คือ.. คุณอยากได้ใบปริญญา .. ทำไม?
ให้ผมพูดสิ่งที่สังคมคอยบอกกับคุณ!!!
-เพิ่มโอกาศที่จะได้งาน
-ให้โอกาศคุณประสบความสำเร็จ
-ชีวิตคุณจะไม่เครียดมาก
-การศึกษานั้นคือ กุญแจ...
และให้ผมพูดสิ่งที่พ่อแม่คอยบอกกับคุณ
-ทำให้พ่อแม่ภูมิใจ
-เพิ่มโอกาศที่จะได้งาน
-ให้โอกาศที่ลูกจะประสบความสำเร็จ
-การศึกษานั้นคือ กุญแจ...
แล้วลองมาดูพวกคนกลุ่มนี้...
สตีฟ จอบส์ ทรัพย์สินสุทธิ เจ็ดพันล้านดอลลาร์ (R.I.P) ริชาร์ด แบรนสัน ทรัพย์สินสุทธิ 4.2พันล้านดอลลาร์ โอปราห์ วินฟรีย์ ทรัพย์สินสุทธิ 2.7พันล้านดอลลาร์ มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก,เฮนรี ฟอร์ด,สตีเวน สปีลเบิร์ก,บิล เกตต์ ล้วนแล้วแต่ลาออกจากโรงเรียน ลองมองไปยังผู้คนกลุ่มนี้ คุณได้อะไรบ้าง ไม่มีซักคนที่จบการศึกษาระดับมหาวิทยาลัย แต่ทุกคนก็ประสบความสำเร็จ แล้วพวกคุณก็อาจเถียงว่า เงินไม่ใช่ตัววัดความสำเร็จเพียงอย่างเดียว และพวกคุณบางคนที่กล้าถึงขนาดพูดว่า "ฉันไม่ได้ทำงานเพื่อเงิน" แล้วคุณเรียนเพื่ออะไร... เพื่อทำงานการกุศล??? อยากรู้อะไรไหม?!! ลองดูคนเหล่านี้ จีซัส,นบีมูฮัมมัด,โสคราตีส,แมลคัม เอกซ์,แม่ชีเทเรซา,สปีลเบิร์ก,เซคสเปียร์,บีโธเฟน,เจสซี โอเวนส์,มูฮัมหมัด อาลี,ชอร์น คาร์เตอร์,ไมเคิล เจฟฟรีย์ จอร์แดน,ไมเคิล โจเซฟ แจ็คสัน. มีใครคนไหนที่ไม่ประสบความสำเร็จ? หรือ ไม่มีการศึกษาบ้างไหม...
สิ่งที่ผมจะพูดคือ ถ้าสมมติความสำเร็จมีญาติพี่น้อง งานหนักกับการศึกษาคงเป็นญาติสนิทกัน แต่โรงเรียน คงเป็นลูกพี่ลูกน้องไกลๆ ถ้าการศึกษาคือกุญแจ โรงเรียนก็คือล็อค เพราะมันพัฒนาสมองคุณได้จนถึงแค่ตอนที่คุณแยกสีเขียวออกจากสีแดงได้ แม้สมองคุณจะไปเรื่อยๆ แต่คนอื่นก็จะสั่งให้คุณหยุด เพราะว่าถ้าคุณทำตามกฎ สอบผ่าน คุณก็ยังเจ๋งอยู่ แต่คุณสังเกตุรึป่าวว่า ในเฉลยอาจารย์จะมีแนวคำตอบอยู่ แล้วถ้าคุณไปตอบนอกเหนือจากแนวนั้น คำตอบของคุณก็จะ"ผิด"ทันที แต่พวกเขากลับบอกว่า โรงเรียนจะช่วยเปิดมุมมองของคุณให้กว้างขึ้น... การศึกษาคือการจุดประกายความคิด มิใช่แค่ยัดเยียดอะไรลงสมอง และเชื่อผมเถอะ เพราะผมนั้น มีการศึกษาด้วยตัวเอง ผู้ที่ซึ่งเพิ่งรู้สึกตัว หลังจากผ่านค่ำคืนอันนับไม่ถ้วนในห้องสมุด มีเอ็มร้อยช่วยไว้ไม่ให้หลับ และกินอีกขวดจนถึงเช้า แล้วก็ผลอยหลับลงในกองหนังสือ ต้องนั้งท่องสูตร ข้อมูล วันที่ แล้วก็ต้องจดๆๆๆลงไป ครึ่งนึงผมไม่เคยจำได้ และอีกครึ่งผมลืมทันทีหลังออกห้องสอบ ผมเข้าห้องเรียนก่อนเพื่อนเสมอ เพื่อหาตำแหน่งที่ดีในการหลับ และไม่ถูกจับได้ เป็นเวลาเดียวกับที่ผมอยู่ในมหาวิทยาลัยเพื่อไล่ตามความฝัน... และหลังจากปั่นงานจนโต้รุ่งแทบตาย ผมเห็นตัวเองอยู่ในแถวของนักศึกษาสภาพกึ่งผีดิบ ที่กำลังรอส่งงานอยู่ในแถว นี่คงเป็นสิ่งที่เขาเรียกกันว่า Dead-line
