จากกระทู้เดิม ที่โพสไปเมื่อเดือนก่อน
http://ppantip.com/topic/32568194
เรื่องเล่าประสบการณ์ชีวิต .... กว่าจะได้ขาย Sticker Line .... แลกกับการต้องปฏิรูปชีวิต



จริงๆแล้ว เรื่องราวทั้งหลายเกี่ยวกับขั้นตอนการทำนั้น ผมได้เขียนเอาไว้ระหว่างรอ sticker น้องแซม approve จาก Line

ตั้งใจไว้อยู่แล้วว่าเมื่อน้องแซม approve แล้ว ผมจะเอาการแบ่งปันความรู้ทั้งหมดจากการลงมือทำสติ๊กเกอร์
และเล่าประสบการณ์ชีวิตในส่วนที่ต้องเปลี่ยนแปลงชีวิตตัวเอง ไปโพสแบ่งปันลงในเว็บ pantip

เว็บ ppantip.com นั้นพวกเราคงรู้กันดีอยู่แล้วว่าเป็นเว็บบอร์ดที่มีชื่อเสียงและเป็นที่นิยมที่สุดแห่งหนึ่งของไทย

มีหลายคนพยายามไปโพสโปรโมท sticker ของตนเองลงในเว็บ pantip ซึ่งก็มักถูกผู้ดูแลเว็บลบออก
เนื่องจากการไปโพสประชาสัมพันธ์เฉยๆโดยไม่ได้มีเนื้อหาอะไรอื่นใดที่เป็นประโยชน์เลยมาแบ่งปันเลยนั้น
เข้าข่ายกระทู้ขายของซึ่งผิดกฏของทางเว็บ pantipหากไม่ได้โพสในส่วนขายของตรงๆ

แต่สำหรับการที่ผมจะไปโพสในเว็บ pantip ซึ่งก็เป็นส่วนหนึ่งของการประชาสัมพันธ์ที่ผมได้วางแผนเอาไว้
ผมก็มั่นใจว่านอกจากกระทู้จะไม่ถูกลบแล้ว จะยังเป็นที่ชื่นชอบของผู้ที่ได้อ่าน  เพราะเราเองมั่นใจว่า
เนื้อหาที่ตั้งใจเขียนมาเป็นอย่างดีเหล่านั้นจะเป็นประโยชน์กับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ดังนี้

-     เว็บ pantipจะได้ content ที่ดีและเป็นประโยชน์เพิ่มขึ้น

-     ผู้อ่านจะได้ประโยชน์ไม่มากก็น้อยจากสิ่งที่ผมเขียน และบางคนอาจได้แรงบันดาลใจในการทำอะไรสักอย่างในชีวิต

- และผมเอง นอกจากจะได้ประชาสัมพันธ์สติ๊กเกอร์แล้ว ก็ยังได้ความสุขใจในการแบ่งปันความรู้ ได้ความภาคภูมิใจในการเปิดเผยประสบการณ์จริงเพื่อเป็นแรงบันดาลใจให้คนอื่นๆ



เนื้อหานั้นผมได้เขียนล่วงหน้าก่อนเป็นเดือนๆ รอวันที่น้องแซมถูก approve ....
ซึ่งก็ทยอยเขียนล่วงหน้าเอาไว้เรื่อยๆ นานนับเดือนก่อนจะถึงวันที่ได้โพสจริง

และเมื่อน้องแซมถูก approve ผมก็ยังไม่โพสทันที
แต่รอดูผลลัพธ์จากการประชาสัมพันธ์ด้วยตัวเองโดยไม่เกี่ยวข้องกับเว็บ pantip ก่อน
เพื่อจะได้วิเคราะห์ข้อมูลถูกว่า การจับกลุ่มเป้าหมายชัดเจนมีผลมากน้อยเพียงใด
(ถ้าเราโพสในเว็บ Pantip ก่อนจะวิเคราะห์แยกแยะไม่ได้ว่าผลลัพธ์ยอดขายที่ได้มาจากไหนกันแน่)...

