เคยมีรักแรกมั้ยครับ คนที่คุณสบตาแค่เพียงแวบเดียว แล้วทุกอย่างรอบตัวมันหยุด สายตาของเราจะมองไปที่จุดนั้นจุดเดียว ที่ตาของเธอ มันอาจจะดูเหมือนผมเวิ่นเว้อ พร่ำเพ้อเกินไป แต่มันเป็นแบบนั้นจริงๆครับ ผู้หญิงตัวเล็กๆ ผิวขาว ผมสีน้ำตาลอ่อนที่ยาวเลยติ่งหูมาแค่นิดเดียว แล้วก้อดวงตาคู่นั้นที่มีแค่ชั้นเดียว
มันทำให้ผมไม่อยากละสายตาไปจากเธอเลยครับ เธอนั่งอยู่ในโรงอาหาร ถัดไปสี่โต๊ะจากตรงที่ผมนั่ง ผมจ้องเธออยู่นานมาก จนเพื่อนๆเธอเริ่มสังเกตุเห็นแล้วสะกิดเธอ เธอเงยหน้ามา เราสบตากันครับ ตอนนั้นผมทำอะไรไม่ถูก ได้แต่หลบตา เคยเป็นใช่มั้ยครับ เวลาที่เราชอบใครมากๆ มันจะทำให้เราป๊อด ไม่กล้าที่จะทำอะไรซักอย่าง แต่ผมเลยจุดนั้นไปแล้วครับ มันถึงจุดที่เราจะต้องลงมือทำเพื่อที่จะไม่ให้เสียโอกาสนั้นไป ผมเขียนโน๊ตใส่กระดาษว่าขอเบอร์เธอครับ แล้วให้เพื่อนเอาไปให้ สมัยนั้นยังไม่มีไลน์กับเฟสครับ ประมาณปี 2547 พอเธออ่านเหมือนเธอจะลังเลครับ แต่สุดท้ายเธอก้อให้ คงเพราะเพื่อนเธออีกสี่คนยุด้วยแหล่ะครับ ผมมารู้ทีหลังว่า ที่เธอให้เพราะเพื่อนเธอคนนึงพูดว่า "ถ้าไม่เอากุเอานะ" ผมเนียนโทรไปขอบคุณเธอ แต่จริงๆอยากเช็คแหล่ะครับว่าใช่เบอร์เธอจริงรึเปล่า เธอกดรับ "ขอบคุณนะที่ให้เบอร์เรา" "ไม่เป็นไรค่ะ" เสียงเธอน่ารักเหมือนที่คิดไว้ แค่นั้นครับแล้วผมก้อกดวาง หมดเวลาพัก เราแยกย้ายกันไปเรียน เวลาผ่านไปจนเย็น ผมไปเตะบอลกับเพื่อน กลับบ้าน กินข้าว อาบน้ำ และหลับไปตั้งแต่สามทุ่ม
ผมลืมโทรหาเธอครับ แล้วไม่กล้าโทรหาเธอ เพราะไม่รู้จะเริ่มยังไง กลัวคำถามว่า ขอเบอร์ไปแล้วทำไมไม่โทร ผมไม่มีคำตอบดีๆจะบอกเธอ ผ่านไปจนเย็น ผมไปเตะบอลตามปกติ จนเกือบทุ่ม เธอโทรเข้ามาครับ ผมจำเบอร์ที่โชว์ได้ดี ถึงแม้จะไม่ได้เมมชื่อ เพราะผมยังไม่รู้จักชื่อเธอครับ "นาย คนที่ขอเบอร์เราเมื่อวานใช่ป่ะ" "ครับ" "นายมารับเราได้ป่ะ เราอยู่ตลาด รถหมด ไม่มีรถกลับบ้านอ่ะ" "อืมได้ แต่เราตัวเปียกเหงื่อนะ เราเตะบอลกับเพื่อนอ่ะ" "อือๆ ไม่เป็นไร ไม่ต้องอาบน้ำหรอก รีบมานะ มันมืดแล้วอ่ะ เรากลัวแม่เราดุ" ดูแล้ว ทางบ้านเธอคงจะเข้มงวดเรื่องการกลับบ้านผิดเวลามาก
