ทำไม!!! ตำแหน่ง No.10 จึงเป็นตำแหน่งที่ดีที่สุดของ ”เอร์เรร่า”

ต่อจาก 2 คอลัมน์ที่แล้ว ที่เรามองว่า ฆวน มาต้า และ เวนย์ รูนี่ย์ ซึ่งเป็นสองผู้ท้าชิงตำแหน่งหมายเลข 10 ของทีม”ปีศาจแดง” ยังไม่ใช่นักเตะที่ทำได้ดีที่สุดในตำแหน่งนี้ตามระบบ”ไดม่อนด์” ของ หลุยส์ ฟาน กัล ซึงเป็นสาเหตุที่เรามองหานักเตะคนอื่นที่เราคิดว่าน่าจะทำได้ดีกว่า และเขาคนนั้นก็คือ อันเดร์ เอร์เรร่า อะไรที่ทำให้เราคิดเช่นนี้ ขอเชิญทุกท่านอ่านบทวิเคราะห์พร้อมภาพประกอบอย่างละเอียดได้เล้ยยย



คุณสมบัติที่ยอดเยี่ยมของ เอร์เรร่า คือสภาพร่างกายที่แข็งแกร่งที่เป็นเหมือนดังเกราะกำบังการเล่นที่ใช้มันสมองเป็นหลัก อันเป็นธรรมชาติของนักสเปน เหมือนกับที่ โจนาธาน วิลสัน ผู้เชี่ยวชาญด้านแท็กติกฟุตบอลเคยเขียนเอาไว้ว่า ”เวสลี่ย์ สไนจ์เดอร์ เป็นอดีต, เมซุต โอซิล เป็นปัจจุบัน และ โทนี่ โครส คืออนาคต ในตำแหน่งเพลย์เมกเกอร์หมายเข 10 ซึ่ง เอร์เรร่า ก็มีโอกาสที่จะก้าวขึ้นมาเป็นหนึ่งในเพลย์เมกเกอร์ฝีเท้าระดับแนวหน้าในอนาคต เนื่องจากหลายสิ่งที่ วิลสัน อธิบายถึงจุดเด่นในตำแหน่งนี้ของ โทนี่ โครส มีความคล้ายคลึงกับ เอร์เรร่า"

“โครส เป็นนักเตะที่มีพละกำลังและทำงานอย่างหนักในเกม เขาเล่นได้ทั้งในตำแหน่งตัวรับหลังแผงมิดฟิลด์  หรือยืนอยู่เหนือสุดในแผงมิดฟิลด์  แน่นอนว่า เขาสามารถเล่นเป็นมิดฟิลด์สไตล์บ๊อกซ์ทูบ็อกซ์ ได้เช่นกัน หากว่าเขาถูกขอให้ทำอย่างนั้น  เขาสร้างสรรค์เกมได้โดยไม่ต้องมีสไตล์การเล่นที่วูบวาบ เบรคเกมของคู่แข่งโดยไม่จำเป็นต้องปะทะหนัก และมีไหวพริบในการครอบครองบอลให้ทีมได้ประโยชน์อย่างไม่จำเป็นต้องลากตะลุยขึ้นไปอย่างพร่ำเพรื่อ เขาเป็นนักเตะที่เต็มเปี่ยมไปด้วยประสิทธิภาพ” – โจนาธาน วิลสัน

