[SR] K-A-Z-A-K-H-3 [Shryn Canyon]



มาเล่าต่อจากตอนที่แล้ว ...

แต่ตอนนี้พี่หาวขอลงรูปเป็น Slide Show นะครับ เพราะว่ารูปเยอะมาก
การลงรูปเยอะๆใน Pantip เป็นเรื่องลำบากมากๆ สำหรับวัยรุ่นตอนปลายอย่างพี่หาว
ขอเป็นลงไว้ใน Youtube แล้วกันนะครับ สามารถ Clip ชมดูเพลินๆ ได้
ส่วนเสียงอยากเปิดเพลงอะไรคลอไปก็ตามสะดวกนะครับ

ขอขอบคุณ สิงห์ คอเปอเรชั่น ที่สนุบสนุนการเดินทางมา ณ ที่นี้ด้วยนะครับ

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ


#SinghaKazahkstan

ที่คาซัคสถานนี่พี่หาวสังเกตอย่างนึงที่เขาทำได้ดีมากๆคือ ระบบการให้ความอบอุ่นในอาคารหรือ Heater

พี่หาวก็เดินทางไปเมืองหนาวๆมาหลายที่ ถ้านับว่าเป็นชนบทนอกตัวเมืองเหมือนๆกัน ที่คาซัคสถานถือว่ากินขาด
… การเดินท่อของ Heater เหมาะสมลงตัวมาก พี่หาวอาบน้ำแล้วใส่เสื้อยืด ขาสั้นไม่ต้องใส่กางเกงใน เดินไปเดินมาในบ้านสบายๆ ไม่มีความรู้สึกว่ากระปู๋ของเราขาดความอบอุ่น
อันนี้หมายถึงส่วนที่เป็นบ้านพักหรือพวก Guest House นะ ... ถ้าพักในกระโจมพี่หาวยังไม่รู้
จะหนาวไม่หนาวไว้ดูคืนนี้ เพราะว่าเรากำลังจะเดินทางไปพักในกระโจมหรือ Yurth ในหุบเขากัน

การเดินทางวันนี้เหนื่อยมาก กลับมาค่ำมืด เอาสัมภาระจัดเก็บเรียบร้อยก็ทยอยกันเดินผ่านสวนเล็กๆของที่พักไปยังห้องอาหารที่อยู่อีกอาคารหนึ่ง

“โฮ่ง โฮ่ง โฮ่ง” ... เสียงหมาที่อยู่งกรงเห่ากรรโชก ฟังน่ากลัวใช้ได้
คงเป็นหมาของที่นี่เขาเลี้ยงไว้ แต่กั้นกรงให้มันอยู่ เวลามีชายไทย ... หน้าตาดีมาพัก

… สัตว์เลี้ยงของที่นี่ เท่าที่เห็นส่วนใหญ่จะเป็นหมามากกว่าแมว
เพราะส่วนหนึ่งเขาใช้มันในงานปศุสัตว์ ช่วยต้อนแกะในทุ่งหญ้า
ซึ่งถ้าเอาแมวไปต้อนแกะ แกะมันคงจะกลัวมั้ง ....

และส่วนใหญ่เท่าที่พบ หมาที่นี่เชื่อง และเป็นมิตรมาก
เรียกว่าถ้าขาดขา ชวนมานั่งเล่นป้อกเด้ง มันก็คงจะยินดีเป็นอย่างยิ่ง

จะมีก็แต่ไอ้ตัวที่เห่าของบ้านนี้นี้แหละ ที่ดูเหมือนว่าพี่หาวเคยไปแซงคิวมันจ่ายตังค์ซื้อของที่เซเว่นท์ เจอหน้าทีไรเห่าไม่เลิก

อาหารวันนี้เป็นพาสตาเส้นแบนๆ โรยมาด้วยเนื้อชิ้นพอดีคำ ... มีน้ำซ้อสแยกมาให้ราดต่างหาก

เนื้อเยอะ เส้นเยอะ แต่รสชาติจืดๆ ...ใส่ซอสแล้วก็ยังจืดๆ
ตอนกินพยายามจินตนาการถึงมหาสมุทรอินเดีย กับทะเลแคริเบียนแล้ว ก็ยังจืดๆอยู่ดี

จืดก็กินไป ... สภาพตอนนี้คงไม่สามารถเดินฝ่าลมหนาวไปซื้อไส้กรอกอีสานมานั่งแทะ

...

