แชร์ข้อคิดและประสบการณ์จริงไม่อิงนิยาย ชีวิตยิ่งกว่าละครน้ำเน่า อยากให้เป็นแง่คิดในการใช้ชีวิต

พาพันยิ้ม     ก่อนอื่นขออภัยที่มาตั้งในกระทู้คำถามนะค่ะด้วยเหตุผลหลายๆประการ


ยิ้มยิ้ม สวัสดีชาวพันทิปทุกคนนะค่ะ นี่เป็นกระทู้แรกของ จขกท หากผิดพลาดประการใดก็ขออภัยมา ณ ที่นี้  อาจจะยาวไปหน่อยแต่อยากแชร์ค่ะ
ก่อนอื่นขอแนะนำตัวก่อน เราชื่อเมย์  ที่มาเขียนกระทู้นี้เพราะอยากให้ทุกคนที่ได้อ่าน เอาไปเป็นแง่คิด ไม่ใช่ทำตามนะ!! ตามหัวข้อค่ะ อดีตก็คืออดีต เราไม่สามารถย้อนกลับไปแก้ไขอะไรได้ และแน่นอนค่ะ อดีตที่ไม่ค่อยสวยหรูนั้นยังคงฝังอยู่ในใจตลอดเวลา ไม่ว่าเราจะพยายามลบมันออกไปแค่ไหน มันก็คงยังเป็นแผลเป็นอยู่ดี เพราะฉะนั้น ทำวันนี้ให้ดีที่สุดค่ะ จะได้ไม่ต้องมานั่งเสียใจทีหลัง       
ข้อคิดที่อยากให้ทุกคนทราบจากเจตนาของกระทู้โดยเฉพาะอย่างยิ่งน้องๆที่เข้าสู่ช่วงวัยรุ่นวัยหัวเลี้ยวหัวต่อ และพ่อแม่ผู้ปกครองที่รักลูกสุดดวงใจ
-    คนเราจะทำอะไรต้องมีสติ
-    ถ้าใจใฝ่ดีต่อให้อยู่ในสภาพแวดล้อมอะไรก็ดีได้
-    คนที่รักและพร้อมจะฟันฝ่าอุปสรรค์ไปกับเราอย่างจริงใจนั้นคือครอบครัว
-    ไม่ว่าลูกจะทำผิดแค่ไหนทำผิดร้ายแรงยังไงพ่อแม่ก็พร้อมจะให้อภัยลูกเสมอ
-    เพื่อนกินหาง่ายเพื่อนตายหายาก ถ้าเจอเพื่อนตายแล้วจงเก็บรักษามิตรภาพไว้ให้ดีที่สุด
-    สำหรับผู้ ญ  ผู้ชายไม่ใช่พระเจ้านะค่ะ
-    รู้หน้าไม่รู้ใจจะคบใครควรศึกษาให้ดีก่อน
-    เหล้า ยา บุหรี่ ไม่ใช้ที่พึ่งที่ดีที่สุดของชีวิต
-    เก็บเปรี้ยวไว้กินหวาน สิ่งที่เสียไปไม่สามารถเอาคืนได้นะจ๊ะ
-    หากริที่จะทำ ควรศึกษาและป้องกันให้ดี โรคติดต่อ และโอกาสท้องสูง อนาคตหายจ้อย
-    คิดให้ดีไตรตรองก่อนจะพูดจะทำอะไร
-    สมัยนี้สังคมออนไลน์มันแรงทำอะไรให้คิดหน้าคิดหลัง ถึงผลดีผลเสียที่ตามมา
-    เวลามีค่าแต่ถ้าผ่านแล้วก็ผ่านเลยย้อนไม่ได้ที่สำคัญเวลาไม่เคยรอใคร
-    การศึกษาสำคัญมากกับการดำรงชีวิตและอนาคต
-    ลองเปิดใจคุยกันในครอบครัวซิค่ะ จะได้รู้ว่าความต้องการของแต่ละคนคืออะไร
