1. ประกอบธุรกิจโดยการถือหุ้นในบริษัทอื่น (Holding Company) ในธุรกิจที่เกี่ยวกับการผลิตและจำหน่ายน้ำตาล ธุรกิจผลพลอยได้จากการผลิตน้ำตาล เช่น ธุรกิจไฟฟ้า ธุรกิจปุ๋ยและธุรกิจสนับสนุน คือ การวิจัยและพัฒนา

2. จำนวนหุ้นที่เสนอขาย หุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวน 169,182,500 หุ้น คิดเป็นร้อยละ 25 ของหุ้นสามัญที่ออก

3. มูลค่าที่ตราไว้ (par) 1 บาทต่อหุ้น มูลค่าตามราคาบัญชี (book value) 1.48 บาทต่อหุ้น กรณีคำนวณจากมูลค่า ส่วนของผู้ถือหุ้น ณ วันที่ 30 มิถุนายน2557 ซึ่งเท่ากับ 749.81 ล้านบาท หารด้วยจำนวนหุ้นสามัญปัจจุบันที่เรียกชำระแล้ว ซึ่งเท่ากับ 507,567,500 หุ้น

4. มูลค่าตามราคาบัญชี (book value) 1.11 บาทต่อหุ้น กรณีคำนวณจากมูลค่าส่วนของผู้ถือหุ้น ณ วันที่ 30 มิถุนายน2557 บวกเพิ่มด้วยทุนจดทะเบียนและชำระแล้วที่เพิ่มขึ้นภายหลังการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนในครั้งนี้จำนวน 169,182,500 หุ้น

5. จำนวนหุ้นสามัญทั้งหมดของบริษัทหลังจากการเสนอขายหุ้นครั้งนี้ ซึ่งเท่ากับ 676,750,000 หุ้น

6. บริษัทจดทะเบียนที่ประกอบธุรกิจคล้ายคลึงกันหรือใกล้เคียงกับการประกอบธุรกิจของบริษัท ได้แก่ บริษัท น้ำตาลขอนแก่น จำกัด (มหาชน) บริษัท น้ำตาลครบุรี จำกัด มหาชน) และบริษัท เกษตรไทยอินเตอร์เนชั่นแนล ชูการ์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ...KSL, KBS, KTIS

7.

8.

9. กำไรสุทธิของกลุ่มบริษัทสำหรับ ปี 2554 ปี 2555 และ ปี 2556 เท่ากับ 373.76 ล้านบาท 341.09 ล้านบาท และ 205.56 ล้านบาท ในปี 2555 กำไรสุทธิลดลง เมื่อเทียบกับปี 2554 เนื่องจากราคาจำหน่ายน้ำตาลโดยเฉลี่ยลดลง และในปี2556 กำไรสุทธิลดลง จากปี 2556 ร้อยละ 39.73 เนื่องจากราคาจำหน่ายน้ำตาลโดยเฉลี่ยลดลงเช่นเดียวกัน

10. สำหรับงวดหกเดือนแรกปี 2557 กำไรสุทธิเท่ากับ 129.09 ล้านบาท ลดลงจากงวดเดียวกันของปี 2556 ร้อยละ 59.30 เนื่องจากบริษัทยังไม่ได้ส่งมอบน้ำตาลส่งออกให้กับผู้ซื้อ ตามปริมาณโควต้า ค ทั้งหมด โดยยังมีน้ำตาลตามโควต้า ค รอส่งมอบประมาณ 50,000 ตัน ซึ่งตามปกติของการจำหน่ายน้ำตาลส่งออกของบริษัทในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา ในช่วงครึ่งแรกของปีจะมีการส่งมอบน้ำตาลตามปริมาณโควต้า ค ให้กับผู้ซื้อได้ เกือบทั้งหมดแล้ว นอกจากนี้ราคาน้ำตาลที่จำหน่ายในงวดหกเดือนแรกปี 2557 ลดลงเมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปี 2556

11. ส่วนของผู้ถือหุ้นรวม ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2554 2555 2556 และ 30 มิถุนายน 2557 เท่ากับติดลบ 13.88 ล้านบาท 441.22 ล้านบาท 634.67 ล้านบาท และ 749.81 ล้านบาท ตามลำดับ โดยส่วนของผู้ถือหุ้นเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากมีผลการดำเนินงานที่ดี และมีการเพิ่มทุน โดยในปี 2555 มีการเพิ่มทุน 120 ล้านบาท และปี 2556 มีการเพิ่มทุน 187.57 ล้านบาท

12. นักลงทุนสัมพันธ์: คุณภัทรพงศ์ พงศ์สวัสดิ์ โทรศัพท์ 02-216-5820-2 Email address: pattarapong@buriramsugar.com

อ้างอิง : http://capital.sec.or.th/webapp/corp_fin/datafile/69/2014/139100116601012014-05-29T2002_Executive_Summary.PDF?ts=1414228271

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ข้อมูล ณ 24-10-57
P (KSL) = 13.10
P/E (KSL) = 14.45
P/BV (KSL) = 1.73
MARKET CAP. (KSL) = 22,330.87MB
DIV (KSL) = 2.67%

P (KBS) = 10.70
P/E (KBS) = 17.67
P/BV (KBS) = 1.76
MARKET CAP. (KBS) = 6,420.00MB
DIV (KBS) = 4.28%

P (KTIS) = 10.90
P/E (KTIS) = 26.80
P/BV (KTIS) = 4.97
MARKET CAP. (KTIS) = 42,074.00MB
DIV (KTIS) = 2.75%

BV (BRR) = 1.11
EPS (BRR) = 220.06M (ESTIMATED) / 676,750,000 = 0.3252

CALCULATE FROM P/BV
P (BRR) = 4.97 * 1.11 = 5.52 (USE P/BV KTIS)
P (BRR) = 1.76 * 1.11 = 1.96 (USE P/BV KBS)
P (BRR) = 1.73 * 1.11 = 1.92 (USE P/BV KSL)

CALCULATE FROM P/E
P (BRR) = 26.80 * 0.3252 = 8.72 (USE P/E KTIS)
P (BRR) = 17.67 * 0.3252 = 5.75 (USE P/E KBS)
P (BRR) = 14.45 * 0.3252 = 4.70 (USE P/E KSL)


*** IPO (BRR) = 6.80 ถ้าคำนวณเทียบจาก PE ของ KTIS ก็มีช่องพอให้ได้ลุ้น เกือบๆ 30%
แต่ถ้ามองจาก P/BV หรือ P/E ของตัวอื่นๆ ในกลุ่ม (KBS, KLS, KTIS) ก็ดูราคาจะสูงกว่าเพื่อนๆ

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ถ้ากำหนดให้ PE (BRR) ที่เหมาะสม เท่ากับ 17.67 เท่า (เท่ากับ KBS)
EPS (BRR) = 6.80 (IPO) / 17.67 = 0.3848
E รวม = 0.3848 * 676,750,000 = 260.41ล้านบาท ตอนนี้ครึ่งปีแรก ทำไปได้แล้ว 110.03ล้านบาท เพราะฉะนั้น ครึ่งปีหลัง 2557 จะต้องทำได้ 150.38ล้านบาท