ฟิลลิป เบียงคี่ พ่อ ของฌูลส์ เบียงคี่ให้สัมภาษณ์ถึงอาการล่าสุดของลูกชาย
"สถานการณ์ตอนนี้คือ สิ้นหวัง
ทุกครั้งที่โทรศัพท์ดัง เราคิดว่า นั่นอาจเป็นสายจากโรงพยาบาลที่โทรมาบอกเราว่า ฌูลส์ไม่อยู่กับเราแล้ว
ผมรู้ว่าเขาไม่ยอมแพ้ ผมแน่ใจ ผมมองเห็นมัน และผมเชื่อมั่น
ผมพูดกับเขา ผมรู้ว่าเขาได้ยิน
หมอของเขาบอกว่า ปาฏิหาริย์เกิดขึ้นแล้ว จริงๆไม่มีใครรอดจากอุบัติเหตุร้ายแรงขนาดนี้ แต่ฌูลส์ของเรา ไม่ยอมแพ้
เทรนเนอร์ของเขา อันเดร บอกว่า หากไม่มีใครเคยทำให้มันเกิดขึ้นได้มาก่อน ฌูลส์ จะเป็นคนนั้น..."
ฟิลลิป เบียงคี่ พูดถึง สิ่งที่นักแข่ง F1 กอดคอกันสร้างวงล้อมเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันเพื่อส่งกำลังใจให้ฌูลส์ ว่า
"ผมไม่เคยเห็นอะไรแบบนี้มาก่อน มันจับใจเรามาก เราขอบคุณพวกเขามากจริงๆ พว กเขาหลายคนยังคุยกับเราตลอด เขียนถึงเรา ทั้งอลอนโซ่ ,แวนญ์ , มาซซ่า พวกเขาส่งข้อความให้กำลังใจที่ทำให้เราเข้มแข็งมาก"
ฟิลลิปบอกว่า กรณีของฌูลส์เหมือนกับสิ่งที่เกิดขึ้นกับ ชูมาคเกอร์ในอุบัติเหตุหัวกระแทกระหว่างเล่นสกี
"ผมเศร้ามาก ที่เห็นเขาต้องบาดเจ็บ และตอนนั้นผมเองก็คิดเหมือนกับคนอื่นๆ ทำไมพวกเขาถึงไม่บอกเรานะ ว่าอาการชูมาคเกอร์เป็นไงบ้างแล้ว?
และเมื่อผมต้องมาอยู่ในสถานะเดียวกัน ผมถึงเข้าใจ
ผู้คตถามเราตลอดว่า ฌูลส์เป็นยังไงบ้าง แต่ผมตอบไม่ได้ ผมไม่มีอะไรจะตอบพวกเขา มันยังร้ายแรง แต่เขาก็ทรงๆ ไม่ดีขึ้น หรือ แย่ลง
วันนึงเขาก็ดีขึ้น วันนึงเขาก็แย่ลง หมอไม่ได้พูดอะไร ความเสียหายจากอุบัติเหตุมันร้ายแรงมาก และเราไม่รู้ว่าทำยังไงมันถึงจะพัฒนาขึ้น
ชูมาคเกอร์ใช้เวลา 1 เดือนในการพ้นจากช่วงโคม่า ตอนนั้น Jean todt (ประธาน FIA) บอกว่า เขาหวังว่าสักวันหนึ่ง ชูมาคเกอร์จะสามารถกลับมาใช้ชีวิตแบบเดิมได้ ผมหวังว่า เราจะสามารถพูดแบบนั้น ถึงฌูลส์ ได้เหมือนกัน
มันสาหัส เป็นสัปดาห์ในช่วงชีวิตที่ครอบครัวของเราพังทลาย เรามาทำอะไรกันอยู่ที่นี่? อยู่กับฝันร้ายในที่ที่ห่างไกลจากบ้านเราเหลือเกิน
ถ้าอาการของฌูลส์ดีขึ้น จนสามารถย้ายเขาไปที่อื่นได้ บางทีอาจเป็นโตเกียว อะไรๆคงง่ายขึ้น แต่ใครจะรู้ว่ามันจะเกิดขึ้นเมื่อไหร่ ถ้ามันเกิดขึ้นจริง เราเองไม่มีอะไรยืนยันว่ามันจะเกิดขึ้น เราแค่ต้องรอเท่านั้น"
พูดไม่ออกเลย คุณพ่อพูดแบบปลงแล้ว มองโลกตามความจริงมาก ส่งกำลังใจให้ฌูลส์ด้วยนะคะ
[Formula 1] ฟิลลิป เบียงคี่ พ่อ ของฌูลส์ เบียงคี่ให้สัมภาษณ์ถึงอาการล่าสุดของลูกชาย #GetWellSoonBianchi
"สถานการณ์ตอนนี้คือ สิ้นหวัง
ทุกครั้งที่โทรศัพท์ดัง เราคิดว่า นั่นอาจเป็นสายจากโรงพยาบาลที่โทรมาบอกเราว่า ฌูลส์ไม่อยู่กับเราแล้ว
ผมรู้ว่าเขาไม่ยอมแพ้ ผมแน่ใจ ผมมองเห็นมัน และผมเชื่อมั่น
ผมพูดกับเขา ผมรู้ว่าเขาได้ยิน
หมอของเขาบอกว่า ปาฏิหาริย์เกิดขึ้นแล้ว จริงๆไม่มีใครรอดจากอุบัติเหตุร้ายแรงขนาดนี้ แต่ฌูลส์ของเรา ไม่ยอมแพ้
เทรนเนอร์ของเขา อันเดร บอกว่า หากไม่มีใครเคยทำให้มันเกิดขึ้นได้มาก่อน ฌูลส์ จะเป็นคนนั้น..."
