ไม่ว่าเรื่องโครงการ 3.3 ล้านล้านบาทเพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่ง
ไม่ว่าเรื่องโครงการจำนำยุ้งฉาง 35,174 ล้านบาทล้วนเป็นเรื่อง "ดี"
ดี เพราะว่าเท่ากับเป็นการต่อยอดโครงการ 2 ล้านล้านบาท อันริเริ่มมาอย่างดีของรัฐบาล
น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร
ดี เพราะว่าเท่ากับเป็นการต่อยอดโครงการ "จำนำข้าว"
แม้ว่าโครงการ 3.3 ล้านล้านบาท จะยังไม่แจ่มชัดในเรื่อง
"ไฮ สปีด เทรน" แต่ก็ถือได้ว่า
รถไฟทางคู่ไปฉลุย ผลดีย่อมตกกับ
"ประชาชน"
แม้ว่าโครงการ 35,174 ล้านบาท จะเน้นไปยัง
"ยุ้งฉาง" และแวดล้อมข้าวเปลือกหอมมะลิ
ข้าวเปลือกเหนียว แต่ก็ถือได้ว่ายังแวดล้อมอยู่กับเกษตรกรชาวนา ผลดีย่อมตกกับ
"คนส่วนใหญ่"
ของประเทศ
ขอแต่รัฐบาลจะต้องเพิ่ม
"หลักประกัน" ในเรื่องทุจริตคอร์รัปชั่น เพราะจุดอ่อนอย่างสำคัญอยู่ตรงที่
มิได้มีการตรวจสอบอย่างจริงจัง หากสอบผ่านจุด
"รั่วไหล" ตรงนี้ได้ ชาวบ้านย่อมไชโย
ความเป็นจริงที่น่าจะราบรื่นก็คือ การสกัดขัดขวางจากพรรคเพื่อไทยหรือแม้กระทั่ง นปช.คนเสื้อแดง
ไม่น่าจะมี จะมีได้อย่างไร ในเมื่อเท่ากับเป็นการ
"ต่อยอด" หากคนของพรรคเพื่อไทยออกมาคัดค้าน
ต่อต้าน ก็เท่ากับคัดค้านและต่อต้าน
"นโยบาย" ของรัฐบาล
น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร
นั่นก็คือ คัดค้าน ต่อต้าน
"ตนเอง"
จุดอันตรายจึงอยู่ที่ "พวกเดียวกัน" อย่างพรรคประชาธิปัตย์ อย่างกลุ่ม 40 ส.ว. อย่างปัญญาชน
นักวิชาการที่เคยเป่านกหวีดร่วมกับ กปปส.มากกว่า
ระวังจะเกิดกรณีแบบเดียวกับ
"ปฏิรูปพลังงาน" ระวังจะเกิดกรณีแบบเดียวกับที่กระทรวงสาธารณสุข
อันสำแดงผ่าน
"ที่ปรึกษา" รัฐมนตรีกับปลัดกระทรวง มองหน้ามองตาล้วนแต่คนกันเอง เพราะโครงการ
พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมก็ถูกตุลาการศาลรัฐธรรมนูญบางท่านแย้งด้วยเหตุผลที่ว่า
"ถนนลูกรัง"เพราะโครงการจำนำข้าวก็ถูก ป.ป.ช.สรุปว่าเป็นการโกงระดับโลกแล้ว
"จำนำยุ้งฉาง" จะรอด
"ปลอดพ้น" ได้ละหรือ
จุดน่าเป็นห่วงภายในความพยายาม
"ต่อยอด" โครงการในรัฐบาล
น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร โดยรัฐบาล
คสช.อยู่ตรงไหน
อยู่ตรงการต้องทำความเข้าใจต่อ
"คนกันเอง"
เพราะว่าการต่อต้านโครงการ
"จำนำข้าว" มิได้มีแต่พรรคประชาธิปัตย์ กลุ่ม 40 ส.ว.เท่านั้น
หากแม้กระทั่ง
"ทีมเศรษฐกิจ" ของ คสช.ก็ลงมาเล่นด้วย
เรื่องนี้
ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล จะอธิบายอย่างไร
