สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 5
ค่าครองชีพสูงหรือตำ่ควรจะเปรียบเทียบกับรายได้ด้วย
อเมริกาต้องถือว่าค่าครองชีพตำ่เมื่อเทียบกับรายได้ เพราะฉะนั้นคนที่ไม่ขี้เกียจในอเมริกาจะอยู่ดีกินดี ประเทศเขาถึงเรียกว่าเจริญ
เมืองไทยเราค่าครองชีพนับว่าสูงเมื่อเทียบกับรายได้ ประเทศเราถึงมีคนจนเยอะ ขนาดจบปริญญาตรี บางคนยังมีรายได้แทบไม่พอเลี้ยงตัวเอง
ประเทศไหนที่มีคนบริหารประเทศไม่เก่ง เอาแต่คอร์รัปชั่น เงินภาษีก็เข้ากระเป๋านักการเมืองไปมาก เงินที่เหลือก็ไม่มีพอมาพัฒนาประเทศชาติ ประชากรในชาตินั้นก็ต้องรับกรรมต่อไป แต่จะโทษใครได้ล่ะ ถ้าไม่โทษพวกเราเองที่ไม่ฉลาดพอที่จะเลือกคนดีๆเข้าไปบริหารประเทศ หรือว่าคนดีๆไม่อยากเล่นการเมืองกันแล้ว ก็เลยไม่มี่คนดีให้เลือก
หรือว่าอำนาจเงินถ้ามากพอ ก็สามารถทำให้คนที่เราเคยคิดว่าดี กลับกลายมาเป็นควายได้ในประเทศเรา?
อเมริกาต้องถือว่าค่าครองชีพตำ่เมื่อเทียบกับรายได้ เพราะฉะนั้นคนที่ไม่ขี้เกียจในอเมริกาจะอยู่ดีกินดี ประเทศเขาถึงเรียกว่าเจริญ
เมืองไทยเราค่าครองชีพนับว่าสูงเมื่อเทียบกับรายได้ ประเทศเราถึงมีคนจนเยอะ ขนาดจบปริญญาตรี บางคนยังมีรายได้แทบไม่พอเลี้ยงตัวเอง
ประเทศไหนที่มีคนบริหารประเทศไม่เก่ง เอาแต่คอร์รัปชั่น เงินภาษีก็เข้ากระเป๋านักการเมืองไปมาก เงินที่เหลือก็ไม่มีพอมาพัฒนาประเทศชาติ ประชากรในชาตินั้นก็ต้องรับกรรมต่อไป แต่จะโทษใครได้ล่ะ ถ้าไม่โทษพวกเราเองที่ไม่ฉลาดพอที่จะเลือกคนดีๆเข้าไปบริหารประเทศ หรือว่าคนดีๆไม่อยากเล่นการเมืองกันแล้ว ก็เลยไม่มี่คนดีให้เลือก
หรือว่าอำนาจเงินถ้ามากพอ ก็สามารถทำให้คนที่เราเคยคิดว่าดี กลับกลายมาเป็นควายได้ในประเทศเรา?