(เส้นตาย). แต่ผมไม่ได้หมายความว่า โรงเรียน มหาลัย เป็นสิ่งชั่วร้าย และไม่มีอะไรให้คุณเลย สิ่งที่ผมจะบอกคือ ให้เข้าใจถึงแรงจูงใจ และกำหนดเป้าหมายของคุณใหม่ซะ!!!เพราะถ้าคุณอยากได้งาน ทำงานให้คนอื่น แล้วค่อยมาทำให้ตัวเอง ซึ่งนั้นก็จะผิดพลาดเพราะคุณจะไม่ได้ทำอะไรให้ตัวเองเลย ซึ่งมีคำกล่าวที่ว่า "ถ้าคุณไม่สร้างฝันของตัวเอง คนอื่นจะจ้างคุณไปสร้างฝันของพวกเขา" การศึกษาไม่ใช่แค่ท่องจำข้อมูลในตำราเพื่อที่จะสอบผ่านไป ปิกัสโซ มีการศึกษาในด้านศิลปะ เชคสเปียร์มีการศึกษาในด้านการเขียนหนังสือ ผู้พันฮาร์แลนค์ แซนเดอร์ก็มีการศึกษาในด้าน.... การทอดไก่ KFC. มันมีมากกว่า1ทางในโลกนี้ ที่จะเป็น"คนมีการศึกษา"
"ผมจะไม่ยอมปล่อยให้ผลสอบตัดสินชะตากรรมของตัวเอง"
Suli Breaks,นิตยสาร Vanity Fair 2009
คือ...อยากได้ใบปริญญา... ทำไม???
ให้ผมพูดสิ่งที่สังคมคอยบอกกับคุณ!!!
-เพิ่มโอกาศที่จะได้งาน
-ให้โอกาศคุณประสบความสำเร็จ
-ชีวิตคุณจะไม่เครียดมาก
-การศึกษานั้นคือ กุญแจ...
และให้ผมพูดสิ่งที่พ่อแม่คอยบอกกับคุณ
-ทำให้พ่อแม่ภูมิใจ
-เพิ่มโอกาศที่จะได้งาน
-ให้โอกาศที่ลูกจะประสบความสำเร็จ
-การศึกษานั้นคือ กุญแจ...
แล้วลองมาดูพวกคนกลุ่มนี้...
สตีฟ จอบส์ ทรัพย์สินสุทธิ เจ็ดพันล้านดอลลาร์ (R.I.P) ริชาร์ด แบรนสัน ทรัพย์สินสุทธิ 4.2พันล้านดอลลาร์ โอปราห์ วินฟรีย์ ทรัพย์สินสุทธิ 2.7พันล้านดอลลาร์ มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก,เฮนรี ฟอร์ด,สตีเวน สปีลเบิร์ก,บิล เกตต์ ล้วนแล้วแต่ลาออกจากโรงเรียน ลองมองไปยังผู้คนกลุ่มนี้ คุณได้อะไรบ้าง ไม่มีซักคนที่จบการศึกษาระดับมหาวิทยาลัย แต่ทุกคนก็ประสบความสำเร็จ แล้วพวกคุณก็อาจเถียงว่า เงินไม่ใช่ตัววัดความสำเร็จเพียงอย่างเดียว และพวกคุณบางคนที่กล้าถึงขนาดพูดว่า "ฉันไม่ได้ทำงานเพื่อเงิน" แล้วคุณเรียนเพื่ออะไร... เพื่อทำงานการกุศล??? อยากรู้อะไรไหม?!! ลองดูคนเหล่านี้ จีซัส,นบีมูฮัมมัด,โสคราตีส,แมลคัม เอกซ์,แม่ชีเทเรซา,สปีลเบิร์ก,เซคสเปียร์,บีโธเฟน,เจสซี โอเวนส์,มูฮัมหมัด อาลี,ชอร์น คาร์เตอร์,ไมเคิล เจฟฟรีย์ จอร์แดน,ไมเคิล โจเซฟ แจ็คสัน. มีใครคนไหนที่ไม่ประสบความสำเร็จ? หรือ ไม่มีการศึกษาบ้างไหม...
