ถึงวันที่ 20 ตุลาคม ซึ่งเป็นวันแรกที่มีการใช้คูปองทีวีดิจิตอลอย่างเป็นทางการ วันนี้ผมก็จะมาแนะนำเรื่องของการ "ซื้อชุดทีวีดิจิตอลอย่างไรให้คุ้มค่าคุ้มราคา"
ทำไมผมต้องพูดว่า "ชุดทีวีดิจิตอล" ทำไมไม่เรียกว่า "กล่องทีวีดิจิตอล" เพราะหลายท่านคงไม่ได้ซื้อกล่อง Set Top Box เพียงอย่างเดียว มันจะต้องมี "เสาอากาศ" ตามมาด้วย หรือบางท่านก็ไม่ได้ซื้อกล่อง แต่ไปซื้อทีวีที่มีจูนเนอร์ในตัวครับ
สืบเนื่องจากตอนที่ 1 อยากจะซื้อกล่อง มองให้รอบคอบ >>
http://ppantip.com/topic/32733183
ตอนนี้ผมขอเสนอเป็นตอนที่ 2 "iDTV ดูให้ดีไม่มีเสียของ"
ตอนที่ 2 iDTV ดูให้ดีไม่มีเสียของ
ว่าด้วยเรื่องของทีวีที่มีจูนเนอร์ในตัว (ซึ่งต่อไปผมจะเรียกว่า iDTV) ในวันนี้ ก็ควรจะดูอะไรหลายๆ อย่าง หากใครที่ใช้ทีวีจอแบนบ่อยๆ (จอแบนจริงๆ นะครับไม่ใช่ราบแต่จอโครงยังใหญ่เหมือนตู้ปลา 555555+) ก็คงจะรู้อยู่นะฮะ
แต่ทีนี้ ผมจะขอกล่าวถึงเรื่องการซื้อ iDTV สำหรับคนที่อยากมีทีวีตัวใหม่ฮะ
คนที่ซื้อ iDTV ใช้ จะมีเหตุผลอยู่ที่
1.อยากมีหรืออยากเปลี่ยนทีวีใหม่ให้ดูดีกว่าเดิม และไม่ได้คิดจะอัดรายการดูย้อนหลังอยู่แล้ว (เพราะทีวีส่วนมากอัดรายการไม่ได้ ยกเว้น LG บางรุ่นครับ)
2.บ้านมีกล่องดาวเทียม/เคเบิ้ลทีวี (เคเบิ้ลระบบอนาล็อกไม่เกี่ยวนะครับ) อยากจะดูฟรีทีวีภาคพื้นดิน แต่ขี้เกียจใช้กล่อง เพราะมันเปลืองกล่อง เปลืองรีโมท เสียเวลาสับภาพไปๆ มาๆ ให้วุ่นวาย
3.อยากดูทีวีทั้ง 2 ระบบ เพราะบางพื้นที่บาง MUX ยังไม่ได้ออกอากาศ และ
4.เตรียมพร้อมสำหรับทีวีดิจิตอลในอนาคต (สำหรับพื้นที่ที่ยังไม่ได้ออกอากาศทีวีดิจิตอล)
ส่วนสิ่งที่คำนึงถึงเรื่องของการดูทีวีที่มีจูนเนอร์ในตัว ควรจะคำนึงถึงสิ่งนี้ด้วยนะคะ
1.ขนาดของจอ ต้องสัมพันธ์กันกับตำแหน่งที่ดูทีวี เพราะใช่ว่าทีวีขนาดใหญ่จะเอาไปดูใกล้ๆ ได้ และทีวีขนาเล็กก็ไม่ควรจะไปดูในระยะที่ห่างเกินไป ซึ่งท่านอาจต้องศึกษาระยะห่างระหว่างทีวีกับตำแหน่งที่ดูก่อน จึงจะซื้อจอทีวีเพื่อดูได้ฮะ
