ศาลซาอุฯ ตัดสิน “ประหารชีวิต” ชาวชีอะห์เพิ่ม 2 ราย ฐานเอี่ยวประท้วง 3 ปีก่อน
เอเอฟพี – ศาลซาอุดีอาระเบียตัดสันโทษประหารชีวิตประชาชนอีก 2 คนฐานมีส่วนเกี่ยวข้องกับการประท้วงของชาวชีอะห์ที่ปะทุขึ้นเมื่อ 3 ปีที่แล้ว สื่อทางการรายงาน
การพิพากษาลงโทษครั้งล่าสุดนี้มีขึ้นภายหลัง การตัดสินประหารชีวิต นิมร์ อัล-นิมร์ นักบวชชาวชีอะห์ เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ฐานควบคุมกองกำลังอยู่เบื้องหลังการประท้วงดังกล่าว
สำนักข่าว ซาอุดี เพรส เอเจนซี (เอสพีเอ) รายงานว่า ศาลพิเศษในกรุงริยาดได้ออกคำตัดสินชี้ขาดครั้งล่าสุดนี้ “เพื่อไม่ให้คนอื่นเอาเป็นเยี่ยงอย่าง” ขณะที่บุคคลที่สามถูกจำคุกนาน 12 ปี
เอสพีเอไม่ได้ระบุชื่อผู้ต้องหา ซึ่งถูกตั้งข้อกล่าวหาต่างๆ รวมถึง “มีส่วนร่วมในการชุมนุมและการเดินขบวนที่ก่อให้เกิดเหตุจลาจล” ที่ชุมชนอวามิยาในจังหวัดทางตะวันออกของประเทศ
พวกเขายังถูกตั้งข้อหาฐาน “ป่าวร้องสโลแกนที่เป็นปฏิปักษ์ต่อรัฐด้วยเจตนาทำลายความมั่นคงและล้มล้างระบอบปกครอง , ” โจมตีกองกำลังความมั่นคง , และขโมยอุปกรณ์ทางการแพทย์จากร้านขายยาเพื่อนำไปรักษาผู้บาดเจ็บระหว่างการประท้วง
ก่อนหน้านี้ มีประชาชน 2 คนถูกตัดสินประหารชีวิตในเดือนมิถุนายนฐาน “มีส่วนในการจัดตั้งกลุ่มก่อการร้าย” และความผิดอื่นๆ ที่เกี่ยวโยงกับการประท้วงของชาวชีอะห์ ขณะที่อีกหลายคนรับโทษจำคุกนานหลายปี
ชาวชีอะห์ประมาณ 2 ล้านคนของซาอุดีอาระเบียส่วนใหญ่อาศัยอยู่ในภาคตะวันออก ซึ่งเป็นที่กักเก็บแหล่งสำรองน้ำมันส่วนใหญ่ของราชอาณาจักรอันมั่งคั่งแห่งนี้ แต่ชาวชีอะห์จำนวนมากกลับโอดครวญถึงการถูกละเลยความสำคัญในราชอาณาจักรที่ปกครองโดยชาวสุหนีแห่งนี้
พวกเขาเริ่มต้นการประท้วงในเดือนกุมภาพันธ์ปี 2011 หลังจากความรุนแรงระหว่างผู้แสวงบุญชาวชีอะห์และตำรวจศาสนาปะทุขึ้นในเมืองเมดินา เมืองศักดิ์สิทธิ์ของชาวมุสลิมในภาคตะวันตกของซาอุดีอาระเบีย
การประท้วงบานปลายขยายวงยิ่งขึ้น หลังจากการแทรกแซงของราชอาณาจักรแห่งนี้ต่อเพื่อนบ้านอย่างบาห์เรนเพื่อสนับสนุนระบอบกษัตริย์สุหนีเกิดขัดแย้งกับการปฏิวัติที่นำโดยชาวชีอะห์ซึ่งเป็นประชากรส่วนใหญ่
องค์การนิรโทษกรรมสากล หรือ แอสเนสตี อินเตอร์เนชันแนล รายงานว่า ผู้ที่ถูกจับกุมในซาอุดีอาระเบียมีจำนวนหลายร้อยคน
ความตึงเครียดยิ่งเพิ่มสูงขึ้นในเดือนกรกฎาคมปี 2012 หลังจากกองกำลังความมั่นคงจับกุม นิมร์ ชายเคราหงอกที่ถูกยิงและได้รับบาดเจ็บ
หลังจากการตัดสินลงโทษชีคผู้นี้เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ครอบครัวของเขากล่าวหาศาลว่ามองข้าม “วิถีทางที่สันติและปราศจากความรุนแรง” ของเขา พร้อมระบุว่า คดีนี้ได้จุดชนวน “ความไม่พึงพอใจทางการเมืองและสังคม” ขึ้นมาแล้ว
http://manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9570000121828
