สวัสดีครับ เพื่อนๆ ชาวพันทิพย์ทุกท่าน นี่เป็นกระทู้แรกของผมนะครับ ผมจะเล่าเรืองให้ฟังเกี่ยวกับการมาเรียนต่อที่ประเทศฝรั่งเศส จะทยอยเอาเรื่องเด็ดๆ มาเล่าให้ฟังนะครับ อาจจะย้อนหลังไปสักหน่อย เนื่องจากเพิ่งสมัครบัญชีผู้ใช้ของพันทิพผ่านไม่กี่วันนี่เองครับ เริ่มเลยนะครับ.......
ก่อนอื่นขอแนะนำตัวเองก่อนนะครับ ผมเรียนปริญญาโทอยู่ที่มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งที่มีชื่อเสียงในจังหวัดชลบุรี อายุผมก็ 20 กลางๆ มาทางปลายแล้วครับ หลักสูตรที่ผมเรียนเป็นหลักสูตรสองปริญญา (ที่ไทยกะที่ฝรั่งเศส) ซึ่งถึงกำหนดที่ผมจะต้องมาเรียนที่ฝรั่งเศสวันที่ 22 กันยายนที่ผ่านมานี่เอง แต่ด้วยความโชคดีบางประการที่ผมสอบติดภาค ข ของกระทรวงแห่งหนึ่ง ผมเลยต้องเลื่อนตั๋วมาสอบภาค ค ก่อน เพื่อรักษาสิทธิ์ของตนเอง นั่นหมายความว่าผมต้องบินตามมาที่ฝรั่งเศสคนเดียว โอ้วววววววว.......แต่คิดก็บอกได้เลยครับว่ามันจะสนุกและน่าตื่นเต้นขนาดไหน ผมเลยเลื่อนตั๋วมาบินวันที่ 8 ตุลาคม เวลาเที่ยงคืนและจะถึงฝรั่งเศสวันที่ 9 ตุลาคม เวลาประมาณ 14.30 ตามกำหนดการ พอวันที่ผมเดินทาง มีพ่อแม่และเพื่อนจากที่ทำงานรวมถึงเพื่อนที่เรียนปริญญาตรีด้วยกันมาส่งที่สนามบิน พอพ่อแม่มาส่งผมก้อรีบไปเชคอินทันที คุยร่ำลากับพ่อแม่สักพักแล้วให้ท่านกลับเลย เพราะกลัวว่าท่านอยู่นานแล้วอาจร้องไห้คิดถึงผมได้ หลังจากที่พ่อแม่กลับไปแล้วผมเลยลงไปคุยกับเพื่อนที่ทำงานที่สนามบิน คุยกันไปมาก็คุยกันเรื่องเช็คอิน ทำให้ผมนึกขึ้นได้ว่า ตายห่า ลืมเชคอิน through (จริงๆ ผมต้องเชคอิน through เพราะกระเป๋าผมหนัก 29 โล และการบินไทยสามารคเชคอิน through ให้กับ แอร์ฟรานได้เลย เนื่องจากมีคนแนะนำมาครับ ถ้าผมเชคอินอีกรอบที่ปารีสผมจะโดนน้ำหนักกระเป๋าเกิน เพราะแอร์ฟรานให้แค่ 23 กิโล) ซวยแล้วซิ ผมเลยไปแจ้งที่เค้าเตอร์ว่าผมเชคอินผิดรบกวนเชคอินให้ใหม่ได้ไหมครับ พนักงานแจ้งกลับมาว่า ไม่ได้แล้วค่ะ กระเป๋าน้องลงไปด้านล่างแล้วถ้าจะหากระเป๋าใช้เวลาประมาณ สองชั่วโมง น้องจะตกเครื่องได้นะคะ ให้น้องลงเครื่องที่ปารีสแล้วเชคอินใหม่แล้วกันค่ะ ผมเลยอ้อนวอนพี่เค้า