บทสนทนายาวหน่อยนะครับ คุยกะเค้าอยู่ชั่วโมงกว่า เพราะรถติดมาก ขนาดขึ้นทางด่วนนะเนี่ย
วันนี้ไปงานหนังสือมาครับ ด้วยความที่ตอนบ่ายๆ รถไฟฟ้าใต้ดินคนแน่นมากๆ ผมกับน้องสาวเลยตัดสินใจขึ้นรถแท็กซี่ จากฝั่งตรงข้ามศูนย์ประชุมฯ
เรียกไปลงที่บ้านผมแถวสะพานใหม่ครับ
พอขึ้นรถมา พี่เค้าก็เริ่มชวนคุยทันทีครับ
คนขับ: น้องสองคนเรียนที่ไหนเนี่ย
ผม : เรียนคณะสัตวแพทย์ครับ
น้องสาว : เรียนวิทย์กีฬาค่ะ
แล้วพี่เค้าก็ซักน้องสาวผมครับว่า เรียนอะไรยังไง ชอบใช้ศัพท์ไทยคำอังกฤษคำ คำพูดคำจาและท่าทางดูน่าเชื่อถือมากๆ
แต่เนื่องจากน้องสาวผมเป็นคนไม่ค่อยพูด ถามคำตอบคำ พี่แท็กซี่เลยหันมาถามผมแทนครับ
คนขับ: แล้วทำไมน้องคิดเรียนสัตวแพทย์ ไมไม่เรียนหมอคนไปเลยล่ะ
ผมก็แบบ มาอีกละ คำถามนี้ ก็ตอบไปว่าประมาณว่า สนุกดีครับ ชอบแนวนี้ พี่เค้าก็ซักต่อ ตอนนั้นผมยังไม่เอะใจครับ เพราะโดยปกติก็เคยเจอพี่แท็กซี่ที่ชอบชวนคุยอยู่แล้ว เลยไม่ได้คิดอะไรครับ
พี่เค้าก็ถามต่อ
คนขับ: แล้วสายงานงานของสัตวแพทย์ไปทำอะไรได้มั่ง
ผม : โห ก็หลายอย่างอยู่นะครับ
คนขับ : ไม่เอาสิ ตอบมาให้ละเอียดสิ
ผม : ก็อย่างที่รู้กันคือ เป็นหมอสัตว์เล็ก รักษาสุนัขและแมว ตามโรงพยาบาลสัตว์ หรือคลินิก แล้วก็มีทางสายรักษาสัตว์ใหญ่ สัตว์ป่า หรือไปดูแลเรื่องอาหารตั้งแต่การทำฟาร์มเลี้ยงสัตว์ จนถึงออกมาเป็นเนื้อสัตว์ให้มนุษย์กิน ประมาณนี้อะครับ
คนขับ : แล้วเราเกรดเฉลี่ยเท่าไหร่
ผม : 3.35 ครับ (ตอนนี้คิดในใจ ไมซักละเอียดจังวะ แต่ก็ตอบไป)
คนขับ : อื้ม เกียรตินิยมอันดับสองใช่ไหม
ผม : ครับ
คนขับ : น้องสนใจสายงานด้านนักวิจัยไหม ( ในใจผมคิด มาไม้ไหนวะนี่)
ผม : ก็ยังดูๆอยู่ครับ ยังไม่แน่ใจว่าจะทำด้านไหนดี
คนขับ : พี่ว่าเราต้องโฟกัสนะ ทำทางด้านดูแลอาหารคนเนี่ยแหละ ดีๆ ไม่ต้องไปสนใจเรื่องอื่นเลย เนี่ย เป็นนักวิจัย
ผม : ก็น่าสนใจนะครับ แต่ผมยังว่ามันยากไป คงต้องหาประสบการณ์ไปก่อน แล้วทำงานวิจัยนี่ผมว่าต้องแบบ หัวกะทิเลย ผมอาจยังไม่เหมาะ
คนขับ : น้องก็ต้องมาลงงานจริงเลย เนี่ย สนใจไหม พี่กับเพื่อนเนี่ยทำเรื่อง หอยขม กับพวกเห็ดหลินจืออยู่แถบทางเหนือ เป็นเจ้าของเอง จดสิทธิบัตรเลย
กำลังจะได้เป็นหนึ่งในโครงการณ์พระราชดำริขอพ่อหลวง ถ้าสนใจเดี๋ยวพี่ฝากให้เลย ไปฝึกงานเชียงใหม่ช่วงปิดเทอม ดีไหม
