คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 14
1.เนื้อหาการเรียนการสอนของสองคณะนี้ แตกต่างกันยังไงบ้าง
= บัญชี : ถ้าแบ่งวิชาบัญชีเป็นสายใหญ่ๆ (หมายถึงในทางบทเรียนนะคะ) เราจะแบ่งได้เป็น 2 ประเภทคือ
1.บัญชีบริหาร > เป็นบัญชีเพื่อใช้ในการตัดสินใจ โดยมากผู้ใช้เป็นผู้บริหาร มีผลกระทบต่อองค์กรในอนาคต ...จะมีการคำนวณ วิเคราะห์ที่ลึกกว่านี้ เน้นคำนวณและมีสูตร (คล้ายๆ ศาสตร์หนึ่งของการเงินค่ะ) เยอะคำนวณ
2.บัญชีการเงิน > เป็นบัญชีที่เก็บรวบรวมข้อมูลของกิจการมาบันทึกบัญชี โดยต้องจัดทำตามมาตรฐานวิชาชีพ นำเสนอในรูปของรายงานทางการเงิน ก็จะมี เดบิต เครดิต บันทึกบัญชีทั้งหลายที่อาจจะเคยได้ยินผ่านหูมาบ้าง ส่วนตัวคิดว่าเน้นทางด้านบันทึกบัญชีและนำเสนอข้อมูลต่อบุคคลภายนอกมากกว่าค่ะ บุคคลภายนอกเช่น นักลงทุน สรรพากร เป็นต้น เยอะการจำชื่อบัญชี เพราะยิ่งเรียนยิ่งมีชื่อบัญชีประหลาดๆ เพิ่มเข้ามา แต่พอทำงานจริงๆ นี่ไม่ต้องจำหรอกค่ะ รู้แค่ว่าบันทึกยังไงก็พอ เพราะส่วนมาก บ.ส่วนใหญ่ก็ใช้โปรแกรมสำเร็จรูปทางบัญชีมาใช้กันทั้งนั้น
เศรษฐศาสตร์ : จะศึกษาในด้านการจัดสรรทรัพยากรที่มีอยู่จำกัด มีอ่านกราฟ คำนวณบ้างและมีสูตร อ้างอิงข้อมูลจาก GDP (เศรษฐศาสตร์ตอนที่เรียน เราเรียนแค่ ศศ.จุลภาค, ศศ.มหภาคค่ะ รุ่นเราเป็นรุ่นสุดท้ายที่เรียนเศรษฐศาสตร์สองตัว รุ่นน้องเรียนแค่เศรษฐศาสตร์ทั่วไป TT)
*จริงๆ ไม่หมูกับบัญชีนะคะ (เพราะเพื่อนเราไม่ชอบวิชานี้กันเยอะ แต่เราชอบนะ สนุกดี) เพราะ เศรษฐศาสตร์กับบัญชี มองต่างมุมกันค่ะ
งั้นลองมองดูว่า สมมติมีเงิน 1,000 บาท ถ้าเงินหายไป 1 บาท สองสาขานี้จะมองในลักษณะไหน
- บัญชี : 1 บาท ของ 1,000 ไม่ถือว่ามีสาระสำคัญมาก ถ้ามองในด้านตรวจสอบอาจจะมองข้ามไปเลยก็ได้ เพราะมันไม่ได้ส่งผลต่อกิจการมากเท่าไร เหมือนเป็นจุดเล็กๆ (แต่ถ้าในบทเรียน/แบบฝึกหัด/ข้อสอบ : 1 บาทนี่แทบพลิกแบบฝึกหัด/ข้อสอบหากันให้วุ่น -*-)
- เศรษฐศาสตร์ : 1 บาท ของ 1,000 จะต้องทราบว่าทำไมถึงหายไป ถือเป็นต้นทุนเสียโอกาสหรือไม่
2.อาชีพที่รองรับหลังจากเรียนจบ และความมั่นคง/ความก้าวหน้า
