---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

Part 1 : • จุดเริ่มต้น • Hong Kong • Macau • ----------------- http://ppantip.com/topic/32705254
Part 2 : • Work 'n Travel in Bismarck • ---------------------- http://ppantip.com/topic/32708860
Part 3 : • Paris • Barcelona • ---------------------------------- http://ppantip.com/topic/32732736
Part 4 : • Budapest • Istanbul • ------------------------------- http://ppantip.com/topic/32740828
Part 5 : • 7 Nights on Cruise • ---------------------------------
Part 6 : • Rome • Florence • Pisa • Venice • ----------------

---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

Work 'n Travel in Bismarck
ความเดิมใน part 1 ผมต้องเหนื่อยและท้อใจต่อโชคชะตาในการทำวีซ่า จนสุดท้ายผมก็ได้มันมา เรามาเริ่มออกเดินทางกันเลยครับ
Route ที่ผมเดินทางจากไทยไป Bismarck ก็คือ
1.BKK(Thailand) - AMS(Amsterdam, Netherlands) Business Class - Eva Air
2.AMS(Amsterdam, Netherlands) - EWR(Newark, USA) Business Class - United Airlines
3.EWR(Newark, USA) - DEN(Denver, USA) Business Class - United Airlines
4.DEN(Denver, USA) - DIK(Dickinson, ND, USA) Economy Class - United Airlines





คือจริงๆ ผมไม่ได้ตั้งใจไปและกลับมา Review โดยเฉพาะ ทำให้อาจไม่ได้ภาพในมุมต่างๆมากนัก
ความรู้สึกแรกเมื่อถึง Newark แผ่นดิน USA เป็นครั้งรู้สึกได้ถึงความหนาว จมูกแดง หูแข็งและเจ็บมาก ตามแผนที่วางมาจากไทย ผมมีเวลา 18 ชม. อยู่ Newark เพื่อเปลี่ยนเครื่องในวันถัดไป กะว่าจะไปเที่ยวใน New york city แต่สภาพอากาศ บวกกับสภาพร่างกายที่นอนไม่เต็มหลับเต็มตื่น ไม่ไหวเลยตัดสินใจกันนอนพักที่โรงแรมจนกระทั้งถึงเวลาเดินทางต่อ

ขอข้ามในส่วน Newark - Denver - Dickinson นะครับ เพราะไม่มีอะไรมากเลยแค่เปลี่ยนเครื่องเฉยๆ
ผมได้งานจากเมืองไทย เป็นร้าน Wendy's หลายคนเคยได้ลองทานมาแล้ว หลายคนไม่เคยเห็นมันเลย
มันก็คล้ายๆกับ McDonald's นั้นแหละ แต่ผมชอบนะ
ผมทำที่สาขา South มีคนไทยรวมผมกับแฟนในสาขานั้น ทั้งหมด 6 คน บอกตามตรงมันเป็นอะไรที่ค่อนข้างแปลกใจมากๆ
เหมือนโลกมันกลมไปนะบางที ทั้งหมด 6 คน แบ่งกันมาเป็นคู่ๆ คู่ 1 คือผมกับแฟนผม คู่ที่ 2 เป็นเพื่อนในคณะเดียวกัน ปีเดียวกันแต่คนละสาขา เคยเห็นหน้ากันมาก่อนแต่ไม่ได้รู้จักกันเป็นการส่วนตัว ส่วนคู่ที่ 3 ผมขอบอกก่อนว่าผมค่อนข้างแปลกใจมากๆ ถึงมากที่สุดนะครับ (ขอเล่าหน่อยนะ) คู่ที่ 3 เป็นน้องมาจาก มช. ผมเรียนอยู่ มข. ขอย้อนไปตอนที่ผมคิดและตัดสินใจกับแฟนว่าจะไปโครงการไหนดีระหว่าง Work 'n Travel หรือ คอร์สเรียนที่ Australia ผมได้ไปโพสถามใน Group "Work and Travel Thailand" ว่าจะไป Work ไปที่ไหนดี บริษัทไหนดี อะไรทำนองนั้น และไม่นานประมาณ 30 นาทีให้หลัง น้องมช.ก็ทักเฟสมาหาผมว่า "สวัสดีครับ" "ผมก็ไป Work เหมือนกันสมัครไปกับบริษัท......"
"แล้วพี่ดูบริษัทไหนไว้บ้างละ" แล้วก็คุยกันสักพัก เราก็จบการสนทนา แล้วผมเองก็ไม่ได้คิดอะไร ผมก็สมัครไป Work หลังจากหาข้อมูลได้ระยะหนึ่ง สัมภาษณ์ภาษา สัมภาษณ์นายจ้าง ประกาศผลสัมภาษณ์ แล้วก็รอว่าจะได้งานที่ไหน จนกระทั้งวันที่ทางบริษัท .... ประกาศว่าผมได้ทำงานที่ Wendy's Bismarck น้องคนนั้นก้ทักผมมาทันทีแล้วถามผมว่า พี่ได้ที่ไหน ผมก็ตอบว่า "Wendy's Bismarck" ผมก็ถามต่อว่าแล้วเราได้งานที่ไหนละ น้องเขาก็ตอบว่า"Wendy's เหมือนกันพี่" และก็ถามกันต่อว่าได้สาขาไหนละ และน้องกับตอบว่าสาขา South (เข้ สาขาเดียวกัน) บุพเพสันิวาท ชัดๆ 5555+

