ประสบการณ์การได้รับบริการจาก WE Fitness สาขาเอสพลานาด รัชดา

กระทู้สนทนา
วันนี้  เราตัดสินใจที่จะเล่าเรื่องราวที่เจอ จากการไปใช้บริการที่ WE  fitness สาขาเอสพลานาด รัชดา  ทั้งนี้ต้องบอกก่อนว่า เราไม่ได้มีความต้องการจะทำให้ฟิตเนสแห่งนี้เสียชื่อเสียงด้วยเจตนา  แต่เราอยากให้เกิดการปรับปรุงเพื่อการบริการที่ดีขึ้น  พร้อมกับเป็นอุทาหรณ์ให้คนที่จะสมัครมีความละเอียดรอบคอบก่อนตัดสินใจค่ะ   หากกระทบกระทั่ง หรือ  ทำให้ใครรู้สึกระคายใจ  ต้องบอกว่า  สิ่งที่เราเจอก็ระคายใจเราไม่แพ้คุณเช่นกัน


เราตัดสินใจสมัครสมาชิกแบบรายปี  ที่นี่ ไปเมื่อวันเสาร์ที่ 18 ตุลาคม 2557  ต้องบอกก่อนว่าก่อนหน้านี้มีเซลล์ติดต่อเรามา ตั้งแต่ไปเดินเล่นที่เอสพลานาด รัชดา โดยเราให้เบอร์เค้าไป  แต่เรายังไม่ต้ดสินใจ   เพราะเรามีสิทธิ์ เมืองไทย สไมล์ คลับ ที่บอกว่าเราจะเล่นได้ ฟรีในเดือนเกิด 1 เดือน  เลยกะจะมาลองเล่นเดือนเกิดก่อนแล้วค่อย ใช้สิทธิ์ลด 50 % ในการสมัครรายปี

ทีนี้ในช่วงก่อนวันไปสมัคร  เราก็ได้รับแมสเสจมาว่า สมัครภายในวันเสาร์ที่ 18  ตุลา 57  จะได้รับสิทธิ์ที่พักโรงแรม มาราเกรซ หัวหิน 1 คืน  บวกกับ ได้เพิ่มสมาชิกอีก 1 เดือน   แต่เราก็ยังไม่ได้สนใจอะไร เพราะเพิ่งหายป่วย  แต่พอดีเซลล์คนเดิม โทรมาหาเราในวันที่ 17  ตุลาคม  ( ก่อนหน้านี้ก็โทรมา แต่เราไม่สบาย  เพื่อนเรารับสายแทน เห็นเพื่อนบอกไว้ว่ามีเซลล์โทรมาหา  )  เค้าบอกว่า ให้เราเข้ามาวันที่ 18  นี้ เพื่อทดลองเล่น ไม่สมัครไม่เป็นไร

เราเลยถามไปว่า เราได้รับแมสเสจมาว่า สมัครแล้วได้สิทธิต่างๆ ตรงนี้เราสามารถใช้พ่วงกับบัตรเมืองไทยสไมล์คลับได้ไหม ในการลดราคา   เซลล์คนนั้นบอกเค้าจะไปขอจากหัวหน้าเก็บสิทธิ์ให้เรา  ขอให้เรามาวันที่ 18 นี้ก่อน แล้วค่อยตัดสินใจ มาคุยกันก่อน และมาลองเล่น


พอไปถึงฟิตเนส  เซลล์ก็มาคุยกับเรา  สรุปข้อตกลง ว่าจะให้เราสมัครแบบลด 50%  ได้  และได้แถมพี่พักโรงแรมมาราเกซ 1 คืน  เราถามต่อว่า  จริงๆ เราอยากใช้สิทธิ์เล่นเดือนเกิดที่จะมาถึง (เราเกิดธันวาคม)  แล้วค่อยมาใช้สิทธิ์สมัครดีกว่า  ขอคิดก่อนนะว่าจะเอาไง  เพราะจริงๆ เราก็อยากมาลองใช้บริการก่อนว่าเราชอบแค่ไหน  การที่เราสมัครแบบลด  50%  ต้องจ่ายเงินก้อน  เราเสียดายเงิน อยากเอาไปใช้ลงทุนอย่างอื่นมากกว่า ก็เลยขอเวลาคิด บอกว่า  ขอออกไปเดินเล่นข้างนอกแล้วจะกลับมา น่าจะดีกว่า ตัดสินใจ ณ จุดขาย  

