[BVB] DER KLASSIKER 1/2014 : BAYERN MUNICH 2 : 1 BORUSSIA DORTMUND

สวัสดีค่ะ ปกติไม่ค่อยได้ตั้งกระทู้บอลเยอรมันเท่าไหร่ วันนี้พอดีได้ดูเกมดุเดือดเลือดสาดนี้พอดีเลยขอตั้งสักกะหน่อย
และ เกมนี้เป็นอีกหนที่ ทางทีมงานผึ้งน้อย ที่สุดแสนจะใจดีของเรา ได้บุกเอาแต้มไปแจกถึงถิ่นเค้าอีกแล้ว

เกมนี้ ดอร์ทมุนด์แพ้เป็นนัดที่
1-2-3-4-5-6-7
นัดที่ 7 แล้วค่ะ และ บุนเดสลีก้าแข่งกันไป 10 นัดกลมๆขำๆแล้ว
ทางทีมงานดอร์ทมุนด์พึ่งชนะไปแค่ 2 นัด เสมออีก 1 เท่านั้นเอง



ย้ำแผลให้ชัด แล้วราดด้วยทิงเจอร์ คือ
10 นัดแรก ดอร์ทมุนด๋แพ้ เกมดาร์บี้ให้ชาลเก้ในเกมเยือนที่ 2-1
และ มาแพ้ในเกม เดอร์ กลาซิเกอร์ กับบาร์เยิร์นด้วยสกอร์ 2-1 เช่นกัน
แต่ทั้ง 2 นัดรูปเกมค่อนข้างต่างกันเยอะ

เกมช่วงแรกนี่ แฟนบาร์เยิร์นร้อง "อื้อหือออออ" กันเลย ทำไมดอร์ทมุนด์มันมาโหดสัสกันขนาดนี้
ขนาดแฟนดอร์ทมุนด์เองยังร้อง "โอ่โหหหห้" เลย ทำไมนัดนี้มาเล่นกันพลิ้ว หลังแน่น เป้าดี กลางเลิศขนาดนี้
แต่จริงๆแล้ว มันก็ไม่ใช่เรื่องที่ดูผิดฟอร์มเลยในรูปเกม ทุกนัดดอร์ทมุนด๋เล่นแบบนี้
คือ เล่นเกมเร็วบุกดี เล่นเกมรับรอโดน

หลังเปิดฉากชิ่งกระทบ ต่อบอลเร็วโหดฝรัด ดอร์ทมุนด์ได้นำก่อน โดยมาโกร้ หรอย
ขึ้นนำก่อนนี่ อารมณ์ประมาณ โว้ยยยยยยย ทำได้โว้ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย




เหมือน ดู Horrible Bosses ฮากรามค้าง วางแผนเอาคืน ฮาแบบนันสต็อป



ขึ้นนำก่อนไม่เท่าไหร่ ขึ้นนำทีมที่เป็นจ่าฝูงยังเฉยๆ แต่ขึ้นนำบาร์เยิร์นฯก่อนในบ้านนี่แบบ
อ่ะโห่เห้ยยยยยยย บะลักขั่กกกกกกกกกกกกกกกกกกกก
(ส่วนตัวยังไม่อินขนาดนั้นเหมือนกัน เพราะไม่ใช่แฟนเหนียวแน่น
ติดตามมัทส์ ฮุมเมลส์มาเชียร์เฉยๆ แต่เห็นแฟนนอกเค้าค่อนข้างอินกันมาก)

เกมนี้โดยรวมแล้วสนุกมาก บาร์เยิร์นฯนี่สู่ยิบตาเพื่อประตูตีเสมอ แล้วไวเดนฯก็องค์มาลงซะงั้นคือ บินเซฟ บินปัดได้ตลอด
และ บาร์เยิร์นไม่มีโชคเลย ชิงชนเสา ชนคาน จ่อๆยังเขกออก อยู่หน้าตาประตูยังลื่นล้ม เป็นแบบนี้จนน่าจะเพลียกัน

จนกระทั่งมาได้ลูกตีเสมอจาก โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้
(อดีตนักเตะเก่าของโบรุซเซีย ดอร์ทมุนด์)

พอมาเจอตีเสมอแล้ว บาร์เยิร์นฯที่ไม่เคยผ่อนเกมบุกก็สอยเอา สอยเอา แถมเปลี่ยนริเบรี่ลงมาแทงปลาไหลฝั่งซ้ายอีก
จนซูโบติคโอปป้า ติ่งแตก เป็นแมน ออฟ เดอะแมตช์จนได้

แอสซิท (เลวาน) 1
เหลือง 1
แจกจุดโทษ (รอบเบน) 1

พอเจอประตูนำจากจุดโทษท้ายเกม นี่แบบ ... โอ้ แกรรรรร์ ...

