นพมาศ นพมาศจริงๆ นพมาศไม่มีที่ติ นพมาศได้อีก อย่ามานพมาศ นพมาศเน้นๆ!!
#นพมาศ(ก.) เป็นศัพท์แสลงของนิสิตวรรณคดีไทย ม.ดังทุ่งบางเขน
#หมายถึง มั่นหน้า
หลงตัวเอง ยกตนข่มท่าน อวดรู้ เอาดีเข้าตัวเอาชั่วใส่คนอื่น คนที่คุยโวโอ้อวด
#มีที่มาจาก ตำรับท้าวศรีจุฬาลักษณ์ วรรณคดีสมัยสุโขทัย ในเอกสารนางนพมาศ มีการสันนิษฐานหลายชั้น จากนักวิชาการหลายท่าน อาทิ กล่าวว่านพมาศ แปลว่า ทองเนื้อเก้า แต่สันนิษฐานว่าสมัยก่อนแปลว่า เก้าเดือน คือ นพมาส ในสมัยนั้นการเขียน ศ ส ษ สามารถใช้ร่วมกันได้ ถ้าสังเกตจากวรรณคดีในสมัยเดียวกัน ทั้งนี้เพราะในตัวเอกสาร มีการบันทึกประเพณี พิธีต่างๆที่ปรากฏในแต่ล่ะเดือน เพียงแค่เก้าเดือนเท่านั้น ลักษณะคล้ายทวาทศมาส ของ ร.5 ที่มีประเพณี หรือพระราชพิธีในแต่ละเดือนทั้ง 12 เดือน
แต่ที่เป็นข้อโจษจันกันในหมู่นิสิต คือ กล่าวว่านางนพมาศ ซึ่งสันนิษฐานว่ามีตัวตนจริงนั้น ได้เป็นผู้มีบุญญาธิการ มาเกิดหากแต่เป็นลูกสาวของพราหมณ์ประจำราชสำนักสมัยสุโขทัย โดยนางได้บันทึกข้อความเหล่านี้ขึ้นมาเอง โดยได้ระบุสรรพคุณต่างๆของนาง อาทิ ตอนเด็กๆ ได้เรียนสรรพวิทยาต่างๆ จนเก่งที่สุด ครบทุกแขนงตั้งแต่ 15 ปี เป็นปราชญ์รู้คดีธรรมคดีโลกในแผ่นดินได้คนหนึ่งโดยแท้จริง บิดามารดามอบทรัพย์สินให้แสนตำลึงข้าน้อยก็ศรัทธาบริจาคหมด ไม่เก็บไว้สักบาท การบ้านการเรือนพรั่งพร้อมทำเป็นทุกอย่าง นางมีรูปร่างที่สวยงามไม่มีใครเทียบได้ มีความฉลาดกว่าคนอื่นๆในรุ่นราวคราวเดียวกัน ในหมูคณาญาติทั้งหลาย ข้าน้อยบริบูรณ์ไปด้วยสมบัติทั้ง 3 คือ รูปสมบัติ ปัญญาสมบัติ และทรัพย์สมบัติ หรือแม้แต่ตอนที่จะได้ไปถวายตัวแด่สมเด็จพระร่วงเจ้า นางเล่าว่านางฝันว่าได้เยี่ยมบัญชรพระเจ้าแผ่นดินชมแสงจันทร์อยู่จนตื่น บิดาก็ฝันว่าพรรณดอกไม้ต่างๆแย้มบานเกสรใช่ฤดูกาล หอมกลิ่นรวยรื่นไปทั่วจังหวัดพระนคร บิดาของนางได้สั่งสอนอบรมนางก่อนเข้าวัง ให้ทำอย่างนู้นอย่างนี้ด้วยห่วงลูกสาว นางก็อธิบายพ่อของนางว่าต่างๆนาๆ กลับกลายเป็นว่านางสอนพ่อของนางเสียเอง ไม่รู้ใครสอนใคร พอนางเข้าไปในวัง นางก็ได้ปรนนิบัติพัดวี หมั่นขึ้นเฝ้ามิได้ขาด (เสนอหน้าบ่อยๆ) นางยังว่ากล่าวสั่งสอนนางสนมต่างๆให้เอาเยี่ยงอย่างนาง ที่เป็นสนมเอก ว่าควรทำกิริยาวางตัวเช่นไรบ้าง ถ้าพวกนางไม่เขลาเกินไปก็ให้รีบปรับตัวโดยเร็ว