หรือว่าเพียงเปลี่ยนจากโครงการ
"จำนำข้าว" มาเป็นโครงการ
"จำนำยุ้งฉาง" ทุกอย่างก็เรียบร้อย
และราบรื่น นักวิจัยจาก
"ทีดีอาร์ไอ" จะว่าอย่างไร
ปัญหามิได้อยู่ที่
"ข้าราชการ" ไม่ว่ากระทรวงคมนาคม ไม่ว่ากระทรวงเกษตรและสหกรณ์
ไม่ว่ากระทรวงพาณิชย์ เพราะคนเหล่านี้ผ่านการปฏิบัติในรัฐบาล
น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร
มาแล้ว จึงไม่ยากที่จะปฏิบัติต่อ
แต่
"ทีมเศรษฐกิจ" ของ คสช.นั้นต่างหากที่อาจเป็น
"ปัญหา"
เพราะทั้งหมดนี้สะท้อนทิศทางของ
นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ มิได้สะท้อนทิศทางของ
ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล เลย
นี่คือ
"โจทย์" ที่
"คสช." ต้องบริหารจัดการ
ตัวอย่างของความขัดแย้งในแบบ
"พลังงาน" และในแบบ
"หมอจ๊ะ หมอจ๋า" จะพาเหรดมามากขึ้น
ทั้งหมดนี้เป็นปัญหาในเรื่อง
"ยุทธวิธี" อันหลากหลาย ที่รับใช้
"ยุทธศาสตร์" 1 เดียว นับแต่ก่อน
สถานการณ์เดือนกันยายน 2549 เป็นต้นมา
"ยุทธศาสตร์" บรรลุ แต่
"ยุทธวิธี" เป็นพิษ
มติชนรายวัน
วันที่ 27 ตุลาคม พ.ศ. 2557 ปีที่ 37 ฉบับที่ 13378
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1414385977
จากจำนำข้าว มาเป็น จำนำยุ้งฉาง ปม "ยุทธวิธี" ....มติชนออนไลน์ .... sao..เหลือ..noi
ไม่ว่าเรื่องโครงการจำนำยุ้งฉาง 35,174 ล้านบาทล้วนเป็นเรื่อง "ดี"
ดี เพราะว่าเท่ากับเป็นการต่อยอดโครงการ 2 ล้านล้านบาท อันริเริ่มมาอย่างดีของรัฐบาล
น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร
ดี เพราะว่าเท่ากับเป็นการต่อยอดโครงการ "จำนำข้าว"
แม้ว่าโครงการ 3.3 ล้านล้านบาท จะยังไม่แจ่มชัดในเรื่อง "ไฮ สปีด เทรน" แต่ก็ถือได้ว่า
รถไฟทางคู่ไปฉลุย ผลดีย่อมตกกับ "ประชาชน"
แม้ว่าโครงการ 35,174 ล้านบาท จะเน้นไปยัง "ยุ้งฉาง" และแวดล้อมข้าวเปลือกหอมมะลิ
ข้าวเปลือกเหนียว แต่ก็ถือได้ว่ายังแวดล้อมอยู่กับเกษตรกรชาวนา ผลดีย่อมตกกับ "คนส่วนใหญ่"
ของประเทศ
ขอแต่รัฐบาลจะต้องเพิ่ม "หลักประกัน" ในเรื่องทุจริตคอร์รัปชั่น เพราะจุดอ่อนอย่างสำคัญอยู่ตรงที่
มิได้มีการตรวจสอบอย่างจริงจัง หากสอบผ่านจุด "รั่วไหล" ตรงนี้ได้ ชาวบ้านย่อมไชโย
ความเป็นจริงที่น่าจะราบรื่นก็คือ การสกัดขัดขวางจากพรรคเพื่อไทยหรือแม้กระทั่ง นปช.คนเสื้อแดง
ไม่น่าจะมี จะมีได้อย่างไร ในเมื่อเท่ากับเป็นการ "ต่อยอด" หากคนของพรรคเพื่อไทยออกมาคัดค้าน
