มันเริ่มมาตั้งแต่สมัยทักษิณเลย
เริ่มจากการสร้างข่าวปลุกระดมผสมความจริง เพื่อสร้างความเกลียดชังและความกลัวต่อทักษิณ
ไม่ว่าจะรัฐบาลสมัยไหน ถ้าได้รับความนิยมจนถึงจุดๆนึง จะมีพวกประเภทนี้ปั่นกระแสตลอด
ต่อมาเมื่อคนกลุ่มนึงเกลียดทักษิณจนได้ที่แล้ว ก็เริ่มออกมาก่อม็อบ สร้างวาทะกรรมให้เกลียดชังกว่าเดิม
แต่ที่เพิ่มเติมเข้ามาคือการ "สร้างความรู้สึกเป็นพวกพ้อง"
ความจริงก็ไม่ได้มีแต่กลุ่มที่เกลียดทักษิณนะ
กลุ่มที่รักทักษิณก็เช่นกัน
เมื่อฝ่ายนึงสร้างกลุ่มสีเสื้อตัวเองขึ้นมา อีกกลุ่มก็สร้างสีเสื้อตัวเองบ้าง
จากเดิมที่มีแค่ "คนที่ไม่ชอบทักษิณ(ชอบประชาธิปัตย์)" กับ "คนที่ชอบทักษิณ"
แค่ความชอบตัวบุคคลหรือพรรคการเมือง
วิวัฒนาการกลายร่างกลายพันธุ์มาเป็น..
ฉัน "เสื้อเหลือง" และ เธอ "เสื้อแดง"
และความเกลียดชังก็ยิ่งลุกลามมาเป็น
แบ่งภาค
แบ่งจังหวัด
แบ่งชนชั้น
แบ่งอาชีพ
ทั้งๆที่อาจจะไม่ใช่ทุกคนของภาค, จังหวัด, ชนชั้น หรือ อาชีพ เป็นอย่างนั้นเสมอไป
ยกตัวอย่างนะ หมอ อาชีพที่โดนเอามาเป็นตัวหมากนึงของสุเทพ
ก็ไม่ใช่หมอทุกคนเป็นอย่างนั้น เท่าที่เรารู้จัก หลายคนก็ไม่ได้เป็นอย่างที่ถูกสร้างภาพให้เป็นอย่างนั้น(ในทางการเมืองที่ไม่ดี)
และอนาคต ซึ่งไม่รู้ว่าจะเกิดจริงหรือไม่ หรือจะอีกนานมั้ย คือ
"แบ่งประเทศ"
หรือ
"สงครามประชาชน"
ทั้งๆที่จุดเริ่มต้น มันมาจากความชอบกับไม่ชอบ
ไม่สิ สาเหตุของความแตกแยกจริงๆคือ พรรคการเมืองสร้างความรู้สึกให้กับคนที่ชอบพวกเขาว่า
"เราเป็นพวกเดียวกัน"
เมื่อคุณคิดว่า คุณเป็นพวกเดียวกับคนๆนี้ คุณเชื่อว่าเขาเป็นพวกเดียวกับคุณจริงๆ คุณก็จะปกป้องเขา โดยไม่สนใจว่าเขาทำถูกหรือผิด เพราะคุณเชื่อมั่นว่า เขาเป็นพวกเดียวกับคุณจริงๆ และใครที่เป็นสีตรงข้าม สิ่งแรกที่คุณคิดคือ "เขาเป็นศัตรู" เขาจะมาทำร้ายพวกของเรา
ทั้งๆที่จริงๆแล้ว เขาก็เป็นแค่คนทั่วๆไปเหมือนกับคุณ ทำงานหาเงินไปวันๆ แค่ความชอบทางการเมืองไม่เหมือนกัน
แต่เขาอาจจะเหมือนกับคุณ คุยถูกคอกันในหลายๆเรื่องก็ได้
ส่วนคนๆนั้นก็เป็นแค่นักการเมือง พรรคการเมืองนึง