-    ความสุขของชีวิตคือการดำรงชีพอยู่ได้โดยไม่มีทุก
-    จะสุขขึ้นไปอีกถ้าเดินไปที่ไหนก็ได้โดยไม่ต้องคอยหลบหน้าใคร เพราะฉะนั้นอย่าไปมีปัญหากับใครเลยน้า
-    ถ้าเชื่อบุญกรรม กรรมสมัยนี้ติดจรวดน้า ทำอะไรก็ได้อย่างนั้น
ลองอ่านกระทู้แล้วคิดตามน้าว่าอันไหนดีไม่ดีถูกไม่ถูก การคิดวิเคราะห์จะทำให้เรามีสติในการใช้ชีวิตในช่วงวัยรุ่นมากขึ้น  นี่บอกเลยถ้าเล่าละเอียดกว่านี้จริงๆ  ซีรี่เรื่องดังนี่เบบี๋เลย





เมย์ไม่ได้สวย ไม่ได้หน้าตาดี แต่เมย์ค่อนข้างมั่นใจในตัวเอง ไม่แคร์ความรู้สึกใคร และที่สำคัญอยากได้อะไรจะต้องได้   ย้อนไปสมัยเด็กติ่ง ณ โรงเรียนประจำแห่งหนึ่ง การใช้ชีวิตใน รร.ก็เหมือนจะปกติดี  จนกระทั่งใกล้จะจบม.3 ด้วยความที่เป็นศิราณี เพื่อนสนิทในกลุ่มทะเลาะกับแฟน แล้วเลิกกัน เราก็กลายมาเป็นคนกลาง คุยกับคนโน้นทีคนนี้ที  ตอนแรกก็เฉยๆนะ ก็นั่งคุยกัน เป็นเพื่อนกัน ปลอบไปปลอบมา จนวันนึงนั่งๆกันอยู่ แฟนเพื่อนคนนี้เนี่ยแหละ หยิบปากกา มาเขียนที่โต๊ะว่า “ ปากกา พัดลม ปืน นะ” ( เป็นแฟนกันนะ เสี่ยวเนอะมุขจีบสาวสมัยนั้น ) แล้วบอกให้เราอ่าน เราอ่านจบก็งงๆ ถามกลับไปว่าเอาจริงเหรอ เรื่องมันจะยุ่งมากนะ แกทะเลาะกับแฟน แฟนแกเป็นเพื่อนสนิทเรา  แต่ด้วยความที่ไม่แคร์อะไร บวกกับเลิกกับแฟนที่คบอยู่และไม่มีใครมาจีบซักที เลยตอบตกลงไปเท่านั้นแหละ ก็ทำตัวปกติ เพียงแต่สถานะเปลี่ยนไป เดินไปไหนมาไหนด้วยกันมากขึ้น จนใครต่อใครรู้แล้วมาถามเราก็ยอมรับนะ ว่าคบกันเป็นแฟน ตอนนั้นไม่รู้ตัวหรอกว่าในสายตาคนอื่นเราแย่มาก แย่งแฟนเพื่อน เราก็เถียงดิไม่ได้แย่งซะหน่อย เลิกกันแล้วนิ ยอมรับนะว่าตอนนั้นอ่ะถ้าเพื่อนสองคนคุยกันปรับความเข้าใจกันก็คงดีกันแล้วกับไปคบกันเหมือนเดิม พอเพื่อนรู้จ้า โมโหมาก เพื่อนทำอย่างนี้กับเพื่อนได้ไง ถึงขั้นจะตบกันเลยทีเดียวหลังจากนั้นก็หักกับเพื่อน โอ้ยยย รู้สึกว่าชีวิตนี้ผู้ชายสำคัญมากกกก (คิดได้เนอะ!!!) คบกันได้ไม่กี่เดือนก็เรียนจบ สัญญากันอย่างดิบดี จะรักกัน ไม่นอกใจ รักตลอดไป รอตลอด อะไรแบบเนี่ยเพ้อมากกกก หลังจากจบเมย์ก็เข้าเรียนที่โรงเรียนใหม่ แฟนก็เข้าเรียนอีกโรงเรียน ก็ไม่ค่อยได้ติดต่อกัน มีโทรหากันบ้าง เบอร์ตู้ เบอร์บ้านไรเงี้ย สมัยนั้นเมย์ยังไม่ไช้มือถือเลย มันไม่จำเป็น
