เป็นหนังที่คิดไว้ว่ามันต้องเป็นหนังที่ส่งต่ออารมณ์ที่ปะทุด้วยความดุเดือดของอารมณ์แน่นอนกับหนังเรื่อง Whiplash ในเวลา 1.30 ชม. ระหว่างที่นั่งดูจังหวะหนังเหมือนจังหวะกลองที่เริ่มตอนแรกที่เริ่มจากค่อยๆและดังขึ้นเรื่อยๆ คือหนังเริ่มจากอารมณ์ว่างเปล่าและใส่ scene ความดุเดือดของการเก็บกดของอารมณ์ตัวเอก Andrew Neyman (Miles teller) กับคนคุมวงดนตรีของโรงเรียนดนตรีเจ้าอารมณ์ จอมผเด็จการ Mr. Terrence Fletcher (J.K. Simmons) จนไม่สามารถควบคุมอารมณ์ เกิดการปะทะทั้งคารมและกำลัง จน 10 นาทีสุดท้ายที่มีการลากตัวเอกไปฆ่าบนเวที จึงเกิดการฟาดฟันระหว่างครู และลูกศิษย์ อันนี้เป็น scene ปิดฉากหนังที่ตระการตามากครับ เล่นเอาผมจิกเบาะเก้าอี้เลยครับ
เรื่องย่อและบทวิจารณ์
Andrew Neyman หนุ่มนักดนตรีตีกลองที่ลงเรียนโรงเรียนดนตรีแชฟเฟอร์ เขาได้เจอกับคนคุมวงดนตรี Mr. Terrence Fletcher หนังพาเราไปรู้จักแรงกดดันที่นักเรียนทุกคนมีต่ออาจารย์คนนี้ เพราะหนังเผยธาตุแท้ว่านักเรียนทุกคนก้าวข้ามจุดแห่งการเล่นดนตรีเพื่อความสนุกไปสู่ความเข้มงวดของอาจารย์คนนี้เพื่อตำแหน่งที่ 1 ในทุกงานประกวด จุดนี้หนังสื่อถึงสิ่งที่ Mr. Fletcher ต้องการถูกตอบสนองโดย Andrew เพราะสำหรับตัวเอก เป็นคนที่ใ้ชชีวิตลำพังไม่มีเพื่อน และอยู่ในครอบครัวที่มีแต่การแข่งขัน เขาใช้ชีวิตเพื่อให้มีการยอมรับและต้องการเป็นที่ 1 นั่นเองดูได้จากการปะทะคารมกันบนโต๊ะอาหารของครอบครัวนี้ เขาละทิ้งทุกอย่างไม่ว่าจะความสัมพันธ์กับแฟนสาว Nicole (Melissa Benoist) การไม่ตอบสนองกับความรักความห่วงใยพ่อตัวเอง เพียงเพื่อให้เป็นนักดนตรีมือหนึ่งในวงให้ได้ เท่าที่ผมคาดหวังก่อนไปดูหนังนึกว่า Andrew จะเป็นคนติ๋มๆถูกกระทำ และเป็นเหยื่อของ Fletcher แต่ไม่ใช่ยังงั้นหนังเห็นการพัฒนาการความคิดจากเป็นผู้ถูกกระทำสู้การกล้าจะปะทะคารมกับ Fletcher จนถึงกับกล้าต่อกรกับอาจารย์ในช่วงสุดท้าย
สำหรับ Fletcher หนังใส่มิติของการเป็นอาจารย์ผู้ชั่วร้าย ต้องใช้คำนี้เลยเพราะหนังสื่อถึงการกดดันของนักเรียนที่มีต่อครูคนนั้น ถ้าผมเป็นนักเรียนผมก็ไม่รู้ว่าจะเล่นดนตรีให้ถูกต้องหรือถูกใจอาจารย์คนนี้กันแน่ เพราะที่เขาต้องการคือการเล่นให้ถูกใจเขาซะมากกว่าถ้าไม่ถูกใจจะโดนอาจารย์ผเด็จการคนนี้ใส่ทั้งการดุด่า การปาข้าวของใส่ หรือมากที่สุดก็ไล่ออกจากวง ในช่วงกลางเรื่องที่ Andrew ปรับความเข้าใจกับ Fletcher ที่ตอนหลังไม่ได้เป็นอาจารย์ของที่นี่แล้วหนังเหมือนจะพาให้เราเข้าใจและให้อภัยอาจารย์คนนี้ เพราะเขาบอกว่าที่เขาเพียรสั่งสอนเพื่อขับดันความสามารถภายในของนักเรียนให้เป็นสุดยอดนักดนตรีของโลกไม่ใช่นักดนตรีที่ชีวิตจบแค่ในบาร์ หรือวงแบ็คอัพทั่วไป แต่หนังก็เผยว่าสุดท้ายครูคนนี้ไม่มีจิตวิญญาณของครูสักนิดเขาได้อะไรต้องได้ดังใจเขาและลาก Andrew ไปฆ่าบนเวทีเป็นจุดเปลี่ยนความคิดที่มีเลยครับ
ข้อคิดจากหนัง
หนังสื่อแววตาสีหน้าเวลาที่ Andrew ถูก Nicole แฟนเก่าทิ้งได้ดีตอนที่เขากลับใจจะอยากได้แฟนหรือความสัมพันธ์จากคนรอบข้างคืนหนังพยายามบอกว่าความมุ่งมั่นจนประสบความสำเร็จเป็นสิ่งที่น่าเชิดชูแต่ทุกความสำเร็จมันต้องได้ทั้งแรงใจและการสนับสนุนจากคนรอบข้าง และความมุ่งมั่นในตัวมันอีกนั่นแหละที่หากเกินจุดพอดีมันจะกลายเป็นความดันทุรังซะมากกว่าและมันจะบั่นทอนทั้งร่างกายจิตใจครับสังเกตได้ตอนที่ตัวเอกยังพยายามจะตีกลองต่อแม้โดนรถชนครับ