คนที่นี่ใจดีนะ เรียกว่าเท่าที่พบเจอ ใจดี และเป็นมิตรมากๆ
อาจไม่ถึงกับโบกมือทักทายโปรยยิ้มให้เราเหมือนนางสาวไทย
หรือยินดีที่จะดาวน์รถให้ขับ
แต่ถ้าเรายิ้มให้ เขาจะยิ้มตอบด้วยความเป็นมิตร
หรือไม่ก็พร้อมที่จะพูดคุยช่วยเหลือด้วยความเป็นกันเอง

แต่เรื่องพูดคุยนี่จะลำบากหน่อยนะครับ เพราะว่าที่นี่จะมีภาษาที่ใช้เป็นทางการคือภาษารัชเซีย และภาษาของคาซัคเอง
คนที่สามารถพูดภาษาอังกฤษได้ที่นี่ส่วนใหญ่มีบ้างในเมืองใหญ่ๆ แต่โดยทั่วไปแล้วพูดไม่ได้
ถึงแม้ว่าเขาจะพูดไม่ได้ก็จะพยายามพูดสื่อสารกับเรานะ คือพูดภาษาของเขานั่นแหละ
พี่หาวเห็นเขาพูดภาษาอังกฤษไม่ได้ ก็พูดภาษาไทย คุยกันไปคุยกันมา แล้วก็แยกย้ายกันไปแบบมึนๆ

หลังจากผ่านไป 2 วัน ระบบขับถ่ายของพี่หาวเริ่มมีปัญหา เพราะว่าอาหารการกินและสภาพอากาศไม่เหมือนแถวลาดพร้าว 83

… เวลาอึออกมามันจะไม่ซัมเมอร์ซอลลงส้วมงดงามเหมือนที่บ้าน แต่มันจะแบบว่าเหนียวๆ เรียวๆเล็กๆ แฉะๆหน่อย
แบบนี้พี่หาวไม่ชอบเลยครับ เพราะว่ามันเหมือนอึแล้วไม่สุด ทำให้ต้องเข้าห้องน้ำบ่อยและถี่ขึ้น
… ทั้งที่พยายามกินผักเยอะๆแล้วนะ แต่ก็ช่วยอะไรไม่ได้มาก
ไม่อยากนึกถึงสภาพตัวเองวันพรุ่งนี้ที่ต้องไปนอนที่กระโจมเลย ว่าจะเป็นอย่างไรบ้าง

พี่หาวเตรียมจัดข้าวของเรียงไว้ พร้อมที่จะตื่นมาแล้วจัดเก็บเข้ากระเป๋าเดินทางง่ายๆ เพราะพรุ่งนี้หลังจากทานข้าวแล้วเราจะออกเดินทางไปไม่กลับมาที่นี่อีก



เมื่อคืนผ่านไปด้วยดี มีเสียงโตโต้ละเมอเปิดรายการเล็กน้อย แต่สักพักก็เงียบไปในที่สุด เพราะคงจะเหนื่อยกับการเดินทางมาตลอดวัน

แต่โตโต้ก็ยังคงเป็นโตโต้ ตื่นมาทำเสียงขลุกๆขลักๆ แต่งตัวเดินออกไปถ่ายรูปในหมู่บ้านแต่เช้า ...

ส่วนพี่หาวก็ตื่นตามเวลาเวลาประมาณเจ็ดโมง
... ที่นี่พระอาทิตย์ขึ้นช้านะ
เหมือนประมาณว่าติดพาเด็กเที่ยวดึกๆ เลยลุกไม่ค่อยขึ้น กว่าจะมาให้เห็นหน้าบางวันปาเข้าไปเกือบ 8 โมง

การตื่นเจ็ดโมงเช้า ของที่นี่จึงดูเป็นการตื่นนอนที่เช้ามากๆ

วันนี้พี่หาวตั้งใจว่าจะออกไปเดินถ่ายรูปในหมู่บ้านเหมือนกัน ล้างหน้า แปรงฟัน แต่ตัวเสร็จ
พี่หาวก็เดินเก็บภาพดอกไม้ใบหญ้าในสวนเล็กๆของที่พักนิดๆหน่อย แล้วก็สะเดาะกลอนประตูหน้าออกไปเดินบนถนนหลักที่ตัดผ่านหมู่บ้าน

