ช่วงฤดูฝน....เป็นอะไรที่ทรมานใจสำหรับ คุณแม่บ้าน พ่อบ้าน คนอยู่หอพัก/คอนโด เป็นที่สุด
การซักผ้าให้สะอาดหมดจด พร้อมมีกลิ่นหอมอ่อน ๆ เป็นเรื่องที่ไม่ง่ายซะทีเดียว
เพราะนอกจากจะมีคราบสกปรกที่เราต้องต่อสู้ด้วยแล้ว
ปัญหาในเรื่องของการซักผ้าก็ยังมีเรื่องการถนอมเนื้อผ้า และการคงสีสัน รูปทรง และใยผ้าให้ใช้ได้นาน ๆ
ซึ่งทั้งหมดนี้ก็ควรต้องมีเคล็ดลับสำหรับจัดการด้วยเช่นกัน
วันนี้ก็เลยนำเคล็ดลับเกี่ยวกับการซักผ้าให้สะอาดหมดจด และใช้ได้นานมาบอก
แถมด้วยเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยเกี่ยวกับเรื่องซักผ้าอีกมากมายด้วยจ้า
1. ทดสอบน้ำยาก่อนใช้งานทุกครั้ง
น้ำยาขจัดคราบเปื้อน และน้ำยาซักผ้าบางชนิดก็มีความรุนแรงเกินกว่าจะใช้กับเนื้อผ้าบางอย่างได้ โดยเฉพาะกับผ้าที่ต้องได้รับการดูแลเป็นพิเศษ อย่างผ้าไหม หรือชุดสูทเนื้อผ้าคุณภาพดี ที่อาจจะต้องอาศัยการซักแห้งแทนการซักผ้าตามวิธีปกติ ซึ่งหลายครั้งการซักแห้งแบบนี้ก็เป็นต้นเหตุให้เราต้องเสียเสื้อผ้าดี ๆ หลายชุดไป เนื่องจากเกิดความเสียหายในระหว่างการซัก ดังนั้นเพื่อเป็นการป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้น ก็ควรทดสอบน้ำยาซักแห้ง หรือน้ำยาขจัดคราบกับเนื้อผ้าแต่ละตัวก่อน
2. ถนอมเนื้อผ้าด้วยการฉีดน้ำส้มสายชูดับกลิ่น
ใครที่ชอบเปลี่ยนเสื้อผ้าหลายชุดในแต่ละวัน และเสื้อผ้าแต่ละตัวก็ใส่เดี๋ยวเดียว เรียกได้ว่ายังไม่ทันสกปรกพอที่จะซัก ก็สามารถฉีดน้ำส้มสายชูผสมน้ำอย่างละครึ่งลงบนจุดที่มักจะมีกลิ่นเหม็นสาบเหงื่อ เช่น ใต้วงแขน คอปกเสื้อ เป็นต้น แล้วนำไปตากในที่ที่มีแดดจัด ๆ ลมโกรกดี ๆ แทนการนำผ้าไปซักก็ได้ แค่นี้ก็จะช่วยถนอมเนื้อผ้าให้ใช้ได้ยาวนานมากขึ้นแล้วล่ะ
3. แยกผ้าเพื่อประหยัดเวลา
ถ้าไม่อยากเสียเวลามาคัดแยกผ้าก่อนจะนำลงเครื่องซักผ้าทุกครั้ง แนะนำให้แยกผ้าตั้งแต่ถอดไปเลย ผ้าสีเข้ม ผ้าขาว ผ้าเนื้อหนา เนื้อบาง และชุดชั้นในควรแยกเป็นตะกร้าให้ชัดเจน คราวนี้ก็จับใส่ถังลงซักได้เร็วและสะดวกขึ้นแล้ว
4. เพิ่มกลิ่นหอมกรุ่นตั้งแต่เริ่มซัก