ทีนี้เซลล์ คนเดิม บอกว่า  อย่าออกไปเลย  นั่งตัดสินใจ ตรงนี้ก็ได้  เดี๋ยวเค้าจะไปยืนรอที่อื่น  เราก็ถามเขาต่อว่า เราเสียดายสิทธิ์เล่นฟรีเดือนเกิดนะ อยากสมัครสมาชิกปีหน้า แล้วเก็บสิทธิ์ให้เราได้ไหม   เซลล์บอกว่า ไม่ได้ สิทธ์ของเมืองไทยสไมล์คลับต้องเลือกอย่างใด อย่างหนึ่ง ว่าจะเล่นฟรีเดือนเกิด  หรือจะลดค่าสมาชิก 50% เท่านั้น   แล้วก็ยื่นข้อเสนอว่า  เอาเป็นว่าจะเพิ่มสิทธิ์ให้เราอีก 1 เดือน  บวกกับให้เพื่อนเรามาเล่นได้ 1 เดือน    

ด้วยความที่เราเชื่อเซลล์ที่ยืนยันแบบนั้น โดยไม่ได้โทรไปถามทางเมืองไทย สไมล์คลับ  และประกอบกับเราคิดว่า อยากสมัครฟิตเนสใกล้ๆบ้าน ก็เลย จ่ายเงินด้วยบัตรเครดิตไป โดยที่เซลล์ที่นั่นก็ไม่ให้ใช้การผ่อน 0%  6 เดือน  เนื่องจาก  เราได้สิทธิ์ลดราคาแล้ว ต้องจ่ายเต็มจำนวน  เราก็๋โอเคไม่มีปัญหา เพราะถือว่า  แฟร์ๆ ไป  

ทีนี้  พอจ่ายตังค์เสร็จ เซลล์เอาของแถมมาให้  ก็จะมีกระเป๋า  ผ้าขนหนู เสื้อยืด และบัตรเล่นฟรี 1 เดือนของเพื่อน  เราก็รับมา พร้อมใบเสร็จ  ทีนี้เราไม่ได้ตรวจสอบว่า  เราได้บัตรที่พักโรงแรมหรือยัง ก็เดินไปเข้าห้องน้ำ  ทีนี้เกิดเอะใจ  ตรวจสอบเอกสาร  สรุปเซลล์ไม่ได้ให้บัตรที่พัก  เราก็เลยเดินกลับไปบอก

ตอนแรกเซลล์คนนั้นก็ทำหน้า งง  บอกว่าให้ไปแล้ว  เรายืนยันว่าไม่มีนะ  เราเ็นรับของมาก็จริงแต่เรายังไม่ได้   เธอก็เลยเดินไปค้น  สรุปบอกว่า ทำหล่นที่ห้องบัญชี   ก็โอเค  คนเราผิดพลาดกันได้ ไม่ว่าอะไร  เราก็ถามต่อว่า  แล้วเราต้องทำอะไรยังไง ต้องแจ้งอะไรกับโรงแรมไหม  เซลล์บอกเราต้องลงทะเบียนรับสิทธิ์ที่พักกับทางโรงแรม ภายใน 31 ตุลาคมนี้   ก็โอเค  จบไป

พอวันอาทิตย์ ที่ 19  ตุลาคม  เรากับเพื่อนก็ไปใช้บริการที่คลับ    อันดับแรกที่เพื่อนเราไม่ประทับใจก็คือ  เพื่อนเราสอบถามรายละเอียดเรื่องบัตรผ่าน 1 เดือน ว่าเป็นเช่นไร  รีเซฟชันด้านหน้าก็ตอบแบบเหมือนไม่สนใจว่า  "ก็ต้องแลกบัตรประชาชนน่ะค่ะ แต่ต้องลงทะเบียนก่อน"   ด้วยความที่เซลล์ไม่ได้บอกว่าต้องลงทะเบียนที่ไหน อย่างไร  เพื่อนเราก็ถามว่า ต้องลงทะเบียนยังไง  สักพัก  รีเซฟชั่นก็ยื่นเอกสารมาให้บอกว่าลงที่นี่ค่ะ  แบบถามคำตอบคำ เหมือนไม่เต็มใจบริการ  แต่เพื่อนเราก็ไม่อยากคิดมาก  ก็เลยลงๆ ไป  จากนั้นก็แลกบัตรประชาชน กับสายรัดข้อมือที่เป็นกุญแจล็อกเกอร์