จนกระทั่ง คืนวันที่ 3 ที่วางขาย ซึ่งน้องแซมได้ติดอันดัน top 5 ใน line creator market ของ ภูมิภาคไทยไปเรียบร้อยแล้ว
ผมจึงเขียนเพิ่มในหัวข้อ ผลลัพธ์หลังเปิดขาย sticker 3 วันพร้อมวิเคราะห์สิ่งที่เกิดขึ้น
แล้วก็เริ่มเอาที่เขียนไว้ทั้งหมดมาโพสลงเว็บ pantip
และในเวลาอันไม่นานก็ได้กลายเป็นกระทู้แนะนำ ในห้องการ์ตูน และ ห้องสีลมของเว็บ pantip

คุณบอย อภิศิลป์ ตรุงกานนท์ ซึ่งเป็นผู้จัดการฝ่ายพัฒนาผลิตภัณฑ์เว็บไซต์ pantip
ได้แชร์กระทู้นั้นผ่านทาง facebook, twitter, google+  โดยใส่ข้อความบรรยายว่า “สุดยอดกระทู้เลอค่า”
ข้อมูลเท่าที่ตรวจสอบได้จากระบบที่แสดงด้านล่างกระทู้ ได้โชว์ออกมาว่า
กระทู้นั้นถูกแชร์ผ่าน facebook ประมาณ8,400 แชร์, tweeter 299 แชร์, google+ 18 แชร์

แต่สิ่งสำคัญสุดๆ อย่างหนึ่งที่มันอิ่มเอมใจอย่างสุดๆ คือ การที่ได้ feedback จากหลายๆคน
ทั้งที่ตอบในกระทู้ และที่ติดต่อเรามาทางช่องทางอื่น ๆ ไม่ว่าจะหลังไมค์ของ pantip หรือ ทาง facebook message
ซึ่งสามารถสรุปรวมๆ ได้ว่า สิ่งที่ผมเขียนลงไปในกระทู้จุดประกายให้ใครหลายๆคน
กล้าที่จะฝัน กล้าที่จะทำ กล้าที่จะเรียนรู้ และ กล้าที่จะพัฒนา


ผมได้เปิดโอกาสให้กับตนเอง ประชาสัมพันธ์ตัวเองให้เป็นที่รับรู้ด้วยการแบ่งปันความรู้แบบไม่หมกเม็ด
สร้างแรงบันดาลใจให้คนอื่นด้วยการลงมือทำจริงจนเกิดผลมาบอกเล่าตามจริง
ผลลัพธ์จากการได้เปิดโอกาสให้กับตนเองนี่แหละ ที่ทำให้ มีโอกาสมากมายหลายอย่างหลั่งไหลกลับเข้ามา
หลังจากโพส มีคนติดต่อมาสอบถามเรื่องการวาดสติ๊กเกอร์กันหลายคน บางคนก็สอบถามจะว่าจ้างให้วาดสติ๊กเกอร์ให้
และมีสำนักพิมพ์ติดต่อเข้ามา 2 สำนักพิมพ์ซึ่งสุดท้ายก็มาลงเอยกับสำนักพิมพ์ happy banana
และได้เพิ่มรูปและเนื้อหาเพิ่มเติมต่างๆ เช่น ผลลัพธ์หลังลงเว็บ pantip, ผลลัพธ์ ยอดขาย, ค่าสถิติการใช้งาน และเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยอื่นๆ

ใครจะไปคิด ว่าเริ่มจากการตั้งใจทำ Sticker Line แล้วทำให้มันสุด แล้วเอามาแบ่งปัน
จะพลิกผันให้ตัวเองกลายมาเป็นนักเขียนที่มีหนังสือวางจำหน่ายตามร้านหนังสือทั่วไป

แม้เราจะมีเนื้อหาทั้งที่เขียนในพันทิพ และ ที่เขียนเพิ่มเพื่อเป็นหนังสือแล้ว
ผมก็ยังมีเรื่องเล่าเกร็ดเล็ก เกร็ดน้อยในการทำหนังสือมาแบ่งปัน ดังที่จะเขียนต่อไปนี้ ...