พอดีว่าผมได้ไปอ่านเจอบทความหนึ่งที่เกี่ยวกับความเป็นไปได้ในการเปลี่ยนแปลงกฎบางข้อของกีฬาวอลเลย์บอลซึ่งผมว่าน่าสนใจดี จึงได้ลองมาแปลให้ทุกคนได้อ่านกันครับ แต่ก่อนอื่นต้องขอบอกก่อนว่า บทความนี้เป็นบทความที่เขียนโดย Hugh McCutcheon ซึ่งปัจจุบันเป็น Head coach ให้กับทีมวอลเลย์บอลของ University of Minnesota และเป็นอดีตโค้ชทีมวอลเลย์บอลหญิงของอเมริกา ชุดที่คว้าเหรียญเงินที่ London Games ก่อนที่จะเปลี่ยนมาเป็น Karch Kiraly โค้ชคนปัจจุบัน โดยที่เป็นบทความที่เขียนไว้ตั้งแต่ปีที่แล้ว แต่เพิ่งจะมีการโพสท์ลงบนเว็บ Teamusa เมื่อกลางเดือนกันยายนที่ผ่านมา ดังนั้นถ้าใครเคยอ่านแล้วก็ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยครับ ผมเห็นว่าถ้าดูจะน่าสนใจดีถ้ามีการพูดคุยกันว่ากฎที่อาจจะมีการเปลี่ยนในแต่ละข้อนั้น จะส่งผลดีหรือผลเสียต่อทีมสาวไทยอย่างไร ส่วนการแปลนั้น ออกตัวก่อนเลยว่าไม่เคยแปลงานมาก่อน อาศัยความชอบล้วนๆ ดังนั้นภาษาอาจจะอ่านแล้วตะกุกตะกักพอสมควรนะครับ และถ้ามีผู้ใดพบว่าผมแปลผิดพลาดประการใด รบกวนแจ้งด้วยนะครับ ยินดีแก้ไขครับ
ที่มา:
http://www.teamusa.org/USA-Volleyball/Features/2014/September/16/Game-Changers
McCutcheon ได้เขียนเล่าว่าในการประชุมที่ทาง FIVB จัดในปี 2013 ได้มีการหารือเกี่ยวกับความเป็นไปได้ในการเปลี่ยนแปลงกฎกติกาในกีฬาวอลเลย์บอล โดยในกฎแต่ละข้อนั้น ก็ได้อธิบายเหตุผลของการเปลี่ยนกฎและความเป็นไปได้ในการเปลี่ยนกฎ โดยข้อเสนอเรื่องการเปลี่ยนแปลงกฎที่ได้พูดคุยกันมีดังนี้ครับ
1. ลดจำนวนแต้มต่อเซตลง โดยอาจจะเป็นการเล่น 3 ใน 5 เซตและเซตละ 21 คะแนน หรือ 4 ใน 7 เซตและเซตละ 15 คะแนน
เหตุผล: เพื่อพยายามที่จะให้เกมการแข่งขันหนึ่งแมทช์มีความยาวไม่เกิน 2 ชั่วโมง
ความเป็นไปได้ในการเปลี่ยนกฎ: เป็นไปได้สูงที่จะมีการเปลี่ยนไปเล่น 3 ใน 5 เซต เซตละ 21 คะแนน
2. ถ้าผู้เสิร์ฟกระโดดเสิร์ฟ เท้าของผู้เสิร์ฟต้องเหยียบไม่เกินเส้นเสิร์ฟ หลังจากที่ตัวตกลงมาแล้ว
เหตุผล: เพื่อลดการกระโดดเสิร์ฟ ซึ่งจะนำไปสู่การลดการเสิร์ฟเสีย (ซึ่งน่าจะทำให้เกมไม่น่าสนใจ)