PLOT TWIST



จากหนังตลกกลายเป็นหนังผี แบบ โอ่โห่ กุว่าละไง
บอกให้ดูชื่อหนังดีๆ ไม่เอา "หักมุม"
แต่ทางทีมงานก็จัด "หักมุม" แบบตกเก้าอี้มาให้เราจนได้

เต่าเอือม

จริงๆแล้วถามว่า แพ้ติดๆกันมันน่าเบื่อมั้ย สำหรับเราที่ตามทีมมาไม่นานคือ มันรู้สึกเศร้า แต่มันไม่น่าเบื่อ
เพราะเกมของดอร์ทมุนด์ มันดูมีสปิริตและนักเตะมีใจสู้(มากๆ)ในทุกๆเกมจริงๆ แต่เหมือนมันไม่มีดวงชนะก็เท่านั้น

จริงๆเราได้ดู เดอร์ กลาซิเกอร์ ทุกนัดในช่วง 2-3 ปีหลัง แม้จะยังไม่รู้สึกอิน
แต่คิดว่า ศึกห้ำหั่นระหว่าง 2 ทีมนี้มันดุเดือดไม่เหมือนใครจริงๆ
คือ แม้เกมจะต้องสู้เลือดตาแทบกระเด็นแค่ไหน แต่มีการกระทบกระทั่ง วางมวยกันน้อยมาก
(อาจเพราะทั้ง 2 ทีมค่อนข้างคุ้นเคยกันในลีกและในทีมชาติ)
ทุกคนวิ่งไม่เคยหยุดพัก ไม่ไม่เคยคำว่าเหยื่อยจนกว่าจะหมดเวลา

เกมเดอร์ กลาซิเกอร์ ที่เราประทับใจจนแอบน้ำตาซึมแม้จะเชียร์ดอร์ทมุนด์คือ นัดชิง DFB Pokal เมื่อปีก่อน
บาร์เยิร์นเอาแชมป์ถ้วยสุดท้ายที่ ดอร์ทมุนด๋ได้ลุ้นไป มันเป็นเรื่องที่น่าเศร้ามาก แต่ใครได้ดูเกมจะรู้ว่า
มันไม่มีอะไรไม่ยุติธรรมเลยในเกมวันนั้น

เกมวันนั้น บาร์เยิร์นและดอร์ทมุนด์ ผลัดกันแลกหมัดต่อหมัดมาทั้งเกม จนเสมอในเวลา แบบที่ต้องต่อเวลาพิเศษ
จำได้ว่า ตอนนั้นนักเตะวิ่งกันทั้งเกมจนเหนื่อยมาก แทบไม่มีแรง พักกินน้ำก็แล้วอะไรก็แล้ว
บางคนล้มลงไปนอนเป็นตะคริว 2-3 ต้องเคลียร์บอลทิ้งเผื่อมาช่วยกันนวดนักเตะที่เป็นตะคริว
โธมัส มุลเลอร์ คืออีกคนที่เป็นตะคริว แต่เขาไม่หยุดวิ่งเลย

หลังจากประตูของรอบเบน ทำให้พลัง(ใจ) ของดอร์ทมุนด์ตกลงไปทันที แต่พวกเขาก็ไม่ผ่อนเกมเลย
กลับวิ่งบ้าเลือดกว่าเดิม จนกระทั่งประตูที่ 2 จากมุลเลอร์ มันคือประตูที่ดับฝันแฟนดอร์ทมุนด์
แต่มันเป็นฉากดราม่าฟุตบอลที่น่าจดจำมาก

