไปด้วยดีแน่ๆ แต่ลืมมองอีกด้านที่มันเป็นด้านมืดหรือความเป็นจริง
ความหมายที่สอง คือคนที่มักจะอวดอ้างคุณธรรม จริยธรรม ประเพณี กฎหมาย ความถูกต้อง ความยุติธรรม ความดีงามทั้งหลายบนโลกนี้
และพูดวิพากษ์วิจารณ์ผู้อื่นที่ตนคิดว่าทำผิด แต่ไม่มองถึงสภาพความเป็นจริง ความจำเป็น เหตุและผล
เพื่อที่จะกดคนอื่นให้ต่ำ และยกตัวเองให้สูงส่งขึ้น
ทั้งที่จริงๆ แล้วถึงคราวตัวเองอาจจะทำอย่างที่ตัวเองเคยวิพากษ์วิจารณ์คนอื่นไว้ก็ได้
ยกตัวอย่าง สมมติว่า มีคนมาเล่าว่า ถูกพ่อแท้ๆ ของตัวเองทำร้ายทุกวัน จะทำอย่างไรดี
คนส่วนใหญ่ก็อาจจะบอกทำนองว่า "ก็คงต้องหนีไปให้ไกลๆ อย่าไปทนมือทนเท้าพ่อเลย"
คนที่มองโลกในแง่ดี (ที่เข้าขั้นโลกสวยในความหมายแรก) ก็อาจจะบอกว่า
"ลองหาสาเหตุ คุยกับพ่อดีๆ ดูนะ แต่อย่าไปผูกใจเจ็บเลย ยังไงเค้าก็เป็นพ่อแท้ๆ"
(แต่ตอนคุยอาจจะโดนมือโดนเท้าพ่ออีกรอบ อาจจะตายก่อนจะได้คุย)
แต่ถ้าคนโลกสวยในความหมายที่สอง ก็อาจจะพูดทำนองว่า "เอาพ่อตัวเองมาประจาน เป็นลูกที่แย่มาก อกตัญญู เลว ฯลฯ"
เคสโลกสวยในพันทิป
มีเคสนึง จขกท. เป็นผู้หญิง มาตั้งกระทู้บ่นการรถไฟที่จองตั๋วรถให้ผิดพลาด ทำให้ตกรถไฟขบวนที่จะนั่งกลับบ้านไปหาพ่อแม่
จขกท. ก็เล่าว่า ฝากพ่อจองตั๋วให้ ปริ๊นตั๋วเสร็จสรรพเรียบร้อย
แต่พอวันที่เดินทาง ไปถึงปรากฏว่าตั๋วผิดรอบ รอบที่ตัวเองตั้งใจจะไปไม่มีในตั๋ว
จขกท. ก็ตกใจ โทรไป "โวยวาย" กับพ่อว่าจองตั๋วให้หนูผิดหรือเปล่า พอตรวจสอบก็พบว่าผิดที่การรถไฟลงรายละเอียดคลาดเคลื่อน
สุดท้ายก็ต้องจองตั๋วใบใหม่ และเดินทางกลับบ้านล่าช้าไปหลาย ชม.
