ที่ผมไม่ชอบไม่ใช่แค่การทำลายคุณทักษิณคนที่ผมนิยม
ที่ผมไม่ชอบไม่ใช่แค่ผมชอบพรรคเพื่อไทย
ที่ผมไม่ชอบไม่ใช่แค่กล่าวหาเรื่องเสื้อแดงเผาบ้านเผาเมือง
ที่ผมไม่ชอบไม่ใช่แค่ทำงานไม่เป็น เอาแต่พูด
ที่ผมไม่ชอบไม่ใช่แค่การทำให้มีผู้เสียชีวิตมากมายโดยไม่แสดงความรับผิดชอบ
ที่ผมไม่ชอบไม่ใช่แค่หวังผลทางการเมืองโดยไม่คำนึงถึงวิธีการ
ทั้งๆที่ ปชป.อยู่ยงคงกระพันมาถึง 60 กว่าปี มีโอกาสที่จะสร้างความนิยมให้เกิดกับพรรคมากกว่าพรรคอื่นๆ แต่ตลอดเวลาที่ผ่านมากลับไม่เคยสร้างผลงานอะไรที่โดดเด่น จนครองใจประชาชนได้
ที่พอจะนับเป็นผลงานอย่าง สปก.4-01 กลับกลายเป็นคนที่ได้รับที่ดินหลายคนเป็นนายทุนพรรค
ที่คิดว่าจะเป็นการช่วยกู้วิกฤติต้มยำกุ้ง กลับกลายเป็น ปรส.ที่ทำให้รัฐเสียหายหลายแสนล้าน คดียังอยู่ใน ปปช.ที่กำลังนับถอยหลังจะเสร็จทันก่อนหมดอายุความหรือไม่
ที่เห็นๆก็เสียค่าโง่ให้กับโฮบเวลอีกหมื่นกว่าล้าน
ดังนั้นการหาเสียงทุกครั้งจึงไม่ใช่การนำเสนอผลงาน ไม่ใช่การหาเสียงเชิงนโยบาย แต่กลับเป็นการหาเสียงโดยการโจมตีพรรคการเมืองฝ่ายตรงข้าม ชูประเด็นเอาดีใส่ตัว เอาชั่วให้คนอื่นมาตลอด และก็ได้ผลมาตลอดสำหรับบุคคลสองจำพวก
พวกอ่อนพรรษาทางการเมือง พวกนี้จะไม่ค่อยรับรู้ข้อมูลข่าวสารทางการเมือง จะเชื่อได้โดยง่ายเพราะสำนวนโวหาร จะเชื่อได้โดยง่ายเพราะความไม่เท่าทัน
ส่วนอีกพวกก็คือพวกปัญญาอ่อน ในที่นี้ไม่ใช่หมายถึงโรคปัญญาอ่อน แต่หมายถึงอ่อนในด้านความคิด คนกลุ่มนี้พร้อมจะเชื่อเสมอ โดยไม่จำเป็นต้องสืบค้นหาความจริง เพียงเพราะเป็นข้อมูลจากพรรคที่ตัวเองนิยมเท่านั้น
อย่างนี้จึงไม่น่าแปลกใจที่ผ่านมาถึงปัจจุบัน แทนที่จะแนวร่วมเพิ่ม แทนที่จะมีคะแนนความนิยมเพิ่ม แต่กลับลดน้อยถอยลงไปทุกขณะ สิ่งเหล่านี้เป็นเพราะ ปชป.ทำตัวของตัวเองแท้ๆเลยนะครับ
และเหนืออื่นใด ความไม่ชอบของผมเลยเถิดไปจนกลายเป็นความรังเกียจ กลับเป็นเรื่องหวังผลทางการเมือง โดยไม่คำนึงถึงผลกระทบที่จะตามมาต่างหากครับ ขอให้ได้อำนาจในวันนี้ จะส่งผลให้ประเทศเป็นอย่างไรในภายภาคหน้า ไม่ใช่เรื่องที่ ปชป.ต้องนำมาใส่ใจ
เราจึงได้เห็นการแอบขนคนมาร่วมชุมนุมกับกลุ่มคนเสื้อเหลือง จนประเทศสู่ความวุ่นวาย สร้างเงื่อนไขให้เกิดรัฐประหาร ฉุดประเทศให้ถอยหลังจนประเมินค่าความเสียหายไม่ได้
เราจึงได้เห็นการสนับสนุนการทำรัฐประหาร ด้วยข้ออ้างเพื่อกำจัดคนขายชาติขายแผ่นดิน จนทำให้กระบวนการยุติธรรมบิดเบี้ยว เพราะผลพวงจากการทำรัฐประหาร