2.ฟังก์ชั่น มีหลากหลายครับ ทั้งการจัดการภาพ การจัดการเสียง การเชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ต Internet TV Smart TV Android TV อัดรายการดูย้อนหลัง หรือช่องเสียบทั้ง AV Component และ HDMI แต่ถ้าเป็น iDTV แล้วคงจะไม่พ้น "จูนเนอร์ DVB-T2 ในตัว" อันนี้ห้ามขาดเลยนะครับ
3.ความคมชัด ลองดูว่าทีวีแต่ละเจ้าเค้ามีการจัดการภาพอย่างไรให้คมชัดบ้าง ก็ลองเทียบเทคโนโลยีดูนะครับ (ส่วนมากจะมีความคมชัดอยู่ที่ 1920x1080 ส่วนทีวีจอเล็กจะอยู่ที่ 1366x768)
4.การจัดการสี อันนี้ก็สำคัญ ส่วนมากจะมาเป็นโปรแกรมอัตโนมัติอยู่แล้ว การจัดการสีจริงๆ ก็เลยค่อนข้างทำได้ยากอยู่พอสมควร (ถ้าเป็นจอมอนิเตอร์จะจัดการสีได้ดีกว่าฮะ)
5.อัตราการกินไฟ อันนี้ก็สำคัญมาก เพราะยิ่งจอใหญ่มากเท่าใด ก็จะกินไฟมากเท่านั้น แต่ยังไงๆ ก็ควรที่จะลองไปดูก่อนนะครับว่าอัตราการกินไฟนั้นมันเหมาะสม และสัมพันธ์กับขนาดของจอหรือไม่อีกด้วย
6.การรับประกันและบริการหลังการขาย อันนี้สำคัญมากๆ เลยนะครับ เพราะการบริการสำคัญมาก ถ้าบริการไม่ดี อาจมีผลต่อทีวีเจ้านั้นไปโดยปริยายเลยนะ และระยะการประกันส่วนมากจะอยู่ที่ 1 ปี มีหลายเจ้าที่รับประกันถึง 2-3 ปี ซึ่งทำให้หลายท่านได้ไว้วางใจในเรื่องการรับประกันได้อีกทางหนึ่งอีกด้วยฮ่ะ
7.คำวิจารณ์จากรีวิว สามารถหารีวิวได้จากเว็บ
http://www.lcdtvthailand.com หรือดูจากพันทิปก็ได้ฮะมีเยอะแยะ จะดีไม่ดีท่านลองใช้วิจารณญาณเอาเองละกันฮะ แต่ถ้าจะให้แน่ๆ ลองไปดูตัวจริงเลยดีกว่าฮ่ะ อิอิ
ส่วนสเปกเป็นยังไง ก็หาได้ตามเว็บไซต์ที่ผมบอกนะฮะ (อาจรู้ไม่มากเท่าเว็บ เพราะผมจะถนัดใช้ Set Top Box เสียมากกว่า 555555+)
หวังว่าท่านจะได้คิดก่อนซื้อ iDTV เพราะบางตัวซื้อแล้วก็ไม่ได้รับคืน คิดให้ดีๆ ก่อนจะได้ไม่เสียของนะฮะ
ส่วนตอนต่อไป ผมจะขอกล่าวเรื่อง "เสาอากาศ" ในตอน "เสาอากาศนั้น สำคัญไฉน" (ซึ่งได้ออกกระทู้นี้มาแล้ว ตอนนี้ผมก็ขอมาปัดฝุ่นแนะนำอีกครั้งหนึ่งฮะ อาจมีเพิ่มเติมด้วย)
นายเบนซ์อภินันท์-Abhinan'zCH Twitter: @benz_abhinan - Facebook: Abhinan'z CH
หากท่านต้องการให้ผมรีวิวกล่องทีวีดิจิตอล สามารถนำกล่องมาให้ผมรีวิวได้ที่นี่ครับผม
>> คุณอภินันท์ เจริญรักษ์วิทยา ตู้ ปณ.32 ปณจ.ภูเก็ต 83000 วงเล็บที่กล่องด้วยว่า "รีวิวกล่องทีวีดิจิตอล" ครับผม (ช่วยหลังไมค์ก่อนจะส่งกล่องให้รีวิวด้วยนะครับ)