ความคิดเห็นที่ 37
ส่วนตัว เคยอาศัยอยู่อเมริกามา 10 ปี
ได้เงินเดือน graduate research assistant แค่พันนิดๆ ต่อเดือน
ถ้าคิดเทียบเป็นเงินไทย ดูเหมือนเยอะ คือ 30,000 กว่าบาท
แต่จริงๆ มันคือต่ำกว่าค่าแรงขั้นต่ำของอเมริกาซะอีกนะ
แต่เราสามารถใช้เงินเท่านี้อยู่ในอเมริกา เมืองขนาดกลาง (ประมาณ โคราช-ขอนแก่น) ในรัฐทางเหนือๆ ได้แบบไม่ขัดสน
แต่ต่อๆ มาก็ทำงานพิเศษเพิ่มอะนะ เพราะว่าอยากมีเงินเก็บ เงินช้อป เงินเที่ยวเพิ่ม
ขอเปรียบเทียบง่ายๆ ยึดค่าแรงขั้นต่ำละกันเนาะ
บางอย่าง อเมริกาก็ถูกกว่าไทยนะ (เทียบกับค่าแรง)
แต่บางอย่างก็แพงกว่าไทยเยอะเหมือนกัน
อเมริกา
- ค่าแรงขั้นต่ำ 7.25 USD โดยประมาณ ต่อ วัน
- ถ้าทำงานวันละ 8 ชม. ก็รายได้โดยประมาณ 58 USD
- ไข่ขนาด xl แผงนึง (12 ฟอง) น่าจะประมาณ 2 USD
ดังนั้นทำงานทั้งวัน สามารถซื้อไข่ได้ 29 แผง หรือ 348 ฟอง
- นมสด ลิตรละ 3 USD ทำงานทั้งวัน ซื้อนมได้ 19 ลิตร
- ซื้อเสื้อผ้าแบบเซลล์กระหน่ำ ใน walmart เคยเจอตัวละ 1 USD ซื้อได้ 58 ตัวเลยนะ
- ร้านอาหารติดแอร์แบบธรรมดาๆ อาหารจานละ 10 USD ได้ 5 จาน
- ค่าเช่า studio apartment คือแบบ ห้องสี่เหลี่ยมห้องเดียว เมืองขนาดกลาง (ประมาณโคราช) ประมาณ 400 USD
คหสต. คิดว่า ค่าเช่าที่พักในอเมริกานี่แหละที่ค่อนข้างโหด
ถ้าเช่าเดือนละ 400 USD ก็ต้องทำงานอย่างน้อย 7 วัน ถึงจะพอจ่ายค่าเช่า
- ราคา townhome รัฐทางเหนือ เมืองขนาดกลาง ประมาณ 100,000 USD = 3,000,000 บาท
ถ้ารายได้แค่ค่าแรงขั้นต่ำ ไม่รู้เหมือนกันนะ จะผ่อนไหวป่าว
ไทย
- ค่าแรงขั้นต่ำประมาณ 300 บาท ต่อวัน
- ไข่ขนาดใหญ่สุด ฟองละ 4 บาท สามารถซื้อได้ 75 ฟอง
- นมสด ลิตรละ 40 บาท สามารถซื้อได้ 7.5 ลิตร
- เสื้อผ้าตลาดนัด (แบบของใหม่) ตัวละ 99 บาท ซื้อได้ 3 ตัว
- กินข้าวในร้านอาหารติดแอร์แต่ไม่ไฮโซ จานละ 100 บาท ได้ 3 จาน
- ค่าเช่าหอพักแบบเบสิคๆ ห้องเดียว เจอในเน็ต แถวๆ ขอนแก่น ห้องแอร์ เดือนละ 3,500 บาท
อันนี้ถ้ารายได้วันละแค่ 300 บาท ก็ต้องทำงานอย่างน้อย 12 วันถึงจะพอค่าหอพัก
- ค่าทาวน์เฮาส์ที่ขอนแก่น เจอในเน็ต ก็ประมาณ ล้านห้า ด้วยค่าแรงวันละ 300 บาท จะผ่อนไหวมั้ยเนี่ย สงสัยเหมือนกัน
ยกตัวอย่างแค่นิดๆ หน่อยๆ อะนะคะ
คหสต. เลยนะ เราคิดว่าอเมริกาจริงๆ ค่าครองชีพ เมื่อเทียบกับรายได้ของเค้า เราว่าไม่สูง
แต่ถ้าเอาค่าครองชีพของเค้า มาเทียบกับรายได้ของคนไทยเรา เวลาเราไปเที่ยวระยะเวลาสั้นๆ
ที่ประเทศอเมริกากัน ส่วนใหญ่ก็จะมองว่าค่าครองชีพที่นั่นแพง
แต่เอาจริงๆ เลยนะ เราว่าค่าครองชีพในประเทศไทยสูงขึ้นเยอะมาก มากจนน่าตกใจ
ตอนกลับมาจากอเมริกาใหม่ๆ (เมื่อปี 2011) เราตกใจเลยนะ
เจอปลาหมึกปิ้งที่แผงปลาหมึกหน้าฟู้ดแลนด์รามอินทรา ไม้ละ 50 บาท!!!!