ผลที่ตามมา เพราะความยุติธรรมที่สองมาตรฐาน จึงทำให้กลุ่มคนอีกกลุ่มทนไม่ไหว ต้องออกมาเคลื่อนไหว เริ่มจากการต่อต้านการทำรัฐประหาร มาเป็นการเคลื่อนไหวเรียกร้องความยุติธรรม ใช่แล้วครับ คนเสื้อแดงนั้นเอง นี่จึงเป็นจุดเริ่มต้นของความแตกแยก
แล้วเรายังได้ยินวาทกรรมเสียงส่วนใหญ่เป็นพวกด้อยคุณภาพ
แล้วเรายังได้ยินวาทกรรมเสียงส่วนใหญ่เป็นพวกขายเสียง
แล้วเรายังได้ยินวาทกรรมเสียงส่วนใหญ่เป็นพวกถูกชักจูงง่าย
สิ่งเหล่านี้ล้วนแต่สร้างความแตกแยกให้กับสังคม เป็นการแยกสังคมออกเป็นสองส่วน
ระหว่างคนมีคุณภาพกับคนไร้คุณภาพ
ระหว่างคนมีการศึกษากับคนไร้การศึกษา
ระหว่างคนดีกับคนเลว
ความแตกแยกจึงยิ่งร้าวลึก
แล้วเรายังเห็นการปราบปรามผู้ชุมนุมเรียกร้องให้ยุบสภาด้วยอาวุธสงคราม
แล้วเรายังเห็นคนตายมากมายที่ไร้อาวุธ แต่กลายเป็นผู้ก่อการร้าย
แล้วเรายังเห็นความพยายามอ้างเรื่องการเผาบ้านเผาเมือง จนนำไปสู่การปราบปราม
แล้วเรายังเห็นการจับขังคนต่อต้านโดยอาศัย พรก.ฉุกเฉิน
แล้วเรายังเห็นความพยายามที่จะทักท้วงต่อต้านการเยียวยาต่อผู้ประสบภัยจากเจ้าหน้าที่รัฐ
อย่างนี้ยิ่งทำให้ความแตกแยกขยายวงกว้างยิ่งขึ้น
ตอนนี้เรายังคงได้ยินอย่าให้ข้าศึกยึดเมืองหลวง
ตอนนี้เรายังคงได้ยินอย่าให้คนโกงครองกรุง
ตอนนี้เรายังคงได้ยินการเสียกรุงเทพเหมือนเสียประเทศไทย
สิ่งเหล่านี้กำลังจะกลายเป็นการแยกกรุงเทพออกจากจังหวัดต่างๆอีกหรือไม่
ยิ่งกว่านั้นจากวาทกรรมที่พยายามจะก่อกระแสรัฐตำรวจ ซึ่งจะกลายเป็นสร้างความเกลียดชังเหล่าข้าราชการตำรวจ แต่ขณะเดียวกันก็ทำให้ข้าราชการตำรวจเกลียดชัง ปชป.ด้วย สิ่งเหล่านี้ล้วนแต่เป็นการเริ่มต้นสร้างความแตกแยกระลอกใหม่ นี่คือการหวังผลทางการเมืองโดยไม่คำนึงผลที่จะตามมาโดยแท้
เหนือสิ่งอื่นใด ยังมีความพยายามต่อต้าน พรบ.ปรองดอง ยังมีความพยายามคัดค้านแผนการปรองดอง และยังไม่สนับสนุน พรก.นิรโทษกรรมอีกด้วย อย่างนี้แล้วจะให้ผมชอบได้อย่างไร ในเมื่อประเทศแทบจะไปไหนไม่ได้ ตราบที่คนในชาติยังมีความขัดแย้ง เกลียดชังซึ่งกันและกันอย่างนี้
ข้อสำคัญกลุ่มคนรวมทั้ง ปชป.ที่ไม่ขอนิรโทษกรรม ล้วนแต่เป็นกลุ่มคนที่มีความผิดร้ายแรง แต่ยังไม่เคยต้องรับโทษกับการกระทำความผิดกันทั้งสิ้น อย่างนี้ยังจะให้ผมชื่นชม ปชป.คงไม่ได้หรอกครับ
สุดท้ายก็แค่อยากบอกว่า ที่ผมไม่ชอบ ปชป.นอกจาเหตุผลดังกล่าว ยังมีอีกเหตุผลก็คือ ทุกเรื่องล้วนแต่โยนบาปไปให้กับคุณทักษิณ โดยไม่เคยสำเหนียกสักนิด สิ่งที่ทางพรรคกำลังสู้อยู่ มันไม่ใช่คุณทักษิณ แต่เป็นการสู้กับความต้องการของประชาชน ดังนั้นต่อให้วันนี้ไม่มีทักษิณ วันนี้ไม่มีเพื่อไทย ผมก็ไม่มีวันที่จะเลือกพรรค ปชป.อย่างแน่นอนครับ ขอบอก
ทำไมผมจึงไม่ชอบพรรค ปชป.
