คืนแรกในเรือนจำข้าพเจ้าไม่ร้องไห้เลย เพราะข้าพเจ้าตระหนักได้แล้วว่า สิ่งที่จะรักษาหัวใจของข้าพเจ้าได้คือรอยยิ้มของข้าพเจ้าเอง ข้าพเจ้าจึงเริ่มยิ้มให้กับทุกคนเพราะหากเราไม่ยิ้มให้กับตัวเองก็จะไม่มีใครยิ้มให้กับเรา เมื่อข้าพเจ้ายิ้มได้ข้าพเจ้าก็มีแรงในการปลอบประโลมคนอื่นๆ บางคนร้องไห้ บางคนเครียดมาก แต่เราทุกคนก็ต้องผ่านคืนแรกไปพร้อมๆ กัน ไม่มีประโยชน์ที่จะร้องไห้หรือเครียดกับสิ่งที่ผิดพลาดไปแล้ว หลับและตื่นขึ้นมาเตรียมพร้อมกับการเปลี่ยนแปลงในชีวิตดีกว่า
ในระหว่างที่ข้าพเจ้าเป็นตาแดง ข้าพเจ้ารู้ว่าคนข้างนอกกระวนกระวายใจและเป็นห่วงข้าพเจ้า โชคชะตาทำร้ายข้าพเจ้ามากเกินพอแล้ว จึงไม่มีอะไรอยากทำร้ายข้าพเจ้าอีกแล้ว
คำแนะนำจากเพื่อนผู้ต้องขังเกิดขึ้นกับข้าพเจ้ามากมาย หลายคนบอกว่าข้าพเจ้าจะอยู่ที่นี่ไม่นานก็จะได้กลับบ้านแล้ว แต่ข้าพเจ้าเองรู้ดี และเตรียมอกเตรียมใจไว้แล้วว่าคดีของข้าพเจ้านั้นไม่เหมือนกับคนอื่นๆ ข้าพเจ้าได้แต่ยิ้มขอบคุณพวกเขาเพราะข้าพเจ้าเองก็เหนื่อยล้าเกินไปที่จะอธิบายอะไรเสียแล้ว
เมื่อวันพุธที่ 20 สิงหาคม ข้าพเจ้าได้ร่วมมือกับพวกเขาฆ่านกน้อยในหัวใจของข้าพเจ้าไปเสียแล้ว...
ข้าพเจ้าไม่อาจอดทนหรือเผชิญหน้ากับความกลัวได้อีกต่อไป “อย่าร้องไห้ต่อหน้าศัตรูของเรา” คือคำที่ข้าพเจ้าเคยบอกแก่มิตรสหายเอาไว้ แต่ตัวข้าพเจ้าเองกลับทำมันไม่ได้ ข้าพเจ้าไม่มีหน้าจะไปกล่าวอะไรกับใครอีกแล้ว นกน้อยในหัวใจของข้าพเจ้าถูกฆ่าอย่างโหดเหี้ยมด้วยมือของข้าพเจ้าเอง และอีกไม่นานตัวของข้าพเจ้าก็จะถูกทอดทิ้งไว้ในที่ๆ ผู้คนไปไม่ถึง... ต่อไปจากนี้ข้าพเจ้าจะกลายเป็นตัวอะไร ที่ทางของข้าพเจ้าจอยู่ที่ไหนกัน ความฝันของข้าพเจ้าจะยังคงอยู่ไหม โรงเรียนของเด็กๆ จะยังมีอีกไหม... แม้ว่าคนรักของข้าพเจ้าจะรับปากว่าเขาจะทำทุกสิ่งอย่างในความฝันนั้นแทนข้าพเจ้า แต่มันจะมีประโยชน์อะไรในเมื่อนกน้อยของข้าพเจ้าตายลงไปเสียแล้ว
http://prachatai.org/journal/2014/10/56204