ด้วยความที่ไกลกันหรือแทบจะไม่ได้คุยกันเลยก็แลดูเหมือนเลิกกันไปโดยปริยาย พอเข้ามาโรงเรียนใหม่ไม่นาน เมย์ก็มีแฟนใหม่ เข้าได้ไม่กี่เดือนเนี่ยแหละ ก็เหมือนเคยด้วยความเฟรนลี่ ส่วนใหญ่จะเข้ากับเพื่อนผู้ชายง่าย ก็ช่วยเพื่อนทำงาน ทำงานไปทำงานมา ก็มาเป็นแฟนกัน โหยยย ช่วงนั้นนี้ Hapyy โคดๆ เมย์จริงจังกับชีวิตนะ หวังมากก หวังว่าแฟนคนนี้เนี่ยแหละ อนาคตของเราเลย (แรดเนอะ)       แต่แล้วชีวิตเมย์ก็เกิดปัญหาขึ้นกับผู้ชายคนนี้ ซึ่งขอไม่อธิบายนะค่ะ มันซับซ้อนมาก และเมย์คิดว่าเจ้าตัวคงอาจได้มาอ่านกระทู้นี้ซึ่งมันคงทำให้เค้าทุกใจไม่น้อยเลยล่ะที่มาขุดคุ้ยอดีต (ขอออกตัวก่อนว่า เมย์ไม่ได้ท้อง ไม่เคยทำแท้งใดๆน้า) เอาเป็นว่าเมย์ย้ายโรงเรียน
โรงเรียนใหม่เพื่อนก็ใหม่ แต่สันดารคนยังเหมือนเดิมค่า เมย์กลับไปติดต่อกับแฟนตอนมอต้น ที่เรียกว่าแย่งเพื่อนมานั่นแหละ แหละตัวช่วยที่ทำให้เราได้คุยกันมากขึ้น คงไม่มีใครไม่รู้จัก PCT ค่าโทรแสนถูกและแทบจะไม่ได้วางโทรศัพท์เลยด้วยซ้ำถ้าสายมันไม่ได้ตัดไปเอง ด้วยความที่ผลการเรียนค่อนข้างดี เมย์จึงมีความคิดที่ว่า “ เรียนดีแล้ว จะทำอะไรก็ได้ จะใช้ชีวิตยังไงก็ได้  โตแล้ววว” ประกอบกับสังคมในโรงเรียนใหม่ ใครๆก็ไปเที่ยวกัน เที่ยวกลางคืนนะคร้าจะบอกว่านี่ มอ5 ค่าพึ่งจะ 16ด้วยซ้ำ ตอนนั้นคงไม่มีอะไรฮิตเท่ารัชดา รัชดาซอย4 โมทาวผับทอมดี้ สนอฟ ไวท์ เพียวบาร์ บาหลี……  ซึ่งแฟนที่คบกันเค้าก็ไปค่า เราก็อยากไปบ้างซิค่ะ แต่ทำไงได้ยังแบมือขอตังค์ที่บ้านใช้ ซึ่งเค้าค่อนข้างแอนตี้เรื่องพวกนี้  เราเลยได้แค่ไปหาแฟนช่วงวันหยุดซึ่งที่บ้านก็ไม่รู้นะฮ่า ยังไม่ทันจะพ้นเทอมแรกที่ย้ายโรงเรียนมา เมย์ก็มีปัญหากับที่บ้านเกี่ยวกับเรื่องพวกนี้นี่แหละค่ะ เมย์เป็นพวกชอบประชดประชัน รู้ทั้งรู้ค่ะว่าไม่มีพ่อแม่คนไหนไม่อยากให้ลูกเรียนหนังสือ ด้วยความโมโหบวกกับอารมณ์วัยสะรุ่นอยากเอาชนะ     “ไม่อยากให้เรียน ก็ไม่ต้องเรียน ไม่เรียนมันแล้วหนังสือ….”   