อยู่บ้านเดียวกับลูกพี่ลูกน้อง แต่ไม่สนิทกันเลย ทำยังไงดี

ขอเท้าความก่อนนะคะ คือจขกท.เนี่ยเรียนอยู่ปี1ค่ะ เดิมทีตอนเรียนตั้งแต่เด็กจนมัธยมปลายเรียนอยู่ต่างจังหวัดและอาศัยอยู่กับแม่สองคน ตอนแอดมิชชั่นติดมหาลัยรัฐบาลที่ตั้งใจไว้ ตอนนั้นก็ทั้งเพื่อนทั้งคุณครูที่ปรึกษาก็โทรมาค่ะ ว่าเป็นยังไงบ้าง เราก็บอกไป ติดที่นี่นะ ยังงี้นะ แต่พอได้คุยกับเพื่อนสนิทซึ่งเขาติดคณะนี้เหมือนกันก็เพิ่งมารู้ว่าค่าใช้จ่ายมันก็สูงเลยทีเดียวเพราะเป็นแบบอินเตอร์ เราก็ได้ไปคุยกับแม่ค่ะ คุยไปคุยมาแม่ก็ปรึกษากับน้า สรุปแม่ก็มาถามว่าจะเรียนม.เอกชนไหม  เพราะค่าเทอมมันไกล้เคียงกันเลย อยากเรียนคณะอะไร คือจริงๆเราไม่ได้โฟกัสมหาลัยมากนักแต่เราโฟกัสเกี่ยวกับคณะค่ะ ในตอนนั้นอยากเรียนอะไรก็ได้ที่เน้นภาษาเยอะๆ เพราะรู้ตัวว่าตัวเองเก่งด้านนี้(ด้านเดียว55555) เลยตกลงกับแม่บอกเรียนม.เอกชนก็ดีนะ สรุปแล้วคือ เราต้องย้ายมาอยู่กรุงเทพกับน้าค่ะ ซึ่งน้ามีลูกชายคนนึงอายุเท่าเราเลยและก็เรียนที่เดียวกันคณะเดียวกันอีก ซึ่งตอนแรกก็ไม่ได้กังวลอะไรมากนัก เพราะเรามาอยู่กับน้าที่กรุงเทพเกือบทุกปิดเทอมอยู่แล้ว

     พอมหาลัยเปิด ก็มาเรียนปกติค่ะ เรากับลูกของป้าเนี่ย ขอแทนว่าเอละกัน เรากับเอเนี่ยก็มามหาลัยปกติ ก็จะพารถมาที่มอเอง คือเรากับเอเรียนคณะเดียวกันก็จริงแต่คนละเซคค่ะ เพราะเอเข้าก่อน แบบเค้าเข้าตั้งแต่แรกๆเลยแต่เราเข้าหลังเค้า(มันรับสมัครหลายรอบค่ะ) เพราะตอนนั้นรอแอดอยู่ แต่มีเรียนเวลาไกล้เคียงกันก็เกือบทุกวัน เลยมาด้วยกัน แต่ปัญหามันคือ เราไม่สนิทกันเลย เวลานั่งรถกันนี่ก็ไม่คุยกันเลย บรรยากาศอึดอัดมากค่ะ เวลาอยู่บ้านก็ไม่คุยกันค่ะ จะคุยกันน้านนนนนานครั้ง เช่นแบบเราจะยืมหนังสือเค้าไปเรียนค่ะเพราะเรียนคนละวันกันและตอนนั้นยังไม่ซื้อหนังสือ ก็จะบอกเคัา เอ้อนี่ยืมหนังสือหน่อยนะ บางทีก็ถามเค้าเรื่องสอบบ้าง แต่นอกจากนั้นก็ไม่คุยกันเลย เราก็อึดอัดนะ เวลาวันหยุดเราไม่ได้ไปไหนเราก็จะอยู่แต่ในห้องทั้งวันเลยค่ะ ออกจากห้องเฉพาะเวลาอาบน้ำกินข้าว แล้วก็เข้าห้องต่อ แบบเราก็คิดว่ามันอึดอัดถ้าเราจะไปนั่งดูทีวี หรือทำอะไรข้างล่างอะ (ที่บ้านมีสองชั้นค่ะห้องนอนจะอยู่ด้านบน) จนบางทีถ้าน้าอยู่บ้านก็จะงอนเราประมาณว่าไม่ลงมาให้เห็นหน้าเห็นตาบ้างเลย หลายๆครั้งที่น้าจะไลน์มาบอก ลงมากินข้าวได้แล้ว อะไรยังงี้ จนหลังๆแกก็บอกว่าคราวหลังไม่บอกแลัวนะ ไม่กินก็ไม่ต้องกินอุตส่าทำให้กิน (แต่สุดท้ายก็ยังบอกอยู่ดี 5555) คือน้าเอ็นดูเรามากค่ะ เราคุยกับแกบอกแกเกือบทุกเรื่อง แต่กับเอเนี่ยคือเราแทบไม่คุยกันเลย หลายๆครั้งที่เราไปพร้อมเอแล้วเขาจะแวะไปรับเพื่อนที่หมู่บ้านข้างๆ เขาก็คุยกันสนุกสนานกับเพื่อนนะ จนเรารู้สึกว่าเราเป็นคนนอก ทำตัวไม่ถูกเลยค่ะ ได้แต่นั่งนิ่งๆ แกล้งหลับบ้าง