ความเป็นไปได้ในการเปลี่ยนกฎ: เป็นไปได้สูง
3. ถ้ามีการตบจากแดนหลัง เท้าของผู้ตบต้องเหยียบไม่เกินเส้นสามเมตร หลังจากที่ตัวตกลงมาแล้ว
เหตุผล: เพื่อลดประสิทธิภาพของการตบจากแดนหลัง (ตบจากเส้นสามเมตร) ทำให้ตัวบล๊อกและตัวรับทำงานได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
ความเป็นไปได้ในการเปลี่ยนกฎ: เป็นไปได้
4. ห้ามมีการสัมผัสเส้นกลางคอร์ท (center line) โดยเด็ดขาด
เหตุผล: เพื่อให้ตัวตบอยู่ห่างจากเนตมากขึ้น ทำให้เกมรับมีประสิทธิภาพสูงขึ้น นอกจากนี้ยังช่วยลดอาการบาดเจ็บของตัวตบ และทำให้การตัดสินง่ายขึ้น
ความเป็นไปได้ในการเปลี่ยนกฎ: เป็นไปได้สูง (ได้รับการสนับสนุนอย่างมากจากทีมแพทย์ของ FIVB)
5. ห้ามมีการสัมผัสเนตโดยเด็ดขาด
เหตุผล: เพื่อให้ตัวตบอยู่ห่างจากเนตมากขึ้นและทำให้การตัดสินง่ายขึ้น
ความเป็นไปได้ในการเปลี่ยนกฎ: เป็นไปได้
6. ห้ามเล่นลูกหยอดแบบเปิดฝ่ามือ (Open-hand tips)
เหตุผล: ทำให้เกมรับทำงานง่ายขึ้นและทำให้มีการเล่นโต้กันมากขึ้น นอกจากนี้ก็ยังยกเลิกข้อผิดพลาดในการตัดสินเกี่ยวกับการพาบอล และทำให้คนดูเข้าใจกฎการแข่งขันง่ายขึ้น (อันนี้ยอมรับว่าเรื่องพาบอลไม่พาบอลเนี่ย คนดูดูลำบากจริงๆ)
ความเป็นไปได้ในการเปลี่ยนกฎ: เป็นไปได้
7. ลดขนาดด้านกว้างของสนาม จาก 9 เมตร เป็น 8 เมตร
เหตุผล: เพื่อลดระยะทางที่ตัวบล็อกจะเคลื่อนตัวมาบล็อก และลดพื้นที่ที่ตัวตบจะตบลงได้ ทำให้เกมรับมีประสิทธิภาพมากขึ้น
ความเป็นไปได้ในการเปลี่ยนกฎ: เป็นไปได้น้อย
8. ยกเลิกเวลานอกทางเทคนิค (technical time outs) ในการแข่งขันแบบเซตละ 21 คะแนน โดยจะเปลี่ยนเป็นให้โค้ชขอเวลานอกได้ทีมละ 2 ครั้งต่อเซต ครั้งละ 1 นาที ถ้าไม่มีทีมใดขอเวลานอกและมีทีมใดทีมหนึ่งได้ 11 แต้ม จะมีการให้เวลานอกอัตโนมัติ เรียกว่า TV Timeout (น่าจะเพื่อประโยชน์ในการตัดเข้าโฆษณาถ้ามีการถ่ายทอดทางทีวี)
ความเป็นไปได้ในการเปลี่ยนกฎ: เป็นไปได้
9. ห้ามรับบอลเสิร์ฟเหนือศีรษะ (เช่นรับบอลเสิร์ฟโดยการเซต)
เหตุผล: เพื่อให้ทีมต่างๆหันมาเสิร์ฟแบบ jump float กันมากขึ้น (โดยเฉพาะการแข่งขันของทีมชาย) เพราะผู้รับบอลเสิร์ฟต้องรับโดยการอันเดอร์เท่านั้น นอกจากนี้ยังช่วยลดการตัดสินผิดพลาดที่เกี่ยวกับการรับและโดนมือสองจังหวะ