ผม : เอ่ออ ครับ
คือในใจผมตอนนี้ผมว่ามันแหม่งๆ นะ คือฟาร์มหอยขมมม ถามจริงง 55 ก็ยังไม่ได้อะไรครับ ฟังเค้า แล้วก็อือๆออๆ ตามไป
แถมรถนี่ก็ติดจัง ดูท่าจะอีกยาว
คนขับ : เนี่ย น้องเคยกินไข่ไก่ซีพีไหม รู้รึปล่าว พี่เป็นคนคิดคอนเซปนี้นะ พวกไข่ลวก ไข่ต้มน่ะ ที่ขายๆดีๆ พี่เป็นคนคิดทั้งนั้น
ผม : จริงเหรอครับ โห ผมก็ซื้อกินอยู่บ่อยๆนะ (คือเริ่มรู้สึกแหม่งๆอีกละ เป็นทีมการตลาดซีพี แถมเป็นเข้าของฟาร์มนู่นนี่นั่นแถวภาคเหนือ
แล้วมาขับแท็กซี่ไมวะ 555 แต่ยังไม่ถามแย้งครับ รอดูแกเล่าต่อ ซึ่งมันจะอลังการขึ้นเรื่อยๆ ส่วนผมก็ฟังและก็เออออตามแกไปครับ)
คำถามไคลแม็กซ์
คนขับ : น้องรู้ไหม "ประเทศไทยคืออะไร"
ติดสตั๊นไป 5 วิ ถามยากมากกก แล้วหน้าตาเค้าจะยิ้มๆดูลองภูมิเรา กระตุ้นต่อมอะไรสักอย่างที่จะทำให้เราอยากแสดงความคิดเห็นอ่ะครับ มาดเค้าดีจริงๆต้องยอมรับ
ผม: เอ่ออ เอาแนวไหนละครับ ทางด้านภูมิศาสตร์ วัฒนธรรม สังคม กว้างมาก ผมไม่รู้จะตอบยังไง
คนขับ : แนวไหนก็ได้ ที่น้องคิด
ผม : ก็ ประเทศ ที่มีคนไทยอยู่ มั้งครับ 555 (หัวเราะกลบเกลื่อน)
คนขับ : ไม่ใช่ ฟังพี่นะ ประเทศไทยคือ ประเทศกสิกรรมที่มีผลผลิตมากที่สุด เมื่อเทียบกับจำนวนคนในประเทศ ตอนหัวหน้าถามพี่พี่ก็บอกแบบน้องนี่แหละ
ผม : อ่ออ ครับ ก็จริงนะ ศักยภาพการผลิตหมู ไก่ ปศุสัตว์เรานี่เยอะจริงๆ แต่บางทีส่งออกไม่ได้เพราะติดปัญหาพวกโรคต่างๆ
คนขับ : นั่นไง กรูถึงมาทำด้านนี้ กรูชอบทางด้านนี้ เมื่อก่อนทำงานแบงค์แล้วไม่ชอบ เลยออกมาทำด้านนี้เต็มตัวเลยตอนปี 49 นี่ก็กำลังทำเรื่องของสัตว์ปีกอยู่ รู้ไหมตัวไหนมาแรง
ผม : เอ่อ ไม่รู้ครับ
คนขับ : เป็ดปักกิ่งไง เนี่ยถ้าเราตกลง จบแล้ว กรูให้
เลยนะ เป็ดปักกิ่งเนี่ย ออเดอร์ทั่วโลก ยังมีอีก พวกวัว ตอนนี้มีออเดอร์มาสี่แสนกว่าตัว
เออ เนี่ย จดชื่อให้พี่หน่อย เบอร์โทรด้วยนะ เดี๋ยวไว้พี่เอาชื่อเราไปตรวจสอบ ย้อนไปถึงพ่อถึงแม่เลย ไม่ได้ว่าไม่ไว้ใจนะ แต่อยากให้มาช่วยกันทำทีมวิจัย
แล้วก็ต้องเลือกหน่อย เห็นเราดูหน่วยก้านดี เกรดดี น่าจะทำได้ อ่อ ขอเรียกกรู
แล้วกัน กับลูกน้องที่อยู่ต่างประเทศก็เรียกกันแบบนี้ ไม่ว่ากันนะ
ผมฟังพี่เค้าโม้มานาน เลยถามกลับมั่ง
