28 กรกฎาคม 2556 เป็นวันที่คนจังหวัดกาญจนบุรีและคนไทยทั้งประเทศต่างตกใจกับข่าวสะพานอุตตมานุสรณ์ หรือสะพานมอญแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมอำเภอสังขละบุรีได้พังทลายขาดเป็น 2 ท่อนบริเวณช่วงกลางสะพาน เนื่องจากช่วงเวลาดังกล่าวเกิดฝนตกหนัก ทำให้น้ำป่าทำลายตัวสะพานจนขาวบ้านไม่สามารถเดินข้ามไปได้ซึ่งเหตุการณ์ได้รับความสำคัญถึงกับขึ้นหน้า 1 ของหนังสือพิมพ์หลายๆ ฉบับรวมไปถึงสื่อทีวีที่รายงานข่าวกันจ้าละหวั่น
พอสื่อออกไปแปปเดียวเท่านั้น ด้วยพลังศรัทธาของคนไทยก็ร่วมมือกันบริจาคเงินเพื่อให้สะพานมันเป็นแลนด์มาร์คของสังขละบุรีแห่งนี้กลับมาอีกครั้ง แต่ด้วยปัญหาหลายๆ อย่าง เวลาผ่านไปเนิ่นนานตัวสะพานก็ยังไม่สามารถซ่อมแซมได้เสียที จนสุดท้าย ชาวบ้านสังขละบุรีจึงได้สร้างสะพานไม้บวบแทนไปก่อน โดยเป็นสะพานชั่วคราวที่ให้ชาวบ้านได้ใช้สัญจร ด้วยฝีมือจากกองกำลังสุรสีห์และพี่น้องชาวไทยมอญ โดยใช้เวลาสร้างเพียงแค่ 6 วัน
หลังจากวันนั้นถึงวันนี้ก็ปีกว่าๆ แล้ว สะพานมอญที่เสียหายมานานจนหลายๆ คนคิดว่าจะไม่กลับมาเป็นเหมือนเดิมในเร็ววันเพราะปัญหาดราม่าต่างๆ ก็สร้างเสร็จจนได้ด้วยฝีมือของเหล่าทหารและความร่วมมือของคนในชุมชนจนเมื่อวันที่ 18 ตุลาคม ที่ผ่านมา ทางจังหวัดกาญจนบุรีจึงได้จัดพิธีเปิดสะพานมอญอีกครั้งอย่างยิ่งใหญ่อลังการ ซึ่งในกระทู้นี้ผมได้มีโอกาสไปร่วมงานเปิดตัวสะพานด้วย เรามาชมบรรยากาศของงานนี้กันครับ
ผมได้รับการเชิญจากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยภาคกลางในฐานะสื่อ ซึ่งเราเดินทางจากกรุงเทพวันที่ 17 ตั้งแต่ช่วงเช้าและไปถึงสังขละบุรีช่วงเย็นๆ บรรยากาศงานของวันนี้เป็นการเตรียมความพร้อมก่อนเปิดวันจริงซึ่งก็ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวและสื่อมวลชนอย่างคับคั่ง
รายละเอียดของสะพานต่างๆ ได้รับการซ่อมแซมใหม่ทั้งหมด
มุมที่ยืนจากสะพานบวบในอดีต แต่ครั้งนี้เราสามารถเห็นสะพานมอญได้เต็มๆ ตาอีกครั้ง
อีกมุมมหาชนยอมเลยรับเลยว่าผมได้มีโอกาสมาสังขละบุรีแค่ครั้งเดียวเอง ตอนที่มาฟ้าก็เน่ามาก ครั้งนี้ได้เห็นพระอาทิตย์ตกเต็มๆ ตาขอบอกเลยว่าสวยประทับใจและดูอลังการมาก สำหรับสะพานมอญถือว่าเป็นสะพานไม้ที่ยาวที่สุดในประเทศไทย มีความยาว 850 เมตร และเป็นสะพานไม้ที่ยาวเป็นอันดับ 2 ของโลกรองจากสะพานไม้อูเบ็ง ในประเทศพม่า