เรายังจำตอนที่มุลเลอร์ที่ขาเปลี้ย ขาอ่อน (ส่วนหนึ่งน่าจะเพราะตะคริวกิน)
ลากบอลแบบยักแย่ยักยันไปยิงประตูชัยในช่วงต่อเวลาสุดท้ายได้
มันคงเป็นช่วงเวลาที่สุดยอดสำหรับแฟนบาร์เยิร์น แต่สำหรับเรามันกลืนไม่เข้าคายไม่ออก

เรายอมรับในความใจสู้ของมุลเลอร์และนักเตะบาร์เยิร์นแต่เราก็ดีใจกับบาร์เยิร์นไม่ได้จริงๆ
เราดูฟุตบอลมาไม่นาน แต่พยายามหาทีมเชียร์หลากหลาย สำหรับดอร์ทมุนด์ แม้เราจะมาตามเชียร์ไม่นาน
แต่รู้สึกว่า มันมีสเน่ห์ที่ไม่เหมือนใครจริงๆ

คือ เวลาที่ดอร์ทมุนด้องพบกับความพ่ายแพ้ เมื่อคุณมองไปที่นักเตะ
เราแทบไม่เคยรู้สึกว่า นักเตะพวกนี้น่าสงสารหรือน่าเห็นใจเลย
แต่มันเป็นความรู้สึกที่ว่า "ไม่หรอก พวกเขาไม่ได้น่าสงสาร พวกเขาสุดยอด และมันจะต้องได้รับคำชม"

อาจไม่ได้หมายถึงฝีมือซะทั้งหมด แต่เราหมายถึงแรงใจ

และเราจะปล่อยนักเตะแบบนี้ไว้ให้เขาจมอยู่กับความพ่ายแพ้ไม่ได้
เหมือนกองเชียร์จะต้องให้กำลังใจพวกเขามากกว่านี้
และมันเป็นความรู้สึกแบบที่ว่า

"ไม่เป็นไร พรุ่งนี้จะดีขึ้นแน่ๆ"



และทุกๆวัน มันก็ดูเป็นแบบนั้นจริงๆ
วันนี้มันก็แย่
แต่พรุ่งนี้มันจะต้องดีขึ้นแน่ๆ

สำหรับเรา ชื่อของ "โบรุซเซีย ดอร์ทมุนด์"
อาจจะยังไม่ทำให้เรารู้สึกอินได้มากเท่ากับ ลิเวอร์พูล , รีล มาดริด หรือ อาแจ็กซ์
แต่หลังจากติดตามฟอร์มห่างๆมา 2-3 ปีแล้วรู้สึกว่า
ทุกครั้งที่ได้ดูดอร์ทมุนด์ มันเต็มไปด้วยพลัง และ แรงบรรดาลใจสำหรับคนดูจริงๆ

เราไม่อาจเรียกตัวเองว่าเป็นแฟนทีมได้อย่างเต็มปากเต็มคำ และมันคงฟังดูน้ำเน่า
แต่ โบรุซเซีย ดอร์ทมุนด์ เป็นสโมสรที่ได้ใจ "แฟนฟุตบอล" อย่างเราจริงๆ

สำหรับ เดอร์ กลาซิเกอร์ ไม่ว่ามันจะมีประวัติความเป็นมาอันแสนดุเดือดอย่างไร
แต่สำหรับเรา ทุกเกมที่เราเคยได้ดูมันเป็นเกมที่แฟนบอลจะต้องมีความสุขกับการดูแน่นอน
ไม่ว่าคุณจะเป็นแฟนทีมไหน หรือ ไม่ได้เชียร์ทีมใดเลยสักทีม



นี่คือเกมของ 2 ทีมที่เต็มไปด้วย พลังขับเคลื่อน ความทะเยอทะยานและแรงบรรดาลใจ
และสำหรับพวกเขา เมื่อต้องมาพบกัน ทุกนัดคือนัดชิงขนะเลิศ

ไม่ว่าจะจบด้วยชัยชนะหรือความพ่ายแพ้ของใคร
แต่ทุกครั้ง มันจะเป็นการต่อสู้ของทีมที่ดีที่สุด 2 ทีมเสมอ

เพราะมันคือ การต่อสู้ของ BAYERN MUNICH และ BORUSSIA DORTMUND

มันคือ DER KLASSIKER
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่