รักที่ไม่ได้หวังอะไร แค่อยากมีครอบครัวที่สมบูรณ์

ก่อนอื่นขอ ออกตัวก่อนเลยว่านี้คือมือใหม่ ไม่ได้ต้องการอยากดัง แค่อยากต้องการพื้นที่ ที่หนึ่งบอกเล่า ระบายความรู้สึกของตัวเอง ให้คนทั่วไปรับรู้  โดยไม่ต้องการแสดงตัวตน แค่อยากระบายความรู้สึกจิงๆ ส่วนหนึ่งเพื่อได้เก็บเป็นโมเม้นส่วนตัว ระบายสิ่งที่บางอย่าง อยากจะบอกแต่พูดไม่ได้ การใช้ภาษา สะกด อาจวกไปวนมา แต่อยากจะบอกจริงๆครับว่ามันคือเรื่องจริงที่เกิดกับผม  จะเริ่มจากตรงไหนก่อนดีไม่รู้เหมือนกัน เอาเป็นว่า
            ผมคบกับเธอคนนี้แบบจิงๆจังๆอยู่กินกันเหมือนหนุ่มสาวเมืองหลวง 4-5 ปี ก่อนหน้านี้เราเรียน ม.ราชภัฎเดียวกับเธอเป็นรุ่นน้องผม 2 ปีครับ  เราอยู่หอเดียวกันครับได้รู้จักผ่านรุ่นน้องชื่อไอ้แม๊ก ถ้าจะให้พูดถ้ารวมช่วงเราคุยกันยังไม่ได้ตกลงปลงใจย้ายมาอยู่ด้วยกันก็น่าจะ 5-6 ปี ช่วงเราอยู่ด้วยกันก็คงประมาณปี 53-54 สิ่งที่ผมประทับใจเธอคือเธอรักคนรักครอบครัว ไม่ว่าจะช่วงชีวิตวัยเรียน วัยทำงาน ทุกเวลาที่เราอยู่ด้วยกัน เธอจะประมาณว่าโทรเช้าถึงเย็นถึง ความรักของเราตอนนั้นก้อเหมือนคู่รักปกติทั่วไป แต่เราก็แอบมีมุมเล็กๆ ง่ายๆตามแบบของเรา คือผมชอบให้เธอบีบสิวให้ ตัดเล็บเท้าให้ ทั้งๆที่บ้างครั้งเธอกลับมาจากทำงานเหนื่อยๆเธอก็ทำให้  มีอยู่ครั้งเธอกับมาจากทำงาน วางของเสร็จปั๊บ ผมก็จะอ้อนเธอให้บีบสิวให้หน่อย เธอก็ชักสีหน้าใส่ค๊า...............   แต่!!!!  ร่างของเธอในขณะนั้นก็มีการขยับเดิน.......ไปที่ห้องน้ำ แล้วเธอก้อล้างมือ หน้าล้างของเธอจากนั้นก็มานั่งบนที่นอนข้างผม แล้วเธอก็จะออกคำสั่ง “จะให้บีบไม่บีบ ไปล้างหน้า” นั้นคือสัญญาณที่บอกว่าเธอพร้อมแล้วที่จะขยี้สิวบนหน้าผมแล้ว พอผมล้างเสร็จผมก็จะมานอนบนตักเธอ มีความสุขมากครับทำงานมาเหนื่อยๆ ยิ่งกว่าได้น้ำเย็นๆเป็นเหยือกอีก พอเธอบีบเสร็จ ผมมักจะดูเล็บมือเล็บเท้าของผม ถ้ายาวผมก็จะบ่นลอยๆ “อุ้ยเล็บยาว....” ยิ่งที่ตามมาคือมะเง็กคับ พร้อมกับคำพูดที่ว่า “หืม.......