ก๋วยเตี๋ยวเนื้อแถวบ้าน ขยับขึ้นเป็น ธรรมดา ชามละ 50 บาท!!! แม่เจ้า
อาหารรถเข็น อาหารตามสั่งใน กทม. ส่วนใหญ่ จานละ 40-60 บาท
แต่โชคดีที่เราทำงาน ตจว. ยังเจออยู่นะคะ ที่อาหารตามสั่ง และก๋วยเตี๋ยว จานละ 25 บาท แต่เป็นส่วนน้อย
ส่วนใหญ่ที่เจอที่ ตจว. ที่ทำงานอยู่ ขั้นต่ำก็ 30-35 เกือบทั้งนั้นอะ
ได้เงินเดือน graduate research assistant แค่พันนิดๆ ต่อเดือน
ถ้าคิดเทียบเป็นเงินไทย ดูเหมือนเยอะ คือ 30,000 กว่าบาท
แต่จริงๆ มันคือต่ำกว่าค่าแรงขั้นต่ำของอเมริกาซะอีกนะ
แต่เราสามารถใช้เงินเท่านี้อยู่ในอเมริกา เมืองขนาดกลาง (ประมาณ โคราช-ขอนแก่น) ในรัฐทางเหนือๆ ได้แบบไม่ขัดสน
แต่ต่อๆ มาก็ทำงานพิเศษเพิ่มอะนะ เพราะว่าอยากมีเงินเก็บ เงินช้อป เงินเที่ยวเพิ่ม
ขอเปรียบเทียบง่ายๆ ยึดค่าแรงขั้นต่ำละกันเนาะ
บางอย่าง อเมริกาก็ถูกกว่าไทยนะ (เทียบกับค่าแรง)
แต่บางอย่างก็แพงกว่าไทยเยอะเหมือนกัน
อเมริกา
- ค่าแรงขั้นต่ำ 7.25 USD โดยประมาณ ต่อ วัน
- ถ้าทำงานวันละ 8 ชม. ก็รายได้โดยประมาณ 58 USD
- ไข่ขนาด xl แผงนึง (12 ฟอง) น่าจะประมาณ 2 USD
ดังนั้นทำงานทั้งวัน สามารถซื้อไข่ได้ 29 แผง หรือ 348 ฟอง
- นมสด ลิตรละ 3 USD ทำงานทั้งวัน ซื้อนมได้ 19 ลิตร
- ซื้อเสื้อผ้าแบบเซลล์กระหน่ำ ใน walmart เคยเจอตัวละ 1 USD ซื้อได้ 58 ตัวเลยนะ
- ร้านอาหารติดแอร์แบบธรรมดาๆ อาหารจานละ 10 USD ได้ 5 จาน
- ค่าเช่า studio apartment คือแบบ ห้องสี่เหลี่ยมห้องเดียว เมืองขนาดกลาง (ประมาณโคราช) ประมาณ 400 USD
คหสต. คิดว่า ค่าเช่าที่พักในอเมริกานี่แหละที่ค่อนข้างโหด
ถ้าเช่าเดือนละ 400 USD ก็ต้องทำงานอย่างน้อย 7 วัน ถึงจะพอจ่ายค่าเช่า
- ราคา townhome รัฐทางเหนือ เมืองขนาดกลาง ประมาณ 100,000 USD = 3,000,000 บาท
ถ้ารายได้แค่ค่าแรงขั้นต่ำ ไม่รู้เหมือนกันนะ จะผ่อนไหวป่าว
ไทย
- ค่าแรงขั้นต่ำประมาณ 300 บาท ต่อวัน
- ไข่ขนาดใหญ่สุด ฟองละ 4 บาท สามารถซื้อได้ 75 ฟอง
- นมสด ลิตรละ 40 บาท สามารถซื้อได้ 7.5 ลิตร
- เสื้อผ้าตลาดนัด (แบบของใหม่) ตัวละ 99 บาท ซื้อได้ 3 ตัว
- กินข้าวในร้านอาหารติดแอร์แต่ไม่ไฮโซ จานละ 100 บาท ได้ 3 จาน
- ค่าเช่าหอพักแบบเบสิคๆ ห้องเดียว เจอในเน็ต แถวๆ ขอนแก่น ห้องแอร์ เดือนละ 3,500 บาท
อันนี้ถ้ารายได้วันละแค่ 300 บาท ก็ต้องทำงานอย่างน้อย 12 วันถึงจะพอค่าหอพัก
- ค่าทาวน์เฮาส์ที่ขอนแก่น เจอในเน็ต ก็ประมาณ ล้านห้า ด้วยค่าแรงวันละ 300 บาท จะผ่อนไหวมั้ยเนี่ย สงสัยเหมือนกัน
ยกตัวอย่างแค่นิดๆ หน่อยๆ อะนะคะ
คหสต. เลยนะ เราคิดว่าอเมริกาจริงๆ ค่าครองชีพ เมื่อเทียบกับรายได้ของเค้า เราว่าไม่สูง