กับทีม”ปีศาจแดง” เอร์เรร่า อาจจะไม่ได้เป็นนักเตะในตำแหน่งนี้ แต่เขาเล่นในตำแหน่งหมายเลข 10 ให้กับ แอธเลติก บิลเบา จึงไม่ใช่เรื่องแปลกเลยที่ในเกมกับ แอลเอ กาแล็คซี่  ซึ่ง เอร์เรร่า ได้เล่นในตำแหน่งหมายเลข 10 ในครึ่งหลัง และจากการเล่นของเขาทำให้ แอชลี่ย์ ยัง ดูเหมือนเป็นกองหน้าระดับโลก เพราะในเกมนั้น ดาวเตะที่แฟนผีพากันร้องยี้ ทั้งยิงประตู และทำอีก 2 แอสซิสต์ จากการมีส่วนร่วมของ เอร์เรร่า ในทุกจังหวะเหล่านั้น ซึ่งจากการที่ดาวเตะชาวสแปนิชเล่นในตำแหน่งนี้ได้อย่างเป็นธรรมชาติ ทั้งที่เพิ่งมาร่วมทีมได้ไน่นาน(ในตอนนั้น) เป็นสิ่งที่พิสูจน์ว่าหากถูกใช้งานในตำแหน่งนี้ เอร์เรร่า ไม่จำเป็นต้องปรับตัวให้เข้ากับตำแหน่งหมายเลข 10 ของทีม”ปีศาจแดง

ภาพชุดด้านล่างนี้ เป็นหนึ่งในผลงานการมีส่วนร่วมอย่างมากมายของ เอร์เรร่า ในเกมกับ แอลเอ กาแล็คซี่ ที่แสดงให้เห็นน้ำหนักในการผ่านบอลอย่างสมบรูณ์แบบให้กับ แอชลี่ย์ ยัง


จังหวะที่ ราฟาเอล กำลังครองบอล เอร์เรร่า เคลื่อนที่ไปรอรับบอลในช่องระหว่างนักเตะของ แอลเอ กาแล็คซี่


ราฟาเอล จ่ายบอลไปให้ เอร์เรร่า ตามช่องนั้น





เอร์เรร่า ได้บอลจาก ราฟาเอล ก่อนจะพลิกบอลไปทางฝั่งของ แอลเอ กาแล็คซี่








เอร์เรร่า ใช้เวลาอยู่กับบอลไม่นานนักก่อนจะจ่ายบอลทะลุช่อง หรือลูกคิลเลอร์พาส ไปให้ แอชลี่ย์ ยัง


ก่อนที่ ยัง ซึ่งได้จังหวะหลุดเดี่ยว จัดการเปลี่ยนให้โอกาสนี้เป็นประตูในที่สุด








เอร์เรร่า มีคุณสมบัติที่จำเป็นสำหรับการเป็นเพลย์เมกเกอร์หมายเลข 10 สมัยใหม่ การยืนตำแหน่ง, เล่นด้วยมันสมอง, การเคลื่อนไหว, การผ่านบอล, การควบคุมบอล, และการตัดสินใจอย่างรวดเร็วในการพลิกบอล ซึ่งสิ่งสำคัญในการทำเกมรุกเหล่านี้เขาทำมันได้เป็นอย่างดี เช่นเดียวกันกับในเกมรับ ด้วยการเข้าปะทะคู่แข่งที่ดีของเขาควบคู่ไปกับการขึ้นไล่เพรสซิ่งคู่แข่ง อันมาจากพละกำลังและความแข็งแกร่งทางสภาพร่างการของดาวเตะชาวสแปนิช



เนื่องจากเพลย์เมกเกอร์หมายเลข 10 จะต้องเข้าไปเชื่อมเกมในช่องว่างระหว่างไลน์นักเตะอยู่เสมอ ทำให้พวกเขามักจะหันหลังให้ประตูของคู่แข่งในตอนได้รับบอลจากเพื่อนร่วมทีม ดังนั้น จึงเป็นสิ่งสำคัญสำหรับเพลย์เมกเกอร์ ที่จะต้องพลิกบอลได้อย่างรวดเร็ว เพื่อให้ได้หันหน้าเข้าหาประตูสำหรับการทำเกมเจาะแนวรับคู่แข่ง ซึ่งเป็นสิ่งที่ รูนี่ย์ และ มาต้า ทำได้ไม่ดีนัก  ในภาพข้างล่างนี้ จะอธิบายถึงคุณสมบัติดังกล่าวของ เอร์เรร่า