แต่พี่เค้าก้อไม่ทำให้ เลยนั่งเซงตัวเองอยู่พักนึง อะไรว่ะ ยังไม่ทันได้บินเลย เกิดเรื่องซะแล้วตรู ผมนั่งคิดพักนึง นึกได้ว่ามีเพื่อนทำงานอยู่ศูนย์แก้ไขปัญหาการหลอกลวงและช่วยเหลือนักท่องเที่ยวสนามบินสุวรรณภูมิ (ชื่อหน่วยงานแบบเต็มนะครับ) ผมเลยไปปรึกษาเพื่อน เพื่อนก็น่ารักมากยินดีช่วย ผมเลยไปที่เค้าเตอร์เช็คอินใหม่ แต่ไปอีกเคาเตอร์นึงนะครับ เนื่องจากเคาเตอร์แรกผมบอกผมว่าทำไม่ได้ ผมเดินเข้าไป พี่ครับผมมีเรื่องให้พี่ช่วยหน่อยครับ พอดีว่าผมเชคอินผิด พี่ช่วยผมหน่อยได้ไหมครับ ผมต้องเชคอิน through เพื่อนผมก้พูดขึ้นมาเลย ช่วยหน่อยนะค่ะพี่พนักงาน พอดีว่าเป็นหลานปลัดในกระทรวง..........(กลายเป็นหลานปลัดไปโดยไม่รู้ตัวซะงั้น 555) ท่านฝากพวกหนูมาดูแล แต่หนูดูแลไม่ดีเอง น้องเค้าเลยพลาด รบกวนพี่ช่วยน้องเค้าด้วยนะค่ะ พนักงานได้ยินดังนั้นเลย ขอรายละเอียดต่างๆ นานา และสอบถามรายละเอียดกระเป๋า และบอกให้ผมรอสักครู่ ผ่านไปสักพักประมาณ 20 นาที พี่พนักงานบอกผมว่าเรียบร้อยแล้วค่ะ ผมดีใจมากเลย ยกมือไหว้พี่พนักงานใหญ่เลย และหันไปยิ้มให้กับพนักงานเคาเตอร์ข้างๆ ที่บอกผมตอนแรกว่าทำให้ไม่ได้ค่ะเล็กน้อย 555 สุดท้ายผมก็ขึ้นเครื่องตามเวลาพอเครื่องบินออกผมก็ว่าจะนอนหลับสักหน่อย แต่ แต่ แต่ เบาะข้างหลังเป็นคนแขกขาว คุยกันไม่หยุดไม่หย่อนเลย ไม่มีการเหนื่อยด้วย ผมทนไม่ไหวผมบอกพี่แอร์ว่า ผมขอย้ายที่นั่งได้ไหม ผมอยากนอนแต่นอนไม่ได้ พวกเขาคุยกันเสียงดังมาก พี่แอร์เลยหาที่ให้ผมใหม่ ซึ่งพี่แอร์การบินไทยคนนี้ผมบอกได้เลยว่าสวยมากกกก พี่เค้าเลยถามผมว่าไปทำไรฝรั่งเศสหรอค่ะ ผมบอกว่าไปเรียนครับ ไปคนเดียวด้วย ผมคงเหงาแย่ พี่เค้าบอกว่าไปคนเดียวหรอค่ะ แล้วนี่เดินทางไปยุโรปครั้งแรกเลยช่ายไหม ผมตอกว่า ใช่ครับ พี่เค้าบอก โห...น้องสุดยอดเลยค่ะ ขอให้เดินทางให้สนุกนะค่ะ ผมก็ยิ้มและนอนหลับ มาตื่นอีกที ใกล้จะถึงปารีสแล้ว ผมว่าการบินไทย โอเคเลยนะ ถึงแม้ราคาตั๋วจะแพงไปหน่อย แต่บริการผมได้ประทับใจมาก พอถึงสนามบินชาวเดอโกล ผมก็เดินผ่านประตู ตม ตามปกติ พอผ่านประตู ตม มาพนักงานที่เคาเตอร์ก็มองมาที่ผมพร้อมกับร้องเพลง โอปะ กัมนัลสไตล์ โอป