บันทึกถ้อยคำต่อคดี–ทัศนคติต่อชีวิตและสังคม ของ ข.ญ.ภรณ์ทิพย์
คืนแรกในเรือนจำข้าพเจ้าไม่ร้องไห้เลย เพราะข้าพเจ้าตระหนักได้แล้วว่า สิ่งที่จะรักษาหัวใจของข้าพเจ้าได้คือรอยยิ้มของข้าพเจ้าเอง ข้าพเจ้าจึงเริ่มยิ้มให้กับทุกคนเพราะหากเราไม่ยิ้มให้กับตัวเองก็จะไม่มีใครยิ้มให้กับเรา เมื่อข้าพเจ้ายิ้มได้ข้าพเจ้าก็มีแรงในการปลอบประโลมคนอื่นๆ บางคนร้องไห้ บางคนเครียดมาก แต่เราทุกคนก็ต้องผ่านคืนแรกไปพร้อมๆ กัน ไม่มีประโยชน์ที่จะร้องไห้หรือเครียดกับสิ่งที่ผิดพลาดไปแล้ว หลับและตื่นขึ้นมาเตรียมพร้อมกับการเปลี่ยนแปลงในชีวิตดีกว่า
ในระหว่างที่ข้าพเจ้าเป็นตาแดง ข้าพเจ้ารู้ว่าคนข้างนอกกระวนกระวายใจและเป็นห่วงข้าพเจ้า โชคชะตาทำร้ายข้าพเจ้ามากเกินพอแล้ว จึงไม่มีอะไรอยากทำร้ายข้าพเจ้าอีกแล้ว
คำแนะนำจากเพื่อนผู้ต้องขังเกิดขึ้นกับข้าพเจ้ามากมาย หลายคนบอกว่าข้าพเจ้าจะอยู่ที่นี่ไม่นานก็จะได้กลับบ้านแล้ว แต่ข้าพเจ้าเองรู้ดี และเตรียมอกเตรียมใจไว้แล้วว่าคดีของข้าพเจ้านั้นไม่เหมือนกับคนอื่นๆ ข้าพเจ้าได้แต่ยิ้มขอบคุณพวกเขาเพราะข้าพเจ้าเองก็เหนื่อยล้าเกินไปที่จะอธิบายอะไรเสียแล้ว
เมื่อวันพุธที่ 20 สิงหาคม ข้าพเจ้าได้ร่วมมือกับพวกเขาฆ่านกน้อยในหัวใจของข้าพเจ้าไปเสียแล้ว...
ข้าพเจ้าไม่อาจอดทนหรือเผชิญหน้ากับความกลัวได้อีกต่อไป “อย่าร้องไห้ต่อหน้าศัตรูของเรา” คือคำที่ข้าพเจ้าเคยบอกแก่มิตรสหายเอาไว้ แต่ตัวข้าพเจ้าเองกลับทำมันไม่ได้ ข้าพเจ้าไม่มีหน้าจะไปกล่าวอะไรกับใครอีกแล้ว นกน้อยในหัวใจของข้าพเจ้าถูกฆ่าอย่างโหดเหี้ยมด้วยมือของข้าพเจ้าเอง และอีกไม่นานตัวของข้าพเจ้าก็จะถูกทอดทิ้งไว้ในที่ๆ ผู้คนไปไม่ถึง... ต่อไปจากนี้ข้าพเจ้าจะกลายเป็นตัวอะไร ที่ทางของข้าพเจ้าจอยู่ที่ไหนกัน ความฝันของข้าพเจ้าจะยังคงอยู่ไหม โรงเรียนของเด็กๆ จะยังมีอีกไหม... แม้ว่าคนรักของข้าพเจ้าจะรับปากว่าเขาจะทำทุกสิ่งอย่างในความฝันนั้นแทนข้าพเจ้า แต่มันจะมีประโยชน์อะไรในเมื่อนกน้อยของข้าพเจ้าตายลงไปเสียแล้ว
http://prachatai.org/journal/2014/10/56204