ไฮไลท์นอกจากการเปิดสะพานแล้ว ยังมีการจุดพลุโชว์ด้วย
สื่อที่เป็นทีวีก็เอาโดรนมาบิน เห็นอย่างต่ำมีประมาณ 5 ลำ
มองไปทางฝั่งสะพานปูนดูบ้าง วิถีชีวิตของคนริมน้ำซองกาเลียก็ยังเป็นไปเหมือนเดิม
เด็กชาวมอญอีกสีสันของคนที่ชอบถ่ายภาพแนวไลฟ์
วันนี้ถือว่ามาดูลาดเลาบรรยากาศก่อนงานจริงที่สะพานมอญเพราะพรุ่งนี้เช้ามีการทำบุญตักบาตรบนสะพาน เย็นวันนี้ผมเข้าที่พักชื่อบู๊ทเฮ้าส์ รีสอร์ท เป็นโรงแรมเปิดใหม่ที่มีจุดเด่นอยู่ตรงอาคารรูปรองเท้าบู๊ท ใครสนใจอยากจะพักก็เข้าไปสอบถามรายละเอียดได้ที่ลิ้งค์
https://www.facebook.com/boothousetea
หน้าตาห้องพัก ยังใหม่มาก เตียงนุ่มดี หัวถึงหมอนก็หลับอย่างเร็ว
หกโมงเช้าของวันที่ 18 ตุลาคม มีการทำบุญตักบาตรพระสงฆ์บริเวณสะพานมอญครับ คนเยอะมาก มีทั้งนักท่องเที่ยว ทหารและสื่อมวลชนเต็มไปหมด
ให้ภาพอธิบายด้วยภาพดีกว่าว่าคนเยอะขนาดไหน เชื่อว่าคนที่ดูทีวีตามช่องต่างๆ ในวันนั้นก็น่าจะได้เห็นภาพจากมุมสูงของเจ้าโดรน สิ่งที่โชคดีอย่างนึงของเช้าวันนี้คืออากาศไม่ร้อนแถมมีหมอกบางๆ ให้เราได้เดินถ่ายภาพแบบไม่เหนื่อยมากนัก
งานนี้เห็นทหารแล้วปลื้มใจสุดๆ เพราะมีส่วนร่วมตั้งแต่เริ่มยันจบงาน
ถามพี่แกสั้นๆ ว่าเหนื่อยมั้ย เขาก็ตอบว่าเหนื่อย แต่ทำแล้วเห็นประชาชนมีความสุขก็ชื่นใจ
ของถวายพระ เอิ่ม มีไอโฟนด้วยเหรอ!
เห็นลุงป้าคู่นี้แล้วอดอมยิ้มไม่ได้ ><
การเทินสิ่งของไว้บนหัวเป็นสไตล์ที่คุ้นเคยของชาวมอญ ใครเทินได้เยอะก็ยิ่งเจ๋ง ยิ่งสร้างความสนใจแก่ผู้พบเห็นได้มาก
หลังจากงานทำบุญตักบาตรช่วงเช้าเสร็จแล้วก็มาต่อที่ศาลาวัดวังก์วิเวการาม
ใครที่มาก็ต้องมาสักการะรูปปั้นหลวงพ่ออุตตมะจำลองมีที่การตกแต่งเหมือนจริงเพื่อความเป็นสิริมงคล
อีกมุมสวยๆ ของสถาปัตยกรรมบริเวณรอบๆ วัด
หลังจากเข้าวัดแล้วกิจกรรมหลักอีกอย่างหนึ่งที่คนมาสังขละบุรีต้องไม่พลาดก็คือการนั่งเรือชมเมืองบาดาลนั่นเอง