ประโยคนี้เป็นตัวแปรผันของชีวิตเลยล่ะค่ะ สรุปว่าเมย์เลิกเรียน เพราะความอยากเอาชนะ พูดไม่คิด  จากนั้นด้วยความที่อยู่บ้านเฉยๆ จะไปเที่ยวไหนก็ไม่ได้เพราะไม่มีใครให้ตังค์ เลยตัดสินใจมาทำงานที่ร้านอาหาร และแน่นอนว่ายังคบกับแฟนอยู่ ด้วยความที่แฟนยังเรียนหนังสือ เวลาไปเที่ยวเสียส่วนใหญ่เมย์จึงเป็นคนออกเงิน  ทำงานเพื่อหาเงินไปเที่ยวกับแฟน แฟนเราขี่มอไซซี่งมันจะมีไปทริป ตจว.ไรเงี้ย ค่ากิน ที่พัก น้ำมัน ก็หารกันบ้าง เราออกบ้าง แฟนยืมตังซื้อของแต่งรถ ซื้อนู่นนี่บ้าง อาจเพราะแฟนก็ให้โทรศัพท์เรามาใช้ด้วยมั้ง แลกกับ PCT นะแต่สุดท้ายก็ขาย..เรื่องแบบนี้เยอะมาก ตอนนั้นรักมากค่าไม่บ่นอะไรทั้งนั้น   ( น่าเวทนามากกกก…..)  

ระหว่างที่คบกันทุกอย่างก็เหมือนกำลังไปด้วยดี เมย์เป็นคนรักเดียวใจเดียว ไม่เจ้าชู้นะค่ะ ตอนนั้นนนน ย้ำว่าตอนนั้นค่ะ!!!!!   แต่แล้วอีกแล้วค่า    เมย์เคยไปรับแฟนที่โรงเรียนก็เคยนะ เพื่อนแฟนก็เจอ หือๆๆ   วันเกิดรุ่นพี่ค่า ก็มาฉลองกันในงานนั้นเองโทรศัพท์ของแฟนดังขึ้น เราก็รับค่า เพราะปกติเบอร์แฟนจะไม่มีใครโทรมานอกจากเรา เสียงแว่ววมาเลย  แต่เราก็ใจดีนะยื่นไปให้คุย คุยเสร็จเราก็สงสัยแล้วล่ะว่ามันยังไง เคยบอกแฟนนะว่าถ้าอยากมีใครให้บอก   ใจกว้างมากกก   ไล่ถามจนได้คำตอบนางคือเพื่อนที่โรงเรียนเพื่อนผู้ชายซึ่งไม่ใช่ผู้ชายนางคือกระเทยค่า  ความรู้สึกตอนนั้นมันปรี๊ดมากบอกไปเลยล่ะว่าถ้าจะมีคนอื่นเป็นผู้ ญ ยังพอทน แต่นี้เป็นกระเทย ไปดูหนังกันไปไหนด้วยกันและที่สำคัญไปบ้านมาแล้ว ที่รู้เพราะตอนนั้นคิดว่าเป็นเพื่อนกันนะฮ่ะ (ไม่ได้มีเจตนาดูถูกเพื่อนๆเพศทางเลือกแต่อย่างใดนะค่า แค่ตอนนั้นรู้สึกว่าเราเป็นผู้ ญ อ่ะ เราโคตรเสียเซลแบบมันหยามกันมาก)  พอได้ใจความเท่านั้นกินเหล้าค่า เพียวค่า ยกซดค่า จนอาละวาด คงเพราะเฮิร์ทด้วย (ปกติเราคอแข็งนะ ดีดดูได้…..)    