คาซัคสถานเป็นประเทศที่ใหญ่มาก เนื้อที่เยอะ คนน้อย ทำให้ไปไหนมาไหน จะดูโล่งๆ หลวมๆ
ขนาดในหมู่บ้าน นานๆถึงจะเห็นคนเดิน หรือรถขับผ่านมา

แต่คนนึงที่พี่หาวเห็นเดินวนไปวนมา เข้าซอยโน้น ออกซอยนั้น อยู่ไกลๆคนนึง นั่นก็คือโตโต้ ... ที่หามุมถ่ายภาพแทบจะทั่วทั้งหมู่บ้านแล้วมั้ง

ส่วนพี่หาวเดินไกลเดินเยอะแบบนั้นคงไม่ไหว เลยต้องหามุมที่แสงสวยๆ แล้วไปยืนแถวๆนั้น
ชมต้นไม้ ใบไม้ แถวรั้วบ้านถ่ายไปเรื่อย เห็นหญ้าสดๆก็เล็มๆยอดกินบ้างพอประทังหิว (อันนี้ไม่ใช่แระ)
จังหวะดีถ้ามีคนดวงสมพงศ์กันเดินผ่านมา ก็อาศัยดักรอตรงนั้นเป็นมุมถ่ายภาพ
เพราะเราได้เลือกแสงเอาไว้แล้วว่ามุมตรงนั้นแหละใช่ แสงสวย ถ่ายอะไรออกมาก็น่าจะสวย

นี่เป็นภาพชุดที่พี่หาวใช้กล้อง Compact เล็กๆถ่ายตอนเข้าวันนี้
ซึ่งสามารถไปค้นได้ใน Album ก่อนๆ ที่พี่หาวเคยลงไปแล้ว

… พี่หาวชอบที่พักที่นี่มากนะ ... โดยเฉพาะบรรยากาศของห้องครัวด้านล่าง

เพราะมุมแสงที่ส่องเข้ามาทางหน้าต่าง เหมาะกับการถ่ายรูปในแบบที่พี่หาวชอบมากๆ
ซึ่งบ้านในเมืองหนาวส่วนใหญ่มักจะมีห้องและแสงประมาณนี้อยู่ คือมันจะไม่สว่างมาก
ถ้าเราถ่ายวัตถุในบริเวณที่แสงส่องถึง แล้วให้มองเห็นไปยังฉากหลังที่แสงส่องไม่ถึง
แสงที่ตัวแบบตัดกับฉากหลังที่เข้ม สร้างอารมณ์ให้กับภาพได้ค่อนข้างลงตัว

พี่หาวเลยชวนคุณป้า ที่ดูเหมือนจะเป็นเจ้าของบ้านหรือคนดูแลที่นี่มายืนถ่ายรูปที่มุมนี้
รวมถึง Dina และน้องว่านน้ำ ก็โดนจับมาเป็นแบบ มิได้ละเว้น

ภาพถ่ายมันเริ่มต้นที่แสงครับ ถ้ามีแสงที่เหมาะสมกับสิ่งที่เราต้องการถ่าย โอกาสที่จะได้ภาพที่ดีมีมิตินั้นไม่ใช่เรื่องยาก
… ต่างจากถ่ายรูปรับปริญญากลางแดดเปรี้ยงๆ อันนั้นเหนื่อยมากที่จะให้ออกมาสวย

ลองดูนะ ลองหามุมข้างๆหน้าต่างแบบนี้ถ่าย ... ไม่ต้องออกไปไหนไกล ถ่ายในบ้านเรานี่แหละ
ถ้าไม่มีหน้าต่างแบบนี้ก็ทุบผนังแล้วทำวงกบ ใส่หน้าต่างลงไป พี่หาวว่าเป็นการลงทุนที่คุ้มค่ามาก ถ้ารักการถ่ายภาพ
แต่ถ้าอยู่คอนโด อย่าเผลอไปทุบผนังด้านที่ติดกับห้องข้างๆหละ อันนั้นเอาไว้ถ่ายหนัง AV