ซื้อชุดทีวีดิจิตอลอย่างไรให้คุ้มค่าคุ้มราคา By Abhinan'zCH ตอนที่ 2 iDTV ดูให้ดีไม่มีเสียของ
ทำไมผมต้องพูดว่า "ชุดทีวีดิจิตอล" ทำไมไม่เรียกว่า "กล่องทีวีดิจิตอล" เพราะหลายท่านคงไม่ได้ซื้อกล่อง Set Top Box เพียงอย่างเดียว มันจะต้องมี "เสาอากาศ" ตามมาด้วย หรือบางท่านก็ไม่ได้ซื้อกล่อง แต่ไปซื้อทีวีที่มีจูนเนอร์ในตัวครับ
สืบเนื่องจากตอนที่ 1 อยากจะซื้อกล่อง มองให้รอบคอบ >> http://ppantip.com/topic/32733183
ตอนนี้ผมขอเสนอเป็นตอนที่ 2 "iDTV ดูให้ดีไม่มีเสียของ"
ตอนที่ 2 iDTV ดูให้ดีไม่มีเสียของ
ว่าด้วยเรื่องของทีวีที่มีจูนเนอร์ในตัว (ซึ่งต่อไปผมจะเรียกว่า iDTV) ในวันนี้ ก็ควรจะดูอะไรหลายๆ อย่าง หากใครที่ใช้ทีวีจอแบนบ่อยๆ (จอแบนจริงๆ นะครับไม่ใช่ราบแต่จอโครงยังใหญ่เหมือนตู้ปลา 555555+) ก็คงจะรู้อยู่นะฮะ
แต่ทีนี้ ผมจะขอกล่าวถึงเรื่องการซื้อ iDTV สำหรับคนที่อยากมีทีวีตัวใหม่ฮะ
คนที่ซื้อ iDTV ใช้ จะมีเหตุผลอยู่ที่
1.อยากมีหรืออยากเปลี่ยนทีวีใหม่ให้ดูดีกว่าเดิม และไม่ได้คิดจะอัดรายการดูย้อนหลังอยู่แล้ว (เพราะทีวีส่วนมากอัดรายการไม่ได้ ยกเว้น LG บางรุ่นครับ)
2.บ้านมีกล่องดาวเทียม/เคเบิ้ลทีวี (เคเบิ้ลระบบอนาล็อกไม่เกี่ยวนะครับ) อยากจะดูฟรีทีวีภาคพื้นดิน แต่ขี้เกียจใช้กล่อง เพราะมันเปลืองกล่อง เปลืองรีโมท เสียเวลาสับภาพไปๆ มาๆ ให้วุ่นวาย
3.อยากดูทีวีทั้ง 2 ระบบ เพราะบางพื้นที่บาง MUX ยังไม่ได้ออกอากาศ และ
4.เตรียมพร้อมสำหรับทีวีดิจิตอลในอนาคต (สำหรับพื้นที่ที่ยังไม่ได้ออกอากาศทีวีดิจิตอล)
ส่วนสิ่งที่คำนึงถึงเรื่องของการดูทีวีที่มีจูนเนอร์ในตัว ควรจะคำนึงถึงสิ่งนี้ด้วยนะคะ
1.ขนาดของจอ ต้องสัมพันธ์กันกับตำแหน่งที่ดูทีวี เพราะใช่ว่าทีวีขนาดใหญ่จะเอาไปดูใกล้ๆ ได้ และทีวีขนาเล็กก็ไม่ควรจะไปดูในระยะที่ห่างเกินไป ซึ่งท่านอาจต้องศึกษาระยะห่างระหว่างทีวีกับตำแหน่งที่ดูก่อน จึงจะซื้อจอทีวีเพื่อดูได้ฮะ
2.ฟังก์ชั่น มีหลากหลายครับ ทั้งการจัดการภาพ การจัดการเสียง การเชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ต Internet TV Smart TV Android TV อัดรายการดูย้อนหลัง หรือช่องเสียบทั้ง AV Component และ HDMI แต่ถ้าเป็น iDTV แล้วคงจะไม่พ้น "จูนเนอร์ DVB-T2 ในตัว" อันนี้ห้ามขาดเลยนะครับ