เคล็ดลับช่วยให้ผ้ามีกลิ่นหอมกรุ่นอยู่เสมอไม่ยากอะไรเลย เพียงแค่หยดน้ำมันหอมระเหยกลิ่นลาเวนเดอร์ หรือกลิ่นที่คุณโปรดปราน ลงไปในกระบอกสเปรย์ที่บรรจุน้ำสะอาดเกือบเต็มอยู่สัก 3-4 หยด แล้วนำสเปรย์ของเราไปฉีดพรมลงบนเสื้อผ้าให้ทั่วก่อนนำไปซัก แค่นี้ก็เหมือนเราได้ใส่น้ำยาปรับผ้านุ่มคุณภาพดีลงไปแบบจัดหนักเลยล่ะจ้า
5. กำจัดกลิ่นเหม็นอับด้วยน้ำส้มสายชู
หากคุณมีปัญหาในการซักผ้าเช็ดตัว และเสื้อผ้าสำหรับออกกำลังกายของคุณให้สะอาดไร้กลิ่นเหม็นอับอยู่ แนะนำให้เทน้ำส้มสายชูประมาณ ½ ถ้วยตวง ลงไปพร้อมกับน้ำยาซักผ้าตามปกติ ให้น้ำส้มสายชูช่วยกำจัดเชื้อแบคทีเรียที่แอบซ่อนอยู่ในผ้าให้หมดไป กลิ่นเหม็นอับที่เคยมีจะได้จางหายไปด้วย
6. ซักผ้าขาวให้ขาวหมดจดไปกับเบกกิ้งโซดา
สำหรับผ้าเนื้อบางที่ไม่เหมาะจะใช้น้ำส้มสายชูช่วยเพิ่มความขาวกระจ่างใส ก็เปลี่ยนมาใช้เบกกิ้งโซดาแทนก็ได้ โดยทุกครั้งที่ซักผ้าขาว ให้เติมเบกกิ้งโซดาผสมลงไปกับผงซักฟอกสัก ½ ถ้วยตวง แค่นี้ผ้าขาวก็จะดูขาวสะอาดหมดจดยิ่งกว่าที่เคยแล้ว
7. ถนอมถุงเท้าด้วยถุงซักผ้า
เรามักจะเจอปัญหาถุงเท้ายาน ใช้ได้ไม่คุ้มค่ากับเงินที่ซื้อมาเท่าไร แต่ต่อไปนี้ให้คุณแก้ปัญหาด้วยการใส่ถุงเท้าที่จะนำไปซักลงในถุงซักผ้า เพื่อเป็นการถนอมยางยืดในถุงเท้าให้ใช้ได้นานขึ้น
8. ถุงซักผ้าช่วยซักตุ๊กตา
ใครที่คิดจะซักตุ๊กตาขนาดเล็ก ๆ แต่ก็ไม่กล้านำไปปั่นในเครื่องซักผ้า เพราะกลัวความเสียหายที่อาจเกิดขึ้น ลองให้ถุงซักผ้าช่วยคุณดูสิ โดยใส่ตุ๊กตาที่จะซักลงไปในถุงซักผ้า แล้วก็นำตุ๊กตาไปปั่นตามปกติแค่นั้นเอง
9. เขียนโน้ตเตือนความจำ
ปฏิเสธไม่ได้ว่าบางครั้งเราก็เผลออบเสื้อผ้าเนื้อบางกับเครื่องอบ จนเกิดความเสียหายกับผ้า ทำให้ใส่ไม่ได้อีกต่อไป ซึ่งเมื่อเป็นอย่างนี้ก็ควรเขียนโน้ตแปะไว้หน้าเครื่องอบผ้าไปเลย ผ้าชนิดไหนที่ไม่ควรนำลงไปอบแห้งก็เขียนใส่โน้ตลงไปตัวใหญ่ ๆ ก่อนจะนำผ้าไปอบจะได้สะกิดใจได้ทัน
10. ลดกลิ่นอับในเสื้อผ้าด้วยกระดาษฟอยล์
จากที่เคยกังวลกับกลิ่นอับในเสื้อผ้าหลังการซักผ้า โดยเฉพาะในช่วงฤดูฝน ให้คุณปั้นกระดาษฟอยล์เป็นก้อนกลม ๆ ใส่ลงไปในเครื่องซักผ้าในขั้นตอนการปั่นแห้งครั้งสุดท้ายด้วย สารในกระดาษฟอยล์จะช่วยดูดกลิ่นเหม็นอับและแบคทีเรียออกไป และช่วยให้ผ้าหอมสดชื่นได้มากขึ้น
อย่าพึ่งท้อกับการซักผ้านะค่ะ มีต่ออีก 10 ข้อค่ะ