แต่ถ้าเอาค่าครองชีพของเค้า มาเทียบกับรายได้ของคนไทยเรา เวลาเราไปเที่ยวระยะเวลาสั้นๆ
ที่ประเทศอเมริกากัน ส่วนใหญ่ก็จะมองว่าค่าครองชีพที่นั่นแพง
แต่เอาจริงๆ เลยนะ เราว่าค่าครองชีพในประเทศไทยสูงขึ้นเยอะมาก มากจนน่าตกใจ
ตอนกลับมาจากอเมริกาใหม่ๆ (เมื่อปี 2011) เราตกใจเลยนะ
เจอปลาหมึกปิ้งที่แผงปลาหมึกหน้าฟู้ดแลนด์รามอินทรา ไม้ละ 50 บาท!!!!
ก๋วยเตี๋ยวเนื้อแถวบ้าน ขยับขึ้นเป็น ธรรมดา ชามละ 50 บาท!!! แม่เจ้า
อาหารรถเข็น อาหารตามสั่งใน กทม. ส่วนใหญ่ จานละ 40-60 บาท
แต่โชคดีที่เราทำงาน ตจว. ยังเจออยู่นะคะ ที่อาหารตามสั่ง และก๋วยเตี๋ยว จานละ 25 บาท แต่เป็นส่วนน้อย
ส่วนใหญ่ที่เจอที่ ตจว. ที่ทำงานอยู่ ขั้นต่ำก็ 30-35 เกือบทั้งนั้นอะ
ความคิดเห็นที่ 11
Be honest and think to compare twice. An American worker earning 2,400$ a month or 76,800 Bht, compare to a Thai worker earning this same amount , then find out whose life is more living comfortable and happier ?
A worker in the US who makes 2,400$ a month which is the average wages for a worker in the manufacturing industry, such as a metal welder. He can only live in a rental apartment of 1 bed room for 500$, driving a pre-own vehicle of which the monthly payment is not exceed 400$. He will use up every penny before the next pay day dues.
But, a worker in Thailand who makes 76,800 Bht a month can live very comfortably and happily. He can even buy a house, driving a red tag brand new car. Put himself as a middle class or white collar people of the country.
Why is that ? Is it because the cost of living ? Or is it the less expensive of a piece of McDonald ?
A worker in the US who makes 2,400$ a month which is the average wages for a worker in the manufacturing industry, such as a metal welder. He can only live in a rental apartment of 1 bed room for 500$, driving a pre-own vehicle of which the monthly payment is not exceed 400$. He will use up every penny before the next pay day dues.
But, a worker in Thailand who makes 76,800 Bht a month can live very comfortably and happily. He can even buy a house, driving a red tag brand new car. Put himself as a middle class or white collar people of the country.
Why is that ? Is it because the cost of living ? Or is it the less expensive of a piece of McDonald ?