ส่วนเราก็ งงๆ  เรื่องบัตรสมาชิก เพราะยังไม่ได้  และไม่มีใครบอกเรา  เราก็เลยถามจากรีเซฟชั่นว่าแล้วพี่สมัครสมาชิกไปแล้วต้องได้รับบัตรยังไง เมื่อไร  รีเซฟชั่นก็ตอบแบบถามคำตอบคำว่า  "ตอนนี้สายรัดข้อมือสมาชิกยังไม่มีค่ะ ต้องแลกบัตรประชาชนก่อน"  เราก็ไม่อยากอะไรมากเลยแลกบัตรไปพร้อมรับสายข้อมือมา  

พอเล่นเสร็จ อาบน้ำจะกลับบ้าน  ด้วยความที่เราเพิ่งป็นสมาชิกก็อยากรู้รายละเอียดเรื่องการใช้สิทธิ์  พอดีเราจำเบอร์เซลล์ไม่ได้  เพราะจดให้ในแฟ้มใบสัญญา  เราเลยแวะถามรีเซฟชั่นก่อนกลับบ้าน ว่า  เมื่อวานเพิ่งสมัครสมาชิก  เห็นเซลล์บอกว่า มีค่าธรรมเนียม วี อินสไปร์  ใช้ในการเทรนส่วนตัว 3 ครั้ง  เห็นว่าได้รับสิทธิ์เงินคืน เอาไปใช้ทำอะไรได้บ้าง   เพราะเซลล์บอกไม่ละเอียด   รีเซฟชั่นท่านนั้นมองหน้าแบบไม่ยิ้ม พูดกลับมาว่า  "ผมไม่ทราบครับ ต้องไปถามเซลล์ที่คุณสมัครเอง "  เราก็เลยรู้สึกแบบว่า เออ  ตอบไม่ได้ก็ไม่ผิดนะ  แต่ท่าทางที่แสดงเหมือนกับเราไปขอเค้าเล่นฟิตเนสฟรีเลย งงๆ น่ะ เซ็งๆ ด้วยเจอแบบนี้  

บอกก่อนว่า เราก็ยังไม่ได้คิดอะไรมากไปกว่านั้น  จนกระทั่งวันจันทร์ที่ 20  ตุลาคม 57  เราตัดสินใจลองโทรไปลงทะเบียนกับโรงแรมมาราเกซ  ตามที่เซลล์บอกว่าต้องลงทะเบียนจอง   เราก็โทรไปถามพนักงาน รับสายเป็นผู้ชายพูดจาแบบเหวี่ยงๆ เหมือนไม่อยากคุย  เราก็ใจเย็นอธิบายว่า  เราได้รับบัตรจาก วี ฟิตเนสมา   เค้าบอกต้องมาลงทะเบียนกับที่มาราเกซ ภายใน 31  ตุลานี้   ขอให้ช่วยดำเนินการให้ด้วย   แต่ช็อคกับคำตอบที่ได้รับแบบเหวี่ยงๆ ว่า  " แล้วคุณได้รับบัตรมา แบบไหน  แล้วคุณได้บัตรมาแล้วหรือบัตรเป็นยังไง คุณก็ต้องให้ทางฟิตเนสจัดการ  หรือคุณก็ลงทะเบียนจองวันเวลาไปสิ แล้วก็ส่งมาทางเรา" คือตอบแบบเหวี่ยงมาก  เรานี่คิดเลยนะว่า  นี่คือการบริการจากโรงแรมนี้จริงๆ หรือ   ขนาดพ่อค้า แม่ค้าขายของข้างทางยังบริการลูกค้าดีกว่า พนักงานรับสายคนนี้อีกนะ

เรารู้สึกปรี๊ดมาก  เลยตอบกลับไปว่า  "เซลล์ของดิฉัน เค้าบอกให้โทรมาทางนี้  เค้าไม่ได้ให้รายละเอียดอะไรไว้  ถ้าคุณจะตอบคำถามดิฉันแบบนี้อีก  ก็ไม่ต้องคุยกัน  ดิฉันจัดการเองได้ "   วางสายด้วยความโมโห ว่า นี่เวรกรรมอะไรต้องมาเจอบริการแย่ๆ ซ้ำซ้อนขนาดนี้

จากนั้นเราเลยโทรเข้า วี ฟิตเนส  รัชดา  ขอสายเซลล์คนนั้น ทันที   สรุป เธอไม่อยู่  ก็เลยฝากบอกไปว่า ให้โทรหาดิฉันด้วยที่เบอร์   xxxxxxxxxxx

