ในยุคสามก๊ก หน่วยรบที่มีชื่อเสียงโด่งดังมากที่สุด เห็นจะไม่พ้นหน่วยทหารเซียงจิ๋ว ซึ่งเป็นอดีตทหารโจรผ้าเหลืองที่โจโฉได้เกลี้ยกล่อมมาเข้าด้วยนับแสนคน เมื่อช่วงสร้างตัวที่เมืองกุนจิ๋ว
แต่ฝ่ายเล่าปี่แห่งจ๊กก๊ก ก็มีหน่วยทหารที่มีฝีมือยอดเยี่ยมเช่นกัน และนับว่าเป็นหน่วยทหารที่อยู่เบื้องหลังความสำเร็จในการสร้างตัวเป็นฮ่องเต้ของเล่าปี่ในภายหลังด้วย นั่นคือ “หน่วยพิราบขาว” ซึ่งเป็นหน่วยทหารราชองครักษ์ที่มีหน้าที่หลักคือการพิทักษ์เล่าปี่และเล่าเสี้ยน ในฐานะฮ่องเต้แห่งจ๊กก๊ก
ในจดหมายเหตุสามก๊กของเฉินโซ่ว ได้บันทึกเรื่องน่าสนใจเกี่ยวกับทหารหน่วยนี้ไว้ว่า ได้สร้างวีรกรรมครั้งสำคัญคือช่วยพิทักษ์เล่าปี่ที่พ่ายศึกอิเหลงหลังจากโดนลกซุนเผาจนวอดวาย ให้หนีตายกลับไปที่เมืองไป่ตี้ได้
ผู้นำของหน่วยองครักษ์นี้ จึงน่าจะเป็นเตียวจูล่ง ยอดขุนพลและองครักษ์ของเล่าปี่และครอบครัว แต่ในประวัติศาสตร์ ได้บันทึกชื่อของบุรุษอีกผู้หนึ่งไว้ นั่นคือ “ตันเตา” หรืออ่านแบบจีนกลางคือ “เฉินต้าว” (Chen Dao)
ซึ่งในนิยายสามก๊กของหลอก้วนจง กลับไม่ได้ปรากฏชื่อของบุรุษผู้นี้เลยแม้แต่ครั้งเดียว!!!
ตันเตา หรือ เฉินต้าวผู้นี้ แท้จริงแล้วคือใครกัน
ในจดหมายเหตุสามก๊กของเฉินโซ่ว มีบันทึกชีวประวัติของตันเตาไว้สั้นๆ แต่น่าสนใจว่า
เดิมทีตันเตาได้เข้าร่วมกับเล่าปี่ที่เมืองอิวจิ๋ว ในตำแหน่งราชองครักษ์ของเล่าปี่ และมีตำแหน่งทางทหารเป็นรองเพียงจูล่งคนเดียวเท่านั้น
เฉินโซ่วแทรกบันทึกจากจื่อจื้อทงเจี้ยนว่า
ตันเตา ชื่อรอง ซู่จื้อ เชื่อว่าเป็นชาวเมืองยีหลำ เขาได้ร่วมติดตามเล่าปี่ทำศึกเรื่อยมาเป็นเวลาหลายสิบปี มักรับหน้าที่เป็นรองขุนพลอยู่ในสังกัดของจูล่ง มีชื่อเสียงว่าเป็นผู้มีความภักดีและกล้าหาญ สร้างผลงานในสงครามหลายครั้ง
ปีค.ศ.221 เมื่อเล่าปี่สถาปนาตนขึ้นเป็นฮ่องเต้ ตันเตาได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้คมกองกำลังพิเศษที่เรียกกันว่า “หน่วยพิราบขาว”
เกี่ยวกับกองกำลังพิเศษนี้ เฉินโซ่วแทรกเนื้อหาที่ได้จากรวมบันทึกของขงเบ้งว่า
หลังจากเล่าปี่ขึ้นเป็นฮ่องเต้แล้ว ตันเตาได้รับหน้าที่สำคัญคือเป็นผู้ดูแลอยู่หน้ากระโจมค่ายของเล่าปี่ และเป็นผู้ควบคุมกองกำลังพิเศษที่เรียกว่า “หน่วยพิราบขาว” ซึ่งเป็นหน่วยพิเศษที่ขึ้นตรงต่อองค์ฮ่องเต้หรือเล่าปี่เท่านั้น มีหน้าที่สำคัญในการถวายอารักขาแก่ฮ่องเต้ของจ๊กก๊กโดยเฉพาะ
