ศิริราช การไอ และอธิปไตยของชายหนุ่ม(บันทึกแห่งเลือดและน้ำตาฉบับใหม่)

ศิริราช การไอ และอธิปไตยของชายหนุ่ม(บันทึกแห่งเลือดและน้ำตาฉบับใหม่)

เอาล่ะ เมื่อเมื่อเช้านี้ได้ลงฉบับเปิดเล่มไปแล้ว มาอัฯี้จะว่ากันที่ฉบับเต็มล่ะ

สำรับท่านที่ไม่รู้ ผมแอดมิทตัวที่ศิริราชมาตั้งแค่วันที่18 กย (มั้ง) อยู่มาสองเดือนกว่าเพื่อคุมลด นน ภายใต้การดูลของ อ ธัญเดช อ.พรพจน์และทีมแพทย์ศิริราช และเพิ่งเข้ารับการผ่าตัดลดขนากระเพาะเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมานี้เอง

โดยผมนั้นได้เข้าไปเตรียมตัวในห้องผ่าตัดตั้งแต่ประมาณสิบโมงได้และหมดสติไปน่าจะสิบเอ็ดโมงกว่าๆ

โดยมาเริ่มได้สติอีกครั้งตอนเขากำลังย้ายขึ้นเตียงในห้องผ่าตัด จากความจำอันเลือนราง จำๆด้ว่าเขาบอกว่าตอนนั้นสามทุ่มกว่าแระ

ผมมาเริ่มได้สติจริงๆก็คือเมื่อมาอยุ่ที่วอร์ดพักฟื้นแล้ว จากที่สอบถาม ทางพยาบาลแจ้งว่าผมใช้เวลาผ่าไปถึง7-8 ชม กับการผ่าตัดลำไส้

ซึ่งมันเป็นสูตรสำเร็จที่นำมาซึ่งวงจรอุบาทว์ที่ผมไม่สามารถหลีกหนีได้

ผ่าตัด ต้องสอดท่อหายใจ ผ่านาน สอดท่อนาน คอแห้ง คอแห้ง ตามมาด้วยเสมหะเหนียวในคอ ตามมาด้วยการไอ ซึ่งเป็นนรกบนดินสำหรับคนผ่าตัดช่องท้อง เพราะการผ่าตัดช่องท้อง ทันทีที่ขยับกล้ามเนื้อช่วงตัว จะเจ็บแผลทันที และอย่างที่ทราบกันว่าทุกครั้งที่ไอ จะเกิดการเกร็งของท้องและกระบังลมอย่างุนแรง ซึ่งบังเอิ๊ญญญญญญบังเอิญ แผลผมอยู่ใต้กระบังลมลงไปไม่ถึงสามนิ้ว

แต่นรกของผมยังไม่จบแค่นั้นครับ เป็นธรรมดาที่การผ่าตัดทางเดินอาหารที่วันแรกจะต้องงดน้ำงดอาหาร

ผลน่ะเหรอ นรกบดินชัดๆ คอแห้ง ไอไม่ฮก แต่หยุดไอไม่ได้เพราะคอแห้ง แถมกินน้ำไม่ได้ก็ยิ่งไปกันใหญ่

วันแรกของผมผ่านไปแบบนี้ โดยสามสี่วันหลังต้องบอกว่าดีขึ้นมาก อาการเจ็บหายไปมากแล้ว หยุดยาแก้ปวดหมดแล้ว ทั้งฉีดและกิน

แต่แล้วเรื่องที่กระทบกระเทือนจิตใจและศักดิ์ศรีความเป็นชายของผมที่สุดในชีวิตก็เกิดขึ้น!!!!!!!!!!

มันเป็นสิ่งที่ผมกลัวมาตั้งแต่ก่อนผ่า นั่นคือ การอึครับ

คือผมทราบก่อนผ่ามานานแล้วว่าผ่าช่องท้อง การเกร็งท้องจะเจ็บมาก และหลังการผ่ากระเพาะ จะใช้เวลาอีกหลายวันกว่าจะเริ่มอึอีกครั้ง

ซึ่งของผมนั้นเส้ตายมาถึงเมื่อวานตอนเช้า ซึ่งจริงๆเริ่มโครกครากมาสองวันแระ แต่มันยังไม่ปวด เพิ่งปวดเมื่อเช้า พยาบาลก็เอาแผ่นรองก้นมารองให้ แล้วให้ผมนอนอึบนเตียงเลย

ผลปลาดุกว่า........