การอยู่ด้วยกันครั้งแรกของเรา ผมใส่ชุดบอล และตัวเปียกเหงื่อ แต่ช่วงนั้นเป็นหน้าหนาว ผมเลยมีเสื้อกันหนาวใส่ทับเสื้อที่เปียกไว้ ผมเห็นเธอแล้วครับ เธอยืนรออยู่หน้า 7/11 กับใครอีกคนที่หน้าเหมือนเธอยังกะแกะ แต่ตัวเล็กกว่า พอมาอยู่ใกล้ๆเธอ ผมได้แต่คิดในใจ น่ารักจังวะ ตัวหอมชิบ 555+ แอบหื่น "หวัดดี นี่ฟาง น้องเฟย์เอง(นามสมมุติทั้งคู่)" "อื้อ เราพีช" "ป่ะ กลับกัน มืดแล้ว" เฟย์ให้ฟางมานั่งกลาง ผมเอามอไซด์ไปครับ ตลอดทางเราไม่ได้คุยอะไรกัน มีแต่ฟางน้องเธอที่ชวนผมคุย "เอ่อ เฟย์จะให้เราไปส่งที่ไหนเหรอ" "ที่บ้านเลย พอดีปากซอยไม่มีรถเข้าไปอ่ะ"
แอบงงนิดๆ ถึงบ้านเธอแล้วครับ ด้วยความอยากรุ้และความปากเสียของผม ผมถามเธอว่า "แล้วแฟนคนก่อน เฟย์ก้อให้มาส่งบ้านเหรอ" เธอมองหน้าผม ขมวดคิ้วแล้วเม้มมุมปาดนิดนึง "ป่าวนะ เพิ่งพีชคนแรกเนี่ยแหล่ะ คบกันแปบเดียวนะคนเก่า" "ทำไมเลิกอ่ะ" ยัง ยังไม่หยุดปากเสีย "เค้าชอบยุ่งเรื่องส่วนตัวอ่ะ ชอบถามนู่นถามนี่ ไม่รู้มีญาติเป็น csi ป่าว" "อ่อครับ งั้นเข้าบ้านเหอะดึกแล้ว" ผมขี่รถกลับบ้าน น้ำหนักที่เบาะหลังหายไป พร้อมกับใจผมที่หายไปอยู่กับเธอด้วยครับ ผมกลับบ้าน กินข้าว อาบน้ำ แล้วจะเข้านอน หลับตา แต่นอนไม่หลับ ลุกขึ้นมานั่งจ้องโทรศัพท์ อยู่แบบนั้นเป็นชั่วโมงอ่ะ ผมตัดสินใจโทรหาเธอ "สวัสดีคับป๋ม (เสียงน่ารักอ่า) ใครเอ่ย" เอิ่ม เธอไม่ได้เมมเบอร์ผม " เราพีชไง พอดีจะถามว่า นอนยัง" "ยังๆ ปั่นการบ้านอยู่เนี่ย"
"อ่าวเหรอ งั้นพีชไม่กวนดีกว่า" "ไม่นะ ไม่กวน กำลังเบื่อๆพอดี มีไรป่าว" นั่นไง คำถามนี้ มันเหมือนกับ ถ้าไม่มีอะไรโทรมาไม่ได้ใช่มั้ยเนี่ย " ไม่มีหรอก พอดีจะนอน แล้วมันนอนไม่หลับอ่ะ พอหลับตาแล้วมันเห็นหน้าเฟย์ตลอด ^//^" "หราาาา ระวังฝันร้ายนะแบบนั้นอ่ะ 55" เธอจะรู้มั้ยเนี่ย ว่าผมหลับตาคุย และจินตนาการว่าเธอมานอนอยู่ข้างๆผมแล้ว "55 ไม่หรอก คิดซะว่าผีอำแล้วกัน" "ชิชิ กวนตีนละ" "งั้นเฟย์ปั่นการบ้านเถอะ พีชไม่อยากให้เฟย์นอนดึก พีชเป็นห่วงอ่ะ" "อ่ะเคร งั้นแค่นี้นะ บาย" "อือ บาย" แล้วผมก้อหลับไป มาสะดุ้งตื่นอีกทีตอนตีสอง เพราะเสียงโทรศัพท์ "ฮัลโหลลลล" "พีชหลับแล้วเหรอ (ไม่หลับมั้งตีสองเนี่ย หึหึ) พอดีเฟย์ลืมอ่า" "ลืมไรเหรอ" "ลืมบอกว่า พรุ่งนี้มารับด้วยนะ นอนหลับฝันดี ราตรีสวัสดิ์คับป๋ม" แล้วเธอก้อวาง ห๊ะ งง..