คำเตือน: เนื้อหาในกระทู้นี้เปิดเผยเนื้อเรื่องส่วนสำคัญของอนิเม PSYCHO-PASS ตอนจบ
หลายคนที่ได้ชมฉากไคลแม็กซ์ในตอนจบของอนิเมเรื่อง PSYCHO-PASS ซีซั่นแรกอาจจะงุนงงอยู่บ้างกับการกระทำของวายร้ายของเรื่องอย่างมาคิชิมะ โชโกในช่วงเวลาสุดท้ายก่อนที่จะจบชีวิตด้วยน้ำมือของคู่ปรับฟ้าส่งมาโปรดอย่างโคงามิ ชินยะ
ท่าทีประหลาดใจหลังจากที่เขาเหนี่ยวไกยิงปืนไร้กระสุนใส่ซึเนโมริ อาคาเนะนั้นคืออะไร?
ทำไมเขาจึงเลิกล้มความคิดที่จะฆ่าอาคาเนะ ทั้งๆที่มีหนทางอื่นนอกจากยิงด้วยปืนมากมาย?
ทำไมเขาจึงยอมให้โคงามิสังหารแต่โดยดีด้วยใบหน้าที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความสุข?
วันนี้ผมมีคำตอบที่คาดว่าน่าจะตรงกับความคิดของมาคิชิมะ โชโกที่สุดมาเปิดเผยให้ทุกคนได้หายสงสัยกันเสียทีครับ
เริ่มด้วยบท Interlude ที่ถูกเพิ่มเข้ามาในอนิเมซีซั่นแรกฉบับ Extended Edition ตอนที่ 11 ที่เป็นตอนสุดท้ายของฉบับนี้
ฟาร์มปศุสัตว์
"ถ้าหากมนุษย์ถูกครอบงำโดยระบบที่ควบคุมการเกิดการตายโดยสมบูรณ์แล้วล่ะก็ มนุษย์ก็คงไม่ใช่มนุษย์อีกต่อไป เป็นได้แค่ปศุสัตว์เท่านั้น ไม่ว่าเจ้าของฟาร์มจะพยายามเสแสร้งแสดงออกอย่างไร สุดท้ายพวกเขาก็ไม่เคยมองเห็นเหล่าปศุสัตว์เป็นมิตรของตนเลยสักนิด มันน่าแปลกที่ทำไมเหล่าผู้คนที่ถูกปฏิบัติไม่ต่างจากปศุสัตว์ในสังคมอันแสนน่าเบื่อนี้ถึงได้ไม่ใครคิดที่จะลุกขึ้นมาต่อต้านเลยแม้แต่คนเดียว"
โชโกกล่าวถึงเจตนารมณ์ที่ทำให้เขาลุกขึ้นมาต่อต้านและท้าท้ายซิบิล ระบบการปกครองของประเทศญี่ปุ่นที่เขามองว่ากดขี่และบีบบังคับมนุษย์ให้กลายเป็นสิ่งที่ไม่ใช่มนุษย์อีกต่อไป คำพูดดังกล่าวนี้มีความเกี่ยวข้องอย่างมากกับฉากไคลแม็กซ์ของเรื่อง ซึ่งจะเอ่ยถึงในส่วนถัดไป
กระสุนห้านัด
ในฉากการไล่ล่าโชโกช่วงสุดท้าย อาคาเนะกระโดดเกาะรถบรรทุกเพื่อไล่ตามโชโกที่จะขับรถหนี เมื่อโชโกมองร่างของอาคาเนะผ่านทางกระจกข้างเขาก็ยิ้ม
"มีคนตามมาฆ่าเราแล้ว" เขาคิดอย่างดีใจ เนื่องจากเขาเข้าใจว่าอาคาเนะที่เคยปฏิเสธการลงมือฆ่าในที่สุดก็ยอมรับบทเรียนที่เขามอบให้เสียที