การเบ่งไม่ปวดมากอย่างที่คิดครับพราะแผลเริ่มหายแล้ว แต่มันมีปัญหาตรงมี่ว่า.....

เบ่งอยู่สิบนาทีก็ยังไม่ออกครับ มันแข็งแกร่งและรวมตัวกันแน่นหนามาก ไม่สามารถเจาะทะลวงได้เลย

ผมถอดใจ และไม่ต้องการต่อสู้ยืดเยื้อในศึกที่ไม่มีทางชนะ ผมจึงแจ้ง บก.ว่า

"พยาบาลครับ เบ่งไม่ออกครับ คงต้องผลัด"ปก่อนละ"

ระหว่างที่ผมกำลังจมอยู่ในความผิดหวัง ความรู้สึกผิด ความสิ้นหวัง ที่เพียงศึกแรกผมก็แพ้เสียแล้ว

ทันใดนั้น ผมก็ได้เห็นภาพๆนึง!!!!!!!!!!!

พยาบาลในชุดลายพรางอาวุธครบมือกำบลํงโรยตัวลงจากคอปเตอร์ลงมา!!!!!

อ้าว ตาฝาดนี่หว่า พยาบาลในชุดสีขาว เปิดม่านเดินเข้ามา ด้านหลังมีแสงอาทิตย์เรืองรองส่องมาด้วยราวกับจะบอกว่า เธอนี่แหละ คือแสงแห่งความหวัง

เธอไม่รอช้าใส่ถุงมือยางกระชับมือ พร้อมกับบอกว่า

come with me if you want to live

อ้าว เพ้ออีกแระกู

เทอบอกว่า ตะแคงข้างแล้วเบ่งเลยค่ะ

ซึ่งผมเองก็อยากจะบอกเทอว่าผมเบ่งแล้วแต่ไม่ฮก แต่ด้วยความเป็นคนว่าง่าย เทอให้เบ่งผมก็เบ่งครับ
แต่การเบ่งครั้งนี้กลับต่างออกไป เพราะทันทีที่ผมเบ่ง ผมก็รู้สึกได้ถึงวัตถุแท่งยาวเล็ก ซึ่งน่าจะเป็นนิ้วของพยาบาล แทงสวนเข้าไป และดิ้นดุ๊กดิ๊กอยู่ใน   เอ่อ.....ในนั้นอะ

ผมได้แต่ร้องซี๊ดพร้อมบิดตัวด้วยความเสียวซ่าน แต่ทันใดนั้นสิ่งไมี่น่าเชื่อก็เกิดขึ้น!!!!!!!!

ปราการอันแข็งแกร่งพลันแตกออก กอกกำลังที่เหมือนไม่มีวันแตก กลับถูกทำลายลง

ผมรู้สึกได้ถึงกองทหารที่แตกทัพหนีออกมาากสนามรบ บาดเจ็บล้มตายราวราวใบไม้ร่วง

แต่ระหว่างที่ผมกำลังชื่นชมกับชัยชนะ ก็มีเสียงเตือนว่า

"ยังไม่หมดนะคะ เบ่งอีกที เด๋วพยาบาลจะช่วยล้วงให้อีกที

จบกันแล้วขีวิตชายหนุ่มของผม.....

จริงอยู่ที่ผมชนะสงครามครั้งนี้ แต่ราคาที่ต้องจ่ายไปนั้นสูงนัก ศักดิ์ศรี อธิปไตยของชายหนุ่ม อาห์ หมดกันแล้วสินะ

ปล ขอขอบคุณทีมแพทย์และพยาบาลศิริราชที่ดูแลอย่างดีจนมีแรงกลับมาแพล่มได้

สำหรับท่านที่สงสัยว่าทำไมหลายวันจัง กว่าจะอึ ก็ขอให้ดูรูปครับ หมูสับในโจ๊ก ก้อนธรรมดาๆไม่ได้ใหญ่เลย สีก้อนครับ เต็มที่คือหกก้อน นั้นคือที่ผมกินได้ใน1 มื้อครับ

เอาล่ะ วันนี้จบแค่นี้ก่อน

แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่