เบลอ อึ้ง ให้ไปรับเหรอ นอนหลับฝันดี ราตรีสวัสดิ์เหรอ คำที่ไม่เคยได้ยินจากใคร เคยได้ยินแต่ ฝันดีนะ กู้ดไนท์ บ๊าย บาย เป็นคำไทยที่ฟังแล้วรู้สึกดีมากๆ แล้วคืนนั้นผมก้อนอนไม่หลับอีกเลย ตอนเช้าเธอโทรมาให้ผมไปรับที่บ้าน ผมได้เจอกับพ่อและแม่เธอ ที่ดูแล้วคงไม่ชอบผมเท่าไหร่ คงเพราะตอนนั้นผมดูเป็นเด็ก และย้อมผมสีน้ำตาลด้วยล่ะมั้ง เราเริ่มสนิทกันมากขึ้น ไปไหนมาไหนด้วยกัน และอยู่ด้วยกันตลอดในวันที่ไม่มีเรียน ผมพาเธอไปรู้จักกับที่บ้านผม จนวันนึงเราไม่มีเรียนบ่าย วันนั้นเป็นวันลอยกระทง ที่บ้านผมไม่มีคนอยู่ ไปทำบุญเก้าวัดกันหมด เรานอนดูหนังด้วยกันจนหลับไป ผมตื่นมาประมาณทุ่มนึง เธอนอนซบอกผมอยู่ ผมกอดเธอไว้ในอ้อมแขนข้างซ้ายที่เหน็บกินจนแทบขยับไม่ได้ ผมมองหน้าเธอ
หน้าเธอตอนหลับเหมือนเด็กตัวน้อยๆ แก้มเธอใสมองเห็นเส้นเลือด และริมฝีปากเล็กๆสีชมพูที่ขบปิดกันสนิท แต่ยังมองเห็นสีแดงของยาอุทัยที่เธอทาริมฝีปากด้านในของเธอยู่ ช่างน่ารักชะมัด ผมทนไม่ไหวแล้วล่ะ ใครจะไปทนได้เวลาที่อยู่กับคนที่เราชอบมากๆ ผมก้มลงไปจูบเพราะผมอยากจะสัมผัสริมฝีปากชมพูระเรื่อนั่นเหลือเกิน ปากผมจะถึงริมฝีปากเธออยู่แล้ว เธอลืมตาขึ้นมา เราสบตากันในระยะที่ใกล้มาก ประมาณ 5 เซนติเมตร "จะทำไรเฟย์เหรอ" "เอ่อ พีชขอโทษนะ คือเฟย์น่าจูบมาก" "หอมแก้มเฉยๆได้มั้ย เฟย์ไม่พร้อมอ่ะ" เธอพูดพร้อมกับสายตาวิงวอนที่เหมือนเด็กเล็กๆอ้อนอยากได้ของขวัญ "อือ พีชขอโทษนะที่ไม่ได้ขอเฟย์ก่อน" "อือ" สั้นๆแล้วเธอก้อหลับตา ผมหอมแก้มเธอ แต่ริมฝีปากผม โดนกับริมฝีปากด้านข้างของเธอด้วยความตั้งใจ ผมค้างไว้นานจนแทบลืมหายใจ ไม่รู้ว่าผมรู้สึกไปเองรึเปล่า ที่รู้สึกว่าริมฝีปากเธอขยับมาประกบกับริมฝีปากผม เธอลืมตาสายตาวิงวอนที่เหมือนเด็กเล็กๆของเธอตอนนี้ไม่ใช่เด็กที่อยากได้ของขวัญอีกต่อไปแล้ว เราประกบปากกัน ลิ้นของเราเริ่มพันกันไปมา ปากเธอนุ่มเหมือนขนนกที่มีรสหวานของยาอุทัยนิดๆ ในขณะที่อารมณ์ของเราสองคนกำลังล่องลอยไป ผมสัมผัสได้กับหยดน้ำใสๆ บนใบหน้าเธอ เธอร้องไห้ ผมหยุดจากสิ่งที่ทำอยู่ ดึงเธอมากอดไว้ มันเจ็บปวดใจมากจริงๆนะครับ เวลาคนที่เรารักร้องไห้อยู่ในอ้อมกอดเรา แล้วเราช่วยอะไรไม่ได้ ผมรอจนเธอหายสะอื้น "เฟย์เป็นไรครับ อยากเล่ามั้ย" "ถ้าเฟย์บอก จะโกธรเฟย์มั้ย" "ไม่ครับ ตั้งแต่วันที่พีชตัดสินใจรักเฟย์ พีชก้อคิดแล้วว่า ไม่ว่าเฟย์จะผิดอะไร พีชจะให้อภัยเฟย์เสมอ" "พีช ไม่ใช่คนแรกของเฟย์นะ เฟย์เคยมีแฟน ตอนนั้นเฟย์ยังเด็ก ไม่ได้คบกันเพราะรัก แต่คบเพราะเพื่อนยุให้มีแฟน" เราได้แต่รับฟังเงียบๆ "เฟย์คบเค้าได้แค่สามเดือน วันนั้นวันเกิดเค้า เค้าชวนเฟย์ไปเลี้ยงวันเกิดที่บ้าน เฟย์โดนเพื่อนหลอก ทั้งเพื่อนเฟย์และเพื่อนเค้าหนีกลับกันไปหมด เค้าปล้ำเฟย์ เฟย์ไม่เต็มใจ เฟย์ร้องไห้ พยายามดิ้น เค้าก้อไม่หยุด จนเฟย์หมดแรง" เธอพูดได้แค่นั้น ผมก้อจูบปากธอ ไม่ใช่ไม่อยากฟังเรื่องที่เธอเล่า แต่ผมไม่อยากให้เธอเจ็บปวดไปมากกว่านี้ ผมเริ่มสานต่อสิ่งที่เราค้างไว้ คุณอาจจะคิดว่าผมเชี้ย ขนาดฟังเรื่องแบบนี้ยังจะทำต่อ ไม่ใช่ครับ ผมแค่อยากให้เธอสัมผัสกับความอ่อนโยนที่ผมมีให้ เพื่อเติมเต็มสิ่งร้ายๆที่เธอได้รับมาให้มันหายไป ให้เธอลืมสิ่งที่ไอเชี้ยนั่นทำ ลืมการกระทำของคนที่ไม่ใช่มนุษย์ แต่เป็นสัตว์ป่าในร่างคนเท่านั้นเอง เธอคงจะรับรู้ได้ถึงความอบอุ่นที่ผมมีให้ เธอไม่ได้ขัดขืนอะไร เราทำกิจกรรมรักร่วมกัน ผมกอดเธอไว้ ตัวเธอนิ่มเหมือนตุ๊กตาหมีขนเฟอร์ ผมตัดสินใจแล้ว ผมรักคนนี้ และผมอยากจะดูแลเธอไปตลอดชีวิต สองรอบที่เราทำกิจกรรมรักด้วยกัน เราหลับไปด้วยความอ่อนเพลีย และตื่นขึ้นมาตอนเที่ยงคืน เรามองหน้ากัน ต่างขำหน้าตาของกันและกัน เพราะมันเลอะเทอะเปรอะเปื้อนไปด้วยสีดำของอายส์ไลน์เนอร์ผสมกับน้ำตาเธอ มันช่างมีความสุขมากเหลือเกิน จนผมกลัวว่า มันมากเกินไป กลัวว่าถ้าความสุขเหล่านี้ เมื่อมันหายไป ผมจะทนได้มั้ย เพราะความสุขมันมักจะอยู่กับเราไม่นานนัก เราไปลอยกระทงด้วยกัน แสงเทียนจากกระทงที่มากระทบหน้าเธอ มันยิ่งทำให้เธอดูน่ารักยิ่งขึ้นไปอีก ผมอดไม่ได้ที่จะถ่ายรูปเธอไว้ด้วยกล้องจากโทรศัพท์ โนเกีย 6230 ที่เดี๋ยวนี้เลิกผลิตไปแล้ว ทุกวันนี้ผมยังสงสัยอยู่ว่า ทำไมเราไม่ถ่ายรูปคู่กัน ทุกอย่างดำเนินไปได้ด้วยดีจนเราขึ้นปี 3
