ทำเอาขาประจำ WhatsApp ถึงกับได้ลุ้นกันเลยทีเดียว เมื่อ Jan Koum ซีอีโอแห่ง WhatsApp ออกมาเปิดเผยรายละเอียดที่เวทีงาน Mobile World Congress ที่จัดขึ้นเมื่อช่วงต้นปีทีผ่านมาว่า บริการแชทยอดนิยมแห่งโลกมือถือ กำลังเตรียมการที่จะนำเสนอบริการใหม่อย่างการโทร.ออกด้วยเสียง ภายในช่วงกลางปีนี้ แต่อย่างไรก็ตาม จากวันนั้นเป็นต้นมากลับไม่มีรายละเอียดใดๆ เกี่ยวกับเรื่องนี้อีกเลย จนกระทั่งถึงวันนี้
โดยในระหว่างการประชุมที่งาน Code/Mobile ที่มีขึ้นเมื่อวานนี้ Jan Koum ยอมรับว่า การพัฒนาบริการโทร.ออกด้วยเสียงนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย และทีมพัฒนาก็กำลังใช้ความพยายามในการเอาชนะกับอุปสรรคทางด้านเทคนิคเพื่อที่จะนำคุณสมบัติใหม่ดังกล่าวลง WhatsApp ให้ได้
โดยหนึ่งในปัญหาที่ผู้บริหารระดับสูงกล่าวถึง ก็คือ การที่ WhatsApp ไม่สามารถเข้าถึงไมโครโฟนของสมาร์ทโฟนบางเครื่องได้ แต่อย่างไรก็ดี มันก็ยังไม่ใช่ประเด็นหลักที่ทำให้เกิดการยกเลิกแผนตามที่วางไว้ เมื่อ Koum อธิบายต่อว่ายังคงพยายามที่จะหาหนทางที่จะทำให้ผู้ใช้สามารถใช้บริการดังกล่าวได้ แม้ในพื้นที่ที่มีอินเตอร์เน็ตความเร็วต่ำหรือเป็นเทคโนโลยี 2G EDGE
นอกจากนี้ ผู้บริหารที่มีอุดมการณ์หนักแน่นยังชี้แจงว่า WhatsApp ไม่ใช่คู่แข่งกับ Facebook Messenger ของ เฟซบุ๊ก ที่อยู่ร่วมชายคา เพราะส่วนใหญ่แล้วการใช้งานของเฟซบุ๊กจะเป็นในกลุ่มเพื่อน รวมถึงรันการทำงานบนเดสก์ท็อป ขณะที่ WhatsAppจะเน้นตลาดโมบายล์แอพฯ อย่างเดียว
ทั้งนี้ การประกาศนำเสนอคุณสมบัติโทร.ออกด้วยเสียงเกิดขึ้นหลังจากที่ เฟซบุ๊ก เข้าซื้อกิจการ WhatsApp ที่มูลค่า 19 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ เพียงไม่กี่วัน
ที่มา TechSpot
WhatsApp เลื่อนเปิดบริการโทร.ออกด้วยเสียงไปเป็นปีหน้า หลังยังแก้ปัญหาทางด้านเทคนิคไม่ได้
ทำเอาขาประจำ WhatsApp ถึงกับได้ลุ้นกันเลยทีเดียว เมื่อ Jan Koum ซีอีโอแห่ง WhatsApp ออกมาเปิดเผยรายละเอียดที่เวทีงาน Mobile World Congress ที่จัดขึ้นเมื่อช่วงต้นปีทีผ่านมาว่า บริการแชทยอดนิยมแห่งโลกมือถือ กำลังเตรียมการที่จะนำเสนอบริการใหม่อย่างการโทร.ออกด้วยเสียง ภายในช่วงกลางปีนี้ แต่อย่างไรก็ตาม จากวันนั้นเป็นต้นมากลับไม่มีรายละเอียดใดๆ เกี่ยวกับเรื่องนี้อีกเลย จนกระทั่งถึงวันนี้
โดยในระหว่างการประชุมที่งาน Code/Mobile ที่มีขึ้นเมื่อวานนี้ Jan Koum ยอมรับว่า การพัฒนาบริการโทร.ออกด้วยเสียงนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย และทีมพัฒนาก็กำลังใช้ความพยายามในการเอาชนะกับอุปสรรคทางด้านเทคนิคเพื่อที่จะนำคุณสมบัติใหม่ดังกล่าวลง WhatsApp ให้ได้
โดยหนึ่งในปัญหาที่ผู้บริหารระดับสูงกล่าวถึง ก็คือ การที่ WhatsApp ไม่สามารถเข้าถึงไมโครโฟนของสมาร์ทโฟนบางเครื่องได้ แต่อย่างไรก็ดี มันก็ยังไม่ใช่ประเด็นหลักที่ทำให้เกิดการยกเลิกแผนตามที่วางไว้ เมื่อ Koum อธิบายต่อว่ายังคงพยายามที่จะหาหนทางที่จะทำให้ผู้ใช้สามารถใช้บริการดังกล่าวได้ แม้ในพื้นที่ที่มีอินเตอร์เน็ตความเร็วต่ำหรือเป็นเทคโนโลยี 2G EDGE
นอกจากนี้ ผู้บริหารที่มีอุดมการณ์หนักแน่นยังชี้แจงว่า WhatsApp ไม่ใช่คู่แข่งกับ Facebook Messenger ของ เฟซบุ๊ก ที่อยู่ร่วมชายคา เพราะส่วนใหญ่แล้วการใช้งานของเฟซบุ๊กจะเป็นในกลุ่มเพื่อน รวมถึงรันการทำงานบนเดสก์ท็อป ขณะที่ WhatsAppจะเน้นตลาดโมบายล์แอพฯ อย่างเดียว
ทั้งนี้ การประกาศนำเสนอคุณสมบัติโทร.ออกด้วยเสียงเกิดขึ้นหลังจากที่ เฟซบุ๊ก เข้าซื้อกิจการ WhatsApp ที่มูลค่า 19 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ เพียงไม่กี่วัน
ที่มา TechSpot