จนนางกล่าวว่านางเป็นสตรีนักปราชญ์ฉลาดในวิชาช่าง
1. นางริประดิษฐ์โคมลอยรูปดอกบัวบานขนาดใหญ่เท่ากงเกวียนประดับดอกไม้และรูปสัตว์ ไปถวายพระร่วงเจ้า ไปสักการะพระเกตศธาศในพิธีจองเปรียง
2. ผูกกลอนเป็นเพลงร้องถวายตามรับสั่ง โดยมีใจความให้เพื่อนนางในทั้งหลายได้ออกไปเที่ยวนอกวังในวันนักขัตฤกษ์ด้วย พระร่วงเห็นว่านางฉลาดดี
3. ร้อยกรองดอกไม้เป็นรูปพานขันหมากใส่เมี่ยงหมากถวาย พระร่วงชอบเลยให้ใช้เป็นต้นแบบพานขันหมากสืบกันมา
4. ประดิษฐ์พนมพระวรรษาเป็นดอกไม้ทอง และกอบัวสี ถวายพระร่วงในพิธีเข้าพรรษาและเช่นเคยพระร่วงชอบ
และยังมีเรื่องที่นางชักแม่น้ำทั้งสี่ห้าสาย สามารถตามอ่านได้จากหนังสือวรรณคดีสมัยสุโขทัยทั่วๆไป
ทั้งนี้ ในเอกสารบอกว่านางเป็นคนแต่งเองทั้งหมด ไม่มีใครชมนางนางก็บอกว่ามีคนชมนางมากมาย นางก็ชมตัวเองไม่ใช่น้อย จึงสร้างความหมั่นไส้ให้แก่ผู้อ่าน คือ นิสิตวรรณคดีไทย และผู้ที่อ่านท่านอื่นๆ
ใกล้วันลอยกระทงแล้ว อย่าลืมไปดูประกวดนางนพมาศกันละ อิอิ ใครจะนพมาศได้ดีที่สุด.....นพมาศได้อีก
วลี Hit ติดปาก ศัพท์ใหม่วัยรุ่น "นพมาศ"
#นพมาศ(ก.) เป็นศัพท์แสลงของนิสิตวรรณคดีไทย ม.ดังทุ่งบางเขน
#หมายถึง มั่นหน้า หลงตัวเอง ยกตนข่มท่าน อวดรู้ เอาดีเข้าตัวเอาชั่วใส่คนอื่น คนที่คุยโวโอ้อวด
#มีที่มาจาก ตำรับท้าวศรีจุฬาลักษณ์ วรรณคดีสมัยสุโขทัย ในเอกสารนางนพมาศ มีการสันนิษฐานหลายชั้น จากนักวิชาการหลายท่าน อาทิ กล่าวว่านพมาศ แปลว่า ทองเนื้อเก้า แต่สันนิษฐานว่าสมัยก่อนแปลว่า เก้าเดือน คือ นพมาส ในสมัยนั้นการเขียน ศ ส ษ สามารถใช้ร่วมกันได้ ถ้าสังเกตจากวรรณคดีในสมัยเดียวกัน ทั้งนี้เพราะในตัวเอกสาร มีการบันทึกประเพณี พิธีต่างๆที่ปรากฏในแต่ล่ะเดือน เพียงแค่เก้าเดือนเท่านั้น ลักษณะคล้ายทวาทศมาส ของ ร.5 ที่มีประเพณี หรือพระราชพิธีในแต่ละเดือนทั้ง 12 เดือน
แต่ที่เป็นข้อโจษจันกันในหมู่นิสิต คือ กล่าวว่านางนพมาศ ซึ่งสันนิษฐานว่ามีตัวตนจริงนั้น ได้เป็นผู้มีบุญญาธิการ มาเกิดหากแต่เป็นลูกสาวของพราหมณ์ประจำราชสำนักสมัยสุโขทัย โดยนางได้บันทึกข้อความเหล่านี้ขึ้นมาเอง โดยได้ระบุสรรพคุณต่างๆของนาง อาทิ ตอนเด็กๆ ได้เรียนสรรพวิทยาต่างๆ จนเก่งที่สุด ครบทุกแขนงตั้งแต่ 15 ปี เป็นปราชญ์รู้คดีธรรมคดีโลกในแผ่นดินได้คนหนึ่งโดยแท้จริง บิดามารดามอบทรัพย์สินให้แสนตำลึงข้าน้อยก็ศรัทธาบริจาคหมด ไม่เก็บไว้สักบาท การบ้านการเรือนพรั่งพร้อมทำเป็นทุกอย่าง นางมีรูปร่างที่สวยงามไม่มีใครเทียบได้ มีความฉลาดกว่าคนอื่นๆในรุ่นราวคราวเดียวกัน ในหมูคณาญาติทั้งหลาย ข้าน้อยบริบูรณ์ไปด้วยสมบัติทั้ง 3 คือ รูปสมบัติ ปัญญาสมบัติ และทรัพย์สมบัติ หรือแม้แต่ตอนที่จะได้ไปถวายตัวแด่สมเด็จพระร่วงเจ้า นางเล่าว่านางฝันว่าได้เยี่ยมบัญชรพระเจ้าแผ่นดินชมแสงจันทร์อยู่จนตื่น บิดาก็ฝันว่าพรรณดอกไม้ต่างๆแย้มบานเกสรใช่ฤดูกาล หอมกลิ่นรวยรื่นไปทั่วจังหวัดพระนคร บิดาของนางได้สั่งสอนอบรมนางก่อนเข้าวัง ให้ทำอย่างนู้นอย่างนี้ด้วยห่วงลูกสาว นางก็อธิบายพ่อของนางว่าต่างๆนาๆ กลับกลายเป็นว่านางสอนพ่อของนางเสียเอง ไม่รู้ใครสอนใคร พอนางเข้าไปในวัง นางก็ได้ปรนนิบัติพัดวี หมั่นขึ้นเฝ้ามิได้ขาด (เสนอหน้าบ่อยๆ) นางยังว่ากล่าวสั่งสอนนางสนมต่างๆให้เอาเยี่ยงอย่างนาง ที่เป็นสนมเอก ว่าควรทำกิริยาวางตัวเช่นไรบ้าง ถ้าพวกนางไม่เขลาเกินไปก็ให้รีบปรับตัวโดยเร็ว
จนนางกล่าวว่านางเป็นสตรีนักปราชญ์ฉลาดในวิชาช่าง
1. นางริประดิษฐ์โคมลอยรูปดอกบัวบานขนาดใหญ่เท่ากงเกวียนประดับดอกไม้และรูปสัตว์ ไปถวายพระร่วงเจ้า ไปสักการะพระเกตศธาศในพิธีจองเปรียง
2. ผูกกลอนเป็นเพลงร้องถวายตามรับสั่ง โดยมีใจความให้เพื่อนนางในทั้งหลายได้ออกไปเที่ยวนอกวังในวันนักขัตฤกษ์ด้วย พระร่วงเห็นว่านางฉลาดดี
3. ร้อยกรองดอกไม้เป็นรูปพานขันหมากใส่เมี่ยงหมากถวาย พระร่วงชอบเลยให้ใช้เป็นต้นแบบพานขันหมากสืบกันมา
4. ประดิษฐ์พนมพระวรรษาเป็นดอกไม้ทอง และกอบัวสี ถวายพระร่วงในพิธีเข้าพรรษาและเช่นเคยพระร่วงชอบ
และยังมีเรื่องที่นางชักแม่น้ำทั้งสี่ห้าสาย สามารถตามอ่านได้จากหนังสือวรรณคดีสมัยสุโขทัยทั่วๆไป
ทั้งนี้ ในเอกสารบอกว่านางเป็นคนแต่งเองทั้งหมด ไม่มีใครชมนางนางก็บอกว่ามีคนชมนางมากมาย นางก็ชมตัวเองไม่ใช่น้อย จึงสร้างความหมั่นไส้ให้แก่ผู้อ่าน คือ นิสิตวรรณคดีไทย และผู้ที่อ่านท่านอื่นๆ
ใกล้วันลอยกระทงแล้ว อย่าลืมไปดูประกวดนางนพมาศกันละ อิอิ ใครจะนพมาศได้ดีที่สุด.....นพมาศได้อีก