เริ่มจาก เอร์เรร่า ได้บอลในแดนตัวเองโดยมีนักเตะ เวสต์แฮม เข้ามาเพรสซิ่ง


จังหวะต่อมา เอร์เรร่า พลิกบอลม้วนตัวหนีนักเตะของ เวสต์แฮม ที่เข้ามาเพรสซิ่งหวังแย่งบอลจากเขา









หลังจากพลิกหนีตัวประกบได้สำเร็จ เอร์เรร่า จ่ายบอลทะลุขึ้นไปข้างหน้าให้เพื่อนร่วมทีม







ฟัลเกา ไม่มีตัวเลือกสำหรับผ่านบอล จึงแปะบอลคืนมาให้ เอร์เรร่า



ก่อนที่ เอร์เรร่า จะเล่นชิ่งหนึ่ง-สอง กับ ฟัลเกา เพื่อหนีตัวประกบ



มาต้า ไม่สามารถเล่นอยู่ท่ามกลางความกดดันจากคู่แข่ง ซึ่งมันมาจากการขาดความแข็งแกร่งและพลิกบอลอย่างรวดเร็วเพื่อหนีตัวประกบ และเป็นเหตุผลหลักที่ทำให้ดาวเตะร่างเล็กมองหาพื้นที่ว่างเพื่อหลีกเลี่ยงการใช้ร่างกายเข้าปะทะกับคู่แข่ง แต่ เอร์เรร่า มีความสามารถนี้อยู่เต็มเปี่ยม ทำให้เขาสามารถเล่นในพื้นที่แคบ ๆหรือภายใต้ความกดดันจากการเข้าเพรสซิ่งของคู่แข่ง ได้อย่างเป็นธรรมชาติ ดังในภาพข้างล่างนี้


จังหวะนี้ รูนี่ย์ พักอกเอาบอลลงพื้นโดยมี เอร์เรร่า วิ่งมารอรับบอล





เอร์เรร่า รับบอลจาก รูนี่ย์ โดยมีนักเตะ เวสต์แฮม เข้ามาเบียดเพื่อแย่งบอล


แต่ เอร์เรร่า พลิกบอลกลับไปในแดนตัวเอง ก่อนจ่ายบอลออกทางฝั่งขวาให้ ราฟาเอล








ราฟาเอล ที่วิ่งมารับบอลแปะคืนไปให้ เอร์เรร่า


เอร์เรร่า ที่เข้ามารับลูกจ่ายของ ราฟาเอล ทำทีเหมือนจะเลี้ยงบอลขึ้นไปข้างหน้า


ก่อนที่เขาจะพลิกบอลกลับเข้ามาในแดนตัวเอง และจ่ายย้อนหลังไปให้เพื่อนร่วมทีมในจังหวะต่อไป





นอกจากนี้ เอร์เรร่า ยังมีความสามารถในการสร้างจังหวะเกม เพื่อให้มีการเล่นชื่งไป-มากับเพื่อนร่วมทีมอย่างรวดเร็ว เพื่อเจาะแนวรับของคูแข่ง โดยเฉพาะจากตรงกลาง ดังในภาพชุดข้างล่างนี้



เริ่มจาก เอร์เรร่า วิ่งเติมขึ้นมารับบอลจาก ฟาน เพอร์ซี่




เมื่อได้รับบอลแล้ว เอร์เรร่า ก็พาบอลเข้าไปหาพื้นที่ตรงกลางซึ่งมี รูนี่ย์ ยืนอยู่ตรงนั้น






ก่อนที่เข้าจะจ่ายบอลไปให้ รูนี่ย์ ซึ่งเคลื่อนเข้ามาเพื่อเล่นชิ่งหนึ่ง-สอง  หนีตัวประกบ




หลังรับลูกชิ่งจาก รูนี่ย์ แล้ว เอร์เรร่า ก็จ่ายบอลไปให้ ดิ มาเรีย ที่ยืนโล่งอยู่ด้านกว้าง


แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่