ไอ้ดำเอาใหญ่เลยนะ”  ลืมบอกเธอมักเรียกตัวผมว่า “ป๋า,ดำ,อ้วน” ส่วนผมมักเรียกเธอว่า”นู๋” หรือชื่อของเธอ     มาต่อถึงตอนตัดเล็บนะครับ บทสรุปหลังจากที่เธอให้มะเง็กผมกินไปทีก็คือ เธอก็มานั่งตัดเล็บให้ ทั้งเล็บมือเล็บเท้า อีกมุมของเราก็คือการกิน ผมเป็นคนชอบทำอาหาร ห้องที่เราอยู่เป็นห้องธรรมดามีระเบียง  สองคนกำลังอยู่พอดี วันไหนเป็นวันหยุดงานของผม ผมก็จะทำอาหารรอเธอกลับมาตอนเย็นเพื่อเราจะได้กินพร้อมกัน อาหารที่ผมทำก้อไม่ได้พิเศษอะไรมา ผัดๆทอดๆทั่วไป  วันไหนพิเศษหน่อย วันหยุดตรงกันก็จะเป็นพวกปลานิลนึ่งบ๊วย วันไหนมีผัดก็จะมีต้มคู่ ถ้าผัดเธอชอบผักบุ้งไฟแดง ถ้าต้มเธอชอบแกงจืดวุ้นเส้นเต้าหู้หมูสับ ถ้าเป็นต้มยำเธอได้หมดขอให้เปรี้ยวไว้ก่อน  แต่สำหรับผมสิ่งพิเศษสำหรับเราคือการอาบน้ำให้กัน เธอจะขัดตัวให้ผม สระผมล้างหน้า ขัดเท้า เราสลับขัดให้กัน แล้วเราก็เข้านอน  เรื่องพิเศษอีกเรื่องก็คือการนอนเนี่ยละ ท่าที่เรานอนด้วยกันมาตลอดช่วงที่เราอยู่ด้วยกันมีไม่กี่ท่า  เราจะเรียกกันว่าท่าประจำตัว
          
          ท่าแรกเป็นท่าที่เธอนอนกอดผม  เธอชอบนอนซ้ายมือของผม หัวเธอจะซบมาบนไหล่ซ้ายแก้มเธอจะแนบบนอกตรงหัวใจผมเลย  
          
          ท่าที่สองคือเธอจะนอนหันหลังให้ แขนซ้ายผมจะสอดไปช่วงคอเธอ ลักษณะเหมือนเรานอนกอดเหมือนข้าง สองท่านี้ทั้งว่าเป็นท่านอนประจำของเราเลยก้อว่าได้  ตื่นเช้ามาเราก็ไปทำงานตามปกติ  ตามวิถีชีวิตคนเมือง และมนุษย์เงินเดือน
        
          แต่แล้วจุดเปลี่ยนก็เกิดขึ้น ปี55 ปลายปี   บ้านผมมีประกาศรับสมัครงานผมเลือกกลับบ้านครับ เราปรึกษากัน และตกลงกันผมจะกลับมสร้างรากวางฐานเพื่ออนาคตของเรา ซึ่งตอนนั้นผมคิดอย่างนั้นจริงๆนะ  บ้านผมไม่มีอะไรครับ ชาวบ้านปกติอยากได้อะไรต้องเก็บต้องซื้อเอง ในขนาดที่ผมอยู่กับเธอ เธอต้องลำบาก อดทน ช่วยเหลือ ดูแลผมทุกอย่าง ไม่ว่าจะเรื่องการเงิน  อดทนกับอารมณ์ของผมที่ คิดงอล ไม่ใส่ใจ ไม่คิดถึงความรู้สึกของเธอหลายๆอย่างในตอนนั้น และเหตุผลอีกอย่างคือ ผมมีกิจการร้านเหล้าเล็กๆที่บ้านด้วย เป็นร้านไม่ให้ มีไม่กี่โต๊ะ ซึ่งช่วงนั้นยังไม่ค่อยเป็นที่รู้จักของคนในจังหวัดเท่าไหร่ กะว่าได้งานที่บ้าน พร้อมกับได้ดูแลกิจการต้องนี้ จะได้มีเก็บเพื่อไปขอเธอมาอยู่ด้วยกัน แต่เราก็สัญญากัน ว่าจะเจอกันทุกเดือน เราสลับไปมาหากันทุกเดือน  แต่ส่วนใหญ่ผมจะเป็นฝ่ายไปหาเธอ