กรรมติดจรวดมั้ยค้า ก็เหมือนเราไปแย่งของๆคนอื่นมา โดนเองซะบ้าง   คืนนั้นผ่านไปแฟนก้มาง้อซิค่ะ ไอ้เราก็ใจอ่อนนะ แต่ในใจความแค้นมันสุมทรวงมาก ทำกูเจ็บ หยามศักศรีลูกผู้ ญ  และแน่นอนก็กลับไปคบกันต่อ คราวนี้คบกันแต่ความรู้สึกไม่เหมือนเดิม มันไม่ค่อยแน่ใจอ่ะว่าจะโดนสวมเขาอีกเมื่อไหร่ มันระแวงไปหมด  
ประกอบกับช่วงนั้นเพื่อนรุ่นเดียวกันที่เคยเรียนกันมาก็เตรียมจะสอบเข้ามหาลัยแล้ว ความคิดที่ฉุกคิดขึ้นมาคือ แล้วเราล่ะเราทำอะไรอยู่ อนาคตอยู่ที่ไหน เมย์ก็เลยอยากกลับไปเรียนอีก เมย์เลยเลือกเรียนที่ ที่ไม่ต้องไปเรียนทุกวัน ซึ่งไม่เมย์ไม่มีปัญหากับการเรียนอยู่แล้ว เห็นแบบนี้ที่เค้าบอกว่าต้องเรียนหลายรอบก็ผ่านมาไม้เดียวหมดนะคร่า แอบอวยตัวเอง สรุปคือเรียนเพื่อเอาวุฒิ  แต่อีกด้านของชีวิตจากที่ไม่เคยเจ้าชู้ คราวนี้ด้วยความที่เราทำงานใครมาจีบมาคุยด้วยก็คุย คบที่3-4คน คบแล้วก็เลิก ผู้ชายยิ้มหาง่ายอ่า (ขอโทษนะค้าที่คิดแบบนี้ แต่ผู้ชายดีๆก็คงมีนะฮ่า)  กินเหล้าเป็นกินน้ำ ดึกเลิกงานกินกันจนเช้าแล้วเข้างานต่อ เป็นแบบนี้อยู่นานเหมือนกันนะ แบบถึงขนาดโกหกแฟนว่านอนแล้ว แต่ไปเที่ยวรัชดาเชื่อม่ะว่าโชคไม่เข้าข้างดันเจอเพื่อแฟน พอแฟนรู้เราก็อ้างซิว่าก็หยวนๆกันไปไม่ได้มีใครซักหน่อยย แถจนสีข้างถลอกเลยล่ะ  เรื่องเนื้อก็มานะ ล่องลอยดีรับมาขายให้เพื่อนบ้าง แต่สัญญากับตัวเองไว้ยาบ้าจะไม่ลองเด็ดขาด
ช่วงที่มาเรียน เราก็มีเพื่อนคนนึงผู้ชายอีกตามเคย รู้มาว่าประวัติเค้าไม่ดีนัก ประกอบกับก็ยังทำใจไม่ได้ที่แฟนนอกใจ คือ มันเจ็บโคดๆ เลยมีแพลนที่จะเลิกกับแฟน แต่ไม่ได้คิดจะคบกับเพื่อนคนนี้นะ เรามันผีบ้าอ่ะ เราอยากเอาคืน ก็คิดรวบรวมมูลค่าของเงินที่แฟนยืมบ้างเอาไปใช้นู่นนี่บ้าง เป็นยอดเงินจำนวนนึง  ให้เพื่อนขับรถพาไปบ้านแฟนในวันที่พ่อของแฟนกลับมา ( พ่อแฟนอยู่ ตปท นานๆกลับมาที ) เข้าไปบอกกับพ่อแม่เค้าตรงๆเลยค่าว่าเค้าติดเงินหนูนู่นนี่นั้น รวมถึงเอาโทรศัพท์ไปคืนด้วยน้า พอแฟนมาเท่านั้นแหละเราก็ยืนโทรศัพท์คืน หึๆๆๆ  โทรศัพท์ก็แพงอ่าปาทำไมเสียดายย   วันนั้นเราซะใจมาก ถึงขั้นแตกหักกันยังไงก็กลับไปคบกันไม่ติดเพราะหักหน้าพ่อแม่เค้าไว้  