ชีอะห์ และ สุหนี่ ใน ซาอุดิอาระเบีย
เอเอฟพี – ศาลซาอุดีอาระเบียตัดสันโทษประหารชีวิตประชาชนอีก 2 คนฐานมีส่วนเกี่ยวข้องกับการประท้วงของชาวชีอะห์ที่ปะทุขึ้นเมื่อ 3 ปีที่แล้ว สื่อทางการรายงาน
การพิพากษาลงโทษครั้งล่าสุดนี้มีขึ้นภายหลัง การตัดสินประหารชีวิต นิมร์ อัล-นิมร์ นักบวชชาวชีอะห์ เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ฐานควบคุมกองกำลังอยู่เบื้องหลังการประท้วงดังกล่าว
สำนักข่าว ซาอุดี เพรส เอเจนซี (เอสพีเอ) รายงานว่า ศาลพิเศษในกรุงริยาดได้ออกคำตัดสินชี้ขาดครั้งล่าสุดนี้ “เพื่อไม่ให้คนอื่นเอาเป็นเยี่ยงอย่าง” ขณะที่บุคคลที่สามถูกจำคุกนาน 12 ปี
เอสพีเอไม่ได้ระบุชื่อผู้ต้องหา ซึ่งถูกตั้งข้อกล่าวหาต่างๆ รวมถึง “มีส่วนร่วมในการชุมนุมและการเดินขบวนที่ก่อให้เกิดเหตุจลาจล” ที่ชุมชนอวามิยาในจังหวัดทางตะวันออกของประเทศ
พวกเขายังถูกตั้งข้อหาฐาน “ป่าวร้องสโลแกนที่เป็นปฏิปักษ์ต่อรัฐด้วยเจตนาทำลายความมั่นคงและล้มล้างระบอบปกครอง , ” โจมตีกองกำลังความมั่นคง , และขโมยอุปกรณ์ทางการแพทย์จากร้านขายยาเพื่อนำไปรักษาผู้บาดเจ็บระหว่างการประท้วง
ก่อนหน้านี้ มีประชาชน 2 คนถูกตัดสินประหารชีวิตในเดือนมิถุนายนฐาน “มีส่วนในการจัดตั้งกลุ่มก่อการร้าย” และความผิดอื่นๆ ที่เกี่ยวโยงกับการประท้วงของชาวชีอะห์ ขณะที่อีกหลายคนรับโทษจำคุกนานหลายปี
ชาวชีอะห์ประมาณ 2 ล้านคนของซาอุดีอาระเบียส่วนใหญ่อาศัยอยู่ในภาคตะวันออก ซึ่งเป็นที่กักเก็บแหล่งสำรองน้ำมันส่วนใหญ่ของราชอาณาจักรอันมั่งคั่งแห่งนี้ แต่ชาวชีอะห์จำนวนมากกลับโอดครวญถึงการถูกละเลยความสำคัญในราชอาณาจักรที่ปกครองโดยชาวสุหนีแห่งนี้
พวกเขาเริ่มต้นการประท้วงในเดือนกุมภาพันธ์ปี 2011 หลังจากความรุนแรงระหว่างผู้แสวงบุญชาวชีอะห์และตำรวจศาสนาปะทุขึ้นในเมืองเมดินา เมืองศักดิ์สิทธิ์ของชาวมุสลิมในภาคตะวันตกของซาอุดีอาระเบีย
การประท้วงบานปลายขยายวงยิ่งขึ้น หลังจากการแทรกแซงของราชอาณาจักรแห่งนี้ต่อเพื่อนบ้านอย่างบาห์เรนเพื่อสนับสนุนระบอบกษัตริย์สุหนีเกิดขัดแย้งกับการปฏิวัติที่นำโดยชาวชีอะห์ซึ่งเป็นประชากรส่วนใหญ่
องค์การนิรโทษกรรมสากล หรือ แอสเนสตี อินเตอร์เนชันแนล รายงานว่า ผู้ที่ถูกจับกุมในซาอุดีอาระเบียมีจำนวนหลายร้อยคน
ความตึงเครียดยิ่งเพิ่มสูงขึ้นในเดือนกรกฎาคมปี 2012 หลังจากกองกำลังความมั่นคงจับกุม นิมร์ ชายเคราหงอกที่ถูกยิงและได้รับบาดเจ็บ
หลังจากการตัดสินลงโทษชีคผู้นี้เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ครอบครัวของเขากล่าวหาศาลว่ามองข้าม “วิถีทางที่สันติและปราศจากความรุนแรง” ของเขา พร้อมระบุว่า คดีนี้ได้จุดชนวน “ความไม่พึงพอใจทางการเมืองและสังคม” ขึ้นมาแล้ว
http://manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9570000121828