สักพัก เซลล์โทรมา  เราเลยบอกว่า  ตกลงจะให้ลงทะเบียนโรงแรมยังไง  โทรไป เค้าก็โบ้ยมาทางฟิตเนส  เซลล์ก็พูดไม่รู้เรื่อง บอกจริงๆ เค้าก็ลงให้นะคะ  โน่นนี่นั่น   เราก็ถามต่อว่า  แล้วตกลงเรื่องบัตรสมาชิกต้องได้เมือ่ไรยังไง นางก็บอกว่า  ต้องไปจัดการถ่ายรูปที่หน้ารีเซฟชั่น  อ้าวพี่ยังไม่ได้ทำหรือคะ  (ก็จะทำได้ไง เธอไม่บอกชั้นนี่ แล้วรีเซฟชั่นที่ไปถามเมื่อวานก็ไม่รู้เรื่องอีก )  เราเลยบอกว่า  เห็นว่ามันเป็นสายรัดข้อมือใช่ไหม  ต้องมีบัตรอีกหรือ  

นางก็บอกว่า  ไม่ใช่ค่ะ ไม่มีบัตรที่นี่บัตรเป็นสายรัดข้อมือ  คือพูดวกไปวนมา น่าสับสน แต่สรุปได้ว่า ยังไม่มีใครจัดการเรื่องนี้ให้เรา   เราเลยบอกว่า  เราไม่โอเคกับสิ่งที่เจอนะ  เราว่ามันแปลกๆ เราว่าเรายกเลิกสมาชิกดีกว่านะ  ต้องทำไงบ้าง

เซลล์รีบบอกว่า  เดี๋ยวจะรีบจัดการให้เลยค่ะ จะรีบโทรประสานให้กับทางมาราเกซ  จะรีบทำเรื่องให้เรื่องถ่ายรูปสมาชิก  พี่มาเย็นนี้จะรีบจัดการให้เลย  (มะวานขายเสร็จ ไม่เห็นจัดการเลยเนอะ)

เราเลยบอกว่า เดี่ยวเราคิดดูอีกทีนะ  ว่าจะเอาไง ถ้าจะยกเลิกนี่ต้องยังไงบ้าง  นางก็บอกไม่อยากให้เป็นแบบนั้น แต่ถ้าจะยกเลิกก็ต้องเอาของที่ได้มาคืนทั้งหมด  (เออ  เอาไปเหอะ ไม่อยากได้)    แต่ตอนนี้เราไม่อยากคุยแล้ว  ไม่อยากปรี๊ดใส่ใคร  มันไม่ดี  จากนั้นก็วางสายไป ไม่อยากคุยจริงๆ

สักพักเพื่อนเราโทรมาหาเรา บอกว่า เซลล์คนนี้โทรไปหาเค้า  บอกว่า  จัดการเรื่องโรงแรมแล้ว  แล้วแก้ตัวว่า  พนักงานที่รับสายที่โรงแรมเป็นพนักงานใหม่ ไม่รู้เรื่อง  แต่จะจัดการเรื่องให้เรา .....เฮ้ออออ  ให้มันได้อย่างนี้สินะ  

ใจเราตอนนั้น  คิดว่าอยากยกเลิกสมาชิกในตอนนี้ไปก่อน  เพราะเสียความรู้สึกไปแล้ว  ก็เลยลองโทรไปถาม เมืองไทย สไมล์คลับว่า จะขอคืนสิทธิ์  ลดราคา 50%  กลับมาได้ไหม เพราะกะยกเลิกสมาชิกฟิตเนส ไม่เอาแล้วตอนนี้   เจ้าหน้าที่เมืองไทย สไมล์คลับ เลยเช็ครายละเอียดให้ว่า  ตรงนี้ไม่ได้ใช้คะแนนเแลก แต่เป็นการให้สิทธิ์แก่สมาชิกเมืองไทยสไมล์คลับ  ที่ต้องตกลงกับทางฟิตเนสเองว่า หากยกเลิกครั้งนี้ จะไปใช้โอกาสหน้าได้อีกไหม   และพอเช็ครายละเอียดจากเมืองไทย สไมล์คลับก็ได้ความว่า  อันที่จริง เรามีสิทธิ์ เล่นฟิตเนสฟรี เดือนเกิด  , มีสิทธิ์ลดค่าสมัคร 50%  และมีสิทธิ์เล่นฟรีในเดือนที่ระเบียบกำหนดไว้อีก 1 เดือน   โดยทั้งสามสิทธิ์นี้ใช้ได้หมด ไม่ใช่ต้องเลือกอย่างใดอย่างหนึ่งเหมือนที่เซลล์คนนั้นบอก