แต่ทว่าอาคาเนะกลับยิงเข้าที่ยางล้อรถทำให้รถบรรทุกเสียหลักจนพลิกคว่ำ โชโกบาดเจ็บแต่ไม่ถึงแก่ชีวิต
พอโชโกลงออกมาจากรถบรรทุก เขาโกรธ โกรธมาก รอยยิ้มที่เคยปรากฎอยู่ใบหน้าได้อันตรธานหายไปจนหมดสิ้น เขาคิดผิด! อาคาเนะไม่ใช่มนุษย์อย่างที่เขาคิดไว้ สุดท้ายเธอก็ไม่ต่างจากคนอื่นๆที่เป็นเครื่องมือที่ถูกใช้งานโดยซิบิล เป็นแค่หุ่นกระบอกที่คอยปฏิบัติตามไม่ว่าจะเป็นคำสั่งแบบไหน แม้เธอจะมีปืนลูกโม่แต่ในเมื่อคำสั่งที่เธอได้รับคือการพาตัวเขากลับไปเป็นๆ ดังนั้นมันก็ไม่ช่วยให้อะไรมันต่างกันออกไป โชโกรู้หมดทุกสิ่งทุกอย่าง เขาได้นับจำนวนครั้งที่ปืนถูกยิงมาโดยตลอด โคงามิยิงหนึ่ง สอง สาม สี่ครั้ง อาคาเนะยิงหนึ่งครั้ง ไม่ใช่เพื่อสังหารเขา แต่เพื่อหยุดรถให้กับซิบิลผู้เป็นนายเหนือหัวของเธอ ปืนถูกยิงไป 5 ครั้ง แสดงว่าจะต้องเหลือกระสุนอย่างน้อย 1 นัด
โชโกเล็งปืนไปที่หัวของอาคาเนะอย่างมั่นใจ โดยไม่จำเป็นต้องเช็คจำนวนกระสุนให้เปลืองแรงในเมื่อเขามั่นใจว่าปืนจะต้องมีกระสุนอยู่อย่างแน่นอน
*คลิก* ปืนไม่มีลูกกระสุน เป็นไปได้อย่างไร? ในเมื่อมันเป็นปืนลูกโม่ ดังนั้นมันควรที่จะบรรจุกระสุนได้ 6 นัด
ทันใดนั้นโชโกก็ตระหนักได้ เขาตระหนักได้ถึงความผิดพลาดของเขา เขาดูปืนผิดไป แม้หน้าตามันจะดูเหมือนปืนลูกโม่ 6 นัดทั่วไป แต่จริงๆแล้วมันเป็นปืน SP101 ที่เป็นปืนลูกโม่ 5 นัดต่างหาก (ปืนลูกโม่ส่วนใหญ๋จะบรรจุกระสุนได้ 6 นัด รองลงมาคือ 8 นัด ส่วนที่บรรจุได้ 5 นัดถือว่าหายากมาก)
ไม่โดดเดี่ยวอีกต่อไป
โชโกก้มลงมองไปที่อาคาเนะ เขาตระหนักได้อีกว่านี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาตัดสินมองอะไรผิดพลาดไป เขาที่เคยมั่นใจว่าเขารู้จักกลไกทุกสิ่งทุกอย่างบนโลกนี้ แต่กลับมองพลาดไปกับสิ่งที่อยู่ใกล้มือแค่นี้ ตัวอาคาเนะเองก็เช่นกัน การมีเจตจำนงฆ่าโดยปราศจากการตัดสินของซิบิลนั้นเป็นสิ่งที่ทำให้คนกลับกลายไปเป็นมนุษย์ได้อย่างแท้จริง และอาคาเนะไม่มีเจตจำนงที่จะฆ่าเขาเลยในตอนที่เห็นยูกิ เพื่อนรักของเธอถูกฆ่าอย่างเลือดเย็นต่อหน้าต่อตา