โอป... ผมงงมาก สงสัยพี่เค้าคงนึกว่าผมเป็นคนเกาหลีมั้งครับ ผมเลยบอกเค้าไปว่า Excuse me I'm not Kerean. I'm come from Thailand. Can you see my passport ? พี่แกเลยยิ้มให้ผมแก้เขิน จริงๆ ผมจะเออ ออห่อหมกไปกับพี่เค้าก็ได้ แต่พอดีที่ผมภูมิใจกับความเป็นไทยของผมมากกว่าเลยตอบไปแบบนั้น และผมก็ต้องเปลี่ยนสถานีไปที่สถานี 2F ที่สนามบินชาวเดอโกล เป็นสนามบินที่ใหญ่มากกกกกกกก แยกเป็นบินภายในประเทศกับระหว่างประเทศ และผมก็หาอยู่นานมากกก จนเจอคนไทยคนนึงผมเลยไปขอความช่วยเหลือ พี่เค้าก็น่ารักมากครับ คงเป็นเพราะว่าเป็นคนไทยด้วยกันเลยช่วยเหลือกัน พี่เค้าพาผมจนหาเจอและพี่เค้าก็รีบจากไปทันที โดยที่ผมยังไม่ทันได้ถามชื่อเสียงเรียงนามของพี่เค้าเลย แต่พี่เค้าเตือนผมว่า ให้ระวังนะ ที่ฝรั่งเศสพวกมิจฉาชีพมันเยอะ ยิ่งคนเอเชียแบบเรา มันยิ่งเข้าหา เพราะมันรู้ว่าเราชอบพกเงินสดติดตัว ผมกลัวเลยทีนี้ เพราะรุ่นพี่ผม เค้ามาเรียนเมื่อปีที่แล้ว โดนกระชากกระเป๋าไปต่อหน้าต่อตาคนไทยหลายคน ผมยิ่งกลัวเป็นทวีคูณเลยตอนนั้น และในตัวผมติดเงินสดมา 1,700 ยูโร ถ้าคิดเป็นเงินไทยก็......เกือบแสนบาท โอ้ว ถ้าเกิดอะไรไม่ได้ขึ้นกับผม ผมคงหมดตูดแน่ๆ ผมเลยระวังตัวเป็นอย่างมาก ไม่คุยกับคนแปลกหน้าเลย พอมาถึงสถานี รอเวลาขึ้นเครื่อง ก็ดันหิว ว่าจะไปหาอะไรกินสักหน่อย แต่พอถึงร้านอาหาร แม่เจ้า.....ไม่มีภาษาอังกฤษเลย ทำไงละทีนี้ หิวด้วย ภาษาฝรั่งเศสที่เรียนก่อนมาก็มีน้อยนิดจะไปคุยกับใครเค้าได้ แต่ด้วยความหิวบวกกับบอกตัวเองไปว่า ต้องเอาตัวรอดนะ เลยเดินเข้าไปคุย บองชู ไอนีด ดิสเบอเกรอ์ แอนออเร้นจุยส์ ฮาวมัช นางก็ตอบกลับมาเป็นภาษาฝรั่งเศส อ้าว อิห่า สรุปกี่บาทนี่ ตาเลยมองไปที่หน้าจอ อ๋อ 6 ยูโร 70 เซน พอจ่ายตังเสรจ นึกในใจ อิห่า เบอเก้อไรของ
สามร้อยกว่าบาท กัดไปสามคำจะหมดแล้ว น้ำส้มอีก สองยูโร แปดสิบบาท ให้นางในคั้นมาถวายหรอ แพงมากกกกกก แต่ก็ต้องทนกินเพราะหิวมากกก กว่าเครื่องจะออกตั้งบ่างโมงแนะ (ลืมบอกไปว่าเมืองที่ผมไปเรียนคือ มองปริเย่นะครับ ต้องต่อเครื่องจากปารีสไปอีกประมาณชั่วโมงครึ่ง เพราะไม่มีสายการบินไหนบินตรงมาเมืองนี้) พอถึงเวลาขึ้นเครื่อง