เรื่องเล่า จากโรงเรียนชุมพล ทหารเรือ (ภาคสาธารณะ)

กระทู้สนทนา
สวัสดีครับ พี่น้องชาวหว้ากอและสมาชิกพันทิปทุกๆท่าน ผมยืมล๊อกอินของคุณแฟนมาตั้งกระทู้ เพราะได้แรงบันดาลใจจากกระทู้ http://ppantip.com/topic/32724355  มีกระทู้ของฝั่ง ทบ.แล้ว ก็อยากให้มีกระทู้ของฝั่ง ทร.มาเล่าเรื่องราว และแบ่งปัน ความรู้การฝึกและการใช้ชีวิตของ นักเรียนจ่าทหารเรือ ในกระทู้นี้ขอเล่าเรื่องราวของ จขกท.ตั้งแต่อดีต ล้อมวงเข้ามาครับ จะเล่าแล้วนะ...
      เรียกผมว่า ดำ แล้วกันนะครับ ผมจบ มัธยมปลายจากโรงเรียนประจำอำเภอแห่งหนึ่งในภาคอีสานตอนข้าง(ข้างจริงๆครับ) ประสบการณ์ในการสอบเข้าโรงเรียนทหาร ก็พอมีบ้าง ตั้งแต่จบ.มัธยม 3 ก็เข้ามาสอบเข้าโรงเรียนช่างฝีมือทหาร น่าจะรู้จักกันดี สอบ 2 ครั้ง ตอนจบ ม.3 พอ ม.4 ก็ยังมีสิทธิ์สอบ เลยมาสอบอีก ปรากฎว่าแห้ว ทั้ง 2 ครั้งครับ ตอนนั้นไม่รู้สึกเสียใจสักเท่าไหร่ เพราะคิดว่านี่คือการสอบแข่งขันที่เป็นการแข่งขัน จากนักเรียนหลายๆคน จากทั่วประเทศ การสอบเข้าโรงเรียนทหาร ไม่ใช่เรื่องง่าย คำของพ่อลอยมาเข้าหู เมื่อรู้ว่าลูกชายสอบไม่ติด เอาใหม่นะลูก จบ ม.6 เราค่อยมาตามฝันของพ่อแล้วกัน คำของพ่อดูดีเสมอ ทำให้ลูกคลายความกังวลไปได้ แต่ลึกๆแล้วรู้ว่าพ่อหวังไว้กับลูกคนนี้พอสมควร เพราะพ่อเป็น พลทหารมาก่อน สมัยพ่อเป็นพลทหาร ได้ไปปราบ ผกค.ที่สกลนคร ได้เหรียญทหารผ่านศึกมาด้วย ตรงจุดนี้ผมได้คะแนนเป็นลูกทหารผ่านศึก แต่จำไม่ได้ว่าได้กี่เปอร์เซนต์ ทำให้พ่ออยากให้ลูกชายคนนี้เป็นทหารเหมือนพ่อ...