แต่ไม่ใช่ว่าการที่อาคาเนะไม่มีเจตจำนงฆ่าจะทำให้เธอเป็นเสมือนลูกแกะในฟาร์มปศุสัตว์ บางทีมันอาจจะมีปัจจัยอื่นใดที่เป็นการฝ่าฝืนและท้าทายอำนาจของซิบิล ถ้าหากการฆาตกรรมโดยปราศจากคำตัดสินของซิบิลนั้นทำให้คนเราเป็นมนุษย์ได้อย่างแท้จริง การไว้ชีวิตคนก็คงเช่นเดียว บางทีอาจจะมีเหยื่อที่ถูกทำร้ายจนค่าสัมประสิทธิ์พุ่งขึ้นสูง บางทีอาคาเนะอาจจะไว้ชีวิตใครคนนั้นทั้งๆที่ซิบิลได้ตัดสินโทษตายไปแล้ว
โชโกออกวิ่งไปในทุ่งข้าวสาลี คิดคำนึงถึงสังคมในขณะที่น้ำตาไหลริน
"ไม่ว่าใครต่างก็โดดเดี่ยว ไม่ว่าใครต่างก็ว่างเปล่า ไม่มีใครที่ต้องการพึ่งพาคนอื่นอีกต่อไปแล้ว ไม่ว่าจะเป็นพรสวรรค์แบบไหนก็มีสแปร์สำรองไว้ทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นความสัมพันธ์แบบไหนก็สามารถถูกทดแทนเติมเต็มได้ เขารู้สึกเบื่อหน่ายกับโลกแบบนั้นเหลือเกิน"
และในโลกที่ทุกอย่างล้วนมีแต่ของสำรองทดแทนไม่จำกัด คนอย่างอาคาเนะก็ยังคงมีชีวิตอยู่ ที่ผ่านมาเขาได้พบกับผู้คนมากมายหลายแบบที่ถูกเขาชักจูงเข้าสู่ความเป็นมนุษย์ที่แท้จริงด้วยการเข่นฆ่า แต่ท้ายที่สุดโชโกก็ไม่ได้มองพวกเขาเหล่านั้นเป็นมิตรเลยแม้แต่คนเดียว พวกเขาต้องพบกับจุดจบที่ทั้งเกิดจากการเพิกเฉยของโชโกและบางครั้งก็เงื้อมมือเข้ามาปลิดชีวิตด้วยตัวเอง แต่กับอาคาเนะนั้นไม่ใช่เช่นนั้นเขาสามารถปลิดชีวิตของเธอได้แม้ปืนจะไม่มีลูกกระสุน เขาสามารถทำได้ ไม่ว่าจะเป็นการกระทืบลงไปที่หัวแรงๆ หรือเหยียบลำคอให้หมดลมหายใจ แต่เขาก็เลือกที่จะไม่ทำ เหตุการณ์เรื่องปืนกระสุน 5 นัดนั้นเป็นเสมือนดั่ง "การกระทำของพระเจ้า" ที่ทำให้เขาเปลี่ยนความเชื่อที่มีต่ออาคาเนะโดยสมบูรณ์
น้ำตาที่ไหลรินของโชโกนั้นไม่ใช่เพราะความปิติที่จะได้ถูกจบชีวิตด้วยน้ำมือของโคงามิ แต่เป็นเพราะในเวลาชั่วครู่สุดท้ายของชีวิตเขา เขาได้พบกับสิ่งที่เขาตามหามาตลอดทั้งชีวิตและเขาก็เกือบที่จะฆ่าเธอไปแล้ว ถ้าหากปืนลูกโม่นั้นมีกระสุน 6 ลูกอย่างที่เขาคิดจริงๆ ความจริงจุดนี้นี่แหละที่ทำให้เขาตัดสินใจยอมรับการประหารจากโคงามิอย่างโดยดี เพราะหน้าที่ของเขาจบลงแล้ว