ได้นั่งท้ายเครื่องซะงั้น ติดห้องน้ำด้วย บนเครื่องมีแต่คนฝรั่งเศส มีเราเป็นเอเชียคนเดียวเอง แอร์ก็สำเนียงอังกฤษแบบฝรั่งเศส คุยด้วยกว่าจะรู้เรื่อง พอดีอยากเข้าห้องน้ำก่อนเครื่องจะขึ้น ถามนางไปว่า อีกนานไหมกว่าเครื่องจะขึ้น พอดีผมปวดฉี่ นางตอบกลับมาว่า อะไรไม่รู้ ฟังแล้วไม่เข้าใจ แต่ลงท้ายว่า เยส ยูแคน สงสัยได้มั้ง เลยไปเข้าห้องน้ำ พอเครื่องจะขึ้น แอร์ก็สาธิตวิธีการใช้อุปกร์ต่างๆ ตามสเตป ผมบอกได้เลยว่า แอร์ไทยทำได้สวยกว่าเยอะครับ จริงๆนะ พอเครื่องจะขึ้น ผมรู้สึกว่าเครื่องส่ายมาก ส่ายแบบนี่กรูอยู่ดรีมเวิลรึป่าวนี่ เวียนหัวเร็วไปนะ พอเครื่องขึ้นเสร็จ บอกได้เลยว่า บินได้น่ากลัวมาก ส่ายไปส่ายมา คิดว่าเล่นแม่งูเอ๋ยอยู่..... คิดในใจขอให้ถึงทีเถิด บอกได้เลยว่ากลัวมาก พอถึงเวลาอาหารว่าง แอร์คนเดิมเดินมาอีกละ นางถามว่า Would you mind coffee or tea ?ผมตอบไปว่า I don't like both . Can you offer me other drink? แล้วนางก็ตอบมายาวมาก ฟังไม่รู้เรื่องเลยว่ามีอะไรบ้าง เลยตอบนางไป I take orange juice นางคงงงเนอะ อิห่า กรูอธิบายยืดยาว แดรกน้ำส้ม 555 ผมเลยยิ้มให้นาง พร้อมกล่าว แมกซี่โบกู พอเครื่องลงที่เมืองมองปริเย่ ผมคิดในใจเวลาสนุกที่แท้จริงมาแล้ววววววววว แต่ผมมีแผนที่ติดมาด้วย ไม่ได้ทำเองนะครับ บัดดี้ผมทำมาให้ (บัดดี้ผมหล่อด้วยนะจะบอกให้ 555) พอดีก่อนมาเรียนผมลงทะเบียนเล่นบัดดี้กะทางมหาลัยไว้ และได้ติดต่อกันบ้างก่อนเดินทางและผมขอรายละเอียดการเดินทางจากสนามบินถึงหอพักพร้อมรายละเอียดการนั่งรถประจำทางไปถึงหอพัก ผมจะบอกเพื่อนว่า มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยนะครับ ที่เดินทางคนเดียวไปหอพักและเป็นการเดินทางไปยุโรปครั้งแรกของผม ถ้าผมเดินทางพร้อมเพื่อนๆ ในคลาสคงไม่วุ่นวายขนาดนี้เพราะว่ามีรถของทางมหาลัยมารับที่สนามบิน แต่ผมคงจะไม่ได้รับมิตรภาพระหว่างการเดินทางและความช่วยเหลือต่างๆ นานา ที่ผมกำลังจะได้รับในอนาคตอันใกล้นี้ (ไว้ต่อตอนสองวันพรุ่งนี้นะครับ ตอนนี้ก็พิมพ์เล่าเรื่องมาพอสมควรแล้ว ถ้าผมเรียงลำดับเรื่องไม่ดี ขออภัยด้วยนะครับ พอดีเป็นกระทู้แรกเลย ตอนนี้ก้อห้าทุ่มกว่าแล้ว ผมจะไปนอนละ พรุ่งนี้มีเรียนเช้าเวลาที่ฝรั่งเศสช้ากว่าไทย 5 ชม ครับ) ขอบคุณที่มาอ่านและคอมเม้นกันนะครับ