ความคิดเห็นที่ 4
ไม่แน่ใจเหมือนกันนะครับว่าจะถูกต้องหรือเปล่านะครับ ผิดถูกยังไงก็ช่วยกันแก้ไขนะครับ
ภาษีด้านรถของเค้าตำ่กว่าไทยมากครับ ของไทยมีภาษีสรรพสามิตที่เป็นส่วนนึงที่ทำให้ราคารถแพง ยิ่งถ้านำเข้าทั้งคันยิ่งไม่ต้องพูดถึง อีกย่างนึง รถที่ไทยเค้ามองเป็นสินค้าฟุ่มเฟือย แต่ที่โน่นเค้าเป็นสินค้าจำเป็นครับ
ส่วนนำ้มันรู้สึกว่าเค้าจะขุดได้เอง ไม่ต้องนำเข้าเหมือนไทย หรือถ้านำเข้าก็คงเป็นในปริมาณที่น้อย
ค่าแรงที่นั้นสูงก็จริงครับถ้าเทียบกับไทย แต่ก็เสียภาษีและประกันสังคมสูงเหมือนกันครับ ยิ่งถ้าเป็นอาชีพที่รายได้สูงๆ บางทีเสียกันเกือบ 50% แต่สวัสดิการของเค้าก็ดีกว่าไทยมาก
ส่วนตัวผมว่าสินค้าในเมืองไทยหลายอย่างแพงอย่างไร้สาระครับ สิ่งที่ราคาถูกส่วนใหญ่จะเป็นของกินกับของใช้จำเป็นเท่านั้น เช่น แปรงสีฟัน ยาสีฟัน ฯลฯ รัฐบาลต้องการสนับสนุนให้ใช้ของที่ผลิตในไทยครับ เลยตั้งภาษีนำเข้าสูงๆ แต่ก็ไม่ดูเลยว่าสินค้าหลายอย่างของไทยมันห่วยแค่ไหน ไม่ใช่ทุกอย่างนะครับที่ห่วย ของที่ไทยทำดีๆก็มีหลายอย่างครับ และการที่ตั้งภาษีนำเข้าสูงๆ ก็เป็นส่วนนึงที่ทำให้ผู้ผลิตสินค้าบางรายไม่ค่อยพัฒนาสินค้าของตัวเองซักเท่าไหร่ เพราะถือว่าถ้านำเข้ามาแล้วราคาจะสูงทำให้คนซื้อน้อย เป็นการจำกัดคู่แข่งไปในตัว
ส่วนเรื่องค่าครองชีพ ส่วนตัวผมว่าควรจะไปทิศทางเดียวกับพลังงานครับ เช่นถ้าราคาพลังงานสูง ค่าครองชีพก็ควรจะสูงตามซึ่งรวมถึงค่าแรงด้วยนะครับ เพราะราคาพลังงานจะเป็นตัวกำหนดราคาของสินค้าเกือบทุกอย่างในประเทศ เช่น ถ้าน้ำมันแพง ค่าขนส่งก็ต้องแพงขึ้น ค่าสินค้าก็ควรจะต้องแพงขึ้นตาม ถ้าค่า gas แพง ค่าอาหารก็ควรจะต้องแพงขึ้น เพราะต้องใช้ gas ในการปรุงอาหาร ค่าไฟอาจจะต้องแพงขึ้นด้วยในกรณีที่ใช้ gasในการผลิต และในเมื่อค่าไฟแพง ก็จะทำให้ต้นทุนการผลิตสินค้าหลายๆอย่างสูงขึ้น ราคาขายก็ควรจะสูงขึ้น เมื่อราคาสินค้าหลายอย่างสูงขึ้นค่าแรงก็ควรจะสูงขึ้นด้วย
ที่พูดมาทั้งหมดไม่ได้ว่าอยากจะให้ค่าครองชีพสูงนะครับ ถ้าค่าครองชีพต่ำก็ดีครับผมก็ชอบ เพียงแต่ตอนนี้รู้ศึกว่ามันฝืนธรรมชาติเท่านั้นเอง
ภาษีด้านรถของเค้าตำ่กว่าไทยมากครับ ของไทยมีภาษีสรรพสามิตที่เป็นส่วนนึงที่ทำให้ราคารถแพง ยิ่งถ้านำเข้าทั้งคันยิ่งไม่ต้องพูดถึง อีกย่างนึง รถที่ไทยเค้ามองเป็นสินค้าฟุ่มเฟือย แต่ที่โน่นเค้าเป็นสินค้าจำเป็นครับ
ส่วนนำ้มันรู้สึกว่าเค้าจะขุดได้เอง ไม่ต้องนำเข้าเหมือนไทย หรือถ้านำเข้าก็คงเป็นในปริมาณที่น้อย