เมย์เริ่มสนิทกับเพื่อนคนนี้มากขึ้นเรื่อยๆ ย้ำนะค่ะว่าเพื่อน ไปรับส่งที่เรียน ไปเที่ยวกินเหล้า เฮฮาตามปกติ  คืนนึงที่กินเหล้าอยู่เกิดสายฟ้าฟาดขึ้นกลางวงค่ะ เมียนางมาอาละวาดหาว่ามีคนนู้นคนนี้ พวกเรานี่ขนลุกไปตามๆกัน อีคุณเพื่อนก็โมโหซิค่ะ เพราะฮีไม่ได้มีใคร ฮีพาเราขึ้นรถกลับเลยค่า  รู้ตัวเลยตอนนั้นความซวยมาเยือนอีกล่ะ หลังจากวันนี้ฮีก็ไปเคลียปัญหาครอบครัวสรุปเลิกกันค่ะ ฮีก็คงอยากเลิกอยู่แล้วด้วยมั้งงง  ทีนี้ฮีก็ทำตัวเหมือนเดิมค่ะสนิทกันไม่รู้ว่าสถานะคืออะไร แต่รู้ว่ารู้สึกดี ฮีพาเมย์ไปบ้านรู้จักครอบครัว ดูกิจการที่บ้าน (บ้านทำเฟอนะเธอ) เอาล่ะซิค่ะ ที่นี้เมย์ก็คิดว่าคนนี้ล่ะพอล่ะ หยุดทู้กอย่าง  แต่มันก็ไม่ได้เป็นอย่างที่คิดนะค่ะ เหมือนเป็นแฟนกันก็จริงชีวิตดีก็จริงแต่สุดท้ายก็เป็นเพื่อนกันค่ะ ด้วยปัญหาที่เค้าเคยมีอยู่แล้วทำให้เค้าพูดกับเมย์ตรงๆว่า จะเป็นเพื่อนกันเพราะอะไร รายละเอียดยิบย่อยมากกก
ความเป็นเพื่อนก็ยังดำรงอยู่ ช่วงนั้นก็กลับไปคุยกับพวกพี่ที่ทำงานเฮฮากันตามภาษา เมย์คุยกับพี่ที่ทำงานสองคน เค้าสองคนก็รู้นะ แต่เค้าก็ถามเราแหละว่าเลือกใคร เรานะเหรอ ไม่รู้ซิไม่อยากเลือกใครทั้งนั้น  (  มาตามเพลงอยากเก็บเธอไว้ทั้งสองคน  )  จนสุดท้ายเราเลือกที่จะคบคนนึง เหตุการณ์เกิดขึ้นในงานวันสงกรานต์ที่ร้านจัดให้พนักงาน เราจะแทนพี่เค้าว่าพี่A กับพี่B           พี่ A เราไม่รู้แบล็คกราวเค้ามากออกแนวเด็กตจว ไม่เทรนอะไรเค้าไม่ค่อยเล่าอะไรชวนเรากลับบ้านต่างจังหวัด  ส่วนพี่ B ประวัติโหดร้ายปนน่าสงสารดูเป็นคนจริงและโคตรขี้หึง ชวนไปทะเล                          ทายซิค้า>……< ว่าเลือกไปไหน????              เดี๋ยวมาต่อ>..>

คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 2
ไปทะเล
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่