ปีค.ศ.221 เล่าปี่ทำศึกอิเหลง พ่ายแพ้ต่อลกซุนอย่างยับเยิน ตันเตาสร้างวีรกรรมช่วยชีวิตเล่าปี่ให้หนีรอดกลับมาที่เมืองไป่ตี้เฉิงได้
หลังจากเล่าปี่สิ้นชีพลง รัชทายาทเล่าเสี้ยนขึ้นสืบทอดราชบัลลังก์ต่อ ขงเบ้งก็ได้ขึ้นมาเป็นผู้สำเร็จราชการ มีอำนาจบัญชาการกำลังทหารทั้งหมดของจ๊กก๊ก ตันเตาก็ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นนายพลผู้ช่วยคุมกำลัง แต่เนื่องจากตันเตาปฏิบัติหน้าที่กับกองกำลังของเขาได้ดีมาก จึงไม่ได้โดนเรียกตัวกลับไปที่นครเฉิงตู
เฉินโซ่วเองก็ให้การยกย่องตันเตาอย่างสูง ในช่วงท้ายของบันทึกได้เขียนว่า “ตันเตาเป็นยอดขุนพลผู้กล้าหาญ ซึ่งเป็นรองเพียงจูล่งคนเดียวเท่านั้น”
จากบันทึกส่วนนี้ แสดงให้เห็นว่า ตันเตามีหน้าที่หลักคือ องครักษ์พิทักษ์ข้างกายเล่าปี่ และเป็นขุนพลผู้กล้าหาญของจ๊กก๊กที่เป็นรองเพียงจูล่งเท่านั้น
ในขณะที่นิยายสามก๊กของหลอก้วนจง กลับพูดถึงแต่จูล่งคนเดียว
นักประวัติศาสตร์จำนวนไม่น้อยจึงเชื่อกันว่า หลอก้วนจงนำบทบาทและวีรกรรมของจูล่งและตันเตามารวมกันไว้ในตัวคนเดียว หรืออีกทฤษฏีก็คือ ในเมื่อตำแหน่งของตันเตา เป็นรองจากจูล่ง และน่าจะร่วมออกศึกพร้อมจูล่งอยู่เสมอ ดังนั้นเขาจึงน่าจะเข้าร่วมในวีรกรรมสำคัญของจูล่งไปด้วย
ด้วยเหตุนี้ หลอก้วนจงจึงเห็นว่าเป็นการฟุ่มเฟือยที่จะเขียนถึงทั้งสองคน จึงตัดตันเตาออก แล้วเขียนถึงแต่จูล่งเท่านั้น
ชื่อของตันเตาได้รับความสนใจในแฟนสามก๊กรุ่นใหม่ เมื่อเกมสามก๊ก Romance of Three Kingdoms ของ Koei ได้ใส่ตันเตาเข้ามาในเกมด้วย ทั้งๆที่ในนิยายไม่มีชื่อของคนผู้นี้เลย
นี่จึงเป็นอีกหนึ่งยอดบุรุษในประวัติศาสตร์สามก๊ก ที่โดนลืมไป ในฐานะผู้บังคับการของหน่วยพิราบขาว หน่วยทหารองครักษ์ประจำตัวของเล่าปี่
ปล. เนื้อหาอ้างอิงจากจดหมายเหตุสามก๊ก บทประวัติตันเตา ซึ่งขอโปรโมทว่า เร็วๆนี้สามารถหาอ่านได้จากหนังสือ "จดหมายเหตุสามก๊ก ภาค ยอดขุนพลจ๊กก๊ก" หนังสือเล่มใหม่ที่รวบรวม แปล และเรียบเรียง บทประวัติของยอดขุนพลจ๊กก๊กชื่อดังทั้งสิ้น 16 คน (กวนอู เตียวหุย จูล่ง ฯลฯ) จากจดหมายเหตุสามก๊กของเฉินโซ่ว พร้อมอธิบายเสริมความแตกต่างระหว่างประวัติศาสตร์และนิยายในเรื่องราวของแต่ละคน ซึ่งคาดว่าจะออกเร็วๆนี้ครับ
