เนื่องจากน้องผมทำงานธนาคารครับ(หรือขายประกันก็ไม่ทราบ)
เมื่อน้องผมทำเป้าหมายตามที่ผู้จัดการได้ในเดือนนี้ ขอสมมุติเอาเป็นเลขกลมๆละกันนะครับ 1แสนบาท
เสนอเอง ขายเอง ปิดเอง ทุกอย่างดูเหมือจะจบสำหรับเดือนนี้ แต่มันไม่จบครับ

ผู้จัดการด่าครับ ว่าได้ตามเป้าแล้ว แต่เป้าที่ได้มาจากลูกค้าที่เดินเข้ามาในสาขาเอง (แปลตรงๆคือ ไม่ใช่คนรู้จัก พ่อแม่พี่น้อง ญาติสนิทมิตรสหาย หรือเพื่อน ที่ต้องโทรขาย)
เพราะฉะนั้น ยังไม่ผ่านต้องหาเพิ่มอีก โดนด่าว่าไม่มีผลงานซะงั้น
น้องผมบอกทำมึนใส่ครับ คับ คับ คับ คับ แบบไม่มองหน้า

ระยะหลังที่เจอมา
เดือนนี้ได้ 8หมื่น ............ ผู้จัดการเฉยๆ
เดือนนี้ได้ 9หมื่น ............ ผู้จัดการเฉยๆ
ต่อมาได้ 1.2 แสน .......... ผู้จัดการยิ้มนิดๆ
เดือนต่อมา ลดลงมาเหลือ1แสน
สรุปก็โดนด่าครับ ระเบิดลง เหตุผลคือหาได้น้อยลง

คืออะไรครับ ถ้าต้องหาขั้นบันไดไปเรื่อยๆ มันจะจบสิ้นไหมขั้นบันไดนี้
ตอนนี้ผมเลยเบรกน้องครับ ไม่ต้องหาแล้ว ทำเท่าที่ไหว อยากได้ให้มันไปหาเอง โทรมาบี้งานเสาร์-อาทิตย์ ทั้งโทร ทั้งไลน์

สุดๆครับ เสาร์-อาทิตย์โทรมาเร่งให้ขายประกัน จะเอาอะไรกันนักหนา ไม่จบ ไม่สิ้น ไม่พอ
สำหรับตัวผมและน้อง ใกล้จบมหากาฟกับธนาคารบ้าบอนี่แล้วครับ น้องผมก็เริ่มไม่กินเส้นเริ่มเถียงกับผู้จัดการบ้างแล้ว เริ่มกดสายทิ้งในวันหยุด

###########################################################################

แวะมาเตือนสติ ใครอยากทำงานธนาคารมันไม่โก้หรูแบบเมื่อก่อนแล้ว
1.เซลล์ขายประกันยังมียอดได้ยอดได้เป้า ก็ผ่าน ก็จบ แต่ทำงานธนาคารไม่มียอด ยอดตามใจฉัน แถมเป็นขั้นบันได คือต้องหาได้เพิ่มขึ้นทุกเดือน
2.เซลล์ขายประกัน ค่อคอมมิสชั่น 20-40% หาได้1แสนได้ 2-4หมื่น
ธนาคารนี้หรอครับ แสนนึงประมาณ3-4พันครับ แบ่งเศษเงินมาให้
3.ถ้าทำงานแบงค์แล้วคิดจะกู้สวัสดิการ อย่านะครับเป็นความคิดที่แย่มาก เพราะถ้าผู้จัดการรู้ว่าคุณกู้สวัสดิการ (ซึ่งต้องรู้เพราะเค้าเป็นคนอนุมัติ) ผจก จะเหยียบคุณมากๆ เพราะคิดว่าคุณไม่มีที่ไปแล้ว ถ้าลาออก ดอกเบี้ยปรับขึ้นหนักกว่าคนธรรมดาอีก คือเรทสูงสุดเท่าที่แบงค์จะคิดได้เลย ไม่มีโปรโมชั่นใดๆทั้งสิ้นเหมือนลูกค้าใหม่
4. จะบอกว่า ถ้ามาทำงานแบงค์ ไปขายประกันเต็มรูปแบบดีกว่าคับ

คิดสักนิด ก่อนสมัครธนาคาร
###########################################################################