ต่อให้เขาตายไปอาคาเนะก็ยังคงอยู่ คนที่เป็นคนจำพวกเดียวกันกับเขา คนที่กล้าที่จะลุกขึ้นมาต่อต้านซิบิล ถ้าการต่อต้านซิบิลของโชโกก็คือการปลุกปั่นให้คนลุกขึ้นมาฆ่ากันเอง การต่อต้านซิบิลของอาคาเนะก็คือการไว้ชีวิตที่ถูกซิบิลตัดสินให้ต้องโทษประหารนั่นเอง และเพื่อเป็นการเติมเต็มแรงผลักดันโชโกจึงยอมให้ตนเองถูกโคงามิไล่ต้อน การที่โคงามิลงมือสังหารเขาจะเป็นตัวเสริมให้การต่อต้านซิบิลของอาคาเนะนั้นยิ่งทวีความรุนแรงขึ้น โชโกที่ฝากความหวังในการปลดแอกมนุษย์จากการกดขี่ของซิบิลไว้ที่อาคาเนะก็ยิ้มรับความตายโดยปราศจากความเกรงกลัว เพราะตัวเขาไม่ได้โดดเดี่ยวอยู่บนโลกใบนี้อีกต่อไปแล้ว
แน่นอนว่าเรื่องราวของ PSYCHO-PASS ในภาคแรกนี้ เป็นเรื่องราวการเผชิญหน้าของชาย 2 คนที่ชื่อโคงามิ ชินยะ และมาคิชิมะ โชโก แต่ในช่วงสุดปลายทาง โชโกที่เคยเข้าใจมาตลอดว่าเขาเฝ้าตามหาคนอย่างโคงามิที่จะกล้าปลดแอกตัวเองจากกฎเกณฑ์ของสังคมที่ซิบิลตีกรอบเอาไว้ลุกขึ้นมาฆ่าเขา แต่เขากลับพบสิ่งที่เหนือความคาดหมายอย่างอาคาเนะ ตัวเขาสามารถหาตัวแทนของตนเองได้แล้ว แต่สำหรับโคงามิที่เป็นฝ่ายจบชีวิตโชโกล่ะ จะสามารถหาใครอื่นมาทดแทนได้หรือไม่ หรือท้ายที่สุดแล้วจะเป็นอาคาเนะที่เขาจะต้องเผชิญหน้าในฐานะผู้ล่าและผู้ถูกล่าอย่างที่เขาเคยเป็นกับโชโกนั่นเอง
เรียบเรียงข้อมูลจากกระทู้ PSYCHO-PASS ในบอร์ด 4chan หมวด /a/
[PSYCHO-PASS] ความจริงที่ซ่อนอยู่ในช่วงวาระสุดท้ายของมาคิชิมะ โชโก
หลายคนที่ได้ชมฉากไคลแม็กซ์ในตอนจบของอนิเมเรื่อง PSYCHO-PASS ซีซั่นแรกอาจจะงุนงงอยู่บ้างกับการกระทำของวายร้ายของเรื่องอย่างมาคิชิมะ โชโกในช่วงเวลาสุดท้ายก่อนที่จะจบชีวิตด้วยน้ำมือของคู่ปรับฟ้าส่งมาโปรดอย่างโคงามิ ชินยะ
ท่าทีประหลาดใจหลังจากที่เขาเหนี่ยวไกยิงปืนไร้กระสุนใส่ซึเนโมริ อาคาเนะนั้นคืออะไร?
ทำไมเขาจึงเลิกล้มความคิดที่จะฆ่าอาคาเนะ ทั้งๆที่มีหนทางอื่นนอกจากยิงด้วยปืนมากมาย?
ทำไมเขาจึงยอมให้โคงามิสังหารแต่โดยดีด้วยใบหน้าที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความสุข?
