เอเอฟพี - มีรายงานออกมาในวันนี้ (15 ต.ค.) ว่าตำรวจมาเลเซียได้ควบคุมตัว 13 ผู้ต้องสงสัยที่เชื่อว่ามีความเชื่อมโยงกับกลุ่มรัฐอิสลาม (ไอเอส) ในช่วงเวลาที่บรรดาประเทศมุสลิมสายกลางเริ่มกังวลเพิ่มมากขึ้นเกี่ยวกับข้อเรียกร้องของกลุ่มหัวรุนแรง

หนังสือพิมพ์เดอะสตาร์ ได้อ้างคำพูดของผู้บังคับการตำรวจแห่งชาติ คาลิด อาบู บาการ์ ที่ระบุว่า มีชาวมาเลเซีย 13 คนถูกควบคุมตัวจากการบุกเข้าตรวจค้นร้านอาหารแห่งหนึ่งแถบชานเมืองกัวลาลัมเปอร์ ทำให้ตอนนี้มีจำนวนผู้ที่จับเนื่องจากต้องสงสัยว่าเกี่ยวข้องกับกลุ่มไอเอสรวมทั้งสิ้น 36 คนแล้ว นับตั้งแต่เดือนเมษายนที่ผ่านมา
      
       "เรากำลังตรวจสอบการทำกิจกรรมของคนเหล่านี้อย่างต่อเนื่อง พวกผู้ก่อการร้ายจะต้องไม่มีที่อยู่ในประเทศนี้" เขากล่าว
      
       อย่างไรก็ตาม หนังสือพิมพ์ฉบับดังกล่าวไม่ได้รายงานรายละเอียดของข้อกล่าวหาที่ว่ามีส่วนเชื่อมโยงกับกลุ่มไอเอส ขณะเดียวกันคาลิดและเจ้าหน้าที่คนอื่นๆ ก็ยังไม่ได้แสดงความเห็นกับเอเอฟพี
      
       ก่อนหน้านี้ ทางการมาเลเซียได้เคยยืนยันว่ามีชาวมาเลเซียอย่างน้อย 30 - 40 คน ได้เข้าร่วมสงครามกลางเมืองในซีเรีย แถมบรรดาผู้สนับสนุนกลุ่มไอเอสเหล่านี้ก็ยังพยายามชักชวนคนอื่นให้เข้าร่วมเพิ่มเติมผ่านทางโซเชียลมีเดีย ทำให้เจ้าหน้าที่เกรงว่าจะทำให้มีการก่อเหตุร้ายของพวกหัวรุนแรงกลับมาให้เห็นอีกครั้ง
      
       เมื่อเดือนสิงหาคม ตำรวจมาเลเซียได้ระบุว่า พวกเขาได้สกัดแผนก่อเหตุระเบิดของกองกำลังติดอาวุธหัวรุนแรงที่ได้รับแรงบันดาลใจมากกลุ่มไอเอส
      
       เจ้าหน้าที่ตำรวจระบุว่า มีผู้ที่ถูกจับหลายสิบคนช่วงเดือนเมษายน - มิถุนายน ที่วางแผนจะก่อเหตุระเบิดผับ ดิสโก้ และโรงเบียร์คาลสเบิร์ก บางรายมีการวางแผนไว้ว่าจะเดินทางไปซีเรียด้วย
      
       สื่อท้องถิ่นได้เคยรายงานไว้ก่อนหน้านี้ว่า มีพนักงานโรงงานรายหนึ่งที่ชื่อ อาเหม็ด มาลิกี อายุ 26 ปี ได้สังหารทหารอิรักไปถึง 25 นาย ด้วยการใช้คาร์บอมบ์ในเดือนพฤษภาคม
      
       มาเลเซียเคยเป็นฐานของกลุ่มหัวรุนแรงหลายกลุ่ม อาทิ เจมาห์ อิสลามิยาห์ (เจไอ) ที่มีความเชื่อมโยงกับกลุ่มอัลกออิดะห์ ซึ่งเคยถูกกล่าวโทษว่าเป็นผู้ก่อเหตุระเบิดในบาหลีเมื่อปี 2002 และการโจมตีอื่นๆ อีกหลายครั้ง อย่างไรก็ตาม การก่อเหตุของกลุ่มเหล่านี้ได้ลดลงไปมาก หลังจากที่มีปฏิบัติการต่อต้านก่อการร้ายในช่วงหลายปีที่ผ่านมา