= บัญชี : ผู้จัดทำบัญชี, ออดิท, CPA, TA, ที่ปรึกษาวางระบบบัญชี (แล้วแต่ความสามารถในการก้าวไปข้างหน้าค่ะ) ถ้าในสายตรวจสอบก็ต้องมีประสบการณ์ค่ะ ถึงจะก้าวไปจุดสูงๆ ของอาชีพบัญชีได้
มองในมุมอาชีพ : งานเครียดค่ะ ทำงานซ้ำๆ เดิมๆ (แต่ สนง.บัญชี บางที่ เขาก็ไม่ได้เครียดกันนะคะ จริงๆ มันก็อยู่กับผู้ร่วมงานด้วยค่ะ แต่ถ้ามองภาพรวมมันก็ดูเครียดๆ ค่ะ)
เศรษฐศาสตร์ : เจ้าหน้าที่หลักทรัพย์, นักวิเคราะห์ระบบ, นักวางแผน (ไม่ค่อยทราบเท่าไรค่ะ แต่น่าจะประมาณนี้)
3.เมื่อเปิดอาเซียนแล้วจะมีผลกระทบต่ออันไหนมากกว่ากัน
= บัญชี : กระทบค่ะ กระทบตรงๆ เลย เพราะอาชีพบัญชีเป็นอาชีพอิสระที่สามารถแลกเปลี่ยนตลาดแรงงานกับอาเซียนได้ (ถ้าศักยภาพส่วนบุคคลด้านภาษาอังกฤษเป็นเลิศนะคะ)
เศรษฐศาสตร์ : ไม่ทราบค่ะ
4.โอกาสในการเรียนต่อ (ต่างประเทศ หรือปริญญาโท)
= บัญชี : ป.ตรีบัญชี ไม่ค่อยต่อโทด้านบัญชีมากเท่าไรนะคะ เพราะป.ตรี สาระสำคัญของวิชาชีพนี้ครอบคลุมทุกอย่างที่นักบัญชีควรทราบ ป.โท ส่วนมากจะเหมาะกับผู้ที่ต้องการประกอบอาชีพเป็นอาจารย์สอนมหาวิทยาลัยมากกว่าค่ะ
ยกเว้น... คนที่ไม่ได้จบ ป.ตรี บัญชีแต่อยากทำงานด้านบัญชี จึงไปเรียน ป.โท บัญชีที่ต่างประเทศ (แต่ถ้าจะสอบ CPA ในไทย เขาไม่รับนะคะ เพราะคนที่มีคุณสมบัติในการสอบ CPA ต้องจบ ป.ตรี ในไทยเท่านั้นค่ะ)
เศรษฐศาสตร์ : หลักสูตรป.โท ต่างประเทศมีค่ะ แต่น่าจะแยกสาขาย่อยเพิ่มขึ้น (เป็นอีก 1 สาขาที่น่าเรียนค่ะ : สำหรับเรานะ)
5.รายได้และผลประโยชน์ที่จะได้รับ
= ตามอาชีพค่ะ (ระบุไม่ได้ เพราะยังไม่ได้ทำงานค่ะ ^^)
--------------------------------------------------------------
หากตอบข้อไหนผิดพลาด ต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ค่ะ
ขอตอบเป็นข้อๆ ละกันเนอะ ^^
ส่วนตัว เรียน 'บัญชี' ค่ะ อาจจะตอบของสาขาเศรษฐศาสตร์ได้ไม่มากเท่าไรนะคะ
ส่วนตัว เรียน 'บัญชี' ค่ะ อาจจะตอบของสาขาเศรษฐศาสตร์ได้ไม่มากเท่าไรนะคะ
1.เนื้อหาการเรียนการสอนของสองคณะนี้ แตกต่างกันยังไงบ้าง
= บัญชี : ถ้าแบ่งวิชาบัญชีเป็นสายใหญ่ๆ (หมายถึงในทางบทเรียนนะคะ) เราจะแบ่งได้เป็น 2 ประเภทคือ
1.บัญชีบริหาร > เป็นบัญชีเพื่อใช้ในการตัดสินใจ โดยมากผู้ใช้เป็นผู้บริหาร มีผลกระทบต่อองค์กรในอนาคต ...จะมีการคำนวณ วิเคราะห์ที่ลึกกว่านี้ เน้นคำนวณและมีสูตร (คล้ายๆ ศาสตร์หนึ่งของการเงินค่ะ) เยอะคำนวณ
2.บัญชีการเงิน > เป็นบัญชีที่เก็บรวบรวมข้อมูลของกิจการมาบันทึกบัญชี โดยต้องจัดทำตามมาตรฐานวิชาชีพ นำเสนอในรูปของรายงานทางการเงิน ก็จะมี เดบิต เครดิต บันทึกบัญชีทั้งหลายที่อาจจะเคยได้ยินผ่านหูมาบ้าง ส่วนตัวคิดว่าเน้นทางด้านบันทึกบัญชีและนำเสนอข้อมูลต่อบุคคลภายนอกมากกว่าค่ะ บุคคลภายนอกเช่น นักลงทุน สรรพากร เป็นต้น เยอะการจำชื่อบัญชี เพราะยิ่งเรียนยิ่งมีชื่อบัญชีประหลาดๆ เพิ่มเข้ามา แต่พอทำงานจริงๆ นี่ไม่ต้องจำหรอกค่ะ รู้แค่ว่าบันทึกยังไงก็พอ เพราะส่วนมาก บ.ส่วนใหญ่ก็ใช้โปรแกรมสำเร็จรูปทางบัญชีมาใช้กันทั้งนั้น
เศรษฐศาสตร์ : จะศึกษาในด้านการจัดสรรทรัพยากรที่มีอยู่จำกัด มีอ่านกราฟ คำนวณบ้างและมีสูตร อ้างอิงข้อมูลจาก GDP (เศรษฐศาสตร์ตอนที่เรียน เราเรียนแค่ ศศ.จุลภาค, ศศ.มหภาคค่ะ รุ่นเราเป็นรุ่นสุดท้ายที่เรียนเศรษฐศาสตร์สองตัว รุ่นน้องเรียนแค่เศรษฐศาสตร์ทั่วไป TT)
*จริงๆ ไม่หมูกับบัญชีนะคะ (เพราะเพื่อนเราไม่ชอบวิชานี้กันเยอะ แต่เราชอบนะ สนุกดี) เพราะ เศรษฐศาสตร์กับบัญชี มองต่างมุมกันค่ะ
งั้นลองมองดูว่า สมมติมีเงิน 1,000 บาท ถ้าเงินหายไป 1 บาท สองสาขานี้จะมองในลักษณะไหน
- บัญชี : 1 บาท ของ 1,000 ไม่ถือว่ามีสาระสำคัญมาก ถ้ามองในด้านตรวจสอบอาจจะมองข้ามไปเลยก็ได้ เพราะมันไม่ได้ส่งผลต่อกิจการมากเท่าไร เหมือนเป็นจุดเล็กๆ (แต่ถ้าในบทเรียน/แบบฝึกหัด/ข้อสอบ : 1 บาทนี่แทบพลิกแบบฝึกหัด/ข้อสอบหากันให้วุ่น -*-)
- เศรษฐศาสตร์ : 1 บาท ของ 1,000 จะต้องทราบว่าทำไมถึงหายไป ถือเป็นต้นทุนเสียโอกาสหรือไม่
// หากเป็นบัญชีการเงินจะไม่ได้ให้ความสนใจกับต้นทุนเสียโอกาส เท่า เศรษฐศาสตร์ค่ะ //
2.อาชีพที่รองรับหลังจากเรียนจบ และความมั่นคง/ความก้าวหน้า
= บัญชี : ผู้จัดทำบัญชี, ออดิท, CPA, TA, ที่ปรึกษาวางระบบบัญชี (แล้วแต่ความสามารถในการก้าวไปข้างหน้าค่ะ) ถ้าในสายตรวจสอบก็ต้องมีประสบการณ์ค่ะ ถึงจะก้าวไปจุดสูงๆ ของอาชีพบัญชีได้
มองในมุมอาชีพ : งานเครียดค่ะ ทำงานซ้ำๆ เดิมๆ (แต่ สนง.บัญชี บางที่ เขาก็ไม่ได้เครียดกันนะคะ จริงๆ มันก็อยู่กับผู้ร่วมงานด้วยค่ะ แต่ถ้ามองภาพรวมมันก็ดูเครียดๆ ค่ะ)