วันนี้ผมมีคำตอบที่คาดว่าน่าจะตรงกับความคิดของมาคิชิมะ โชโกที่สุดมาเปิดเผยให้ทุกคนได้หายสงสัยกันเสียทีครับ
เริ่มด้วยบท Interlude ที่ถูกเพิ่มเข้ามาในอนิเมซีซั่นแรกฉบับ Extended Edition ตอนที่ 11 ที่เป็นตอนสุดท้ายของฉบับนี้
ฟาร์มปศุสัตว์
"ถ้าหากมนุษย์ถูกครอบงำโดยระบบที่ควบคุมการเกิดการตายโดยสมบูรณ์แล้วล่ะก็ มนุษย์ก็คงไม่ใช่มนุษย์อีกต่อไป เป็นได้แค่ปศุสัตว์เท่านั้น ไม่ว่าเจ้าของฟาร์มจะพยายามเสแสร้งแสดงออกอย่างไร สุดท้ายพวกเขาก็ไม่เคยมองเห็นเหล่าปศุสัตว์เป็นมิตรของตนเลยสักนิด มันน่าแปลกที่ทำไมเหล่าผู้คนที่ถูกปฏิบัติไม่ต่างจากปศุสัตว์ในสังคมอันแสนน่าเบื่อนี้ถึงได้ไม่ใครคิดที่จะลุกขึ้นมาต่อต้านเลยแม้แต่คนเดียว"
โชโกกล่าวถึงเจตนารมณ์ที่ทำให้เขาลุกขึ้นมาต่อต้านและท้าท้ายซิบิล ระบบการปกครองของประเทศญี่ปุ่นที่เขามองว่ากดขี่และบีบบังคับมนุษย์ให้กลายเป็นสิ่งที่ไม่ใช่มนุษย์อีกต่อไป คำพูดดังกล่าวนี้มีความเกี่ยวข้องอย่างมากกับฉากไคลแม็กซ์ของเรื่อง ซึ่งจะเอ่ยถึงในส่วนถัดไป
กระสุนห้านัด
ในฉากการไล่ล่าโชโกช่วงสุดท้าย อาคาเนะกระโดดเกาะรถบรรทุกเพื่อไล่ตามโชโกที่จะขับรถหนี เมื่อโชโกมองร่างของอาคาเนะผ่านทางกระจกข้างเขาก็ยิ้ม "มีคนตามมาฆ่าเราแล้ว" เขาคิดอย่างดีใจ เนื่องจากเขาเข้าใจว่าอาคาเนะที่เคยปฏิเสธการลงมือฆ่าในที่สุดก็ยอมรับบทเรียนที่เขามอบให้เสียที
แต่ทว่าอาคาเนะกลับยิงเข้าที่ยางล้อรถทำให้รถบรรทุกเสียหลักจนพลิกคว่ำ โชโกบาดเจ็บแต่ไม่ถึงแก่ชีวิต
พอโชโกลงออกมาจากรถบรรทุก เขาโกรธ โกรธมาก รอยยิ้มที่เคยปรากฎอยู่ใบหน้าได้อันตรธานหายไปจนหมดสิ้น เขาคิดผิด! อาคาเนะไม่ใช่มนุษย์อย่างที่เขาคิดไว้ สุดท้ายเธอก็ไม่ต่างจากคนอื่นๆที่เป็นเครื่องมือที่ถูกใช้งานโดยซิบิล เป็นแค่หุ่นกระบอกที่คอยปฏิบัติตามไม่ว่าจะเป็นคำสั่งแบบไหน แม้เธอจะมีปืนลูกโม่แต่ในเมื่อคำสั่งที่เธอได้รับคือการพาตัวเขากลับไปเป็นๆ ดังนั้นมันก็ไม่ช่วยให้อะไรมันต่างกันออกไป โชโกรู้หมดทุกสิ่งทุกอย่าง เขาได้นับจำนวนครั้งที่ปืนถูกยิงมาโดยตลอด โคงามิยิงหนึ่ง สอง สาม สี่ครั้ง อาคาเนะยิงหนึ่งครั้ง ไม่ใช่เพื่อสังหารเขา แต่เพื่อหยุดรถให้กับซิบิลผู้เป็นนายเหนือหัวของเธอ ปืนถูกยิงไป 5 ครั้ง แสดงว่าจะต้องเหลือกระสุนอย่างน้อย 1 นัด
