พระสารีบุตรอุทิศส่วนกุศลให้มารดาพ้นวิสัยเปรตสู่เทพธิดา

เนื่องด้วยการถามไถ่เรื่องการอุทิศบุญกุศล ซึ่งในพระไตรปิฎกมีตัวอย่างมากมายโดยเฉพาะในส่วนของเปตวัตถุ
เรื่องดังต่อไปนี้เป็นเรื่องของพระเถระสำคัญองค์หนึ่งในพระพุทธศาสนาคือ พระสารีบุตและพระมหาโมคคัลลานะ
ขอให้ท่านหมั่นศึกษาเรื่องวิมาน-เปตวัตถุเพื่อการเจริญสัมมาทิฏฐิที่ถูกต้องในพระพุทธศาสนาต่อไป
(จัดเว้นวรรคและบรรทัดเพื่อความง่ายในการอ่าน)

พระไตรปิฎก เล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๑๘ ขุททกนิกาย วิมาน-เปตวัตถุ เถร-เถรีคาถา

๒. สารีปุตตเถรมาตุเปติวัตถุ
ว่าด้วยนางเปรตเคยเป็นมารดาพระสารีบุตร

พระสารีบุตรเถระถามหญิงเปรตตนหนึ่งว่า
             [๙๙]     ดูกรนางเปรตผู้ผอมมีแต่ซี่โครง ท่านเป็นผู้เปลือยกาย มีรูปร่างน่าเกลียดซูบผอม มีตัวสะพรั่งไปด้วยเส้นเอ็น
ท่านเป็นใครหรือ มายืนอยู่ในที่นี้?

             นางเปรตนั้นตอบว่า
                          เมื่อก่อนดิฉันเป็นมารดาของท่าน ในชาติเหล่าอื่น ดิฉันเข้าถึงเปรตวิสัยเพรียบพร้อมไปด้วยความหิวและความกระหาย
เมื่อถูกความหิวครอบงำแล้ว ย่อมกินน้ำลาย น้ำมูก เสมหะอันเขาถ่มทิ้งแล้ว และกินมันเหลวแห่งซากศพที่เขาเผาอยู่ที่เชิงตะกอน
กินโลหิตของหญิงทั้งหลายที่คลอดบุตรและโลหิตแห่งบุรุษทั้งหลายที่ถูกตัดมือ เท้า และศีรษะที่เป็นแผล กินเนื้อ เอ็น
และข้อมือข้อเท้าเป็นต้นของชายหญิง กินหนองและและเลือดแห่งปศุสัตว์และมนุษย์ทั้งหลาย ไม่มีที่พึ่ง ไม่มีที่อยู่อาศัยนอนบนเตียงของผู้ตาย
ซึ่งเขาทิ้งไว้ในป่าช้า ลูกเอ๋ย ขอลูกจงให้ทานแล้วอุทิศส่วนบุญมาให้แม่บ้าง ไฉนหนอ แม่จึงจะพ้นจากการกินหนองและเลือด.

                          ท่านพระสารีบุตรเถระผู้มีจิตอนุเคราะห์ ได้ฟังคำของมารดาแล้ว จึงปรึกษากับท่านพระมหาโมคคัลลานเถระ ท่านพระอนุรุทธะ
และท่าน พระกัปปินะ แล้วให้สร้างกุฎี ๔ หลัง ในทิศทั้ง ๔ แล้วถวายกุฎีเหล่านั้น ข้าวและน้ำแก่สงฆ์ อุทิศส่วนกุศลไปให้มารดา

ในทันใดนั้นเอง ข้าว น้ำและผ้า ก็บังเกิดเป็นวิบาก นี้เป็นผลแห่งทักษิณาภายหลังนางมีร่างกายบริสุทธิ์สะอาด
นุ่งห่มผ้าอันมีค่ายิ่งกว่าผ้าแคว้นกาสีประดับด้วยวัตถาภรณ์อันวิจิตรเข้าไปหาท่านพระมหาโมคคัลลานเถระ.

             ท่านพระมหาโมคคัลลานเถระจึงถามว่า
                          ดูกรนางเทพธิดา ท่านมีวรรณะงามยิ่งนัก ส่องสว่างไสวไปทั่วทุกทิศสถิตอยู่ดุจดาวประกายพฤกษ์ ท่านมีวรรณะเช่นนี้
เพราะกรรมอะไร อิฐผลย่อมสำเร็จแก่ท่านในวิมานนี้ เพราะกรรมอะไร และโภคะทุกสิ่งทุกอย่างอันเป็นที่รักแห่งใจ
ย่อมบังเกิดแก่ท่านเพราะกรรมอะไร
ดูกรนางเทพธิดาผู้มีอานุภาพมาก อาตมาขอถามท่าน เมื่อท่านเป็นมนุษย์ได้ทำบุญอะไรไว้
อนึ่ง ท่านมีอานุภาพรุ่งเรืองและมีรัศมีกายสว่างไสวไปทั่วทุกทิศอย่างนี้ เพราะบุญอะไร?

             นางเทพธิดานั้นตอบว่า
                          เมื่อก่อน ดิฉันเป็นมารดาของท่านพระสารีบุตรเถระ ในชาติอื่นๆ เกิดในเปตวิสัย
เพรียบพร้อมไปด้วยความหิวและความกระหาย เมื่อถูกความหิวครอบงำแล้ว จึงกินน้ำลาย น้ำมูก เสมหะอันเขาถ่มทิ้งไว้
และกินมันเหลวแห่งซากศพที่เขาเผาอยู่บนเชิงตะกอน กินโลหิตของหญิงที่คลอดบุตรและโลหิตแห่งบุรุษทั้งหลายซึ่งถูกตัดมือ เท้า
และศีรษะที่เป็นแผล กินเนื้อ เอ็น ข้อมือและข้อเท้าของชายหญิง กินหนองและเลือดของปศุสัตว์และมนุษย์
ดิฉันไม่มีที่พึ่ง ไม่มีที่อยู่อาศัย นอนบนเตียงของคนตาย ที่เขาทิ้งไว้ในป่าช้า

ดิฉันเป็นผู้ไม่มีภัยแต่ที่ไหนๆ บันเทิงอยู่ เพราะทานของท่านพระสารีบุตร
ข้าแต่ท่านผู้เจริญดิฉันมาครั้งนี้ เพื่อจะไหว้ท่านสารีบุตรผู้เป็นนักปราชญ์ มีความกรุณาในโลก.
จบ สารีปุตตเถรมาตุเปติวัตถุที่ ๒.

http://www.84000.org/tipitaka/pitaka2/v.php?B=26&A=3319&Z=3362&pagebreak=0
อรรถกถา http://www.84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=26&i=99

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่