เท่านั้นแหละ จากที่เราไม่ได้อะไรกะเซลล์เท่าไรนะ  เรารู้สึกแย่กับนางเลย เพราะนางโกหกแต่ต้นว่า  ต้องเลือก ใช้สิทธิ์ได้แค่อย่างเดียว  เราตัดสินใจทันทีเลยว่าจะยกเลิกสมาชิกที่วี ฟิตเนส   พร้อมกันนี้เราก็ร้องเรียนกับทางเมืองไทย สไมล์คลับเลยว่า  เราได้รับข้อมูลไม่ตรงความจริง บิดเบือน ขอแจ้งเรือ่งนี้ไว้เป็นบทเรียน


ผ่านไปสักพัก  มีพนักงานจาก วี ฟิตเนส โทรมาหาเราจากสำนักงานใหญ่ ชื่อ  พนิกตา   โทรมาถามเรื่องจากเรา  ตอนแรกเหมือนจะช่วยจัดการให้ แต่พอคุยไปๆ  เหมือนไม่ใส่ใจความรู้สึกในสิ่งที่เราเจอ  เรากำลังเสียความรู้สึกมากๆ แต่พอรับรู้เรื่องไปก็พูดแค่ว่า ไม่น่าเป็นอย่างนี้เลย โน่นนี่นั่น แล้วอีกอย่างคือ ไม่มีคนบอกคุณหรือว่า คุณสามารถใช้สิทธิ์เดือนเกิดและเดือนพิเศษของสไมล์คลับ ได้โดยชดเชยเป็นเดือนที่เพิ่มขึ้นในการเป็นสมาชิก  

เราบอกว่าไม่เคยมีใครบอกเราเรื่องนี้  คนชื่อพนิกตา ก็ยืนยันว่า  เรื่องนี้นึกว่าเรารู้แล้ว  ตลกระ  ถ้ารู้จะร้องเรียนกับเมืองไทย สไมล์คลับ เหรอ  จะมาพูดแก้ตัวตอนนี้ เพื่อ?

เราเลยถามว่า  "โทรมาเพื่อจะมาถามข้อมูลแค่นี้ใช่ไหมคะ"  นางเลยตอบว่า  ใช่ค่ะและจริงๆ ก็อยากชดเชยให้  แต่เห็นคุณเสียความรู้สึกขนาดนี้ก็ไม่รู้จะทำยังไง  "   เออ  พูดดีเนอะ  หึหึ

เราก็บอกไปว่า  วันนี้เราจะไปยกเลิกสมาชิก  ยังไงโทรประสานให้ด้วย  เราถามว่า  คุณอยู่ในตำแหน่งใด  เค้าบอกว่า เป็นผ่าย customer  service   เราคิดเลยนะว่า  ดูแลลูกค้าได้แค่นี้จริงๆ เนอะ  กล้ามาถาม "จะให้ชดเชยอะไร เห็นคุณเสียความรู้สึกขนาดนี้ เลยไม่รู้จะทำไง"  ปัญญาอ่อนไปนะ

ตอนเย็นเราไปถึงเอสพลานาด  รัชดา  เราโทรหาเซลล์ เอ้อ  ลืม บอกไป เซลล์ ชื่อ  "พร"   เราบอกว่า เรามาถึงแล้ว รอที่แมคโดนัล  ขอคุยด้วยนิดนึง  (เราอยากคุยกับนางเรื่องที่  ทำไมนางต้องโกหก  เพราะจริงๆ  เราไม่ได้อะไรกะนางแม้จะบริการไม่ดี  แต่เราไม่ชอบให้มาโกหกแบบนั้น)  นางบอกให้มาหาที่ฟิตเนส  เราเลยบอกว่า เราไม่ไปนะ จะรอที่นี่มีเรื่องอยากคุย  คุยเสร็จเราจะไปที่คลับแน่นอน  นางบอก  โอเคจะมา

สักแป๊ป นางโทรมา บอกว่า  นางติดลูกค้า ให้เราไปที่คลับได้เลยไปหาฝ่ายโอเปอเรชัน  นี่ไงกะโยนกลองละ  ทำอะไรผิดไม่เคยคิดรับ  เราเลยพูดประชดไปว่า ถ้ามายากนัก เราจะโทรไปยกเลิกสัญญากะหัวหน้านางเอง ( นี่พูดต่อว่าประชดนะ)  เชื่อไหม เซลล์ที่ชื่อพร ตอบว่า   "ได้ค่ะ"   เออ  ตอนจะดึงไปเป็นสมาชิกนี่ โทรมาจิก ขนาดอยู่โรงพยาบาล ป่วยอยู่ยังโทรมา  แต่พอจะยกเลิกนี่ รีบโยนเรื่อง  ดีเน
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่