ค่าแรงที่นั้นสูงก็จริงครับถ้าเทียบกับไทย แต่ก็เสียภาษีและประกันสังคมสูงเหมือนกันครับ ยิ่งถ้าเป็นอาชีพที่รายได้สูงๆ บางทีเสียกันเกือบ 50% แต่สวัสดิการของเค้าก็ดีกว่าไทยมาก
ส่วนตัวผมว่าสินค้าในเมืองไทยหลายอย่างแพงอย่างไร้สาระครับ สิ่งที่ราคาถูกส่วนใหญ่จะเป็นของกินกับของใช้จำเป็นเท่านั้น เช่น แปรงสีฟัน ยาสีฟัน ฯลฯ รัฐบาลต้องการสนับสนุนให้ใช้ของที่ผลิตในไทยครับ เลยตั้งภาษีนำเข้าสูงๆ แต่ก็ไม่ดูเลยว่าสินค้าหลายอย่างของไทยมันห่วยแค่ไหน ไม่ใช่ทุกอย่างนะครับที่ห่วย ของที่ไทยทำดีๆก็มีหลายอย่างครับ และการที่ตั้งภาษีนำเข้าสูงๆ ก็เป็นส่วนนึงที่ทำให้ผู้ผลิตสินค้าบางรายไม่ค่อยพัฒนาสินค้าของตัวเองซักเท่าไหร่ เพราะถือว่าถ้านำเข้ามาแล้วราคาจะสูงทำให้คนซื้อน้อย เป็นการจำกัดคู่แข่งไปในตัว
ส่วนเรื่องค่าครองชีพ ส่วนตัวผมว่าควรจะไปทิศทางเดียวกับพลังงานครับ เช่นถ้าราคาพลังงานสูง ค่าครองชีพก็ควรจะสูงตามซึ่งรวมถึงค่าแรงด้วยนะครับ เพราะราคาพลังงานจะเป็นตัวกำหนดราคาของสินค้าเกือบทุกอย่างในประเทศ เช่น ถ้าน้ำมันแพง ค่าขนส่งก็ต้องแพงขึ้น ค่าสินค้าก็ควรจะต้องแพงขึ้นตาม ถ้าค่า gas แพง ค่าอาหารก็ควรจะต้องแพงขึ้น เพราะต้องใช้ gas ในการปรุงอาหาร ค่าไฟอาจจะต้องแพงขึ้นด้วยในกรณีที่ใช้ gasในการผลิต และในเมื่อค่าไฟแพง ก็จะทำให้ต้นทุนการผลิตสินค้าหลายๆอย่างสูงขึ้น ราคาขายก็ควรจะสูงขึ้น เมื่อราคาสินค้าหลายอย่างสูงขึ้นค่าแรงก็ควรจะสูงขึ้นด้วย
ที่พูดมาทั้งหมดไม่ได้ว่าอยากจะให้ค่าครองชีพสูงนะครับ ถ้าค่าครองชีพต่ำก็ดีครับผมก็ชอบ เพียงแต่ตอนนี้รู้ศึกว่ามันฝืนธรรมชาติเท่านั้นเอง
แสดงความคิดเห็น
อเมริกาค่าครองชีพสูงแต่ทําไมสิ้นค้าต่างๆกลับราคาไม่แพง
รายได้ขั้นต่ำประมาณ 300-500 บาทต่อชั่วโมง ราคาน้ำมันก็ถูกมากถ้าเทียบกับรายได้ รถตนย์นี้เรียกได้ว่ามีกัน 80% ของประชากรทั้งประเทศได้เลย ค่าครองชีพสูง แต่สินค้าต่างๆกลับถูกถ้าเทียบกับรายรับโดยเฉลีย คิดแล้วมันก็น่าสังสัย ทั้งๆที่รายได้สูง แต่สิ้นค้าทําไมกลับราคาไม่แพง พอมามองบ้านเรา toyota camry รุ่น top ราคาเลยล้าน รายได้ขั้นต่ำ 300 ต่อวัน(ไม่ใช่ชั่วโมงน่ะ) อาจน้อยกว่าด้วย
เทียบกันไม่ติดเลย ค่าครองชีพก็ไม่สูง แต่สินค้าราคากลับสูง ถ้าเทียบกับรายรับโดยเฉลีย เรื่องน้ำมันไม่ต้องพูดถึง แพงหูฉี่แต่คนไทยกลับใช้รถมากขึ้น
ไม่เข้าใจระบบเศรษฐกิจมันเลย เรื่องพวกนี้อ่ะ มันเป็นยังไงกันแน่ แก้ไขได้มั้ย