ผม: แล้ววัวที่พี่จะขายนี่ พันธ์อะไรครับ
พี่เค้าไม่ตอบแต่ถามกลับว่า "แล้วเมิงคิดว่า วัว คืออะไร" เอาอีกละ 555 คือเค้าชอบหลอกให้เราพูดข้อมูลออกมา และเก็บข้อมูลเอาไว้
ก่อนจะพูดออกมาอีกทีเป็นภาษาของเค้าเอง ซึ่งถ้าเผลอๆ ไร้สติ ก็อาจหลงเชื่อได้นะครับ ย้ำว่าพี่เค้าพูดจาลื่นไหลมาก และดูเหมือนรู้จริง แต่ด้วยความที่คุยกันนาน ผมเริ่มจับทางได้ เลยจะลองทดสอบอะไรหน่อยครับ
ผม: วัวก็คือวัว อ่ะครับพี่จะให้ผมตอบว่าไง สรุปว่าพี่ใช้วัวพันธ์ุไหนครับ
คนขับ: พันธู์ใหม่ล่าสุด เอ็งไม่ต้องไปรู้หรอก หัวการตลาดระดับกรู ยังไงก็ไม่มีปัญหา เรื่องสายพันธุ์พี่รับลอง ใหม่ล่าสุด (พูดเหมือนปรับปรุงพันธุ์วัวนี่ง่ายเหลือเกิน
ผม : พี่ก็ต้องรู้สินค้าที่พี่จะขายสิครับ วัวพันธ์ุอะไรพี่ยังไม่รู้เลย ตอบผมหน่อยสิครับ แล้วเห็นบอกอยู่วงการนี้ รู้หรือปล่าวครับว่าวัวพันธ์กำแพงแสนที่นี่ย ลูกผสมกี่สาย คนวงในยังไงก็รู้จักครับ
คนขับ: แล้ว
คิดว่ามันเป็นกี่สายล่ะ
ผม: พี่ลองตอบมาสิครับ ผมใบ้ให้ว่าผสมกันสามสายพันธุ์
คนขับ : ก็ใช้วัวพันธุ์ cow ไง (ตอบมาได้ วัว Cow)
ผม: อ๋อ พี่คงหมายถึงวัวเนื้อใช่ไหมครับ
คนขับ : ใช่
ผม : พันธุ์ Holstein ละสิ เห็นว่าให้เนื้อดีนะ (คือความจริงมันเป็นพันธุ์วัวนมครับ ลองแกล้งหลอกถามดู)
คนขับ: ถูกต้องง Holstein กำลังมาแรง
ผม: ทำไมพี่เก่งจังครับเนี่ย
คนขับ: จริงๆกรูหัวดีมาก แต่ตอนเด็ก โดน แอ๊กซิเดนท์ เลยเป็นเจ้าชายนิทราไป 4 เดือน
ผม: แย่เลยนะครับ
คนขับ: ช่าย ตอนนั้นแม่กรูสงสารพกรูมาก ตัดพ้อตลอดว่าทำไมลูกชายต้องมาเจอเรื่องร้ายๆ เวรกรรมอะไรน้อ จากนั้นพกรูก็เลยสอบไม่ติดจุฬา เลยไปเรียนการตลาด ที่ราม
ผม: อ่อ นอนเป็นเจ้าชายนิทรานานขนาดนั้น ฟื้นมาคงต้องกายภาพยาวเลยนะครับ
คนขับ: ใช่นอนอยู่เฉยๆ น้ำหนักขึ้นมาเป็นร้อยกิโล
ผม: เอ๊ะ คนเป็นเจ้าชายนิทรานี่เค้าต้อง feed อาหารทางสายยางไม่ใช่เหรอครับ ไหงน้ำหนักขึ้นเป็นร้อยโลล่ะ กล้ามเนื้อน่าจะเกิด disuse atrophy ฝ่อไปเยอะเลยนะครับนั่น
คนขับ: เห้ย กรูเป็นเจ้าชายนิทราที่แค่พูดไม่ได้ ลุกขึ้นมากินข้าวได้ กินเยอะเลย แต่จำหน้าเพื่อนไม่ค่อยได้ พูดไม่ได้
ผม: เจ้าชายนิทรามันต้องหลับไปเลยไม่ใช่เหรอครับพี่ ยังงี้ต้องเรียกเจ้าชายใบ้นะ