ต่อต้าน ก็เท่ากับคัดค้านและต่อต้าน "นโยบาย" ของรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร
นั่นก็คือ คัดค้าน ต่อต้าน "ตนเอง"
จุดอันตรายจึงอยู่ที่ "พวกเดียวกัน" อย่างพรรคประชาธิปัตย์ อย่างกลุ่ม 40 ส.ว. อย่างปัญญาชน
นักวิชาการที่เคยเป่านกหวีดร่วมกับ กปปส.มากกว่า
ระวังจะเกิดกรณีแบบเดียวกับ "ปฏิรูปพลังงาน" ระวังจะเกิดกรณีแบบเดียวกับที่กระทรวงสาธารณสุข
อันสำแดงผ่าน "ที่ปรึกษา" รัฐมนตรีกับปลัดกระทรวง มองหน้ามองตาล้วนแต่คนกันเอง เพราะโครงการ
พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมก็ถูกตุลาการศาลรัฐธรรมนูญบางท่านแย้งด้วยเหตุผลที่ว่า
"ถนนลูกรัง"เพราะโครงการจำนำข้าวก็ถูก ป.ป.ช.สรุปว่าเป็นการโกงระดับโลกแล้ว "จำนำยุ้งฉาง" จะรอด
"ปลอดพ้น" ได้ละหรือ
จุดน่าเป็นห่วงภายในความพยายาม "ต่อยอด" โครงการในรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร โดยรัฐบาล
คสช.อยู่ตรงไหน
อยู่ตรงการต้องทำความเข้าใจต่อ "คนกันเอง"
เพราะว่าการต่อต้านโครงการ "จำนำข้าว" มิได้มีแต่พรรคประชาธิปัตย์ กลุ่ม 40 ส.ว.เท่านั้น
หากแม้กระทั่ง "ทีมเศรษฐกิจ" ของ คสช.ก็ลงมาเล่นด้วย
เรื่องนี้ ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล จะอธิบายอย่างไร
หรือว่าเพียงเปลี่ยนจากโครงการ "จำนำข้าว" มาเป็นโครงการ "จำนำยุ้งฉาง" ทุกอย่างก็เรียบร้อย
และราบรื่น นักวิจัยจาก "ทีดีอาร์ไอ" จะว่าอย่างไร
ปัญหามิได้อยู่ที่ "ข้าราชการ" ไม่ว่ากระทรวงคมนาคม ไม่ว่ากระทรวงเกษตรและสหกรณ์
ไม่ว่ากระทรวงพาณิชย์ เพราะคนเหล่านี้ผ่านการปฏิบัติในรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร
มาแล้ว จึงไม่ยากที่จะปฏิบัติต่อ
แต่ "ทีมเศรษฐกิจ" ของ คสช.นั้นต่างหากที่อาจเป็น "ปัญหา"
เพราะทั้งหมดนี้สะท้อนทิศทางของ นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ มิได้สะท้อนทิศทางของ
ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล เลย
นี่คือ "โจทย์" ที่ "คสช." ต้องบริหารจัดการ
ตัวอย่างของความขัดแย้งในแบบ "พลังงาน" และในแบบ "หมอจ๊ะ หมอจ๋า" จะพาเหรดมามากขึ้น
ทั้งหมดนี้เป็นปัญหาในเรื่อง "ยุทธวิธี" อันหลากหลาย ที่รับใช้ "ยุทธศาสตร์" 1 เดียว นับแต่ก่อน
สถานการณ์เดือนกันยายน 2549 เป็นต้นมา
"ยุทธศาสตร์" บรรลุ แต่ "ยุทธวิธี" เป็นพิษ
มติชนรายวัน
วันที่ 27 ตุลาคม พ.ศ. 2557 ปีที่ 37 ฉบับที่ 13378
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1414385977