อาหารเช้ามื้อนี้พี่หาวพยายามทานของที่คิดว่ากินแล้วมันจะไม่เมารถ ซึ่งพี่หาวก็ไม่รู้เหมือนกันว่าคืออะไรบ้าง
เลยกินมันเกือบจะซะทั้งหมดนั่นแหละ ...
… แต่สิ่งแปลกๆอย่างนึงบนโต๊ะอาหารที่นี่ ที่จะต้องมีเกือบทุกมื้อ ไม่ว่าเช้า กลางวัน เย็น ก็คือแป้งทอดแบบปาท่องโก๋บ้านเรา
คือเหมือนเขากินไอ้เจ้านี่เป็นอาหารประจำท้องถิ่นของเขา มีทั้งแบบกลมๆ และแบบเป็นคู่รักขาดจากกันไม่ได้
แล้วเขาจะมีน้ำตาลทรายมาให้ ตอนกินเราก็บิออกนิดนิงแล้วตักน้ำตาลเทลงไปตรงนั้น
ปกติอยู่เมืองไทยพี่หาวเคยกินแบบจิ้มนม

ที่นี่ก็มีนมแต่จิ้มไม่ได้ เพราะเจ้าของนมที่นั่งร่วมโต๊ะด้วยเขาไม่อนุญาต
… ก็เลยใช้วิธีจิ้มน้ำตาล แล้วชำเลืองนมคนนั้นที คนนี้ที ระหว่างที่กินไปเพลินๆ

Dina บอกว่าวันนี้เราจะเดินทางไปบนถนนหลวงเป็นหลัก แต่ว่าถนนอาจจะไม่ดีนัก
เพราะเป็นทางหลวงชนบท แต่น่าจะนั่งสบายกว่าเมื่อวานนี้
และช่วงก่อนจะเข้าที่พักใน Canyon จะเป็นถนนลูกรังขรุขระ แต่ระยะทางไม่ยาวมาก

น้อง Dina เป็นคนหน้าตา ท่าทางน่ารัก
แต่พี่หาวอายุปูนนี้ ผ่านโรคมาเยอะ ...
ไข้หวัดใหญ่ อีสุกอีใส ไข้เลือดออก ล้วนผ่านมาหมด

ทำให้รู้ว่าส่วนใหญ่คนน่ารักมักใจร้าย
พี่หาวเข้าใจเรื่องนี้ดี ดูพวกพยาบาลเป็นตัวอย่างได้
หน้าใสๆ แต่เวลาใส่เข็มน้ำเกลือเห็นพวกเธอเคยลังเลมั้ย
เพราะฉะนั้นจะให้พี่หาวเชื่อในสิ่งที่เธอพูดทั้งหมดคงจะเป็นไปไม่ได้
เพราะเมื่อวานเธอก็พูดประมาณนี้แหละ
แล้วไงหละ ... ป่านนี้กิ้งก่าแถวๆที่พี่หาวอาเจียนมันคงอิ่มท้อง
จำศีลสบายไปตลอดฤดูหนาวแล้ว

… คนน่ารักมักใจร้าย ... ท่องไว้ ท่องไว้

เราเริ่มออกเดินทางกันประมาณ 9 โมงครึ่ง ... เส้นทางช่วงแรกก็ไม่มีอะไรมาก
วันนี้อากาศดี ฟ้าใส เหมาะกับการหยุดถ่ายรูปเป็นระยะๆ
ซึ่งรถคันที่พี่หาวนั่งจะวิ่งตามรถคันหน้าที่มี โตโต้ ว่านน้ำ นุ ต้า อาศัยและใช้ชีวิตอยู่ในนั้น

… ส่วนรถที่พี่หาวนั่งจะมี Dina นั่งเบาะด้านหน้าคู่คนขับ
พี่หาวกับน้องอ๊อกนั่งเหมือนผู้บริหารบริษัทมหาชนอยู่ด้านหลัง

... มีต่อ ...
ชื่อสินค้า:   ประเทศคาซัคสถาน
คะแนน:     
**SR - Sponsored Review : ผู้เขียนรีวิวนี้ไม่ได้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง แต่มีผู้สนับสนุนสินค้าหรือบริการนี้ให้แก่ผู้เขียนรีวิว โดยที่ผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนอื่นใดในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่