ครอบครัวเธอก้อยังไม่ยอมรับผมเหมือนเดิม ผมเริ่มติดเพื่อน เวลาเราอยู่ด้วยกันมันกลายเป็นช่วงเวลาที่ดูอึดอัด เพราะเราอยู่ด้วยกันมากเกินไป เราเริ่มไม่รู้จะไปไหน อะไรที่เราอยากกิน เราก้อไปมาหมดแล้ว ตอนอยู่ด้วยกันก้อต่างคนต่างนอน ตอนเย็นเธอก้อกลับบ้าน ลึกๆในใจผมรู้ว่าเรายังรักกันอยู่ แต่เพราะความน่าเบื่อของตัวผมเอง ผมเริ่มบ่ายเบี่ยงและไปช้าในเวลาที่เธอให้ไปหา ผมติดเพื่อน เล่นสนุ๊ก เล่นไพ่ ตอนนั้นเราทำงานพาร์ทไทม์ที่เดียวกัน เป็นข้อผิดพลาดมหันต์ และเป็นข้อห้ามเลยที่คนเป็นแฟนกันจะทำงานที่เดียวกัน ด้วยความน่ารักของเธอ เธอมักจะโดนให้ยืนเป็นพนักงานต้อนรับหน้าร้าน และมีบ้างที่จะต้องมาดูแลลูกค้าในร้าน ผมทนไม่ได้เวลาเห็นเธอโดนลูกค้าเกาะแกะ แม้กระทั่งเวลาเธอยิ้มหวานให้คนอื่นตามหน้าที่ก้อเถอะ ผมเริ่มงี่เง่ามากขึ้นเรื่อยๆ เราทะเลาะกันบ่อยขึ้น เวลามีลูกค้าน่ารักๆมา ผมจะแกล้งทำเป็นสนใจ จากที่ไม่เคยสนใจใครเลย เพราะรู้ว่าเธอมองอยู่ มันเป็นวิธีที่ผิด ที่ประชดกันแบบนี้ เราประชดกันไปกันมา ไม่มีการปรับความเข้าใจกัน เราเริ่มคุยกันน้อยลง ผมไม่โทรไปเธอก้อไม่โทรมา แต่ผมอยู่ไม่ได้ เวลาไม่มีเธอ ผมรู้ว่าเธอชอบขนมอร่อยๆ หรือพวกของน่ารักๆ แต่เน้นว่าต้องสีชมพูเท่านั้น เพราะเธอชอบสีชมพูมากกกก กระเป๋า รองเท้า เสื้อคลุม ที่คาดผม ของประดับต้องเป็นสีชมพูทั้งหมด แน่นอนเธอต้องแพ้พิกเล็ต ผมซื้อพิกเล็ตไปง้อเธอ เราเริ่มปรับความเข้าใจกัน และกลับมาดีกันได้ประมาณเดือนนึง แล้วเธอคนนั้นก้อเข้ามา คนที่มาเปลี่ยนชีวิตของเราสองคนไปตลอดกาล [ขอเคลียร์งานแปบนะครับ เดี๋ยวมาต่อ ไม่รู้จะมีใครอยากอ่านรึเปล่า เพราะมันค่อนข้างเวินเว้อ และยาวนานมากในสิ่งที่ผมอยากระบาย]
HeMoGobin
ความรู้สึกเก่าๆของเรา ในวันที่เค้าจะแต่งงาน (18+)
ผมลืมโทรหาเธอครับ แล้วไม่กล้าโทรหาเธอ เพราะไม่รู้จะเริ่มยังไง กลัวคำถามว่า ขอเบอร์ไปแล้วทำไมไม่โทร ผมไม่มีคำตอบดีๆจะบอกเธอ ผ่านไปจนเย็น ผมไปเตะบอลตามปกติ จนเกือบทุ่ม เธอโทรเข้ามาครับ ผมจำเบอร์ที่โชว์ได้ดี ถึงแม้จะไม่ได้เมมชื่อ เพราะผมยังไม่รู้จักชื่อเธอครับ "นาย คนที่ขอเบอร์เราเมื่อวานใช่ป่ะ" "ครับ" "นายมารับเราได้ป่ะ เราอยู่ตลาด รถหมด ไม่มีรถกลับบ้านอ่ะ" "อืมได้ แต่เราตัวเปียกเหงื่อนะ เราเตะบอลกับเพื่อนอ่ะ" "อือๆ ไม่เป็นไร ไม่ต้องอาบน้ำหรอก รีบมานะ มันมืดแล้วอ่ะ เรากลัวแม่เราดุ" ดูแล้ว ทางบ้านเธอคงจะเข้มงวดเรื่องการกลับบ้านผิดเวลามาก การอยู่ด้วยกันครั้งแรกของเรา ผมใส่ชุดบอล และตัวเปียกเหงื่อ แต่ช่วงนั้นเป็นหน้าหนาว ผมเลยมีเสื้อกันหนาวใส่ทับเสื้อที่เปียกไว้ ผมเห็นเธอแล้วครับ เธอยืนรออยู่หน้า 7/11 กับใครอีกคนที่หน้าเหมือนเธอยังกะแกะ แต่ตัวเล็กกว่า พอมาอยู่ใกล้ๆเธอ ผมได้แต่คิดในใจ น่ารักจังวะ ตัวหอมชิบ 555+ แอบหื่น "หวัดดี นี่ฟาง น้องเฟย์เอง(นามสมมุติทั้งคู่)" "อื้อ เราพีช" "ป่ะ กลับกัน มืดแล้ว" เฟย์ให้ฟางมานั่งกลาง ผมเอามอไซด์ไปครับ ตลอดทางเราไม่ได้คุยอะไรกัน มีแต่ฟางน้องเธอที่ชวนผมคุย "เอ่อ เฟย์จะให้เราไปส่งที่ไหนเหรอ" "ที่บ้านเลย พอดีปากซอยไม่มีรถเข้าไปอ่ะ"
แอบงงนิดๆ ถึงบ้านเธอแล้วครับ ด้วยความอยากรุ้และความปากเสียของผม ผมถามเธอว่า "แล้วแฟนคนก่อน เฟย์ก้อให้มาส่งบ้านเหรอ" เธอมองหน้าผม ขมวดคิ้วแล้วเม้มมุมปาดนิดนึง "ป่าวนะ เพิ่งพีชคนแรกเนี่ยแหล่ะ คบกันแปบเดียวนะคนเก่า" "ทำไมเลิกอ่ะ" ยัง ยังไม่หยุดปากเสีย "เค้าชอบยุ่งเรื่องส่วนตัวอ่ะ ชอบถามนู่นถามนี่ ไม่รู้มีญาติเป็น csi ป่าว" "อ่อครับ งั้นเข้าบ้านเหอะดึกแล้ว" ผมขี่รถกลับบ้าน น้ำหนักที่เบาะหลังหายไป พร้อมกับใจผมที่หายไปอยู่กับเธอด้วยครับ ผมกลับบ้าน กินข้าว อาบน้ำ แล้วจะเข้านอน หลับตา แต่นอนไม่หลับ ลุกขึ้นมานั่งจ้องโทรศัพท์ อยู่แบบนั้นเป็นชั่วโมงอ่ะ ผมตัดสินใจโทรหาเธอ "สวัสดีคับป๋ม (เสียงน่ารักอ่า) ใครเอ่ย" เอิ่ม เธอไม่ได้เมมเบอร์ผม " เราพีชไง พอดีจะถามว่า นอนยัง" "ยังๆ ปั่นการบ้านอยู่เนี่ย"
"อ่าวเหรอ งั้นพีชไม่กวนดีกว่า" "ไม่นะ ไม่กวน กำลังเบื่อๆพอดี มีไรป่าว" นั่นไง คำถามนี้ มันเหมือนกับ ถ้าไม่มีอะไรโทรมาไม่ได้ใช่มั้ยเนี่ย " ไม่มีหรอก พอดีจะนอน แล้วมันนอนไม่หลับอ่ะ พอหลับตาแล้วมันเห็นหน้าเฟย์ตลอด ^//^" "หราาาา ระวังฝันร้ายนะแบบนั้นอ่ะ 55" เธอจะรู้มั้ยเนี่ย ว่าผมหลับตาคุย และจินตนาการว่าเธอมานอนอยู่ข้างๆผมแล้ว "55 ไม่หรอก คิดซะว่าผีอำแล้วกัน" "ชิชิ กวนตีนละ" "งั้นเฟย์ปั่นการบ้านเถอะ พีชไม่อยากให้เฟย์นอนดึก พีชเป็นห่วงอ่ะ" "อ่ะเคร งั้นแค่นี้นะ บาย" "อือ บาย" แล้วผมก้อหลับไป มาสะดุ้งตื่นอีกทีตอนตีสอง เพราะเสียงโทรศัพท์ "ฮัลโหลลลล" "พีชหลับแล้วเหรอ (ไม่หลับมั้งตีสองเนี่ย หึหึ) พอดีเฟย์ลืมอ่า" "ลืมไรเหรอ" "ลืมบอกว่า พรุ่งนี้มารับด้วยนะ นอนหลับฝันดี ราตรีสวัสดิ์คับป๋ม" แล้วเธอก้อวาง ห๊ะ งง..เบลอ อึ้ง ให้ไปรับเหรอ นอนหลับฝันดี ราตรีสวัสดิ์เหรอ คำที่ไม่เคยได้ยินจากใคร เคยได้ยินแต่ ฝันดีนะ กู้ดไนท์ บ๊าย บาย เป็นคำไทยที่ฟังแล้วรู้สึกดีมากๆ แล้วคืนนั้นผมก้อนอนไม่หลับอีกเลย ตอนเช้าเธอโทรมาให้ผมไปรับที่บ้าน ผมได้เจอกับพ่อและแม่เธอ ที่ดูแล้วคงไม่ชอบผมเท่าไหร่ คงเพราะตอนนั้นผมดูเป็นเด็ก และย้อมผมสีน้ำตาลด้วยล่ะมั้ง เราเริ่มสนิทกันมากขึ้น ไปไหนมาไหนด้วยกัน และอยู่ด้วยกันตลอดในวันที่ไม่มีเรียน ผมพาเธอไปรู้จักกับที่บ้านผม จนวันนึงเราไม่มีเรียนบ่าย วันนั้นเป็นวันลอยกระทง ที่บ้านผมไม่มีคนอยู่ ไปทำบุญเก้าวัดกันหมด เรานอนดูหนังด้วยกันจนหลับไป ผมตื่นมาประมาณทุ่มนึง เธอนอนซบอกผมอยู่ ผมกอดเธอไว้ในอ้อมแขนข้างซ้ายที่เหน็บกินจนแทบขยับไม่ได้ ผมมองหน้าเธอ
หน้าเธอตอนหลับเหมือนเด็กตัวน้อยๆ แก้มเธอใสมองเห็นเส้นเลือด และริมฝีปากเล็กๆสีชมพูที่ขบปิดกันสนิท แต่ยังมองเห็นสีแดงของยาอุทัยที่เธอทาริมฝีปากด้านในของเธอยู่ ช่างน่ารักชะมัด ผมทนไม่ไหวแล้วล่ะ ใครจะไปทนได้เวลาที่อยู่กับคนที่เราชอบมากๆ ผมก้มลงไปจูบเพราะผมอยากจะสัมผัสริมฝีปากชมพูระเรื่อนั่นเหลือเกิน ปากผมจะถึงริมฝีปากเธออยู่แล้ว เธอลืมตาขึ้นมา เราสบตากันในระยะที่ใกล้มาก ประมาณ 5 เซนติเมตร "จะทำไรเฟย์เหรอ" "เอ่อ พีชขอโทษนะ คือเฟย์น่าจูบมาก" "หอมแก้มเฉยๆได้มั้ย เฟย์ไม่พร้อมอ่ะ" เธอพูดพร้อมกับสายตาวิงวอนที่เหมือนเด็กเล็กๆอ้อนอยากได้ของขวัญ "อือ พีชขอโทษนะที่ไม่ได้ขอเฟย์ก่อน" "อือ" สั้นๆแล้วเธอก้อหลับตา ผมหอมแก้มเธอ แต่ริมฝีปากผม โดนกับริมฝีปากด้านข้างของเธอด้วยความตั้งใจ ผมค้างไว้นานจนแทบลืมหายใจ ไม่รู้ว่าผมรู้สึกไปเองรึเปล่า ที่รู้สึกว่าริมฝีปากเธอขยับมาประกบกับริมฝีปากผม