เรื่องนี้ให้ 10/10 เลยครับ ชอบมากตอน 10 นาทีสุดท้าย
บทวิจารณ์หนังเรื่องอื่น
http://moviesitt.blogspot.com/
[CR] Review Whiplash (spoil)
เรื่องย่อและบทวิจารณ์
Andrew Neyman หนุ่มนักดนตรีตีกลองที่ลงเรียนโรงเรียนดนตรีแชฟเฟอร์ เขาได้เจอกับคนคุมวงดนตรี Mr. Terrence Fletcher หนังพาเราไปรู้จักแรงกดดันที่นักเรียนทุกคนมีต่ออาจารย์คนนี้ เพราะหนังเผยธาตุแท้ว่านักเรียนทุกคนก้าวข้ามจุดแห่งการเล่นดนตรีเพื่อความสนุกไปสู่ความเข้มงวดของอาจารย์คนนี้เพื่อตำแหน่งที่ 1 ในทุกงานประกวด จุดนี้หนังสื่อถึงสิ่งที่ Mr. Fletcher ต้องการถูกตอบสนองโดย Andrew เพราะสำหรับตัวเอก เป็นคนที่ใ้ชชีวิตลำพังไม่มีเพื่อน และอยู่ในครอบครัวที่มีแต่การแข่งขัน เขาใช้ชีวิตเพื่อให้มีการยอมรับและต้องการเป็นที่ 1 นั่นเองดูได้จากการปะทะคารมกันบนโต๊ะอาหารของครอบครัวนี้ เขาละทิ้งทุกอย่างไม่ว่าจะความสัมพันธ์กับแฟนสาว Nicole (Melissa Benoist) การไม่ตอบสนองกับความรักความห่วงใยพ่อตัวเอง เพียงเพื่อให้เป็นนักดนตรีมือหนึ่งในวงให้ได้ เท่าที่ผมคาดหวังก่อนไปดูหนังนึกว่า Andrew จะเป็นคนติ๋มๆถูกกระทำ และเป็นเหยื่อของ Fletcher แต่ไม่ใช่ยังงั้นหนังเห็นการพัฒนาการความคิดจากเป็นผู้ถูกกระทำสู้การกล้าจะปะทะคารมกับ Fletcher จนถึงกับกล้าต่อกรกับอาจารย์ในช่วงสุดท้าย
สำหรับ Fletcher หนังใส่มิติของการเป็นอาจารย์ผู้ชั่วร้าย ต้องใช้คำนี้เลยเพราะหนังสื่อถึงการกดดันของนักเรียนที่มีต่อครูคนนั้น ถ้าผมเป็นนักเรียนผมก็ไม่รู้ว่าจะเล่นดนตรีให้ถูกต้องหรือถูกใจอาจารย์คนนี้กันแน่ เพราะที่เขาต้องการคือการเล่นให้ถูกใจเขาซะมากกว่าถ้าไม่ถูกใจจะโดนอาจารย์ผเด็จการคนนี้ใส่ทั้งการดุด่า การปาข้าวของใส่ หรือมากที่สุดก็ไล่ออกจากวง ในช่วงกลางเรื่องที่ Andrew ปรับความเข้าใจกับ Fletcher ที่ตอนหลังไม่ได้เป็นอาจารย์ของที่นี่แล้วหนังเหมือนจะพาให้เราเข้าใจและให้อภัยอาจารย์คนนี้ เพราะเขาบอกว่าที่เขาเพียรสั่งสอนเพื่อขับดันความสามารถภายในของนักเรียนให้เป็นสุดยอดนักดนตรีของโลกไม่ใช่นักดนตรีที่ชีวิตจบแค่ในบาร์ หรือวงแบ็คอัพทั่วไป แต่หนังก็เผยว่าสุดท้ายครูคนนี้ไม่มีจิตวิญญาณของครูสักนิดเขาได้อะไรต้องได้ดังใจเขาและลาก Andrew ไปฆ่าบนเวทีเป็นจุดเปลี่ยนความคิดที่มีเลยครับ
ข้อคิดจากหนัง
หนังสื่อแววตาสีหน้าเวลาที่ Andrew ถูก Nicole แฟนเก่าทิ้งได้ดีตอนที่เขากลับใจจะอยากได้แฟนหรือความสัมพันธ์จากคนรอบข้างคืนหนังพยายามบอกว่าความมุ่งมั่นจนประสบความสำเร็จเป็นสิ่งที่น่าเชิดชูแต่ทุกความสำเร็จมันต้องได้ทั้งแรงใจและการสนับสนุนจากคนรอบข้าง และความมุ่งมั่นในตัวมันอีกนั่นแหละที่หากเกินจุดพอดีมันจะกลายเป็นความดันทุรังซะมากกว่าและมันจะบั่นทอนทั้งร่างกายจิตใจครับสังเกตได้ตอนที่ตัวเอกยังพยายามจะตีกลองต่อแม้โดนรถชนครับ
เรื่องนี้ให้ 10/10 เลยครับ ชอบมากตอน 10 นาทีสุดท้าย
บทวิจารณ์หนังเรื่องอื่น http://moviesitt.blogspot.com/