           ปี56 เราอยู่กันปกติ ไปมาหากัน ความห่างที่ใครๆว่า รักแท้แพ้ไกลชิด ใช้กับเราไม่ได้ครับ ตรงข้ามเรารักและคิดถึงกันมากกว่า เจอกันที่เราจะนอนกอดกันทั้งคืน นอนจุ๊ฟปากกันวัน สลับกันขัดตัวขัดด้วยความถนอม บีบสิว ตัดเล็บ ทำกับข้าวกินเหมือนเรายังอยู่ห้องด้วยกัน ผมจะอยู่กับเธอครั้งละ 4-7 วัน  จนปี 57 ช่วงต้นปีเรามีแผลนไปเที่ยวเวียดนามด้วยกัน  เรามีความสุขมาก เราไปเที่ยวแบบ แบ็คแพ็ค ภาษาแบบงูๆปลาๆ  คุยแบบมั่วๆ อาศัยการเตรียมเรื่องที่จะสนทนา แปลจากในกูเกิ้ล  ว่าจะพูดกับคนข้างนอก จะให้ประโยคไหน แล้วก็จดไว้ 3 วัน 2 คืน ครับเที่ยวเต็มที่ ล่องเรือ เดินถ่ายรูปตามสถานที่สำคัญ จนช่วงวันสุดท้าย ผมทะลึ่งเปิดไลน์ในมือถือเธอ แทบทรุดครับเธอคุยกับหนุ่มคิดคน ผมหมดเลยครับนิ่งทำอะไรไม่ถูก  ที่คิดออกตอนนั้นคือ  เกิดอารัยขึ้น มันคือใคร???มาจากไหน????ตั้งแต่เมื่อไหร่???  และมันถึงขั้นไหนแล้ว……????    สิ่งที่เธอบอกคือเพื่อน คนที่เธอเคยบอกครับ ซึ่งเธอก็เคยบอกผมจริงๆ  เป็นเพื่อนของรุ่นน้องอีกคน ซึ่งเธอก็เคยชวนผมให้ไปนอนกินเหล้าสังสรรค์กันกลุ่มพวกนี้บ่อยๆ  ซึ่ง ผช คนนี้ก็รู้ว่าเธอมีผมอยู่แล้ว และเราก็มักจะเจอกันไปมาหากันบ่อยๆ  เพื่อนร้องไห้ได้แต่ถามว่าทำไมถึงทำกับเพื่อนอย่างนี้  ผมร้องไห้ เป็นครั้งแรกที่เราเสียน้ำตายให้กันในตั้งที่เราคบกันมากัน  ผมกัดฟันคน พยามยามตัด ทิ้งกับคำถามที่ตั้งกับตัวเองในตอนแรก เราสัญญาและตกลงกัน จะไม่ให้มีเรื่องแบบนี้เกิดกับเรา จะมีแค่เรา ไม่มีใคร เธอสัญญา บล็อกถูกอย่าง ไลน์ เฟส เราให้สัญญา แต่...จากเหตุการณ์ครั้งมันทำให้ผมเปลี่ยนเป็นอีกคน  ซึ่งปกติผมเป็นคนขี้งอลอยู่แล้ว  แต่สิ่งที่เกิดขึ้นจากเหตุการ์ณครั้งนั้นอีก ความระแวงครับ  และการประชดประชัน  ต้นเหตุจะเกิดจากผม  ส่วนเธอจะเป็นฝ่ายตามง้อ ง้อทุกอย่าง ทำทุกงาน ช่วงนั้นเธอมาหาผมบ่อยมาก แทบทุกวันหยุด  แต่ผมมักจะประชดเธอตลอด ทุกช่วงทุกโอกาส  เช็คโทรศัพท์ เช็คเฟส ทุกอย่าง ทุกทางครับ เป็นอย่างนี้มากตลอดยิ่งช่วงที่เราอยู่คนละที่ ยิ่งไม่ต้องพูดถึง ผมทั้งไล่ทั้งถีบไสไล่ส่งยังไงเธอก็ไม่ไป ยังอยู่กับผม ซื้อของดูแลผมทุกอย่าง