ความเป็นไปได้ในการเปลี่ยนกฎ: เป็นไปได้
10. อนุญาตให้ลิเบอโร่สามารถอยู่ในสนามได้ตลอดเวลาโดยสามารถเปลี่ยนตัวได้อย่างอิสระเสรี อาทิเช่น เวลาที่ MB เสิร์ฟ (ซึ่งมักจะเป็นเวลาที่ตัวลิบจะต้องเปลี่ยนออก) ตัวลิบก็สามารถอยู่ในสนามโดยเปลี่ยนตัวกับตัวตบที่อยู่ในแดนหลังได้
เหตุผล: เพื่อให้เกมรับมีประสิทธิภาพมากขึ้น และมีการรับลูกตบได้บ่อยขึ้น
ความเป็นไปได้ในการเปลี่ยนกฎ: เป็นไปได้
11. มีการลงโทษการเสิร์ฟเสีย (มากกว่าแค่การเสียแต้มนั้นๆ)
เหตุผล: ลดการเสิร์ฟเสีย
ความเป็นไปได้ในการเปลี่ยนกฎ: เป็นไปได้ แต่กฎเกี่ยวกับการลงโทษอย่างไรนั้นยังไม่ชัดเจน
12. เปลี่ยนตัวอย่างไรก็ได้ได้ตลอดเวลา
เหตุผล: เพื่อให้การเปลี่ยนตัวเป็นไปได้อย่างรวดเร็วขึ้นและทำให้กฎเกี่ยวกับการเปลี่ยนตัวง่ายขึ้น นอกจากนี้ยังทำให้โค้ชมีอิสระในการวางแผนการเล่นมากขึ้น
ความเป็นไปได้ในการเปลี่ยนกฎ: เป็นไปได้
13. ลดขนาดสนามเป็น 8 เมตร คูณ 8 เมตร
เหตุผล: เพื่อให้ทีมที่ได้บุกมีโอกาสทำคะแนนได้น้อยลง และน่าจะทำให้มีการโต้กันไปมามากขึ้น
ความเป็นไปได้ในการเปลี่ยนกฎ: เป็นไปได้น้อย
โดยจะเห็นได้ว่า ภาพรวมนั้นทาง FIVB คงจะอยากทำให้เกมนั้นมีการตีโต้กันไปมามากขึ้น โดยการเพิ่มประสิทธิภาพให้เกมรับ และลดประสิทธิภาพในเกมบุก นอกจากนี้ก็ดูเหมือนกับจะพยายามลดการเสิร์ฟเสียด้วย เพราะการเสิร์ฟเสียคงทำให้เกมน่าสนใจน้อยลง อยากให้ช่วยกันวิเคราะห์กันนะครับว่าสิ่งเหล่านี้จะกระทบต่อทีมไทย หรือเกมการแข่งขันวอลเลย์บอลโดยรวมอย่างไรบ้าง
Game Changers - กฎการแข่งขันของวอลเลย์บอลที่อาจจะเปลี่ยนใจอนาคตอันใกล้
ที่มา: http://www.teamusa.org/USA-Volleyball/Features/2014/September/16/Game-Changers
McCutcheon ได้เขียนเล่าว่าในการประชุมที่ทาง FIVB จัดในปี 2013 ได้มีการหารือเกี่ยวกับความเป็นไปได้ในการเปลี่ยนแปลงกฎกติกาในกีฬาวอลเลย์บอล โดยในกฎแต่ละข้อนั้น ก็ได้อธิบายเหตุผลของการเปลี่ยนกฎและความเป็นไปได้ในการเปลี่ยนกฎ โดยข้อเสนอเรื่องการเปลี่ยนแปลงกฎที่ได้พูดคุยกันมีดังนี้ครับ