ที่ผมไม่ชอบไม่ใช่แค่ผมชอบพรรคเพื่อไทย
ที่ผมไม่ชอบไม่ใช่แค่กล่าวหาเรื่องเสื้อแดงเผาบ้านเผาเมือง
ที่ผมไม่ชอบไม่ใช่แค่ทำงานไม่เป็น เอาแต่พูด
ที่ผมไม่ชอบไม่ใช่แค่การทำให้มีผู้เสียชีวิตมากมายโดยไม่แสดงความรับผิดชอบ
ที่ผมไม่ชอบไม่ใช่แค่หวังผลทางการเมืองโดยไม่คำนึงถึงวิธีการ
ทั้งๆที่ ปชป.อยู่ยงคงกระพันมาถึง 60 กว่าปี มีโอกาสที่จะสร้างความนิยมให้เกิดกับพรรคมากกว่าพรรคอื่นๆ แต่ตลอดเวลาที่ผ่านมากลับไม่เคยสร้างผลงานอะไรที่โดดเด่น จนครองใจประชาชนได้
ที่พอจะนับเป็นผลงานอย่าง สปก.4-01 กลับกลายเป็นคนที่ได้รับที่ดินหลายคนเป็นนายทุนพรรค
ที่คิดว่าจะเป็นการช่วยกู้วิกฤติต้มยำกุ้ง กลับกลายเป็น ปรส.ที่ทำให้รัฐเสียหายหลายแสนล้าน คดียังอยู่ใน ปปช.ที่กำลังนับถอยหลังจะเสร็จทันก่อนหมดอายุความหรือไม่
ที่เห็นๆก็เสียค่าโง่ให้กับโฮบเวลอีกหมื่นกว่าล้าน
ดังนั้นการหาเสียงทุกครั้งจึงไม่ใช่การนำเสนอผลงาน ไม่ใช่การหาเสียงเชิงนโยบาย แต่กลับเป็นการหาเสียงโดยการโจมตีพรรคการเมืองฝ่ายตรงข้าม ชูประเด็นเอาดีใส่ตัว เอาชั่วให้คนอื่นมาตลอด และก็ได้ผลมาตลอดสำหรับบุคคลสองจำพวก
พวกอ่อนพรรษาทางการเมือง พวกนี้จะไม่ค่อยรับรู้ข้อมูลข่าวสารทางการเมือง จะเชื่อได้โดยง่ายเพราะสำนวนโวหาร จะเชื่อได้โดยง่ายเพราะความไม่เท่าทัน
ส่วนอีกพวกก็คือพวกปัญญาอ่อน ในที่นี้ไม่ใช่หมายถึงโรคปัญญาอ่อน แต่หมายถึงอ่อนในด้านความคิด คนกลุ่มนี้พร้อมจะเชื่อเสมอ โดยไม่จำเป็นต้องสืบค้นหาความจริง เพียงเพราะเป็นข้อมูลจากพรรคที่ตัวเองนิยมเท่านั้น
อย่างนี้จึงไม่น่าแปลกใจที่ผ่านมาถึงปัจจุบัน แทนที่จะแนวร่วมเพิ่ม แทนที่จะมีคะแนนความนิยมเพิ่ม แต่กลับลดน้อยถอยลงไปทุกขณะ สิ่งเหล่านี้เป็นเพราะ ปชป.ทำตัวของตัวเองแท้ๆเลยนะครับ
และเหนืออื่นใด ความไม่ชอบของผมเลยเถิดไปจนกลายเป็นความรังเกียจ กลับเป็นเรื่องหวังผลทางการเมือง โดยไม่คำนึงถึงผลกระทบที่จะตามมาต่างหากครับ ขอให้ได้อำนาจในวันนี้ จะส่งผลให้ประเทศเป็นอย่างไรในภายภาคหน้า ไม่ใช่เรื่องที่ ปชป.ต้องนำมาใส่ใจ
เราจึงได้เห็นการแอบขนคนมาร่วมชุมนุมกับกลุ่มคนเสื้อเหลือง จนประเทศสู่ความวุ่นวาย สร้างเงื่อนไขให้เกิดรัฐประหาร ฉุดประเทศให้ถอยหลังจนประเมินค่าความเสียหายไม่ได้
เราจึงได้เห็นการสนับสนุนการทำรัฐประหาร ด้วยข้ออ้างเพื่อกำจัดคนขายชาติขายแผ่นดิน จนทำให้กระบวนการยุติธรรมบิดเบี้ยว เพราะผลพวงจากการทำรัฐประหาร