โชโกเล็งปืนไปที่หัวของอาคาเนะอย่างมั่นใจ โดยไม่จำเป็นต้องเช็คจำนวนกระสุนให้เปลืองแรงในเมื่อเขามั่นใจว่าปืนจะต้องมีกระสุนอยู่อย่างแน่นอน
*คลิก* ปืนไม่มีลูกกระสุน เป็นไปได้อย่างไร? ในเมื่อมันเป็นปืนลูกโม่ ดังนั้นมันควรที่จะบรรจุกระสุนได้ 6 นัด
ทันใดนั้นโชโกก็ตระหนักได้ เขาตระหนักได้ถึงความผิดพลาดของเขา เขาดูปืนผิดไป แม้หน้าตามันจะดูเหมือนปืนลูกโม่ 6 นัดทั่วไป แต่จริงๆแล้วมันเป็นปืน SP101 ที่เป็นปืนลูกโม่ 5 นัดต่างหาก (ปืนลูกโม่ส่วนใหญ๋จะบรรจุกระสุนได้ 6 นัด รองลงมาคือ 8 นัด ส่วนที่บรรจุได้ 5 นัดถือว่าหายากมาก)
ไม่โดดเดี่ยวอีกต่อไป
โชโกก้มลงมองไปที่อาคาเนะ เขาตระหนักได้อีกว่านี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาตัดสินมองอะไรผิดพลาดไป เขาที่เคยมั่นใจว่าเขารู้จักกลไกทุกสิ่งทุกอย่างบนโลกนี้ แต่กลับมองพลาดไปกับสิ่งที่อยู่ใกล้มือแค่นี้ ตัวอาคาเนะเองก็เช่นกัน การมีเจตจำนงฆ่าโดยปราศจากการตัดสินของซิบิลนั้นเป็นสิ่งที่ทำให้คนกลับกลายไปเป็นมนุษย์ได้อย่างแท้จริง และอาคาเนะไม่มีเจตจำนงที่จะฆ่าเขาเลยในตอนที่เห็นยูกิ เพื่อนรักของเธอถูกฆ่าอย่างเลือดเย็นต่อหน้าต่อตา
แต่ไม่ใช่ว่าการที่อาคาเนะไม่มีเจตจำนงฆ่าจะทำให้เธอเป็นเสมือนลูกแกะในฟาร์มปศุสัตว์ บางทีมันอาจจะมีปัจจัยอื่นใดที่เป็นการฝ่าฝืนและท้าทายอำนาจของซิบิล ถ้าหากการฆาตกรรมโดยปราศจากคำตัดสินของซิบิลนั้นทำให้คนเราเป็นมนุษย์ได้อย่างแท้จริง การไว้ชีวิตคนก็คงเช่นเดียว บางทีอาจจะมีเหยื่อที่ถูกทำร้ายจนค่าสัมประสิทธิ์พุ่งขึ้นสูง บางทีอาคาเนะอาจจะไว้ชีวิตใครคนนั้นทั้งๆที่ซิบิลได้ตัดสินโทษตายไปแล้ว
โชโกออกวิ่งไปในทุ่งข้าวสาลี คิดคำนึงถึงสังคมในขณะที่น้ำตาไหลริน
"ไม่ว่าใครต่างก็โดดเดี่ยว ไม่ว่าใครต่างก็ว่างเปล่า ไม่มีใครที่ต้องการพึ่งพาคนอื่นอีกต่อไปแล้ว ไม่ว่าจะเป็นพรสวรรค์แบบไหนก็มีสแปร์สำรองไว้ทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นความสัมพันธ์แบบไหนก็สามารถถูกทดแทนเติมเต็มได้ เขารู้สึกเบื่อหน่ายกับโลกแบบนั้นเหลือเกิน"