"โทรไปโวยวายกับพ่อ" ประโยคนี้แค่ประโยคเดียว ทำให้กระทู้ที่จะบ่นการรถไฟว่าทำงานห่วยแตก
กลายเป็นกระทู้ของบรรดาชาวโลกสวยผู้อ่อนไหวกับเรื่องทางศีลธรรมและจริยธรรม
ทำการสั่งสอนเรื่องความกตัญญูกตเวทีต่อบิดามารดาให้กับ จขกท. ไปในทันที
สำหรับผมมีสองความหมาย แล้วแต่บริบทว่าจะใช้เมื่อไหร่
ความหมายแรก คือคนที่มองโลกในแง่ดีจนเกินไป คิดว่าทุกสิ่งทุกอย่างจะเป็นไปด้วยดีแน่ๆ แต่ลืมมองอีกด้านที่มันเป็นด้านมืดหรือความเป็นจริง
ความหมายที่สอง คือคนที่มักจะอวดอ้างคุณธรรม จริยธรรม ประเพณี กฎหมาย ความถูกต้อง ความยุติธรรม ความดีงามทั้งหลายบนโลกนี้
และพูดวิพากษ์วิจารณ์ผู้อื่นที่ตนคิดว่าทำผิด แต่ไม่มองถึงสภาพความเป็นจริง ความจำเป็น เหตุและผล
เพื่อที่จะกดคนอื่นให้ต่ำ และยกตัวเองให้สูงส่งขึ้น
ทั้งที่จริงๆ แล้วถึงคราวตัวเองอาจจะทำอย่างที่ตัวเองเคยวิพากษ์วิจารณ์คนอื่นไว้ก็ได้
ยกตัวอย่าง สมมติว่า มีคนมาเล่าว่า ถูกพ่อแท้ๆ ของตัวเองทำร้ายทุกวัน จะทำอย่างไรดี
คนส่วนใหญ่ก็อาจจะบอกทำนองว่า "ก็คงต้องหนีไปให้ไกลๆ อย่าไปทนมือทนเท้าพ่อเลย"
คนที่มองโลกในแง่ดี (ที่เข้าขั้นโลกสวยในความหมายแรก) ก็อาจจะบอกว่า
"ลองหาสาเหตุ คุยกับพ่อดีๆ ดูนะ แต่อย่าไปผูกใจเจ็บเลย ยังไงเค้าก็เป็นพ่อแท้ๆ"
(แต่ตอนคุยอาจจะโดนมือโดนเท้าพ่ออีกรอบ อาจจะตายก่อนจะได้คุย)
แต่ถ้าคนโลกสวยในความหมายที่สอง ก็อาจจะพูดทำนองว่า "เอาพ่อตัวเองมาประจาน เป็นลูกที่แย่มาก อกตัญญู เลว ฯลฯ"
เคสโลกสวยในพันทิป
มีเคสนึง จขกท. เป็นผู้หญิง มาตั้งกระทู้บ่นการรถไฟที่จองตั๋วรถให้ผิดพลาด ทำให้ตกรถไฟขบวนที่จะนั่งกลับบ้านไปหาพ่อแม่
จขกท. ก็เล่าว่า ฝากพ่อจองตั๋วให้ ปริ๊นตั๋วเสร็จสรรพเรียบร้อย
แต่พอวันที่เดินทาง ไปถึงปรากฏว่าตั๋วผิดรอบ รอบที่ตัวเองตั้งใจจะไปไม่มีในตั๋ว
จขกท. ก็ตกใจ โทรไป "โวยวาย" กับพ่อว่าจองตั๋วให้หนูผิดหรือเปล่า พอตรวจสอบก็พบว่าผิดที่การรถไฟลงรายละเอียดคลาดเคลื่อน
สุดท้ายก็ต้องจองตั๋วใบใหม่ และเดินทางกลับบ้านล่าช้าไปหลาย ชม.
"โทรไปโวยวายกับพ่อ" ประโยคนี้แค่ประโยคเดียว ทำให้กระทู้ที่จะบ่นการรถไฟว่าทำงานห่วยแตก
กลายเป็นกระทู้ของบรรดาชาวโลกสวยผู้อ่อนไหวกับเรื่องทางศีลธรรมและจริยธรรม
ทำการสั่งสอนเรื่องความกตัญญูกตเวทีต่อบิดามารดาให้กับ จขกท. ไปในทันที
แสดงความคิดเห็น
คำว่า "โลกสวย" นี่มันมาจากไหน?? ความหมายที่แท้จริงคืออะไร
แล้วส่วนใหญ่ มักจะเป็นคำที่คนเอาไว้แขวะกัน ไว้ประชดกัน ทั้งที่จริงแล้ว มันน่าจะเป็นเรื่องดีไม่ใช่เหรอ
กลายเป็นทุกวันนี้ คำว่าโลกสวย กลายเป็นวลีที่ใช้ด่าคนบางคนที่เห็นต่างจากตัวเองไปแล้วซะงั้น