ผลที่ตามมา เพราะความยุติธรรมที่สองมาตรฐาน จึงทำให้กลุ่มคนอีกกลุ่มทนไม่ไหว ต้องออกมาเคลื่อนไหว เริ่มจากการต่อต้านการทำรัฐประหาร มาเป็นการเคลื่อนไหวเรียกร้องความยุติธรรม ใช่แล้วครับ คนเสื้อแดงนั้นเอง นี่จึงเป็นจุดเริ่มต้นของความแตกแยก
แล้วเรายังได้ยินวาทกรรมเสียงส่วนใหญ่เป็นพวกด้อยคุณภาพ
แล้วเรายังได้ยินวาทกรรมเสียงส่วนใหญ่เป็นพวกขายเสียง
แล้วเรายังได้ยินวาทกรรมเสียงส่วนใหญ่เป็นพวกถูกชักจูงง่าย
สิ่งเหล่านี้ล้วนแต่สร้างความแตกแยกให้กับสังคม เป็นการแยกสังคมออกเป็นสองส่วน
ระหว่างคนมีคุณภาพกับคนไร้คุณภาพ
ระหว่างคนมีการศึกษากับคนไร้การศึกษา
ระหว่างคนดีกับคนเลว
ความแตกแยกจึงยิ่งร้าวลึก
แล้วเรายังเห็นการปราบปรามผู้ชุมนุมเรียกร้องให้ยุบสภาด้วยอาวุธสงคราม
แล้วเรายังเห็นคนตายมากมายที่ไร้อาวุธ แต่กลายเป็นผู้ก่อการร้าย
แล้วเรายังเห็นความพยายามอ้างเรื่องการเผาบ้านเผาเมือง จนนำไปสู่การปราบปราม
แล้วเรายังเห็นการจับขังคนต่อต้านโดยอาศัย พรก.ฉุกเฉิน
แล้วเรายังเห็นความพยายามที่จะทักท้วงต่อต้านการเยียวยาต่อผู้ประสบภัยจากเจ้าหน้าที่รัฐ
อย่างนี้ยิ่งทำให้ความแตกแยกขยายวงกว้างยิ่งขึ้น
ตอนนี้เรายังคงได้ยินอย่าให้ข้าศึกยึดเมืองหลวง
ตอนนี้เรายังคงได้ยินอย่าให้คนโกงครองกรุง
ตอนนี้เรายังคงได้ยินการเสียกรุงเทพเหมือนเสียประเทศไทย
สิ่งเหล่านี้กำลังจะกลายเป็นการแยกกรุงเทพออกจากจังหวัดต่างๆอีกหรือไม่
ยิ่งกว่านั้นจากวาทกรรมที่พยายามจะก่อกระแสรัฐตำรวจ ซึ่งจะกลายเป็นสร้างความเกลียดชังเหล่าข้าราชการตำรวจ แต่ขณะเดียวกันก็ทำให้ข้าราชการตำรวจเกลียดชัง ปชป.ด้วย สิ่งเหล่านี้ล้วนแต่เป็นการเริ่มต้นสร้างความแตกแยกระลอกใหม่ นี่คือการหวังผลทางการเมืองโดยไม่คำนึงผลที่จะตามมาโดยแท้
เหนือสิ่งอื่นใด ยังมีความพยายามต่อต้าน พรบ.ปรองดอง ยังมีความพยายามคัดค้านแผนการปรองดอง และยังไม่สนับสนุน พรก.นิรโทษกรรมอีกด้วย อย่างนี้แล้วจะให้ผมชอบได้อย่างไร ในเมื่อประเทศแทบจะไปไหนไม่ได้ ตราบที่คนในชาติยังมีความขัดแย้ง เกลียดชังซึ่งกันและกันอย่างนี้
ข้อสำคัญกลุ่มคนรวมทั้ง ปชป.ที่ไม่ขอนิรโทษกรรม ล้วนแต่เป็นกลุ่มคนที่มีความผิดร้ายแรง แต่ยังไม่เคยต้องรับโทษกับการกระทำความผิดกันทั้งสิ้น อย่างนี้ยังจะให้ผมชื่นชม ปชป.คงไม่ได้หรอกครับ
สุดท้ายก็แค่อยากบอกว่า ที่ผมไม่ชอบ ปชป.นอกจาเหตุผลดังกล่าว ยังมีอีกเหตุผลก็คือ ทุกเรื่องล้วนแต่โยนบาปไปให้กับคุณทักษิณ โดยไม่เคยสำเหนียกสักนิด สิ่งที่ทางพรรคกำลังสู้อยู่ มันไม่ใช่คุณทักษิณ แต่เป็นการสู้กับความต้องการของประชาชน ดังนั้นต่อให้วันนี้ไม่มีทักษิณ วันนี้ไม่มีเพื่อไทย ผมก็ไม่มีวันที่จะเลือกพรรค ปชป.อย่างแน่นอนครับ ขอบอก