พวกเขามีหน้าที่บริการรับใช้คุณ ทำงานให้กับคุณ ซึ่งอำนาจของเขาขึ้นอยู่กับคะแนนเสียงของคุณ
เพราะเขาคือ ผู้แทนราษฎร ผู้แทนประชาชน
ถ้าคุณกลับมามองที่ความหมายเดิม คิดใหม่ว่า "เขาคือคนที่ต้องทำงานให้กับฉัน"
และเมื่อเขาถูกใส่ร้าย คุณก็ออกมาปกป้องได้
แต่เมื่อเขาทำผิดจริง นั่นหมายความว่า เขาไม่ทำงานให้คุณ เขาไม่ทำตามสัญญา คุณก็ไม่ควรเลือกเขาอีก
ไม่ใช่มาแก้ตัวว่า ไม่จริง ไม่ใช่ คนนั้นพรรคนู้นแย่กว่า
สั้นๆนะ.. "ยอมรับความจริงเถอะ"
ผิดก็คือผิด ไม่ต้องมาเทียบว่า "ก็ยังดีกว่าคนของเธอว์"
เลิกมโน นะ นะ นะ
เลิกแบ่งสีแบ่งฝ่ายกันเถอะ
เส้นบางๆที่แบ่งแยกคนไทยด้วยกัน มันไม่เคยมีอยู่จริง มันเป็นสิ่งที่เราคิดขึ้นมาเองทั้งนั้น
หรือพูดอีกอย่างคือ มีนักการเมืองบางคนคิดให้เรา
เอาแค่ฉันชอบพรรคนั้น เธอชอบพรรคนี้ ดีกว่านะ
เพราะถ้าเขาทำงานไม่ดี คุณก็เลิกชอบ แล้วหันไปมองพรรคอื่นที่มีนโยบายตรงตามความต้องการของคุณ
แล้วอีกอย่าง เวลารับข้อมูลข่าวสารอะไร กรองกันหน่อย สมัยนี้เชื่อแหล่งข่าวเดียวไม่ได้แล้ว
ไม่งั้นคุณจะได้โดนปั่นหัวหมุนสนุกแน่ อิอิ
ดังคำกล่าวอันเป็นที่ยอมรับ "หากท่านไม่เล่นการเมือง การเมืองก็จะเล่นกับท่าน"
ด้วยความปราถนาดีจากพี่น้องชาวไทยคนหนึ่ง
รักนะจุ๊ฟๆ
สาเหตุความแตกแยก ความเกลียด ความกลัว แบ่งพรรคแบ่งพวก พรรคฉัน พรรคเธอ
เริ่มจากการสร้างข่าวปลุกระดมผสมความจริง เพื่อสร้างความเกลียดชังและความกลัวต่อทักษิณ
ไม่ว่าจะรัฐบาลสมัยไหน ถ้าได้รับความนิยมจนถึงจุดๆนึง จะมีพวกประเภทนี้ปั่นกระแสตลอด
ต่อมาเมื่อคนกลุ่มนึงเกลียดทักษิณจนได้ที่แล้ว ก็เริ่มออกมาก่อม็อบ สร้างวาทะกรรมให้เกลียดชังกว่าเดิม
แต่ที่เพิ่มเติมเข้ามาคือการ "สร้างความรู้สึกเป็นพวกพ้อง"
ความจริงก็ไม่ได้มีแต่กลุ่มที่เกลียดทักษิณนะ
กลุ่มที่รักทักษิณก็เช่นกัน
เมื่อฝ่ายนึงสร้างกลุ่มสีเสื้อตัวเองขึ้นมา อีกกลุ่มก็สร้างสีเสื้อตัวเองบ้าง
จากเดิมที่มีแค่ "คนที่ไม่ชอบทักษิณ(ชอบประชาธิปัตย์)" กับ "คนที่ชอบทักษิณ"
แค่ความชอบตัวบุคคลหรือพรรคการเมือง
วิวัฒนาการกลายร่างกลายพันธุ์มาเป็น..