ประสบการณ์เรียนต่อที่ฝรั่งเศสครั้งแรก ตอนที่ 1
ก่อนอื่นขอแนะนำตัวเองก่อนนะครับ ผมเรียนปริญญาโทอยู่ที่มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งที่มีชื่อเสียงในจังหวัดชลบุรี อายุผมก็ 20 กลางๆ มาทางปลายแล้วครับ หลักสูตรที่ผมเรียนเป็นหลักสูตรสองปริญญา (ที่ไทยกะที่ฝรั่งเศส) ซึ่งถึงกำหนดที่ผมจะต้องมาเรียนที่ฝรั่งเศสวันที่ 22 กันยายนที่ผ่านมานี่เอง แต่ด้วยความโชคดีบางประการที่ผมสอบติดภาค ข ของกระทรวงแห่งหนึ่ง ผมเลยต้องเลื่อนตั๋วมาสอบภาค ค ก่อน เพื่อรักษาสิทธิ์ของตนเอง นั่นหมายความว่าผมต้องบินตามมาที่ฝรั่งเศสคนเดียว โอ้วววววววว.......แต่คิดก็บอกได้เลยครับว่ามันจะสนุกและน่าตื่นเต้นขนาดไหน ผมเลยเลื่อนตั๋วมาบินวันที่ 8 ตุลาคม เวลาเที่ยงคืนและจะถึงฝรั่งเศสวันที่ 9 ตุลาคม เวลาประมาณ 14.30 ตามกำหนดการ พอวันที่ผมเดินทาง มีพ่อแม่และเพื่อนจากที่ทำงานรวมถึงเพื่อนที่เรียนปริญญาตรีด้วยกันมาส่งที่สนามบิน พอพ่อแม่มาส่งผมก้อรีบไปเชคอินทันที คุยร่ำลากับพ่อแม่สักพักแล้วให้ท่านกลับเลย เพราะกลัวว่าท่านอยู่นานแล้วอาจร้องไห้คิดถึงผมได้ หลังจากที่พ่อแม่กลับไปแล้วผมเลยลงไปคุยกับเพื่อนที่ทำงานที่สนามบิน คุยกันไปมาก็คุยกันเรื่องเช็คอิน ทำให้ผมนึกขึ้นได้ว่า ตายห่า ลืมเชคอิน through (จริงๆ ผมต้องเชคอิน through เพราะกระเป๋าผมหนัก 29 โล และการบินไทยสามารคเชคอิน through ให้กับ แอร์ฟรานได้เลย เนื่องจากมีคนแนะนำมาครับ ถ้าผมเชคอินอีกรอบที่ปารีสผมจะโดนน้ำหนักกระเป๋าเกิน เพราะแอร์ฟรานให้แค่ 23 กิโล) ซวยแล้วซิ ผมเลยไปแจ้งที่เค้าเตอร์ว่าผมเชคอินผิดรบกวนเชคอินให้ใหม่ได้ไหมครับ พนักงานแจ้งกลับมาว่า ไม่ได้แล้วค่ะ กระเป๋าน้องลงไปด้านล่างแล้วถ้าจะหากระเป๋าใช้เวลาประมาณ สองชั่วโมง น้องจะตกเครื่องได้นะคะ ให้น้องลงเครื่องที่ปารีสแล้วเชคอินใหม่แล้วกันค่ะ ผมเลยอ้อนวอนพี่เค้า แต่พี่เค้าก้อไม่ทำให้ เลยนั่งเซงตัวเองอยู่พักนึง อะไรว่ะ ยังไม่ทันได้บินเลย เกิดเรื่องซะแล้วตรู ผมนั่งคิดพักนึง