คนขับ: 5555 (หัวเราะแหยๆ) นั่นแหละๆ จากนั้นมากรูเลยต้องฟื้นตัวนาน
ผม: 555 ครับ
คนขับ: เรื่องเป็ดปักกิ่งอย่าลืมนะกรูให้เมิงเลย ไปคิดมาจะรักษาสุขภาพเป็ดยังไง เพราะส่งขายร้านอาหารจีนทั่วโลก
เล่ารายละเอียดแค่นี้ดีกว่าครับ จริงๆเยอะกว่านี้อีกมาก มีธุรกิจอยู่ทุกที่ ลูกน้องมากมาย เพื่อนฝูงเป็นทั้งวิศวะ นักการตลาด นักธุรกิจ
แถมมีลูกหลานจบเกียรตินิยม ม.ดัง
ก่อนลงยังไม่ลืมบอกว่าจะโทรมาหารือเรื่องเป็ดปักกิ่ง พร้อมบอกให้ผมเลิกเรียน และมาฝึกงานกับแกที่ฟาร์มแถวเชียงใหม่
ก่อนลงรถผมก็ลาแกพร้อมกับบอกว่า
ผมรู้นะพี่ ที่พี่พูดมาอ่ะ ไม่จริงสักอย่าง 55 แต่ยังไงก็โชคดีนะครับพี่
ปล. ผมว่าถ้ามีคนเผลอติดกับแก อาจจะโดนแกลากไปทำธุรกิจอะไรสักอย่างที่สร้างฝันให้กับพวกเด็กวัยรุ่น เด็กจบใหม่ รุ่นราวคราวเดียวกับผม
ปล 2 ในกระดาษที่ส่งมาให้ผมจดชื่อและเบอร์โทร เห็นมีคนเขียนไว้ก่อนหน้าหลายคนอยู่ ไม่รู้จะมีใครตกเป็นเหยื่อแกมั้ยเนี่ย
ปล 3 หรือวันนี้ผมอาจแจ๊คพอต ได้นั่งสนทนาในรถแท็กซี่กับ CEO ใหญ่ จริงๆ 555
ขออนุญาติแท๊กห้องสินธรนะครับ เผื่อมีใครรู้จักแกในแวดวงนักธุรกิจจริงๆ อิอิ
เมื่อผมเจอคนขับแท็กซี่ยอดนักธุรกิจพันล้าน
วันนี้ไปงานหนังสือมาครับ ด้วยความที่ตอนบ่ายๆ รถไฟฟ้าใต้ดินคนแน่นมากๆ ผมกับน้องสาวเลยตัดสินใจขึ้นรถแท็กซี่ จากฝั่งตรงข้ามศูนย์ประชุมฯ
เรียกไปลงที่บ้านผมแถวสะพานใหม่ครับ
พอขึ้นรถมา พี่เค้าก็เริ่มชวนคุยทันทีครับ
คนขับ: น้องสองคนเรียนที่ไหนเนี่ย
ผม : เรียนคณะสัตวแพทย์ครับ
น้องสาว : เรียนวิทย์กีฬาค่ะ
แล้วพี่เค้าก็ซักน้องสาวผมครับว่า เรียนอะไรยังไง ชอบใช้ศัพท์ไทยคำอังกฤษคำ คำพูดคำจาและท่าทางดูน่าเชื่อถือมากๆ
แต่เนื่องจากน้องสาวผมเป็นคนไม่ค่อยพูด ถามคำตอบคำ พี่แท็กซี่เลยหันมาถามผมแทนครับ
คนขับ: แล้วทำไมน้องคิดเรียนสัตวแพทย์ ไมไม่เรียนหมอคนไปเลยล่ะ
ผมก็แบบ มาอีกละ คำถามนี้ ก็ตอบไปว่าประมาณว่า สนุกดีครับ ชอบแนวนี้ พี่เค้าก็ซักต่อ ตอนนั้นผมยังไม่เอะใจครับ เพราะโดยปกติก็เคยเจอพี่แท็กซี่ที่ชอบชวนคุยอยู่แล้ว เลยไม่ได้คิดอะไรครับ
พี่เค้าก็ถามต่อ
คนขับ: แล้วสายงานงานของสัตวแพทย์ไปทำอะไรได้มั่ง
ผม : โห ก็หลายอย่างอยู่นะครับ
คนขับ : ไม่เอาสิ ตอบมาให้ละเอียดสิ