3.ความคมชัด ลองดูว่าทีวีแต่ละเจ้าเค้ามีการจัดการภาพอย่างไรให้คมชัดบ้าง ก็ลองเทียบเทคโนโลยีดูนะครับ (ส่วนมากจะมีความคมชัดอยู่ที่ 1920x1080 ส่วนทีวีจอเล็กจะอยู่ที่ 1366x768)
4.การจัดการสี อันนี้ก็สำคัญ ส่วนมากจะมาเป็นโปรแกรมอัตโนมัติอยู่แล้ว การจัดการสีจริงๆ ก็เลยค่อนข้างทำได้ยากอยู่พอสมควร (ถ้าเป็นจอมอนิเตอร์จะจัดการสีได้ดีกว่าฮะ)
5.อัตราการกินไฟ อันนี้ก็สำคัญมาก เพราะยิ่งจอใหญ่มากเท่าใด ก็จะกินไฟมากเท่านั้น แต่ยังไงๆ ก็ควรที่จะลองไปดูก่อนนะครับว่าอัตราการกินไฟนั้นมันเหมาะสม และสัมพันธ์กับขนาดของจอหรือไม่อีกด้วย
6.การรับประกันและบริการหลังการขาย อันนี้สำคัญมากๆ เลยนะครับ เพราะการบริการสำคัญมาก ถ้าบริการไม่ดี อาจมีผลต่อทีวีเจ้านั้นไปโดยปริยายเลยนะ และระยะการประกันส่วนมากจะอยู่ที่ 1 ปี มีหลายเจ้าที่รับประกันถึง 2-3 ปี ซึ่งทำให้หลายท่านได้ไว้วางใจในเรื่องการรับประกันได้อีกทางหนึ่งอีกด้วยฮ่ะ
7.คำวิจารณ์จากรีวิว สามารถหารีวิวได้จากเว็บ http://www.lcdtvthailand.com หรือดูจากพันทิปก็ได้ฮะมีเยอะแยะ จะดีไม่ดีท่านลองใช้วิจารณญาณเอาเองละกันฮะ แต่ถ้าจะให้แน่ๆ ลองไปดูตัวจริงเลยดีกว่าฮ่ะ อิอิ
ส่วนสเปกเป็นยังไง ก็หาได้ตามเว็บไซต์ที่ผมบอกนะฮะ (อาจรู้ไม่มากเท่าเว็บ เพราะผมจะถนัดใช้ Set Top Box เสียมากกว่า 555555+)
หวังว่าท่านจะได้คิดก่อนซื้อ iDTV เพราะบางตัวซื้อแล้วก็ไม่ได้รับคืน คิดให้ดีๆ ก่อนจะได้ไม่เสียของนะฮะ
ส่วนตอนต่อไป ผมจะขอกล่าวเรื่อง "เสาอากาศ" ในตอน "เสาอากาศนั้น สำคัญไฉน" (ซึ่งได้ออกกระทู้นี้มาแล้ว ตอนนี้ผมก็ขอมาปัดฝุ่นแนะนำอีกครั้งหนึ่งฮะ อาจมีเพิ่มเติมด้วย)
นายเบนซ์อภินันท์-Abhinan'zCH Twitter: @benz_abhinan - Facebook: Abhinan'z CH
หากท่านต้องการให้ผมรีวิวกล่องทีวีดิจิตอล สามารถนำกล่องมาให้ผมรีวิวได้ที่นี่ครับผม
>> คุณอภินันท์ เจริญรักษ์วิทยา ตู้ ปณ.32 ปณจ.ภูเก็ต 83000 วงเล็บที่กล่องด้วยว่า "รีวิวกล่องทีวีดิจิตอล" ครับผม (ช่วยหลังไมค์ก่อนจะส่งกล่องให้รีวิวด้วยนะครับ)