นึกได้ว่ามีเพื่อนทำงานอยู่ศูนย์แก้ไขปัญหาการหลอกลวงและช่วยเหลือนักท่องเที่ยวสนามบินสุวรรณภูมิ (ชื่อหน่วยงานแบบเต็มนะครับ) ผมเลยไปปรึกษาเพื่อน เพื่อนก็น่ารักมากยินดีช่วย ผมเลยไปที่เค้าเตอร์เช็คอินใหม่ แต่ไปอีกเคาเตอร์นึงนะครับ เนื่องจากเคาเตอร์แรกผมบอกผมว่าทำไม่ได้ ผมเดินเข้าไป พี่ครับผมมีเรื่องให้พี่ช่วยหน่อยครับ พอดีว่าผมเชคอินผิด พี่ช่วยผมหน่อยได้ไหมครับ ผมต้องเชคอิน through เพื่อนผมก้พูดขึ้นมาเลย ช่วยหน่อยนะค่ะพี่พนักงาน พอดีว่าเป็นหลานปลัดในกระทรวง..........(กลายเป็นหลานปลัดไปโดยไม่รู้ตัวซะงั้น 555) ท่านฝากพวกหนูมาดูแล แต่หนูดูแลไม่ดีเอง น้องเค้าเลยพลาด รบกวนพี่ช่วยน้องเค้าด้วยนะค่ะ พนักงานได้ยินดังนั้นเลย ขอรายละเอียดต่างๆ นานา และสอบถามรายละเอียดกระเป๋า และบอกให้ผมรอสักครู่ ผ่านไปสักพักประมาณ 20 นาที พี่พนักงานบอกผมว่าเรียบร้อยแล้วค่ะ ผมดีใจมากเลย ยกมือไหว้พี่พนักงานใหญ่เลย และหันไปยิ้มให้กับพนักงานเคาเตอร์ข้างๆ ที่บอกผมตอนแรกว่าทำให้ไม่ได้ค่ะเล็กน้อย 555 สุดท้ายผมก็ขึ้นเครื่องตามเวลาพอเครื่องบินออกผมก็ว่าจะนอนหลับสักหน่อย แต่ แต่ แต่ เบาะข้างหลังเป็นคนแขกขาว คุยกันไม่หยุดไม่หย่อนเลย ไม่มีการเหนื่อยด้วย ผมทนไม่ไหวผมบอกพี่แอร์ว่า ผมขอย้ายที่นั่งได้ไหม ผมอยากนอนแต่นอนไม่ได้ พวกเขาคุยกันเสียงดังมาก พี่แอร์เลยหาที่ให้ผมใหม่ ซึ่งพี่แอร์การบินไทยคนนี้ผมบอกได้เลยว่าสวยมากกกก พี่เค้าเลยถามผมว่าไปทำไรฝรั่งเศสหรอค่ะ ผมบอกว่าไปเรียนครับ ไปคนเดียวด้วย ผมคงเหงาแย่ พี่เค้าบอกว่าไปคนเดียวหรอค่ะ แล้วนี่เดินทางไปยุโรปครั้งแรกเลยช่ายไหม ผมตอกว่า ใช่ครับ พี่เค้าบอก โห...น้องสุดยอดเลยค่ะ ขอให้เดินทางให้สนุกนะค่ะ ผมก็ยิ้มและนอนหลับ มาตื่นอีกที ใกล้จะถึงปารีสแล้ว ผมว่าการบินไทย โอเคเลยนะ ถึงแม้ราคาตั๋วจะแพงไปหน่อย แต่บริการผมได้ประทับใจมาก พอถึงสนามบินชาวเดอโกล ผมก็เดินผ่านประตู ตม ตามปกติ พอผ่านประตู ตม มาพนักงานที่เคาเตอร์ก็มองมาที่ผมพร้อมกับร้องเพลง โอปะ กัมนัลสไตล์ โอป โอป... ผมงงมาก สงสัยพี่เค้าคงนึกว่าผมเป็นคนเกาหลีมั้งครับ ผมเลยบอกเค้าไปว่า Excuse me I'm not Kerean. I'm come from