ผม : ก็อย่างที่รู้กันคือ เป็นหมอสัตว์เล็ก รักษาสุนัขและแมว ตามโรงพยาบาลสัตว์ หรือคลินิก แล้วก็มีทางสายรักษาสัตว์ใหญ่ สัตว์ป่า หรือไปดูแลเรื่องอาหารตั้งแต่การทำฟาร์มเลี้ยงสัตว์ จนถึงออกมาเป็นเนื้อสัตว์ให้มนุษย์กิน ประมาณนี้อะครับ
คนขับ : แล้วเราเกรดเฉลี่ยเท่าไหร่
ผม : 3.35 ครับ (ตอนนี้คิดในใจ ไมซักละเอียดจังวะ แต่ก็ตอบไป)
คนขับ : อื้ม เกียรตินิยมอันดับสองใช่ไหม
ผม : ครับ
คนขับ : น้องสนใจสายงานด้านนักวิจัยไหม ( ในใจผมคิด มาไม้ไหนวะนี่)
ผม : ก็ยังดูๆอยู่ครับ ยังไม่แน่ใจว่าจะทำด้านไหนดี
คนขับ : พี่ว่าเราต้องโฟกัสนะ ทำทางด้านดูแลอาหารคนเนี่ยแหละ ดีๆ ไม่ต้องไปสนใจเรื่องอื่นเลย เนี่ย เป็นนักวิจัย
ผม : ก็น่าสนใจนะครับ แต่ผมยังว่ามันยากไป คงต้องหาประสบการณ์ไปก่อน แล้วทำงานวิจัยนี่ผมว่าต้องแบบ หัวกะทิเลย ผมอาจยังไม่เหมาะ
คนขับ : น้องก็ต้องมาลงงานจริงเลย เนี่ย สนใจไหม พี่กับเพื่อนเนี่ยทำเรื่อง หอยขม กับพวกเห็ดหลินจืออยู่แถบทางเหนือ เป็นเจ้าของเอง จดสิทธิบัตรเลย
กำลังจะได้เป็นหนึ่งในโครงการณ์พระราชดำริขอพ่อหลวง ถ้าสนใจเดี๋ยวพี่ฝากให้เลย ไปฝึกงานเชียงใหม่ช่วงปิดเทอม ดีไหม
ผม : เอ่ออ ครับ
คือในใจผมตอนนี้ผมว่ามันแหม่งๆ นะ คือฟาร์มหอยขมมม ถามจริงง 55 ก็ยังไม่ได้อะไรครับ ฟังเค้า แล้วก็อือๆออๆ ตามไป
แถมรถนี่ก็ติดจัง ดูท่าจะอีกยาว
คนขับ : เนี่ย น้องเคยกินไข่ไก่ซีพีไหม รู้รึปล่าว พี่เป็นคนคิดคอนเซปนี้นะ พวกไข่ลวก ไข่ต้มน่ะ ที่ขายๆดีๆ พี่เป็นคนคิดทั้งนั้น
ผม : จริงเหรอครับ โห ผมก็ซื้อกินอยู่บ่อยๆนะ (คือเริ่มรู้สึกแหม่งๆอีกละ เป็นทีมการตลาดซีพี แถมเป็นเข้าของฟาร์มนู่นนี่นั่นแถวภาคเหนือ
แล้วมาขับแท็กซี่ไมวะ 555 แต่ยังไม่ถามแย้งครับ รอดูแกเล่าต่อ ซึ่งมันจะอลังการขึ้นเรื่อยๆ ส่วนผมก็ฟังและก็เออออตามแกไปครับ)
คำถามไคลแม็กซ์
คนขับ : น้องรู้ไหม "ประเทศไทยคืออะไร"
ติดสตั๊นไป 5 วิ ถามยากมากกก แล้วหน้าตาเค้าจะยิ้มๆดูลองภูมิเรา กระตุ้นต่อมอะไรสักอย่างที่จะทำให้เราอยากแสดงความคิดเห็นอ่ะครับ มาดเค้าดีจริงๆต้องยอมรับ
ผม: เอ่ออ เอาแนวไหนละครับ ทางด้านภูมิศาสตร์ วัฒนธรรม สังคม กว้างมาก ผมไม่รู้จะตอบยังไง
คนขับ : แนวไหนก็ได้ ที่น้องคิด
ผม : ก็ ประเทศ ที่มีคนไทยอยู่ มั้งครับ 555 (หัวเราะกลบเกลื่อน)