ไม่ขาดตกบกพร่องเลย แอบดีใจนะ  ผญ คนนี้ดีจริง  แต่ผมก็ไม่ได้ทิ้งสัญญาตอนเราก่อนที่ผมจะกลับมาทำงานที่บ้าน  ทุกอย่างยังเหมือนเดิม ผมสร้างรากวางฐาน เพื่ออนาคตของเรา เธอก้อไปๆมาๆ  มีอยู่ครั้งที่เธอมาหาผมเธอนอนอยู่ รู้สึกมีคนมาจับขา ครับผม ผช ข้างๆเธอที่โดยสารมาด้วย เธอสะดุ้งตื่นเพราะตกใจ  ผช คนนั้นเลยรีบชักมือกลับ จากนั้นเธอบอกเธอกลัวมาก เรื่องนี้เธอมาเล่าให้ผมฟังทีหลัง เพราะถ้ารู้ก่อน มันคงได้แค่ลงจากรถเท่านั้นละ  แต่ไม่ถึงบ้านแน่นอน (บอกก่อนไม่ใช่นักเลงนะครับ เป็นคนที่รู้จักก้อเป้งๆเยอะเหมือนกัน 55555)  ต่อนะครับ จากเหตุการณ์ครั้งนั้นผมพยามยามไม่ค่อยให้เธอมาหาเพราะกลัวเจอเหตุการ์ณแบบนั้นอีก ง่ายๆคือห่วงและสงสารเธอที่จะต้องเทียวไปเทียวมา  ต่อมาเดือนสิงหาคม เรามีแผลนกันอีก ที่นี้เป็นเกาหลีครับถิ่นศัลยกรรม ความสวยความงาม แต่ครั้งนี้มีเพื่อนเธอไปด้วย  และครั้งนี้เราไปกรุ๊ปครับ  4 วัน 3 คืน มั้งครับถ้าจำไม่ผิด  เราเที่ยว กิน เล่น สนุกสนานตามประสา กินท้องแทบแตก เราไปสวนสนุกวันเดอร์แลน รู้มั้ยครับเธอชวนผมเล่นอารัย  ไม่ใช่ชิงช้า เด็กน้อย ม้าหมุนครับ  รถไฟเหาครับ  และไม่ใช่รถไปเหาะธรรมดา  รถไฟเหาะรางไม้  ผมเอามือลูบหน้าเลย  แต่ก็เอาว่ะ สักครั้งในชีวิต ต่อคิวอยู่นานแล้วก็ทิ้งคิวเรา  รถไฟค่อยๆขึ้น พอถึงยอดเท่านั้นล่ะ  วูบ..........มันวิ่งตกลงในระดับความชันจากตึกสิบกว่าชั้น  หมุนควง กระชาก เหวี่ยง ตีหลังกา เกินอธิบาย ผมถึงกับเสียงหลงครับ  ตุ๊ดแตก......... ลงมาถึงกับสั่นเลย  แต่เธอกลับหัวเราะสะใจแบบหมดมันมาก ยังไม่ผมอยากจะขึ้นอีกรอบด้วยซ้ำ พระเจ้า...!!! ดีใจครับที่ถึงเวลานัดของทัวร์ ผมเลยรอดตัวไป

          หลังจากกลับจากเกาหลี ก็มีการเปลี่ยนแปลงของชีวิตผมอีกรอบครับ  เดือนนั้นเป็นเดือนกันยายน  หัวหน้าผมลาออก  บริษัทมีการเปลี่ยนแปลงระบบ มีการอบรมสัมมนา ลูกน้องลาออกตามหัวหน้า ที่ผมกำลังจะสื่อคือ เดือนนั้นวันเกิดผมครับรวมทั้งวันเกิดเธอด้วย  ผม24  เธอ26 เราไม่ได้เจอกันครับ ขวัญที่ผมได้คือ เค้กวันเกิดจากน้องๆของผมครับ น้องพวกนี้มักชอบทำเซอร์ไพส์ ผม  ส่วนเธอให้รูปเป็นรูปที่เราไปเที่ยวตามที่ต่าง เธอเอามาตัด