ถึงแล้วเมืองบาดาลหรือวัดวังก์วิเวการามในอดีต ซึ่งหลวงพ่ออุตตมะ ชาวมอญได้สร้างขึ้นตั้งแต่ปี พ.ศ. 2496 โดยบริเวณนี้เรียกกันว่า "สามประสบ" ซึ่งเป็นจุดของแม่น้ำทั้งสามสาย คือ แม่น้ำซองกาเลีย แม่น้ำบีคลี่และแม่น้ำรันดี ไหลมาบรรจบกัน แต่ปี 2527 ได้มีการสร้างเขื่อนเขาแหลม จึงทำให้น้ำท่วมเข้าตัวอำเภอสังขละบุรีและวังก์วิเวการามจึงได้รับความเสียหายและน้ำท่วมตั้งแต่นั้นมา จึงได้มีการย้ายตัววัดไปอยู่ที่ใหม่
เมืองบาดาลจึงกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวอันซีนสังขละบุรีนับตั้งแต่นั้นมา โดยในช่วงเดือนมีนาคม - เมษายน เป็นช่วงที่ปริมาณน้ำลดมากที่สุด ทำให้เราเดินเที่ยวชมตัววัดที่ยังมีสถาปัตยกรรมให้ได้เห็นอยู่
เด็กน้อยรอขายดอกไม้ที่ท่าน้ำทุกวัน
จากเมืองบาดาล มองไปไกลๆ เห็นเจดีย์พุทธคยาได้ไกลๆ แสงกำลังส่องลงมางามงดทีเดียว
พิธียังมีตลอดวันกัน ช่วงบ่ายสามโมงมีการแห่ขบวนกฐินไปลานเจดีย์พุทธคยา โดยตั้งขบวนจากสะพานมอญท่ามกลางฟ้าสดใสเป็นใจ
งานนี้ชาวบ้านร้องเต้นกันสนั่นหวั่นไหว ตัวสะพานถึงขั้นสั่นกันเลยทีเดียว
ช่วงห้าโมงเย็นก่อนพิธีเริ่ม ทางผู้จัดงานเตรียมปิดการสัญจรบนสะพานมอญ และให้มาใช้สะพานบวบแทน เพราะเดี๋ยวจะมีการแสดงกลางน้ำให้ชม จะว่าไปแล้วสะพานบวบก็เป็นหัวใจสำคัญของการสัญจรช่วงที่สะพานมอญเสียหาย ไม่รู้ว่าหลังจากนี้จะยังมีสะพานนี้อยู่รึเปล่า ถ้าต้องเอาออกคิดแล้วก็น่าเสียดาย
แอบเข้าไปดูการเตรียมตัวการแสดงของเหล่าน้องๆ ซะหน่อย เห็นทุกคนตั้งใจกันมาก
ก่อนงานจะเริ่มบรรดาสื่อมวลชนก็เริ่มมากันแล้ว
แสงอาทิตย์ค่อยๆ ลับตาลง แสงจากตัวงานก็สว่างไสวมากขึ้น ตัวงานอลังการสุดๆ มีการโชว์แสงสีเสียงแบบจัดเต็ม
มีการแสดงกลางน้ำประมาณ 5 ชุด เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ชาวมอญรวมไปถึงการแสดงทางวัฒนธรรมต่างๆ อันงดงาม
ผมดูได้ประมาณสองชุดก็ขยับตัวเองออกมานอกงานเพื่อตั้งกล้องรอถ่ายพลุอย่างใจจดใจจ่อซึ่งก็ไม่ผิดหวังกับความสวยงามของพลุหลายร้อยลูกที่ขึ้นกลางสะพานอย่างสวยงามเป็นการปิดทริปการเปิดสะพานมอญอย่างยิ่งใหญ่จริงๆ สำหรับช่วงฤดูหนาวที่กำลังจะมาถึงอีกไม่กี่วันก็ต้องบอกเลยว่าสังขละบุรีเองก็เป็นอีกหนึ่งจุดหมายท่องเที่ยวที่น่าสนใจ เพราะมีสถานที่เที่ยวที่น่าสนใจมากมาย รวมไปถึงอากาศเย็นๆ ของที่นี่ก็ไม่ทำให้นักท่องเที่ยวต้องผิดหวังอย่างแน่นอน