และในโลกที่ทุกอย่างล้วนมีแต่ของสำรองทดแทนไม่จำกัด คนอย่างอาคาเนะก็ยังคงมีชีวิตอยู่ ที่ผ่านมาเขาได้พบกับผู้คนมากมายหลายแบบที่ถูกเขาชักจูงเข้าสู่ความเป็นมนุษย์ที่แท้จริงด้วยการเข่นฆ่า แต่ท้ายที่สุดโชโกก็ไม่ได้มองพวกเขาเหล่านั้นเป็นมิตรเลยแม้แต่คนเดียว พวกเขาต้องพบกับจุดจบที่ทั้งเกิดจากการเพิกเฉยของโชโกและบางครั้งก็เงื้อมมือเข้ามาปลิดชีวิตด้วยตัวเอง แต่กับอาคาเนะนั้นไม่ใช่เช่นนั้นเขาสามารถปลิดชีวิตของเธอได้แม้ปืนจะไม่มีลูกกระสุน เขาสามารถทำได้ ไม่ว่าจะเป็นการกระทืบลงไปที่หัวแรงๆ หรือเหยียบลำคอให้หมดลมหายใจ แต่เขาก็เลือกที่จะไม่ทำ เหตุการณ์เรื่องปืนกระสุน 5 นัดนั้นเป็นเสมือนดั่ง "การกระทำของพระเจ้า" ที่ทำให้เขาเปลี่ยนความเชื่อที่มีต่ออาคาเนะโดยสมบูรณ์
น้ำตาที่ไหลรินของโชโกนั้นไม่ใช่เพราะความปิติที่จะได้ถูกจบชีวิตด้วยน้ำมือของโคงามิ แต่เป็นเพราะในเวลาชั่วครู่สุดท้ายของชีวิตเขา เขาได้พบกับสิ่งที่เขาตามหามาตลอดทั้งชีวิตและเขาก็เกือบที่จะฆ่าเธอไปแล้ว ถ้าหากปืนลูกโม่นั้นมีกระสุน 6 ลูกอย่างที่เขาคิดจริงๆ ความจริงจุดนี้นี่แหละที่ทำให้เขาตัดสินใจยอมรับการประหารจากโคงามิอย่างโดยดี เพราะหน้าที่ของเขาจบลงแล้ว ต่อให้เขาตายไปอาคาเนะก็ยังคงอยู่ คนที่เป็นคนจำพวกเดียวกันกับเขา คนที่กล้าที่จะลุกขึ้นมาต่อต้านซิบิล ถ้าการต่อต้านซิบิลของโชโกก็คือการปลุกปั่นให้คนลุกขึ้นมาฆ่ากันเอง การต่อต้านซิบิลของอาคาเนะก็คือการไว้ชีวิตที่ถูกซิบิลตัดสินให้ต้องโทษประหารนั่นเอง และเพื่อเป็นการเติมเต็มแรงผลักดันโชโกจึงยอมให้ตนเองถูกโคงามิไล่ต้อน การที่โคงามิลงมือสังหารเขาจะเป็นตัวเสริมให้การต่อต้านซิบิลของอาคาเนะนั้นยิ่งทวีความรุนแรงขึ้น โชโกที่ฝากความหวังในการปลดแอกมนุษย์จากการกดขี่ของซิบิลไว้ที่อาคาเนะก็ยิ้มรับความตายโดยปราศจากความเกรงกลัว เพราะตัวเขาไม่ได้โดดเดี่ยวอยู่บนโลกใบนี้อีกต่อไปแล้ว
แน่นอนว่าเรื่องราวของ PSYCHO-PASS ในภาคแรกนี้ เป็นเรื่องราวการเผชิญหน้าของชาย 2 คนที่ชื่อโคงามิ ชินยะ และมาคิชิมะ โชโก แต่ในช่วงสุดปลายทาง โชโกที่เคยเข้าใจมาตลอดว่าเขาเฝ้าตามหาคนอย่างโคงามิที่จะกล้าปลดแอกตัวเองจากกฎเกณฑ์ของสังคมที่ซิบิลตีกรอบเอาไว้ลุกขึ้นมาฆ่าเขา แต่เขากลับพบสิ่งที่เหนือความคาดหมายอย่างอาคาเนะ ตัวเขาสามารถหาตัวแทนของตนเองได้แล้ว แต่สำหรับโคงามิที่เป็นฝ่ายจบชีวิตโชโกล่ะ จะสามารถหาใครอื่นมาทดแทนได้หรือไม่ หรือท้ายที่สุดแล้วจะเป็นอาคาเนะที่เขาจะต้องเผชิญหน้าในฐานะผู้ล่าและผู้ถูกล่าอย่างที่เขาเคยเป็นกับโชโกนั่นเอง
เรียบเรียงข้อมูลจากกระทู้ PSYCHO-PASS ในบอร์ด 4chan หมวด /a/