     แล้วเมื่อสัปดาห์ที่แล้วคือเราก็นั่งทำงานอยู่กับเพื่อนค่ะ ตอนเย็นแล้ว น้าก็ไลน์มาบอกว่ากลับกี่โมง เอเอารถไปโทรหาด้วยจะได้กลับพร้อมกัน เราก็ค่ะๆ ก็โทรไป เค้าก็บอกนี่เลิกแล้วกำลังกลับ เราก็ถามว่าแล้วเพื่อนกลับด้วยมั้ย เค้าก็บอกว่าด้วยๆ คือเพื่อนเค้าที่กลับด้วยก็มีคนที่อยู่หมู่บ้านข้างๆค่ะ แล้วก็มีเพื่อนอีกคนนึง เราก็อ่อ งั้นกลับด้วยนะ เค้าก็โอเคอยู่ตรงไหนเดี๋ยวไปรับ แล้วเอก็มากับเพื่อนค่ะ เค้าแบบคุยกันเฮฮามาก ลืมบอกไปเพื่อนเอที่เราเคยเจอก่อนๆเป็นผู้ชายหมดเลยค่ะ เพราะเค้าแบบ แมนๆ เล่นบาส แต่งรถ งี้ เพื่อนเค้าก็ผู้ชายทั้งนั้น แต่วันนี้เพื่อนอีกคนเขาเป็นผู้หญิงค่ะ ท่าทางเปรี้ยวๆหน่อย คงจะไฮโซด้วยเห็นเค้าคุยกันประมาณที่บ้านมีรถหรูๆหลายคันแล้วดูจากกระเป๋าที่เธอถือก็ใช้ได้อยู่ 55555 เค้าก็คุยกันสนุกสนานลั่นรถเลยทีเดียวโดยที่เรานั่งหงอย คุยกันตลอดทางเลยค่ะ เราก็อึดดอัด ก็เลยแกล้งหลับตามสเต็ป จนไกล้ถึงบ้านของเพื่อนผู้หญิงเค้าคนนั้น เพื่อนเค้าก็ถามขึ้นมาค่ะว่า เฮ้ยนี่เรามากันสามคนอ่อวะ อะไรยังงี้ เราก็นอนฟังอยู่ทุกอย่างที่เค้าคุยๆกันแหละค่ะ เพื่อนเออีกคนก็หัวเราะ แล้วเอก็พูด เออปล่อยไปเหอะๆ หลับไปละๆ ละเพื่อนเอ(ที่อยู่หมู่บ้านข้างๆ) ก็พูดประมาณว่าเอไม่ชวนเราไปวิ่ง ไปนุ่นนี่บ้างหรอวะ เอก็ไม่ตอบไรค่ะ สักพักเพื่อนผู้หญิงเธอก็พูด อ๋อ คนนี้ป่าววะที่เคยเล่าให้กูฟังอ่ะ เค้าก็ตอบ เออๆ แล้วเธอก็ถามต่อ ที่เป็นญาติกับ อยู่บ้านเดียวกับป่าว เค้าก็อืมๆ ไป สักพักก็ส่งเธอกลับบ้าน เราก็หลับมาตลอดทาง คือตอนนั้นเราแบบอยากรู้มากค่ะว่าเออเค้าเล่าไรให้เพื่อนเค้าฟังบ้างเนี่ย ในใจเค้าจะไม่ชอบเราบ้างมั้ยเวลาที่อยู่บ้าน เราอยากรู้มากกกกกก พอไปส่งเพื่อนอีกคนเสร็จก็กลับบ้านค่ะ เราก็ตื่นก็นั่งเงียบกันต่อไปจนถึงบ้าน คือเราก็มาอยู่นี่หลายเดือนแล้วค่ะ คุยกันไม่กี่ประโยคทั้งๆที่อยู่บ้านเดียวกัน อยากรู้ว่าใครมีวิธีพอจะทำความสนิทสนมกันได้บ้าง เพราะเราก็เป็นคนพูดไม่ค่อยเก่งอยู่แล้วแถมขี้อายอีก ไม่รู้จะทำยังไงดีค่ะ T^T
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่