Thailand. Can you see my passport ? พี่แกเลยยิ้มให้ผมแก้เขิน จริงๆ ผมจะเออ ออห่อหมกไปกับพี่เค้าก็ได้ แต่พอดีที่ผมภูมิใจกับความเป็นไทยของผมมากกว่าเลยตอบไปแบบนั้น และผมก็ต้องเปลี่ยนสถานีไปที่สถานี 2F ที่สนามบินชาวเดอโกล เป็นสนามบินที่ใหญ่มากกกกกกกก แยกเป็นบินภายในประเทศกับระหว่างประเทศ และผมก็หาอยู่นานมากกก จนเจอคนไทยคนนึงผมเลยไปขอความช่วยเหลือ พี่เค้าก็น่ารักมากครับ คงเป็นเพราะว่าเป็นคนไทยด้วยกันเลยช่วยเหลือกัน พี่เค้าพาผมจนหาเจอและพี่เค้าก็รีบจากไปทันที โดยที่ผมยังไม่ทันได้ถามชื่อเสียงเรียงนามของพี่เค้าเลย แต่พี่เค้าเตือนผมว่า ให้ระวังนะ ที่ฝรั่งเศสพวกมิจฉาชีพมันเยอะ ยิ่งคนเอเชียแบบเรา มันยิ่งเข้าหา เพราะมันรู้ว่าเราชอบพกเงินสดติดตัว ผมกลัวเลยทีนี้ เพราะรุ่นพี่ผม เค้ามาเรียนเมื่อปีที่แล้ว โดนกระชากกระเป๋าไปต่อหน้าต่อตาคนไทยหลายคน ผมยิ่งกลัวเป็นทวีคูณเลยตอนนั้น และในตัวผมติดเงินสดมา 1,700 ยูโร ถ้าคิดเป็นเงินไทยก็......เกือบแสนบาท โอ้ว ถ้าเกิดอะไรไม่ได้ขึ้นกับผม ผมคงหมดตูดแน่ๆ ผมเลยระวังตัวเป็นอย่างมาก ไม่คุยกับคนแปลกหน้าเลย พอมาถึงสถานี รอเวลาขึ้นเครื่อง ก็ดันหิว ว่าจะไปหาอะไรกินสักหน่อย แต่พอถึงร้านอาหาร แม่เจ้า.....ไม่มีภาษาอังกฤษเลย ทำไงละทีนี้ หิวด้วย ภาษาฝรั่งเศสที่เรียนก่อนมาก็มีน้อยนิดจะไปคุยกับใครเค้าได้ แต่ด้วยความหิวบวกกับบอกตัวเองไปว่า ต้องเอาตัวรอดนะ เลยเดินเข้าไปคุย บองชู ไอนีด ดิสเบอเกรอ์ แอนออเร้นจุยส์ ฮาวมัช นางก็ตอบกลับมาเป็นภาษาฝรั่งเศส อ้าว อิห่า สรุปกี่บาทนี่ ตาเลยมองไปที่หน้าจอ อ๋อ 6 ยูโร 70 เซน พอจ่ายตังเสรจ นึกในใจ อิห่า เบอเก้อไรของ สามร้อยกว่าบาท กัดไปสามคำจะหมดแล้ว น้ำส้มอีก สองยูโร แปดสิบบาท ให้นางในคั้นมาถวายหรอ แพงมากกกกกก แต่ก็ต้องทนกินเพราะหิวมากกก กว่าเครื่องจะออกตั้งบ่างโมงแนะ (ลืมบอกไปว่าเมืองที่ผมไปเรียนคือ มองปริเย่นะครับ ต้องต่อเครื่องจากปารีสไปอีกประมาณชั่วโมงครึ่ง เพราะไม่มีสายการบินไหนบินตรงมาเมืองนี้) พอถึงเวลาขึ้นเครื่อง ได้นั่งท้ายเครื่องซะงั้น ติดห้องน้ำด้วย บนเครื่องมีแต่คนฝรั่งเศส มีเราเป็นเอเชียคนเดียวเอง แอร์ก็สำเนียงอังกฤษแบบฝรั่งเศส