ผมรู้สึกอิสระตอนที่ผมอยู่ที่นั้นมาก จะทำอะไรก็ทำ จะกินไรก็กิน ตามขั้นตอนเมื่อเราไปถึงสนามบินบางครั้งก็อาจจะมี Supervisor หรือไม่ก็เป็นพี่ๆที่เป็นตัวแทนจากบริษัทมาต้อนรับ แล้วก็ไปเปิดธนาคาร สักพักก็ไปทำ Social Security Card หลังจากที่ผมได้ SSC แล้วก็ตะเวนหางานสองทันทีโดยไม่รอใคร ผมมาเพื่อหาเงินไปเที่ยวยุโรป และผมก็ได้งานสองที่ Buffalo Wild Wings ถือว่าผมโชคดีระดับหนึ่งนะครับ Rate ที่ได้คือ $9.5/hours ทั้ง 2 งานเลย ผมก็เริ่มวางแผนคุยกับ Manager ทั้ง 2 ร้านว่าผมมี 2 งานนะ ถือว่า Manager ใจดีเขาเข้าใจเรา ร้าน Buffalo Wild Wings ทำงาน 9 โมงเช้า - 5 โมงเย็น และก็ต่อด้วยร้าน Wendy's 6 โมงเย็นถึง ตี 2 (ศุกร์-เสาร์ ตี 3) ผมมีเวลานอนแค่วันละ 4-5 ชั่วโมงเท่านั้น ถือเป็นการทำงานที่บ้านมากๆ ผมจำได้ว่ามีช่วงหนึ่งที่พนักงานร้าน Wendy's ออกมากถึง 6 คน และทำให้ผมได้งาน แบบไม่มีวัน Dayoff ถึง 34 วัน และเคยได้ชั่วโมงสูงสุดของ Wendy's ไม่รวม Buffalo Wild Wings มากถึง 66 Hours/Week (40 ชั่วโมงแรกได้ $9.5/hour หลังจากนั้นได้ $14.25/hour) ติดต่อกัน 2 weeks หน้าที่ในร้าน Wendy's ของผมคือทุกอย่าง แต่หลักๆจะได้ย่างเนื้อ แต่ผมทำเป็นหมดเลยนะ ทั้ง Grill / Make Sandwiches / Front / Fries / Clean และ Drive thru บ้าง เล็กๆน้อยๆ ส่วนร้าน Buffalo Wind Wings หน้าที่หลักๆของผมคือ Stock ของในตอนเช้า และ Shake ไก่ ผมทำร้านนี้เหมือนได้เข้า gym ตลอดเวลา (ร้านนี้ส่วน Cook ไม่รับผู้หญิง) ไก่ประมาณ 100 ชิ้นเอาไปทอดในตะแกรง และใช้มือเดียวในการยก และฟาดใส่ถาด เพราะมันร้อนมากๆผมทำอย่างงี้ตลอด 3 เดือนที่ผมเข้าร่วมโครงการ Work 'n Travel ผมลองนับดูใบเสร็จรวมทั้งสองร้าน ผมได้ประมาณ $8000 เยอะอยู่เหมือนกัน และแล้วก็ผมก็นึกขึ้นได้ว่าเรื่องนี้เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่สำคัญใน Trip นี้ของผมเลยก็ว่าได้ ทำให้ผมกินไม่ได้ นอนไม่หลับอยู่เป็นเดือนๆ รอบที่สอง เหตุเกิดจากพี่ชายผมส่งข้อความมาหาผมว่า "Route