ฟิลลิป เบียงคี่ พูดถึง สิ่งที่นักแข่ง F1 กอดคอกันสร้างวงล้อมเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันเพื่อส่งกำลังใจให้ฌูลส์ ว่า
"ผมไม่เคยเห็นอะไรแบบนี้มาก่อน มันจับใจเรามาก เราขอบคุณพวกเขามากจริงๆ พว กเขาหลายคนยังคุยกับเราตลอด เขียนถึงเรา ทั้งอลอนโซ่ ,แวนญ์ , มาซซ่า พวกเขาส่งข้อความให้กำลังใจที่ทำให้เราเข้มแข็งมาก"
ฟิลลิปบอกว่า กรณีของฌูลส์เหมือนกับสิ่งที่เกิดขึ้นกับ ชูมาคเกอร์ในอุบัติเหตุหัวกระแทกระหว่างเล่นสกี
"ผมเศร้ามาก ที่เห็นเขาต้องบาดเจ็บ และตอนนั้นผมเองก็คิดเหมือนกับคนอื่นๆ ทำไมพวกเขาถึงไม่บอกเรานะ ว่าอาการชูมาคเกอร์เป็นไงบ้างแล้ว?
และเมื่อผมต้องมาอยู่ในสถานะเดียวกัน ผมถึงเข้าใจ
ผู้คตถามเราตลอดว่า ฌูลส์เป็นยังไงบ้าง แต่ผมตอบไม่ได้ ผมไม่มีอะไรจะตอบพวกเขา มันยังร้ายแรง แต่เขาก็ทรงๆ ไม่ดีขึ้น หรือ แย่ลง
วันนึงเขาก็ดีขึ้น วันนึงเขาก็แย่ลง หมอไม่ได้พูดอะไร ความเสียหายจากอุบัติเหตุมันร้ายแรงมาก และเราไม่รู้ว่าทำยังไงมันถึงจะพัฒนาขึ้น
ชูมาคเกอร์ใช้เวลา 1 เดือนในการพ้นจากช่วงโคม่า ตอนนั้น Jean todt (ประธาน FIA) บอกว่า เขาหวังว่าสักวันหนึ่ง ชูมาคเกอร์จะสามารถกลับมาใช้ชีวิตแบบเดิมได้ ผมหวังว่า เราจะสามารถพูดแบบนั้น ถึงฌูลส์ ได้เหมือนกัน
มันสาหัส เป็นสัปดาห์ในช่วงชีวิตที่ครอบครัวของเราพังทลาย เรามาทำอะไรกันอยู่ที่นี่? อยู่กับฝันร้ายในที่ที่ห่างไกลจากบ้านเราเหลือเกิน
ถ้าอาการของฌูลส์ดีขึ้น จนสามารถย้ายเขาไปที่อื่นได้ บางทีอาจเป็นโตเกียว อะไรๆคงง่ายขึ้น แต่ใครจะรู้ว่ามันจะเกิดขึ้นเมื่อไหร่ ถ้ามันเกิดขึ้นจริง เราเองไม่มีอะไรยืนยันว่ามันจะเกิดขึ้น เราแค่ต้องรอเท่านั้น"
พูดไม่ออกเลย คุณพ่อพูดแบบปลงแล้ว มองโลกตามความจริงมาก ส่งกำลังใจให้ฌูลส์ด้วยนะคะ