คนขับ : ไม่ใช่ ฟังพี่นะ ประเทศไทยคือ ประเทศกสิกรรมที่มีผลผลิตมากที่สุด เมื่อเทียบกับจำนวนคนในประเทศ ตอนหัวหน้าถามพี่พี่ก็บอกแบบน้องนี่แหละ
ผม : อ่ออ ครับ ก็จริงนะ ศักยภาพการผลิตหมู ไก่ ปศุสัตว์เรานี่เยอะจริงๆ แต่บางทีส่งออกไม่ได้เพราะติดปัญหาพวกโรคต่างๆ
คนขับ : นั่นไง กรูถึงมาทำด้านนี้ กรูชอบทางด้านนี้ เมื่อก่อนทำงานแบงค์แล้วไม่ชอบ เลยออกมาทำด้านนี้เต็มตัวเลยตอนปี 49 นี่ก็กำลังทำเรื่องของสัตว์ปีกอยู่ รู้ไหมตัวไหนมาแรง
ผม : เอ่อ ไม่รู้ครับ
คนขับ : เป็ดปักกิ่งไง เนี่ยถ้าเราตกลง จบแล้ว กรูให้เลยนะ เป็ดปักกิ่งเนี่ย ออเดอร์ทั่วโลก ยังมีอีก พวกวัว ตอนนี้มีออเดอร์มาสี่แสนกว่าตัว
เออ เนี่ย จดชื่อให้พี่หน่อย เบอร์โทรด้วยนะ เดี๋ยวไว้พี่เอาชื่อเราไปตรวจสอบ ย้อนไปถึงพ่อถึงแม่เลย ไม่ได้ว่าไม่ไว้ใจนะ แต่อยากให้มาช่วยกันทำทีมวิจัย
แล้วก็ต้องเลือกหน่อย เห็นเราดูหน่วยก้านดี เกรดดี น่าจะทำได้ อ่อ ขอเรียกกรูแล้วกัน กับลูกน้องที่อยู่ต่างประเทศก็เรียกกันแบบนี้ ไม่ว่ากันนะ
ผมฟังพี่เค้าโม้มานาน เลยถามกลับมั่ง
ผม: แล้ววัวที่พี่จะขายนี่ พันธ์อะไรครับ
พี่เค้าไม่ตอบแต่ถามกลับว่า "แล้วเมิงคิดว่า วัว คืออะไร" เอาอีกละ 555 คือเค้าชอบหลอกให้เราพูดข้อมูลออกมา และเก็บข้อมูลเอาไว้
ก่อนจะพูดออกมาอีกทีเป็นภาษาของเค้าเอง ซึ่งถ้าเผลอๆ ไร้สติ ก็อาจหลงเชื่อได้นะครับ ย้ำว่าพี่เค้าพูดจาลื่นไหลมาก และดูเหมือนรู้จริง แต่ด้วยความที่คุยกันนาน ผมเริ่มจับทางได้ เลยจะลองทดสอบอะไรหน่อยครับ
ผม: วัวก็คือวัว อ่ะครับพี่จะให้ผมตอบว่าไง สรุปว่าพี่ใช้วัวพันธ์ุไหนครับ
คนขับ: พันธู์ใหม่ล่าสุด เอ็งไม่ต้องไปรู้หรอก หัวการตลาดระดับกรู ยังไงก็ไม่มีปัญหา เรื่องสายพันธุ์พี่รับลอง ใหม่ล่าสุด (พูดเหมือนปรับปรุงพันธุ์วัวนี่ง่ายเหลือเกิน
ผม : พี่ก็ต้องรู้สินค้าที่พี่จะขายสิครับ วัวพันธ์ุอะไรพี่ยังไม่รู้เลย ตอบผมหน่อยสิครับ แล้วเห็นบอกอยู่วงการนี้ รู้หรือปล่าวครับว่าวัวพันธ์กำแพงแสนที่นี่ย ลูกผสมกี่สาย คนวงในยังไงก็รู้จักครับ
คนขับ: แล้วคิดว่ามันเป็นกี่สายล่ะ
ผม: พี่ลองตอบมาสิครับ ผมใบ้ให้ว่าผสมกันสามสายพันธุ์
คนขับ : ก็ใช้วัวพันธุ์ cow ไง (ตอบมาได้ วัว Cow)
ผม: อ๋อ พี่คงหมายถึงวัวเนื้อใช่ไหมครับ