จดหมายเหตุสามก๊ก ว่าด้วยหน่วยราชองครักษ์พิเศษของเล่าปี่ "หน่วยพิราบขาว" และ ตันเตา ยอดขุนพลที่ไร้ชื่อในนิยายสามก๊ก
แต่ฝ่ายเล่าปี่แห่งจ๊กก๊ก ก็มีหน่วยทหารที่มีฝีมือยอดเยี่ยมเช่นกัน และนับว่าเป็นหน่วยทหารที่อยู่เบื้องหลังความสำเร็จในการสร้างตัวเป็นฮ่องเต้ของเล่าปี่ในภายหลังด้วย นั่นคือ “หน่วยพิราบขาว” ซึ่งเป็นหน่วยทหารราชองครักษ์ที่มีหน้าที่หลักคือการพิทักษ์เล่าปี่และเล่าเสี้ยน ในฐานะฮ่องเต้แห่งจ๊กก๊ก
ในจดหมายเหตุสามก๊กของเฉินโซ่ว ได้บันทึกเรื่องน่าสนใจเกี่ยวกับทหารหน่วยนี้ไว้ว่า ได้สร้างวีรกรรมครั้งสำคัญคือช่วยพิทักษ์เล่าปี่ที่พ่ายศึกอิเหลงหลังจากโดนลกซุนเผาจนวอดวาย ให้หนีตายกลับไปที่เมืองไป่ตี้ได้
ผู้นำของหน่วยองครักษ์นี้ จึงน่าจะเป็นเตียวจูล่ง ยอดขุนพลและองครักษ์ของเล่าปี่และครอบครัว แต่ในประวัติศาสตร์ ได้บันทึกชื่อของบุรุษอีกผู้หนึ่งไว้ นั่นคือ “ตันเตา” หรืออ่านแบบจีนกลางคือ “เฉินต้าว” (Chen Dao)
ซึ่งในนิยายสามก๊กของหลอก้วนจง กลับไม่ได้ปรากฏชื่อของบุรุษผู้นี้เลยแม้แต่ครั้งเดียว!!!
ตันเตา หรือ เฉินต้าวผู้นี้ แท้จริงแล้วคือใครกัน
ในจดหมายเหตุสามก๊กของเฉินโซ่ว มีบันทึกชีวประวัติของตันเตาไว้สั้นๆ แต่น่าสนใจว่า
เดิมทีตันเตาได้เข้าร่วมกับเล่าปี่ที่เมืองอิวจิ๋ว ในตำแหน่งราชองครักษ์ของเล่าปี่ และมีตำแหน่งทางทหารเป็นรองเพียงจูล่งคนเดียวเท่านั้น
เฉินโซ่วแทรกบันทึกจากจื่อจื้อทงเจี้ยนว่า
ตันเตา ชื่อรอง ซู่จื้อ เชื่อว่าเป็นชาวเมืองยีหลำ เขาได้ร่วมติดตามเล่าปี่ทำศึกเรื่อยมาเป็นเวลาหลายสิบปี มักรับหน้าที่เป็นรองขุนพลอยู่ในสังกัดของจูล่ง มีชื่อเสียงว่าเป็นผู้มีความภักดีและกล้าหาญ สร้างผลงานในสงครามหลายครั้ง
ปีค.ศ.221 เมื่อเล่าปี่สถาปนาตนขึ้นเป็นฮ่องเต้ ตันเตาได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้คมกองกำลังพิเศษที่เรียกกันว่า “หน่วยพิราบขาว”
เกี่ยวกับกองกำลังพิเศษนี้ เฉินโซ่วแทรกเนื้อหาที่ได้จากรวมบันทึกของขงเบ้งว่า
หลังจากเล่าปี่ขึ้นเป็นฮ่องเต้แล้ว ตันเตาได้รับหน้าที่สำคัญคือเป็นผู้ดูแลอยู่หน้ากระโจมค่ายของเล่าปี่ และเป็นผู้ควบคุมกองกำลังพิเศษที่เรียกว่า “หน่วยพิราบขาว” ซึ่งเป็นหน่วยพิเศษที่ขึ้นตรงต่อองค์ฮ่องเต้หรือเล่าปี่เท่านั้น มีหน้าที่สำคัญในการถวายอารักขาแก่ฮ่องเต้ของจ๊กก๊กโดยเฉพาะ