ปะ เหมือนกาดอวยพร  แล้วส่งให้ทางไลน์  ผมก็มีเตรียมไว้ให้เธอเหมือนกัน ผมเอารูปคู่ของเรามาแต่ง แล้วทำเป็น MV ใช้เพลงของขวัญ  แต่ก่อนน่านี้เราก้อทะเลาะกันด้วยเหตุจากที่ผลมักชอบประชดเธอ  ระแวงเธอ มีอยู่ครั้งที่เธอไปเอายากับของให้แม่กับญาติเธอ ผมจำนึกว่าญาติเธอคนนั้นเป็น ญาติของแฟนเก่าเธอเมื่อสมัยก่อนโน้น ยอมรับเลยครับ จากเหตุการ์ณที่เวียดนาม  มันทำให้ผมเป็นคนจิตตกจริงๆครับ ระแวง ประชดประชัน ขี้งอล ซึ้งที่ว่านี้ มันน่าจะเป็นอารมณ์ของ ผญ ซักมากกว่า ย้อนกลับมาแต่ยังไม่ล่าสุด เราทะเลาะกันเพราะบล็อกไลน์  บล็อกเบอร์เธอเกือบสองอาทิด หนึ่งด้วยเรื่องงาน สองเพราะผมนึกสนุกอยากเซอร์ไพร์เธอด้วยกาลที่ว่า เรายังจำวันเกิดเธอได้นะ  เธอโทรมา เป็น 50-60 สาย จนก่อนวันเกิดผม ผมถึงปลดล็อคไลน์  เธอ HBD ผม  พอถึง 26 ผมก้อ HBD เธอด้วย MV ที่ผมเตรียมไว้ผ่านเฟสบุ๊ค  เธอบอกเธอชอบครับ แต่มีรูปหนึ่งที่เธอกลัว คือรูปที่ผมนอนกอดจูบแก้มเธอครับ  จะอธิบายว่า ญาติเธอเยอะครับ  บ้านเธอค่อนข้างมีหน้ามีตา เธอเป็นลูกสาวคนเดียวที่ได้เรียน ปริญญาตรีและจบ จากในพี่น้อง 6-7 คน   ปัญหาเพราะนอนกอดหอมแก้มครับ  เธอกลัว  แต่รูปอื่นเธอไม่มีปัญหา  แต่เธอของขอบคุณผม เธอชอบ และผมก็ดีใจนะ แต่ผมก้อโพสให้วันสองวัน แล้วผมก้อลบออก ผมไม่อยากให้เธอลำบากใจ  และก้อทำเพื่อประชดครับ ระหว่างนั้นเราก้อคุยบ้าง อะไรบ้าง ส่วนใหญ่ไม่ค่อยได้คุยกัน เรียกได้ว่าขาลงของผมตั้งแต่กลับจากเกาหลีเลยก็ว่าได้  ระบบงานเปลี่ยน หัวหน้าออก  ลูกหน้าออก เหลือผมคนเดียว ผมต้องแบกรับหน้าที่ สามตำแหน่งพร้อม  ยางรั่วสองสามรอบ  ยางแตก รถชน ลากยาวเลยครับ จนมาอีกทีต้นตุลาคม ด้วยที่มันทั้งคลุมเครือ เธอถามผมครับ ว่าจะเอาไงเพราะบางทีผมก็ไม่คุยกับเธอ  เงียบ ไม่รับสายไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันในช่วงนั้น  เธอถามผมว่าจะเลิกหรือจะคบต่อ อยากจะบอกครับที่ประชด ที่ทำไป  ปากดีและทำเก่งทั้งนั้น  ผมรัก ผญ คนนี้มาก ตั้งแต่คบกันมาดูแลผมทุกอย่าง ใส่ใจทุกรายละเอียด แต่ข้อเสียของคู่เราคือปากหนักทั้งคู่ครับ     (พักแป้บนะครับ)
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่