1. ลดจำนวนแต้มต่อเซตลง โดยอาจจะเป็นการเล่น 3 ใน 5 เซตและเซตละ 21 คะแนน หรือ 4 ใน 7 เซตและเซตละ 15 คะแนน
เหตุผล: เพื่อพยายามที่จะให้เกมการแข่งขันหนึ่งแมทช์มีความยาวไม่เกิน 2 ชั่วโมง
ความเป็นไปได้ในการเปลี่ยนกฎ: เป็นไปได้สูงที่จะมีการเปลี่ยนไปเล่น 3 ใน 5 เซต เซตละ 21 คะแนน
2. ถ้าผู้เสิร์ฟกระโดดเสิร์ฟ เท้าของผู้เสิร์ฟต้องเหยียบไม่เกินเส้นเสิร์ฟ หลังจากที่ตัวตกลงมาแล้ว
เหตุผล: เพื่อลดการกระโดดเสิร์ฟ ซึ่งจะนำไปสู่การลดการเสิร์ฟเสีย (ซึ่งน่าจะทำให้เกมไม่น่าสนใจ)
ความเป็นไปได้ในการเปลี่ยนกฎ: เป็นไปได้สูง
3. ถ้ามีการตบจากแดนหลัง เท้าของผู้ตบต้องเหยียบไม่เกินเส้นสามเมตร หลังจากที่ตัวตกลงมาแล้ว
เหตุผล: เพื่อลดประสิทธิภาพของการตบจากแดนหลัง (ตบจากเส้นสามเมตร) ทำให้ตัวบล๊อกและตัวรับทำงานได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
ความเป็นไปได้ในการเปลี่ยนกฎ: เป็นไปได้
4. ห้ามมีการสัมผัสเส้นกลางคอร์ท (center line) โดยเด็ดขาด
เหตุผล: เพื่อให้ตัวตบอยู่ห่างจากเนตมากขึ้น ทำให้เกมรับมีประสิทธิภาพสูงขึ้น นอกจากนี้ยังช่วยลดอาการบาดเจ็บของตัวตบ และทำให้การตัดสินง่ายขึ้น
ความเป็นไปได้ในการเปลี่ยนกฎ: เป็นไปได้สูง (ได้รับการสนับสนุนอย่างมากจากทีมแพทย์ของ FIVB)
5. ห้ามมีการสัมผัสเนตโดยเด็ดขาด
เหตุผล: เพื่อให้ตัวตบอยู่ห่างจากเนตมากขึ้นและทำให้การตัดสินง่ายขึ้น
ความเป็นไปได้ในการเปลี่ยนกฎ: เป็นไปได้
6. ห้ามเล่นลูกหยอดแบบเปิดฝ่ามือ (Open-hand tips)
เหตุผล: ทำให้เกมรับทำงานง่ายขึ้นและทำให้มีการเล่นโต้กันมากขึ้น นอกจากนี้ก็ยังยกเลิกข้อผิดพลาดในการตัดสินเกี่ยวกับการพาบอล และทำให้คนดูเข้าใจกฎการแข่งขันง่ายขึ้น (อันนี้ยอมรับว่าเรื่องพาบอลไม่พาบอลเนี่ย คนดูดูลำบากจริงๆ)
ความเป็นไปได้ในการเปลี่ยนกฎ: เป็นไปได้
7. ลดขนาดด้านกว้างของสนาม จาก 9 เมตร เป็น 8 เมตร
เหตุผล: เพื่อลดระยะทางที่ตัวบล็อกจะเคลื่อนตัวมาบล็อก และลดพื้นที่ที่ตัวตบจะตบลงได้ ทำให้เกมรับมีประสิทธิภาพมากขึ้น
ความเป็นไปได้ในการเปลี่ยนกฎ: เป็นไปได้น้อย