ปีค.ศ.221 เล่าปี่ทำศึกอิเหลง พ่ายแพ้ต่อลกซุนอย่างยับเยิน ตันเตาสร้างวีรกรรมช่วยชีวิตเล่าปี่ให้หนีรอดกลับมาที่เมืองไป่ตี้เฉิงได้
หลังจากเล่าปี่สิ้นชีพลง รัชทายาทเล่าเสี้ยนขึ้นสืบทอดราชบัลลังก์ต่อ ขงเบ้งก็ได้ขึ้นมาเป็นผู้สำเร็จราชการ มีอำนาจบัญชาการกำลังทหารทั้งหมดของจ๊กก๊ก ตันเตาก็ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นนายพลผู้ช่วยคุมกำลัง แต่เนื่องจากตันเตาปฏิบัติหน้าที่กับกองกำลังของเขาได้ดีมาก จึงไม่ได้โดนเรียกตัวกลับไปที่นครเฉิงตู
เฉินโซ่วเองก็ให้การยกย่องตันเตาอย่างสูง ในช่วงท้ายของบันทึกได้เขียนว่า “ตันเตาเป็นยอดขุนพลผู้กล้าหาญ ซึ่งเป็นรองเพียงจูล่งคนเดียวเท่านั้น”
จากบันทึกส่วนนี้ แสดงให้เห็นว่า ตันเตามีหน้าที่หลักคือ องครักษ์พิทักษ์ข้างกายเล่าปี่ และเป็นขุนพลผู้กล้าหาญของจ๊กก๊กที่เป็นรองเพียงจูล่งเท่านั้น
ในขณะที่นิยายสามก๊กของหลอก้วนจง กลับพูดถึงแต่จูล่งคนเดียว
นักประวัติศาสตร์จำนวนไม่น้อยจึงเชื่อกันว่า หลอก้วนจงนำบทบาทและวีรกรรมของจูล่งและตันเตามารวมกันไว้ในตัวคนเดียว หรืออีกทฤษฏีก็คือ ในเมื่อตำแหน่งของตันเตา เป็นรองจากจูล่ง และน่าจะร่วมออกศึกพร้อมจูล่งอยู่เสมอ ดังนั้นเขาจึงน่าจะเข้าร่วมในวีรกรรมสำคัญของจูล่งไปด้วย
ด้วยเหตุนี้ หลอก้วนจงจึงเห็นว่าเป็นการฟุ่มเฟือยที่จะเขียนถึงทั้งสองคน จึงตัดตันเตาออก แล้วเขียนถึงแต่จูล่งเท่านั้น
ชื่อของตันเตาได้รับความสนใจในแฟนสามก๊กรุ่นใหม่ เมื่อเกมสามก๊ก Romance of Three Kingdoms ของ Koei ได้ใส่ตันเตาเข้ามาในเกมด้วย ทั้งๆที่ในนิยายไม่มีชื่อของคนผู้นี้เลย
นี่จึงเป็นอีกหนึ่งยอดบุรุษในประวัติศาสตร์สามก๊ก ที่โดนลืมไป ในฐานะผู้บังคับการของหน่วยพิราบขาว หน่วยทหารองครักษ์ประจำตัวของเล่าปี่
ปล. เนื้อหาอ้างอิงจากจดหมายเหตุสามก๊ก บทประวัติตันเตา ซึ่งขอโปรโมทว่า เร็วๆนี้สามารถหาอ่านได้จากหนังสือ "จดหมายเหตุสามก๊ก ภาค ยอดขุนพลจ๊กก๊ก" หนังสือเล่มใหม่ที่รวบรวม แปล และเรียบเรียง บทประวัติของยอดขุนพลจ๊กก๊กชื่อดังทั้งสิ้น 16 คน (กวนอู เตียวหุย จูล่ง ฯลฯ) จากจดหมายเหตุสามก๊กของเฉินโซ่ว พร้อมอธิบายเสริมความแตกต่างระหว่างประวัติศาสตร์และนิยายในเรื่องราวของแต่ละคน ซึ่งคาดว่าจะออกเร็วๆนี้ครับ