ฉัน "เสื้อเหลือง" และ เธอ "เสื้อแดง"
และความเกลียดชังก็ยิ่งลุกลามมาเป็น
แบ่งภาค
แบ่งจังหวัด
แบ่งชนชั้น
แบ่งอาชีพ
ทั้งๆที่อาจจะไม่ใช่ทุกคนของภาค, จังหวัด, ชนชั้น หรือ อาชีพ เป็นอย่างนั้นเสมอไป
ยกตัวอย่างนะ หมอ อาชีพที่โดนเอามาเป็นตัวหมากนึงของสุเทพ
ก็ไม่ใช่หมอทุกคนเป็นอย่างนั้น เท่าที่เรารู้จัก หลายคนก็ไม่ได้เป็นอย่างที่ถูกสร้างภาพให้เป็นอย่างนั้น(ในทางการเมืองที่ไม่ดี)
และอนาคต ซึ่งไม่รู้ว่าจะเกิดจริงหรือไม่ หรือจะอีกนานมั้ย คือ
"แบ่งประเทศ"
หรือ
"สงครามประชาชน"
ทั้งๆที่จุดเริ่มต้น มันมาจากความชอบกับไม่ชอบ
ไม่สิ สาเหตุของความแตกแยกจริงๆคือ พรรคการเมืองสร้างความรู้สึกให้กับคนที่ชอบพวกเขาว่า
"เราเป็นพวกเดียวกัน"
เมื่อคุณคิดว่า คุณเป็นพวกเดียวกับคนๆนี้ คุณเชื่อว่าเขาเป็นพวกเดียวกับคุณจริงๆ คุณก็จะปกป้องเขา โดยไม่สนใจว่าเขาทำถูกหรือผิด เพราะคุณเชื่อมั่นว่า เขาเป็นพวกเดียวกับคุณจริงๆ และใครที่เป็นสีตรงข้าม สิ่งแรกที่คุณคิดคือ "เขาเป็นศัตรู" เขาจะมาทำร้ายพวกของเรา
ทั้งๆที่จริงๆแล้ว เขาก็เป็นแค่คนทั่วๆไปเหมือนกับคุณ ทำงานหาเงินไปวันๆ แค่ความชอบทางการเมืองไม่เหมือนกัน
แต่เขาอาจจะเหมือนกับคุณ คุยถูกคอกันในหลายๆเรื่องก็ได้
ส่วนคนๆนั้นก็เป็นแค่นักการเมือง พรรคการเมืองนึง
พวกเขามีหน้าที่บริการรับใช้คุณ ทำงานให้กับคุณ ซึ่งอำนาจของเขาขึ้นอยู่กับคะแนนเสียงของคุณ
เพราะเขาคือ ผู้แทนราษฎร ผู้แทนประชาชน
ถ้าคุณกลับมามองที่ความหมายเดิม คิดใหม่ว่า "เขาคือคนที่ต้องทำงานให้กับฉัน"
และเมื่อเขาถูกใส่ร้าย คุณก็ออกมาปกป้องได้
แต่เมื่อเขาทำผิดจริง นั่นหมายความว่า เขาไม่ทำงานให้คุณ เขาไม่ทำตามสัญญา คุณก็ไม่ควรเลือกเขาอีก
ไม่ใช่มาแก้ตัวว่า ไม่จริง ไม่ใช่ คนนั้นพรรคนู้นแย่กว่า
สั้นๆนะ.. "ยอมรับความจริงเถอะ"
ผิดก็คือผิด ไม่ต้องมาเทียบว่า "ก็ยังดีกว่าคนของเธอว์"
เลิกมโน นะ นะ นะ
เลิกแบ่งสีแบ่งฝ่ายกันเถอะ
เส้นบางๆที่แบ่งแยกคนไทยด้วยกัน มันไม่เคยมีอยู่จริง มันเป็นสิ่งที่เราคิดขึ้นมาเองทั้งนั้น
หรือพูดอีกอย่างคือ มีนักการเมืองบางคนคิดให้เรา
เอาแค่ฉันชอบพรรคนั้น เธอชอบพรรคนี้ ดีกว่านะ
เพราะถ้าเขาทำงานไม่ดี คุณก็เลิกชอบ แล้วหันไปมองพรรคอื่นที่มีนโยบายตรงตามความต้องการของคุณ
แล้วอีกอย่าง เวลารับข้อมูลข่าวสารอะไร กรองกันหน่อย สมัยนี้เชื่อแหล่งข่าวเดียวไม่ได้แล้ว
ไม่งั้นคุณจะได้โดนปั่นหัวหมุนสนุกแน่ อิอิ
ดังคำกล่าวอันเป็นที่ยอมรับ "หากท่านไม่เล่นการเมือง การเมืองก็จะเล่นกับท่าน"
ด้วยความปราถนาดีจากพี่น้องชาวไทยคนหนึ่ง
รักนะจุ๊ฟๆ