คนขับ : ใช่
ผม : พันธุ์ Holstein ละสิ เห็นว่าให้เนื้อดีนะ (คือความจริงมันเป็นพันธุ์วัวนมครับ ลองแกล้งหลอกถามดู)
คนขับ: ถูกต้องง Holstein กำลังมาแรง
ผม: ทำไมพี่เก่งจังครับเนี่ย
คนขับ: จริงๆกรูหัวดีมาก แต่ตอนเด็ก โดน แอ๊กซิเดนท์ เลยเป็นเจ้าชายนิทราไป 4 เดือน
ผม: แย่เลยนะครับ
คนขับ: ช่าย ตอนนั้นแม่กรูสงสารพกรูมาก ตัดพ้อตลอดว่าทำไมลูกชายต้องมาเจอเรื่องร้ายๆ เวรกรรมอะไรน้อ จากนั้นพกรูก็เลยสอบไม่ติดจุฬา เลยไปเรียนการตลาด ที่ราม
ผม: อ่อ นอนเป็นเจ้าชายนิทรานานขนาดนั้น ฟื้นมาคงต้องกายภาพยาวเลยนะครับ
คนขับ: ใช่นอนอยู่เฉยๆ น้ำหนักขึ้นมาเป็นร้อยกิโล
ผม: เอ๊ะ คนเป็นเจ้าชายนิทรานี่เค้าต้อง feed อาหารทางสายยางไม่ใช่เหรอครับ ไหงน้ำหนักขึ้นเป็นร้อยโลล่ะ กล้ามเนื้อน่าจะเกิด disuse atrophy ฝ่อไปเยอะเลยนะครับนั่น
คนขับ: เห้ย กรูเป็นเจ้าชายนิทราที่แค่พูดไม่ได้ ลุกขึ้นมากินข้าวได้ กินเยอะเลย แต่จำหน้าเพื่อนไม่ค่อยได้ พูดไม่ได้
ผม: เจ้าชายนิทรามันต้องหลับไปเลยไม่ใช่เหรอครับพี่ ยังงี้ต้องเรียกเจ้าชายใบ้นะ
คนขับ: 5555 (หัวเราะแหยๆ) นั่นแหละๆ จากนั้นมากรูเลยต้องฟื้นตัวนาน
ผม: 555 ครับ
คนขับ: เรื่องเป็ดปักกิ่งอย่าลืมนะกรูให้เมิงเลย ไปคิดมาจะรักษาสุขภาพเป็ดยังไง เพราะส่งขายร้านอาหารจีนทั่วโลก
เล่ารายละเอียดแค่นี้ดีกว่าครับ จริงๆเยอะกว่านี้อีกมาก มีธุรกิจอยู่ทุกที่ ลูกน้องมากมาย เพื่อนฝูงเป็นทั้งวิศวะ นักการตลาด นักธุรกิจ
แถมมีลูกหลานจบเกียรตินิยม ม.ดัง
ก่อนลงยังไม่ลืมบอกว่าจะโทรมาหารือเรื่องเป็ดปักกิ่ง พร้อมบอกให้ผมเลิกเรียน และมาฝึกงานกับแกที่ฟาร์มแถวเชียงใหม่
ก่อนลงรถผมก็ลาแกพร้อมกับบอกว่า
ผมรู้นะพี่ ที่พี่พูดมาอ่ะ ไม่จริงสักอย่าง 55 แต่ยังไงก็โชคดีนะครับพี่
ปล. ผมว่าถ้ามีคนเผลอติดกับแก อาจจะโดนแกลากไปทำธุรกิจอะไรสักอย่างที่สร้างฝันให้กับพวกเด็กวัยรุ่น เด็กจบใหม่ รุ่นราวคราวเดียวกับผม
ปล 2 ในกระดาษที่ส่งมาให้ผมจดชื่อและเบอร์โทร เห็นมีคนเขียนไว้ก่อนหน้าหลายคนอยู่ ไม่รู้จะมีใครตกเป็นเหยื่อแกมั้ยเนี่ย
ปล 3 หรือวันนี้ผมอาจแจ๊คพอต ได้นั่งสนทนาในรถแท็กซี่กับ CEO ใหญ่ จริงๆ 555
ขออนุญาติแท๊กห้องสินธรนะครับ เผื่อมีใครรู้จักแกในแวดวงนักธุรกิจจริงๆ อิอิ