กาญจนบุรี 18.10.57 เมื่อสะพานมอญกลับมาอีกครั้ง
28 กรกฎาคม 2556 เป็นวันที่คนจังหวัดกาญจนบุรีและคนไทยทั้งประเทศต่างตกใจกับข่าวสะพานอุตตมานุสรณ์ หรือสะพานมอญแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมอำเภอสังขละบุรีได้พังทลายขาดเป็น 2 ท่อนบริเวณช่วงกลางสะพาน เนื่องจากช่วงเวลาดังกล่าวเกิดฝนตกหนัก ทำให้น้ำป่าทำลายตัวสะพานจนขาวบ้านไม่สามารถเดินข้ามไปได้ซึ่งเหตุการณ์ได้รับความสำคัญถึงกับขึ้นหน้า 1 ของหนังสือพิมพ์หลายๆ ฉบับรวมไปถึงสื่อทีวีที่รายงานข่าวกันจ้าละหวั่น
พอสื่อออกไปแปปเดียวเท่านั้น ด้วยพลังศรัทธาของคนไทยก็ร่วมมือกันบริจาคเงินเพื่อให้สะพานมันเป็นแลนด์มาร์คของสังขละบุรีแห่งนี้กลับมาอีกครั้ง แต่ด้วยปัญหาหลายๆ อย่าง เวลาผ่านไปเนิ่นนานตัวสะพานก็ยังไม่สามารถซ่อมแซมได้เสียที จนสุดท้าย ชาวบ้านสังขละบุรีจึงได้สร้างสะพานไม้บวบแทนไปก่อน โดยเป็นสะพานชั่วคราวที่ให้ชาวบ้านได้ใช้สัญจร ด้วยฝีมือจากกองกำลังสุรสีห์และพี่น้องชาวไทยมอญ โดยใช้เวลาสร้างเพียงแค่ 6 วัน
หลังจากวันนั้นถึงวันนี้ก็ปีกว่าๆ แล้ว สะพานมอญที่เสียหายมานานจนหลายๆ คนคิดว่าจะไม่กลับมาเป็นเหมือนเดิมในเร็ววันเพราะปัญหาดราม่าต่างๆ ก็สร้างเสร็จจนได้ด้วยฝีมือของเหล่าทหารและความร่วมมือของคนในชุมชนจนเมื่อวันที่ 18 ตุลาคม ที่ผ่านมา ทางจังหวัดกาญจนบุรีจึงได้จัดพิธีเปิดสะพานมอญอีกครั้งอย่างยิ่งใหญ่อลังการ ซึ่งในกระทู้นี้ผมได้มีโอกาสไปร่วมงานเปิดตัวสะพานด้วย เรามาชมบรรยากาศของงานนี้กันครับ
ผมได้รับการเชิญจากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยภาคกลางในฐานะสื่อ ซึ่งเราเดินทางจากกรุงเทพวันที่ 17 ตั้งแต่ช่วงเช้าและไปถึงสังขละบุรีช่วงเย็นๆ บรรยากาศงานของวันนี้เป็นการเตรียมความพร้อมก่อนเปิดวันจริงซึ่งก็ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวและสื่อมวลชนอย่างคับคั่ง
รายละเอียดของสะพานต่างๆ ได้รับการซ่อมแซมใหม่ทั้งหมด
มุมที่ยืนจากสะพานบวบในอดีต แต่ครั้งนี้เราสามารถเห็นสะพานมอญได้เต็มๆ ตาอีกครั้ง
อีกมุมมหาชนยอมเลยรับเลยว่าผมได้มีโอกาสมาสังขละบุรีแค่ครั้งเดียวเอง ตอนที่มาฟ้าก็เน่ามาก ครั้งนี้ได้เห็นพระอาทิตย์ตกเต็มๆ ตาขอบอกเลยว่าสวยประทับใจและดูอลังการมาก สำหรับสะพานมอญถือว่าเป็นสะพานไม้ที่ยาวที่สุดในประเทศไทย มีความยาว 850 เมตร และเป็นสะพานไม้ที่ยาวเป็นอันดับ 2 ของโลกรองจากสะพานไม้อูเบ็ง ในประเทศพม่า