เศรษฐศาสตร์ : เจ้าหน้าที่หลักทรัพย์, นักวิเคราะห์ระบบ, นักวางแผน (ไม่ค่อยทราบเท่าไรค่ะ แต่น่าจะประมาณนี้)
3.เมื่อเปิดอาเซียนแล้วจะมีผลกระทบต่ออันไหนมากกว่ากัน
= บัญชี : กระทบค่ะ กระทบตรงๆ เลย เพราะอาชีพบัญชีเป็นอาชีพอิสระที่สามารถแลกเปลี่ยนตลาดแรงงานกับอาเซียนได้ (ถ้าศักยภาพส่วนบุคคลด้านภาษาอังกฤษเป็นเลิศนะคะ)
เศรษฐศาสตร์ : ไม่ทราบค่ะ
4.โอกาสในการเรียนต่อ (ต่างประเทศ หรือปริญญาโท)
= บัญชี : ป.ตรีบัญชี ไม่ค่อยต่อโทด้านบัญชีมากเท่าไรนะคะ เพราะป.ตรี สาระสำคัญของวิชาชีพนี้ครอบคลุมทุกอย่างที่นักบัญชีควรทราบ ป.โท ส่วนมากจะเหมาะกับผู้ที่ต้องการประกอบอาชีพเป็นอาจารย์สอนมหาวิทยาลัยมากกว่าค่ะ
ยกเว้น... คนที่ไม่ได้จบ ป.ตรี บัญชีแต่อยากทำงานด้านบัญชี จึงไปเรียน ป.โท บัญชีที่ต่างประเทศ (แต่ถ้าจะสอบ CPA ในไทย เขาไม่รับนะคะ เพราะคนที่มีคุณสมบัติในการสอบ CPA ต้องจบ ป.ตรี ในไทยเท่านั้นค่ะ)
เศรษฐศาสตร์ : หลักสูตรป.โท ต่างประเทศมีค่ะ แต่น่าจะแยกสาขาย่อยเพิ่มขึ้น (เป็นอีก 1 สาขาที่น่าเรียนค่ะ : สำหรับเรานะ)
5.รายได้และผลประโยชน์ที่จะได้รับ
= ตามอาชีพค่ะ (ระบุไม่ได้ เพราะยังไม่ได้ทำงานค่ะ ^^)
--------------------------------------------------------------
หากตอบข้อไหนผิดพลาด ต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ค่ะ
ไม่เชียร์สาขาไหนเป็นพิเศษนะคะ เพราะชอบทั้งสองสาขาค่ะ ^_^
แสดงความคิดเห็น
คณะบัญชีกับคณะเศรษฐศาสตร์ มีความแตกต่างกันอย่างไรบ้างคะ?
คือตอนนี้เราอยู่ม.6 แล้วค่ะ มีความชอบเกี่ยวกับเรื่องการเงิน เศรษฐกิจ การลงทุนต่างๆ (แต่ตัวเองก็ไม่ค่อยชอบคณิตศาสตร์หรือการคำนวณที่ซับซ้อนมากๆเท่าไหร่ ที่ถนัดก็มีแค่พวกวิชาสถิติ)
ซึ่งจากที่ดูๆมาก็เข้าตาอยู่สองคณะนี้น่ะค่ะ อยากจะถามว่า
1.เนื้อหาการเรียนการสอนของสองคณะนี้ แตกต่างกันยังไงบ้าง
2.อาชีพที่รองรับหลังจากเรียนจบ และความมั่นคง/ความก้าวหน้า
3.เมื่อเปิดอาเซียนแล้วจะมีผลกระทบต่ออันไหนมากกว่ากัน
4.โอกาสในการเรียนต่อ (ต่างประเทศ หรือปริญญาโท)
5.รายได้และผลประโยชน์ที่จะได้รับ
ที่อยากจะถามก็มีประมาณนี้ค่ะ ขอบคุณทุกคนที่มาตอบนะคะ