สิ่งที่ผมจะพูดคือ ถ้าสมมติความสำเร็จมีญาติพี่น้อง งานหนักกับการศึกษาคงเป็นญาติสนิทกัน แต่โรงเรียน คงเป็นลูกพี่ลูกน้องไกลๆ ถ้าการศึกษาคือกุญแจ โรงเรียนก็คือล็อค เพราะมันพัฒนาสมองคุณได้จนถึงแค่ตอนที่คุณแยกสีเขียวออกจากสีแดงได้ แม้สมองคุณจะไปเรื่อยๆ แต่คนอื่นก็จะสั่งให้คุณหยุด เพราะว่าถ้าคุณทำตามกฎ สอบผ่าน คุณก็ยังเจ๋งอยู่ แต่คุณสังเกตุรึป่าวว่า ในเฉลยอาจารย์จะมีแนวคำตอบอยู่ แล้วถ้าคุณไปตอบนอกเหนือจากแนวนั้น คำตอบของคุณก็จะ"ผิด"ทันที แต่พวกเขากลับบอกว่า โรงเรียนจะช่วยเปิดมุมมองของคุณให้กว้างขึ้น... การศึกษาคือการจุดประกายความคิด มิใช่แค่ยัดเยียดอะไรลงสมอง และเชื่อผมเถอะ เพราะผมนั้น มีการศึกษาด้วยตัวเอง ผู้ที่ซึ่งเพิ่งรู้สึกตัว หลังจากผ่านค่ำคืนอันนับไม่ถ้วนในห้องสมุด มีเอ็มร้อยช่วยไว้ไม่ให้หลับ และกินอีกขวดจนถึงเช้า แล้วก็ผลอยหลับลงในกองหนังสือ ต้องนั้งท่องสูตร ข้อมูล วันที่ แล้วก็ต้องจดๆๆๆลงไป ครึ่งนึงผมไม่เคยจำได้ และอีกครึ่งผมลืมทันทีหลังออกห้องสอบ ผมเข้าห้องเรียนก่อนเพื่อนเสมอ เพื่อหาตำแหน่งที่ดีในการหลับ และไม่ถูกจับได้ เป็นเวลาเดียวกับที่ผมอยู่ในมหาวิทยาลัยเพื่อไล่ตามความฝัน... และหลังจากปั่นงานจนโต้รุ่งแทบตาย ผมเห็นตัวเองอยู่ในแถวของนักศึกษาสภาพกึ่งผีดิบ ที่กำลังรอส่งงานอยู่ในแถว นี่คงเป็นสิ่งที่เขาเรียกกันว่า Dead-line
(เส้นตาย). แต่ผมไม่ได้หมายความว่า โรงเรียน มหาลัย เป็นสิ่งชั่วร้าย และไม่มีอะไรให้คุณเลย สิ่งที่ผมจะบอกคือ ให้เข้าใจถึงแรงจูงใจ และกำหนดเป้าหมายของคุณใหม่ซะ!!!เพราะถ้าคุณอยากได้งาน ทำงานให้คนอื่น แล้วค่อยมาทำให้ตัวเอง ซึ่งนั้นก็จะผิดพลาดเพราะคุณจะไม่ได้ทำอะไรให้ตัวเองเลย ซึ่งมีคำกล่าวที่ว่า "ถ้าคุณไม่สร้างฝันของตัวเอง คนอื่นจะจ้างคุณไปสร้างฝันของพวกเขา" การศึกษาไม่ใช่แค่ท่องจำข้อมูลในตำราเพื่อที่จะสอบผ่านไป ปิกัสโซ มีการศึกษาในด้านศิลปะ เชคสเปียร์มีการศึกษาในด้านการเขียนหนังสือ ผู้พันฮาร์แลนค์ แซนเดอร์ก็มีการศึกษาในด้าน.... การทอดไก่ KFC. มันมีมากกว่า1ทางในโลกนี้ ที่จะเป็น"คนมีการศึกษา"
"ผมจะไม่ยอมปล่อยให้ผลสอบตัดสินชะตากรรมของตัวเอง"
Suli Breaks,นิตยสาร Vanity Fair 2009