ไฮไลท์นอกจากการเปิดสะพานแล้ว ยังมีการจุดพลุโชว์ด้วย
สื่อที่เป็นทีวีก็เอาโดรนมาบิน เห็นอย่างต่ำมีประมาณ 5 ลำ
มองไปทางฝั่งสะพานปูนดูบ้าง วิถีชีวิตของคนริมน้ำซองกาเลียก็ยังเป็นไปเหมือนเดิม
เด็กชาวมอญอีกสีสันของคนที่ชอบถ่ายภาพแนวไลฟ์
วันนี้ถือว่ามาดูลาดเลาบรรยากาศก่อนงานจริงที่สะพานมอญเพราะพรุ่งนี้เช้ามีการทำบุญตักบาตรบนสะพาน เย็นวันนี้ผมเข้าที่พักชื่อบู๊ทเฮ้าส์ รีสอร์ท เป็นโรงแรมเปิดใหม่ที่มีจุดเด่นอยู่ตรงอาคารรูปรองเท้าบู๊ท ใครสนใจอยากจะพักก็เข้าไปสอบถามรายละเอียดได้ที่ลิ้งค์ https://www.facebook.com/boothousetea
หน้าตาห้องพัก ยังใหม่มาก เตียงนุ่มดี หัวถึงหมอนก็หลับอย่างเร็ว
หกโมงเช้าของวันที่ 18 ตุลาคม มีการทำบุญตักบาตรพระสงฆ์บริเวณสะพานมอญครับ คนเยอะมาก มีทั้งนักท่องเที่ยว ทหารและสื่อมวลชนเต็มไปหมด
ให้ภาพอธิบายด้วยภาพดีกว่าว่าคนเยอะขนาดไหน เชื่อว่าคนที่ดูทีวีตามช่องต่างๆ ในวันนั้นก็น่าจะได้เห็นภาพจากมุมสูงของเจ้าโดรน สิ่งที่โชคดีอย่างนึงของเช้าวันนี้คืออากาศไม่ร้อนแถมมีหมอกบางๆ ให้เราได้เดินถ่ายภาพแบบไม่เหนื่อยมากนัก
งานนี้เห็นทหารแล้วปลื้มใจสุดๆ เพราะมีส่วนร่วมตั้งแต่เริ่มยันจบงาน
ถามพี่แกสั้นๆ ว่าเหนื่อยมั้ย เขาก็ตอบว่าเหนื่อย แต่ทำแล้วเห็นประชาชนมีความสุขก็ชื่นใจ
ของถวายพระ เอิ่ม มีไอโฟนด้วยเหรอ!
เห็นลุงป้าคู่นี้แล้วอดอมยิ้มไม่ได้ ><
การเทินสิ่งของไว้บนหัวเป็นสไตล์ที่คุ้นเคยของชาวมอญ ใครเทินได้เยอะก็ยิ่งเจ๋ง ยิ่งสร้างความสนใจแก่ผู้พบเห็นได้มาก
หลังจากงานทำบุญตักบาตรช่วงเช้าเสร็จแล้วก็มาต่อที่ศาลาวัดวังก์วิเวการาม
ใครที่มาก็ต้องมาสักการะรูปปั้นหลวงพ่ออุตตมะจำลองมีที่การตกแต่งเหมือนจริงเพื่อความเป็นสิริมงคล
อีกมุมสวยๆ ของสถาปัตยกรรมบริเวณรอบๆ วัด
หลังจากเข้าวัดแล้วกิจกรรมหลักอีกอย่างหนึ่งที่คนมาสังขละบุรีต้องไม่พลาดก็คือการนั่งเรือชมเมืองบาดาลนั่นเอง