คุยด้วยกว่าจะรู้เรื่อง พอดีอยากเข้าห้องน้ำก่อนเครื่องจะขึ้น ถามนางไปว่า อีกนานไหมกว่าเครื่องจะขึ้น พอดีผมปวดฉี่ นางตอบกลับมาว่า อะไรไม่รู้ ฟังแล้วไม่เข้าใจ แต่ลงท้ายว่า เยส ยูแคน สงสัยได้มั้ง เลยไปเข้าห้องน้ำ พอเครื่องจะขึ้น แอร์ก็สาธิตวิธีการใช้อุปกร์ต่างๆ ตามสเตป ผมบอกได้เลยว่า แอร์ไทยทำได้สวยกว่าเยอะครับ จริงๆนะ พอเครื่องจะขึ้น ผมรู้สึกว่าเครื่องส่ายมาก ส่ายแบบนี่กรูอยู่ดรีมเวิลรึป่าวนี่ เวียนหัวเร็วไปนะ พอเครื่องขึ้นเสร็จ บอกได้เลยว่า บินได้น่ากลัวมาก ส่ายไปส่ายมา คิดว่าเล่นแม่งูเอ๋ยอยู่..... คิดในใจขอให้ถึงทีเถิด บอกได้เลยว่ากลัวมาก พอถึงเวลาอาหารว่าง แอร์คนเดิมเดินมาอีกละ นางถามว่า Would you mind coffee or tea ?ผมตอบไปว่า I don't like both . Can you offer me other drink? แล้วนางก็ตอบมายาวมาก ฟังไม่รู้เรื่องเลยว่ามีอะไรบ้าง เลยตอบนางไป I take orange juice นางคงงงเนอะ อิห่า กรูอธิบายยืดยาว แดรกน้ำส้ม 555 ผมเลยยิ้มให้นาง พร้อมกล่าว แมกซี่โบกู พอเครื่องลงที่เมืองมองปริเย่ ผมคิดในใจเวลาสนุกที่แท้จริงมาแล้ววววววววว แต่ผมมีแผนที่ติดมาด้วย ไม่ได้ทำเองนะครับ บัดดี้ผมทำมาให้ (บัดดี้ผมหล่อด้วยนะจะบอกให้ 555) พอดีก่อนมาเรียนผมลงทะเบียนเล่นบัดดี้กะทางมหาลัยไว้ และได้ติดต่อกันบ้างก่อนเดินทางและผมขอรายละเอียดการเดินทางจากสนามบินถึงหอพักพร้อมรายละเอียดการนั่งรถประจำทางไปถึงหอพัก ผมจะบอกเพื่อนว่า มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยนะครับ ที่เดินทางคนเดียวไปหอพักและเป็นการเดินทางไปยุโรปครั้งแรกของผม ถ้าผมเดินทางพร้อมเพื่อนๆ ในคลาสคงไม่วุ่นวายขนาดนี้เพราะว่ามีรถของทางมหาลัยมารับที่สนามบิน แต่ผมคงจะไม่ได้รับมิตรภาพระหว่างการเดินทางและความช่วยเหลือต่างๆ นานา ที่ผมกำลังจะได้รับในอนาคตอันใกล้นี้ (ไว้ต่อตอนสองวันพรุ่งนี้นะครับ ตอนนี้ก็พิมพ์เล่าเรื่องมาพอสมควรแล้ว ถ้าผมเรียงลำดับเรื่องไม่ดี ขออภัยด้วยนะครับ พอดีเป็นกระทู้แรกเลย ตอนนี้ก้อห้าทุ่มกว่าแล้ว ผมจะไปนอนละ พรุ่งนี้มีเรียนเช้าเวลาที่ฝรั่งเศสช้ากว่าไทย 5 ชม ครับ) ขอบคุณที่มาอ่านและคอมเม้นกันนะครับ