DEN(Denver, USA) - YYZ(Toronto, Canada) ต้องมีวีซ่า Canada นะ แค่ Transit ก็ต้องมี" ผมจำความรู้สึกนั้นได้ว่า เหมือนภูเขาไฟระเบิด ซึนามิเข้าฝั่งเลยแหละ ถ้าได้อ่านใน part แรกแล้วจะรู้ว่าช่วงนั้นเป็นช่วงที่บีบมากๆ แต่ครั้งนี้รู้สึกหนักกว่า เพราะ อยู่เมกาแล้ว แล้วไงละทีนี้ ทำวีซ่าที่ไหน? ทำยังไง? คือสับสนไปทุกอย่าง จนสุดท้ายรู้วิธีการขอยื่นวีซ่า (หลายคนรู้ข้อมูลมาบ้าง แต่ในเคสของผมมันต่างกันมาก เพราะหลายคนเข้าใจว่าถ้ามีวีซ่าอเมกาก็สามารถเข้าแคนนาดาได้ อันนี้ผมตอบได้ว่าไม่ผิด แต่ J-1 Visa จะหมดพร้อมกับการทำงานวันสุดท้ายพอดีและมีเวลา 30 วันที่จะอยู่ในอเมกา ดังนั้นถือว่า Visa หมดอายุแล้ว จึงไม่สามารถเข้า Canada ได้ด้วยวีซ่า America) การยื่นตอนนั้นเป็นการสมัครแบบออนไลน์ และส่งหลักฐานไปยังแผนกรับทำ Visa ของ US ที่ New York(ตอนแรกคิดไว้ว่าจะต้องได้จองตั๋วไป NYC แน่ๆ เพื่อไปยื่นขอวีซ่า Canada) ตอนนั้นยื่นไปพร้อมกับแฟน 2 คน คนละ $90 สำหรับค่าส่ง Passport และเอกสารเพื่อทำวีซ่าแคนนาดา ผมติดตามผลทุกวันทั้งเช็คไปรษณีย์ว่าถึงยัง เช็คทั้งระบบของวีซ่าว่าได้รับเรื่องรึยัง เพราะเงื่อนไขการทำมีเยอะมาก เลยกำหนดก็ไม่ได้ ผ่านไป 1 อาทิตย์ ของแฟนผมมีจดหมายส่งกลับมาแล้ว และได้รับ Passport คืนโดยมี Canada Visa มาด้วย คำถามคือ????? แล้วของผมละ??? เช็คระบบไปรษณีย์ก็บอกว่ามีผู้รับแล้ว คนเดียวกัน เวลาเดียวกัน แต่ทำไมในระบบทำวีซ่าของผมกลับไม่มีอะไรเกิดขึ้น สถานะยังเป็นรอเอกสารอยู่เลย ผมเครียดหนักไปอีกกลัวว่าจะหายระหว่างทางมั้ย? จะเกิดอะไรขึ้นรึเปล่า? กินไม่ได้นอนไม่หลับอีกเป็นเวลา 2 อาทิตย์หนังสือเดินทางของผมก็กลับมาถึงอ้อมกอดของผมจนได้ เหนื่อยสุดๆ ทั้งทำงาน ทั้งนอนน้อยแล้วยังต้องมาเจออะไรแบบนี้อีก
ก่อนกลับประมาณ 4 อาทิตย์ผมปรึกษาพี่ชายเรื่องการเที่ยว Europe เพราะพี่ผมเคยไปมาแล้ว และพี่ผมก็แนะ ท่องเรือสำราญ 1 อาทิตย์ในยุโรปมาให้ และตอนนั้นมีโปรโมชั่นเรือด้วย (เด๋วผมจะมาเล่าประสบการณ์การขึ้นเรือสำราญให้ฟังใน Part 5 นะครับ) มีรึจะพลาด