บีร็อด กับระบบกองหน้าที่ต้องปั้นเอง ชงเอง กินเองได้

ระบบ ตะกุกตะกัก กลับมาทำงานอีกรอบในฤดูกาลนี้ กับการหว่านซื้อที่ไม่ได้แก้ไขปัญหา ยามที่ หงส์ขาดผู้นำในเกมรุกอย่าง เหยิน กะหริดจ์

ผมเชื่อว่า บีร็อด มองไปที่ศักยภาพของบาโลจะตอบโจทย์นี้ได้ คล้ายเป็นความท้าทายอย่างหนึ่งสำหรับกุนซือไฟแรงอย่างเค้า แต่ขอเศร้าแพ๊พครัช... บาโลก็คือบาโล ไม่มีใครเปลี่ยนเค้าได้ นอกจากตัวของเค้าเอง

มองแล้วหนักใจ เพราะซื้อกองหน้ามา 2 คน คนนึง อายุเยอะ แต่สไตล์อังกฤษจ๋า ไม่ได้ใกล้เคียงกับเหยินหรือหริดจ์ที่สามารถแหวกว่าย ปั้นเอง ชงเอง กินเองได้เลย ตามระบบที่เค้าปูไว้ ที่แนวรุกต้องมีศักยภาพเอาชนะคู่แข่งในสถานการณ์หนึ่งหรือสองคนได้ดี

แล้วด้วยระบบที่บีร็อดฝังหัวว่า โจมตีเร็ว ให้บอลแม่น ไม่กี่จังหวะ กลับกลายเป็นว่า อะไหล่ในแนวรุกตอบโจทย์ไม่ได้เลย อย่างทุกวันนี้ หริดจ์เจ็บ ความหวังจึงตกไปอยู่กับดาวรุ่งที่เพิ่งขึ้นมาอย่าง หนูริ่ง คนเดียวที่แบกทีม

เอวังด้วยประการฉะนี้ บอลแทนที่จะวางไปที่ระบบ ก่อนตัวผู้เล่น กลายเป็นผู้เล่นสำคัญกว่าระบบ ก็ไม่น่าแปลกใจที่ผลงานจะสามวันดีสี่วันไข้ ถ้าพูดถึงสักทีมที่วางระบบได้ยอดเยี่ยมมาก ต้องแอตมาดริด แม้ขายสตาร์เพียบ แต่ทีมก็ยังอยู่ระดับบนได้อย่างไม่มีปัญหา

เฮ้อ..น่าหนักใจแท้ ยิ่งบาโลมาทำสปิริตทีมย่ำแย่ลงไปอีก ไม่รู้บีร็อดจะเตลิดเปิดเปิงไปกันใหญ่เปล่า มือใหม่อยู่ด้วย ตอนนี้ ภาวนาให้หริดจ์กลับมาเร็วๆ ครัช แก้ไขเอาหน้ารอดไปก่อน ประคองตัวให้อยู่ 4 อันดับแรกให้ได้ก็พอ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่