ถึงแล้วเมืองบาดาลหรือวัดวังก์วิเวการามในอดีต ซึ่งหลวงพ่ออุตตมะ ชาวมอญได้สร้างขึ้นตั้งแต่ปี พ.ศ. 2496 โดยบริเวณนี้เรียกกันว่า "สามประสบ" ซึ่งเป็นจุดของแม่น้ำทั้งสามสาย คือ แม่น้ำซองกาเลีย แม่น้ำบีคลี่และแม่น้ำรันดี ไหลมาบรรจบกัน แต่ปี 2527 ได้มีการสร้างเขื่อนเขาแหลม จึงทำให้น้ำท่วมเข้าตัวอำเภอสังขละบุรีและวังก์วิเวการามจึงได้รับความเสียหายและน้ำท่วมตั้งแต่นั้นมา จึงได้มีการย้ายตัววัดไปอยู่ที่ใหม่
เมืองบาดาลจึงกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวอันซีนสังขละบุรีนับตั้งแต่นั้นมา โดยในช่วงเดือนมีนาคม - เมษายน เป็นช่วงที่ปริมาณน้ำลดมากที่สุด ทำให้เราเดินเที่ยวชมตัววัดที่ยังมีสถาปัตยกรรมให้ได้เห็นอยู่
เด็กน้อยรอขายดอกไม้ที่ท่าน้ำทุกวัน
จากเมืองบาดาล มองไปไกลๆ เห็นเจดีย์พุทธคยาได้ไกลๆ แสงกำลังส่องลงมางามงดทีเดียว
พิธียังมีตลอดวันกัน ช่วงบ่ายสามโมงมีการแห่ขบวนกฐินไปลานเจดีย์พุทธคยา โดยตั้งขบวนจากสะพานมอญท่ามกลางฟ้าสดใสเป็นใจ
งานนี้ชาวบ้านร้องเต้นกันสนั่นหวั่นไหว ตัวสะพานถึงขั้นสั่นกันเลยทีเดียว
ช่วงห้าโมงเย็นก่อนพิธีเริ่ม ทางผู้จัดงานเตรียมปิดการสัญจรบนสะพานมอญ และให้มาใช้สะพานบวบแทน เพราะเดี๋ยวจะมีการแสดงกลางน้ำให้ชม จะว่าไปแล้วสะพานบวบก็เป็นหัวใจสำคัญของการสัญจรช่วงที่สะพานมอญเสียหาย ไม่รู้ว่าหลังจากนี้จะยังมีสะพานนี้อยู่รึเปล่า ถ้าต้องเอาออกคิดแล้วก็น่าเสียดาย
แอบเข้าไปดูการเตรียมตัวการแสดงของเหล่าน้องๆ ซะหน่อย เห็นทุกคนตั้งใจกันมาก
ก่อนงานจะเริ่มบรรดาสื่อมวลชนก็เริ่มมากันแล้ว
แสงอาทิตย์ค่อยๆ ลับตาลง แสงจากตัวงานก็สว่างไสวมากขึ้น ตัวงานอลังการสุดๆ มีการโชว์แสงสีเสียงแบบจัดเต็ม
มีการแสดงกลางน้ำประมาณ 5 ชุด เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ชาวมอญรวมไปถึงการแสดงทางวัฒนธรรมต่างๆ อันงดงาม
ผมดูได้ประมาณสองชุดก็ขยับตัวเองออกมานอกงานเพื่อตั้งกล้องรอถ่ายพลุอย่างใจจดใจจ่อซึ่งก็ไม่ผิดหวังกับความสวยงามของพลุหลายร้อยลูกที่ขึ้นกลางสะพานอย่างสวยงามเป็นการปิดทริปการเปิดสะพานมอญอย่างยิ่งใหญ่จริงๆ สำหรับช่วงฤดูหนาวที่กำลังจะมาถึงอีกไม่กี่วันก็ต้องบอกเลยว่าสังขละบุรีเองก็เป็นอีกหนึ่งจุดหมายท่องเที่ยวที่น่าสนใจ เพราะมีสถานที่เที่ยวที่น่าสนใจมากมาย รวมไปถึงอากาศเย็นๆ ของที่นี่ก็ไม่ทำให้นักท่องเที่ยวต้องผิดหวังอย่างแน่นอน