8. ยกเลิกเวลานอกทางเทคนิค (technical time outs) ในการแข่งขันแบบเซตละ 21 คะแนน โดยจะเปลี่ยนเป็นให้โค้ชขอเวลานอกได้ทีมละ 2 ครั้งต่อเซต ครั้งละ 1 นาที ถ้าไม่มีทีมใดขอเวลานอกและมีทีมใดทีมหนึ่งได้ 11 แต้ม จะมีการให้เวลานอกอัตโนมัติ เรียกว่า TV Timeout (น่าจะเพื่อประโยชน์ในการตัดเข้าโฆษณาถ้ามีการถ่ายทอดทางทีวี)
ความเป็นไปได้ในการเปลี่ยนกฎ: เป็นไปได้
9. ห้ามรับบอลเสิร์ฟเหนือศีรษะ (เช่นรับบอลเสิร์ฟโดยการเซต)
เหตุผล: เพื่อให้ทีมต่างๆหันมาเสิร์ฟแบบ jump float กันมากขึ้น (โดยเฉพาะการแข่งขันของทีมชาย) เพราะผู้รับบอลเสิร์ฟต้องรับโดยการอันเดอร์เท่านั้น นอกจากนี้ยังช่วยลดการตัดสินผิดพลาดที่เกี่ยวกับการรับและโดนมือสองจังหวะ
ความเป็นไปได้ในการเปลี่ยนกฎ: เป็นไปได้
10. อนุญาตให้ลิเบอโร่สามารถอยู่ในสนามได้ตลอดเวลาโดยสามารถเปลี่ยนตัวได้อย่างอิสระเสรี อาทิเช่น เวลาที่ MB เสิร์ฟ (ซึ่งมักจะเป็นเวลาที่ตัวลิบจะต้องเปลี่ยนออก) ตัวลิบก็สามารถอยู่ในสนามโดยเปลี่ยนตัวกับตัวตบที่อยู่ในแดนหลังได้
เหตุผล: เพื่อให้เกมรับมีประสิทธิภาพมากขึ้น และมีการรับลูกตบได้บ่อยขึ้น
ความเป็นไปได้ในการเปลี่ยนกฎ: เป็นไปได้
11. มีการลงโทษการเสิร์ฟเสีย (มากกว่าแค่การเสียแต้มนั้นๆ)
เหตุผล: ลดการเสิร์ฟเสีย
ความเป็นไปได้ในการเปลี่ยนกฎ: เป็นไปได้ แต่กฎเกี่ยวกับการลงโทษอย่างไรนั้นยังไม่ชัดเจน
12. เปลี่ยนตัวอย่างไรก็ได้ได้ตลอดเวลา
เหตุผล: เพื่อให้การเปลี่ยนตัวเป็นไปได้อย่างรวดเร็วขึ้นและทำให้กฎเกี่ยวกับการเปลี่ยนตัวง่ายขึ้น นอกจากนี้ยังทำให้โค้ชมีอิสระในการวางแผนการเล่นมากขึ้น
ความเป็นไปได้ในการเปลี่ยนกฎ: เป็นไปได้
13. ลดขนาดสนามเป็น 8 เมตร คูณ 8 เมตร
เหตุผล: เพื่อให้ทีมที่ได้บุกมีโอกาสทำคะแนนได้น้อยลง และน่าจะทำให้มีการโต้กันไปมามากขึ้น
ความเป็นไปได้ในการเปลี่ยนกฎ: เป็นไปได้น้อย
โดยจะเห็นได้ว่า ภาพรวมนั้นทาง FIVB คงจะอยากทำให้เกมนั้นมีการตีโต้กันไปมามากขึ้น โดยการเพิ่มประสิทธิภาพให้เกมรับ และลดประสิทธิภาพในเกมบุก นอกจากนี้ก็ดูเหมือนกับจะพยายามลดการเสิร์ฟเสียด้วย เพราะการเสิร์ฟเสียคงทำให้เกมน่าสนใจน้อยลง อยากให้ช่วยกันวิเคราะห์กันนะครับว่าสิ่งเหล่านี้จะกระทบต่อทีมไทย หรือเกมการแข่งขันวอลเลย์บอลโดยรวมอย่างไรบ้าง