มีเคล็ดลับอะไรเพิ่มเติม มาร่วมแชร์ประสบการณ์ผ้าหน้าฝนกันได้เลยยยยย
Cr.kapook.com
20 เคล็ดลับเรื่องการซักผ้า เปลี่ยนเรื่องยากเป็นเรื่องจิ๊บ ๆ
ช่วงฤดูฝน....เป็นอะไรที่ทรมานใจสำหรับ คุณแม่บ้าน พ่อบ้าน คนอยู่หอพัก/คอนโด เป็นที่สุด
เพราะนอกจากจะมีคราบสกปรกที่เราต้องต่อสู้ด้วยแล้ว
ปัญหาในเรื่องของการซักผ้าก็ยังมีเรื่องการถนอมเนื้อผ้า และการคงสีสัน รูปทรง และใยผ้าให้ใช้ได้นาน ๆ
ซึ่งทั้งหมดนี้ก็ควรต้องมีเคล็ดลับสำหรับจัดการด้วยเช่นกัน
วันนี้ก็เลยนำเคล็ดลับเกี่ยวกับการซักผ้าให้สะอาดหมดจด และใช้ได้นานมาบอก
แถมด้วยเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยเกี่ยวกับเรื่องซักผ้าอีกมากมายด้วยจ้า
1. ทดสอบน้ำยาก่อนใช้งานทุกครั้ง
น้ำยาขจัดคราบเปื้อน และน้ำยาซักผ้าบางชนิดก็มีความรุนแรงเกินกว่าจะใช้กับเนื้อผ้าบางอย่างได้ โดยเฉพาะกับผ้าที่ต้องได้รับการดูแลเป็นพิเศษ อย่างผ้าไหม หรือชุดสูทเนื้อผ้าคุณภาพดี ที่อาจจะต้องอาศัยการซักแห้งแทนการซักผ้าตามวิธีปกติ ซึ่งหลายครั้งการซักแห้งแบบนี้ก็เป็นต้นเหตุให้เราต้องเสียเสื้อผ้าดี ๆ หลายชุดไป เนื่องจากเกิดความเสียหายในระหว่างการซัก ดังนั้นเพื่อเป็นการป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้น ก็ควรทดสอบน้ำยาซักแห้ง หรือน้ำยาขจัดคราบกับเนื้อผ้าแต่ละตัวก่อน
2. ถนอมเนื้อผ้าด้วยการฉีดน้ำส้มสายชูดับกลิ่น
ใครที่ชอบเปลี่ยนเสื้อผ้าหลายชุดในแต่ละวัน และเสื้อผ้าแต่ละตัวก็ใส่เดี๋ยวเดียว เรียกได้ว่ายังไม่ทันสกปรกพอที่จะซัก ก็สามารถฉีดน้ำส้มสายชูผสมน้ำอย่างละครึ่งลงบนจุดที่มักจะมีกลิ่นเหม็นสาบเหงื่อ เช่น ใต้วงแขน คอปกเสื้อ เป็นต้น แล้วนำไปตากในที่ที่มีแดดจัด ๆ ลมโกรกดี ๆ แทนการนำผ้าไปซักก็ได้ แค่นี้ก็จะช่วยถนอมเนื้อผ้าให้ใช้ได้ยาวนานมากขึ้นแล้วล่ะ
3. แยกผ้าเพื่อประหยัดเวลา
ถ้าไม่อยากเสียเวลามาคัดแยกผ้าก่อนจะนำลงเครื่องซักผ้าทุกครั้ง แนะนำให้แยกผ้าตั้งแต่ถอดไปเลย ผ้าสีเข้ม ผ้าขาว ผ้าเนื้อหนา เนื้อบาง และชุดชั้นในควรแยกเป็นตะกร้าให้ชัดเจน คราวนี้ก็จับใส่ถังลงซักได้เร็วและสะดวกขึ้นแล้ว
4. เพิ่มกลิ่นหอมกรุ่นตั้งแต่เริ่มซัก