      จบ.ม6 ในปี 253x ตัดมาที่สนามสอบเข้านักเรียนจ่าทหารเรือ ณ.อาคารเวียงผา มหาวิทยาลัยรามคำแหง หมายเลขสอบประจำตัวของผมคือ 04413 บรรยากาศการสอบเงียบเชียบ เหมือนไม่มีแรงกดดันเกิดขึ้น แต่ลึกๆแล้วกดดันอย่างมหาศาล ในยุคการสอบของผมนั้น มีการเลือกเหล่าก่อนสอบ จำได้คร่าวๆว่า กระผมเองเลือก เหล่าสื่อสารเป็น 4 อันดับแรก วิทยุ เรดาห์ โซน่าร์ ทัศณสัญญาณ เพราะได้คำแนะนำจากพี่ชายที่เป็นลูกพี่ลูกน้องเป็นรุ่นพี่ที่สอบได้ก่อนให้เลือก 4 เหล่านี้ก่อน เหล่าที่ 5 เลือก เหล่าแพทย์ เหล่าที่ 6 เหล่ากลินช่างเครื่องบิน เหล่าที่ 7 เหล่าอิเลกทรอนิกส์ 8-10 จำได้คร่าวๆว่าได้เลือก เหล่า นาวิกโยธินเป็น 1 ในนั้นแน่นอน
      ก่อนที่จะมาสอบ นักเรียนจ่าทหารเรือ ก่อนหน้านั้น 1 อาทิตย์ ผมได้สอบเข้านักเรียนนายสิบเหมือนกัน แต่ขอข้ามในเรื่องราวนั้นนะครับ เพราะหลังจากนั้นอีกประมาณ 2 อาทิตย์ ผลสอบของนักเรียนนายสิบนั้น ผมสอบไม่ติดรอบแรก มารู้ทีหลังว่าปีนั้นเขาเอาพลทหารสมัครต่อที่ลงสอบเกือบ 70% (เขาเล่ามาอีกครั้งนะครับ จริงเท็จผมไม่ทราบ) แต่หลังจากทราบผลของนายสิบแล้วผมไม่ติด พ่อผมถึงกะส่ายหน้า เพราะเหลือแค่ นักเรียนจ่าทหารเรือเท่านั้นที่ผมต้องทำให้ได้
      มาถึงวันที่ผมต้องไปฟังผลสอบ ณ.อาคารติณสูลานนท์ ในตัวเมืองโคราช น่าจะเป็นวันเสาร์ไม่ก็อาทิตย์นี่แหละ ผมเก็บบัตรประจำตัวสอบพร้อมค่ารถ เดินทางไป บขส.เพื่อไปฟังผลสอบ ในใจไม่อยากไปฟังผลเลยครับ เพราะอะไรเหรอ เพราะว่า การสอบนายสิบนั้น ผมยอมรับว่าข้อสอบง่ายมาก แต่ผมสอบไม่ติดครับ กลับกัน ข้อสอบของนักเรียนจ่า ยากในระดับนึง ตอนนั้นคิดว่ายากกว่านายสิบครับ เลยทำให้ไม่มั่นใจว่าจะสอบติดไหม เพราะตอนนั้นคิดอย่างเดียวเลยว่า นายสิบสอบง่ายไม่ติด นักเรียนจ่ายากกว่า ผมจะติดเหรอ เป็นการดูถูกตัวผมเองมากๆ ณ.ตอนนั้น แต่สุดท้ายผมไม่ได้ไปฟังผลสอบนะครับ เพราะความไม่มั่นใจนี่แหละ แต่ผมได้เพื่อนสาวที่จบจากโรงเรียนมัธยมเดียวกัน เขาจะไปฟังผลสอบเข้าราชภัฏโคราชพอดี เลยฝากหมายเลขประจำตัว พรต้อมเบอร์โทรบ้าน ให้เพื่อนสาวคนนี้ บอกว่าถ้าสอบติดให้โทรมา สอบไม่ติดไม่ต้องโทรนะ ผมนั่งอยู่ บขส. จนบ่ายแก่ๆ เดินทางกลับบ้าน พร้อมคำแรกที่บอกพ่อกับแม่ว่า "ผมสอบไม่ติด" แม่ไม่เท่าไหร่ แต่พ่อสิ แกเสียใจมากที่ผมสอบไม่ติด บ่นไปจนผมรู้สึกผิดที่ทำให้ฝันของพ่อไม่เป็นความจริง(ตอนนั้นเพื่อนสาวยังไม่โทรมาบอกนะครับ) จนเวลาล่วงมาเย็นพอสมควร เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น พี่สาวรับสาว ถามว่า ดำอยู่ไหมคะ บอกดำด้วยว่าสอบติดทหารเรือค่ะ แล้ววางสายไป คนในบ้านอึ้งกันหมด ผมเลยบอกความจริงพวกเขาไปว่า ไม่ได้ไปดูเอง ฝากเพื่อนไปให้ดู เพราะไม่มั่นใจ แต่อารมณ์ดีใจของพ่อ กลบความผิดของลูกคนนี้ซะสนิทเลย....
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่