เคล็ดลับช่วยให้ผ้ามีกลิ่นหอมกรุ่นอยู่เสมอไม่ยากอะไรเลย เพียงแค่หยดน้ำมันหอมระเหยกลิ่นลาเวนเดอร์ หรือกลิ่นที่คุณโปรดปราน ลงไปในกระบอกสเปรย์ที่บรรจุน้ำสะอาดเกือบเต็มอยู่สัก 3-4 หยด แล้วนำสเปรย์ของเราไปฉีดพรมลงบนเสื้อผ้าให้ทั่วก่อนนำไปซัก แค่นี้ก็เหมือนเราได้ใส่น้ำยาปรับผ้านุ่มคุณภาพดีลงไปแบบจัดหนักเลยล่ะจ้า
5. กำจัดกลิ่นเหม็นอับด้วยน้ำส้มสายชู
หากคุณมีปัญหาในการซักผ้าเช็ดตัว และเสื้อผ้าสำหรับออกกำลังกายของคุณให้สะอาดไร้กลิ่นเหม็นอับอยู่ แนะนำให้เทน้ำส้มสายชูประมาณ ½ ถ้วยตวง ลงไปพร้อมกับน้ำยาซักผ้าตามปกติ ให้น้ำส้มสายชูช่วยกำจัดเชื้อแบคทีเรียที่แอบซ่อนอยู่ในผ้าให้หมดไป กลิ่นเหม็นอับที่เคยมีจะได้จางหายไปด้วย
สำหรับผ้าเนื้อบางที่ไม่เหมาะจะใช้น้ำส้มสายชูช่วยเพิ่มความขาวกระจ่างใส ก็เปลี่ยนมาใช้เบกกิ้งโซดาแทนก็ได้ โดยทุกครั้งที่ซักผ้าขาว ให้เติมเบกกิ้งโซดาผสมลงไปกับผงซักฟอกสัก ½ ถ้วยตวง แค่นี้ผ้าขาวก็จะดูขาวสะอาดหมดจดยิ่งกว่าที่เคยแล้ว
7. ถนอมถุงเท้าด้วยถุงซักผ้า
เรามักจะเจอปัญหาถุงเท้ายาน ใช้ได้ไม่คุ้มค่ากับเงินที่ซื้อมาเท่าไร แต่ต่อไปนี้ให้คุณแก้ปัญหาด้วยการใส่ถุงเท้าที่จะนำไปซักลงในถุงซักผ้า เพื่อเป็นการถนอมยางยืดในถุงเท้าให้ใช้ได้นานขึ้น
ใครที่คิดจะซักตุ๊กตาขนาดเล็ก ๆ แต่ก็ไม่กล้านำไปปั่นในเครื่องซักผ้า เพราะกลัวความเสียหายที่อาจเกิดขึ้น ลองให้ถุงซักผ้าช่วยคุณดูสิ โดยใส่ตุ๊กตาที่จะซักลงไปในถุงซักผ้า แล้วก็นำตุ๊กตาไปปั่นตามปกติแค่นั้นเอง
ปฏิเสธไม่ได้ว่าบางครั้งเราก็เผลออบเสื้อผ้าเนื้อบางกับเครื่องอบ จนเกิดความเสียหายกับผ้า ทำให้ใส่ไม่ได้อีกต่อไป ซึ่งเมื่อเป็นอย่างนี้ก็ควรเขียนโน้ตแปะไว้หน้าเครื่องอบผ้าไปเลย ผ้าชนิดไหนที่ไม่ควรนำลงไปอบแห้งก็เขียนใส่โน้ตลงไปตัวใหญ่ ๆ ก่อนจะนำผ้าไปอบจะได้สะกิดใจได้ทัน
จากที่เคยกังวลกับกลิ่นอับในเสื้อผ้าหลังการซักผ้า โดยเฉพาะในช่วงฤดูฝน ให้คุณปั้นกระดาษฟอยล์เป็นก้อนกลม ๆ ใส่ลงไปในเครื่องซักผ้าในขั้นตอนการปั่นแห้งครั้งสุดท้ายด้วย สารในกระดาษฟอยล์จะช่วยดูดกลิ่นเหม็นอับและแบคทีเรียออกไป และช่วยให้ผ้าหอมสดชื่นได้มากขึ้น
มีเคล็ดลับอะไรเพิ่มเติม มาร่วมแชร์ประสบการณ์ผ้าหน้าฝนกันได้เลยยยยย
Cr.kapook.com