เธอลืมตาสายตาวิงวอนที่เหมือนเด็กเล็กๆของเธอตอนนี้ไม่ใช่เด็กที่อยากได้ของขวัญอีกต่อไปแล้ว เราประกบปากกัน ลิ้นของเราเริ่มพันกันไปมา ปากเธอนุ่มเหมือนขนนกที่มีรสหวานของยาอุทัยนิดๆ ในขณะที่อารมณ์ของเราสองคนกำลังล่องลอยไป ผมสัมผัสได้กับหยดน้ำใสๆ บนใบหน้าเธอ เธอร้องไห้ ผมหยุดจากสิ่งที่ทำอยู่ ดึงเธอมากอดไว้ มันเจ็บปวดใจมากจริงๆนะครับ เวลาคนที่เรารักร้องไห้อยู่ในอ้อมกอดเรา แล้วเราช่วยอะไรไม่ได้ ผมรอจนเธอหายสะอื้น "เฟย์เป็นไรครับ อยากเล่ามั้ย" "ถ้าเฟย์บอก จะโกธรเฟย์มั้ย" "ไม่ครับ ตั้งแต่วันที่พีชตัดสินใจรักเฟย์ พีชก้อคิดแล้วว่า ไม่ว่าเฟย์จะผิดอะไร พีชจะให้อภัยเฟย์เสมอ" "พีช ไม่ใช่คนแรกของเฟย์นะ เฟย์เคยมีแฟน ตอนนั้นเฟย์ยังเด็ก ไม่ได้คบกันเพราะรัก แต่คบเพราะเพื่อนยุให้มีแฟน" เราได้แต่รับฟังเงียบๆ "เฟย์คบเค้าได้แค่สามเดือน วันนั้นวันเกิดเค้า เค้าชวนเฟย์ไปเลี้ยงวันเกิดที่บ้าน เฟย์โดนเพื่อนหลอก ทั้งเพื่อนเฟย์และเพื่อนเค้าหนีกลับกันไปหมด เค้าปล้ำเฟย์ เฟย์ไม่เต็มใจ เฟย์ร้องไห้ พยายามดิ้น เค้าก้อไม่หยุด จนเฟย์หมดแรง" เธอพูดได้แค่นั้น ผมก้อจูบปากธอ ไม่ใช่ไม่อยากฟังเรื่องที่เธอเล่า แต่ผมไม่อยากให้เธอเจ็บปวดไปมากกว่านี้ ผมเริ่มสานต่อสิ่งที่เราค้างไว้ คุณอาจจะคิดว่าผมเชี้ย ขนาดฟังเรื่องแบบนี้ยังจะทำต่อ ไม่ใช่ครับ ผมแค่อยากให้เธอสัมผัสกับความอ่อนโยนที่ผมมีให้ เพื่อเติมเต็มสิ่งร้ายๆที่เธอได้รับมาให้มันหายไป ให้เธอลืมสิ่งที่ไอเชี้ยนั่นทำ ลืมการกระทำของคนที่ไม่ใช่มนุษย์ แต่เป็นสัตว์ป่าในร่างคนเท่านั้นเอง เธอคงจะรับรู้ได้ถึงความอบอุ่นที่ผมมีให้ เธอไม่ได้ขัดขืนอะไร เราทำกิจกรรมรักร่วมกัน ผมกอดเธอไว้ ตัวเธอนิ่มเหมือนตุ๊กตาหมีขนเฟอร์ ผมตัดสินใจแล้ว ผมรักคนนี้ และผมอยากจะดูแลเธอไปตลอดชีวิต สองรอบที่เราทำกิจกรรมรักด้วยกัน เราหลับไปด้วยความอ่อนเพลีย และตื่นขึ้นมาตอนเที่ยงคืน เรามองหน้ากัน ต่างขำหน้าตาของกันและกัน เพราะมันเลอะเทอะเปรอะเปื้อนไปด้วยสีดำของอายส์ไลน์เนอร์ผสมกับน้ำตาเธอ มันช่างมีความสุขมากเหลือเกิน จนผมกลัวว่า มันมากเกินไป กลัวว่าถ้าความสุขเหล่านี้ เมื่อมันหายไป ผมจะทนได้มั้ย เพราะความสุขมันมักจะอยู่กับเราไม่นานนัก เราไปลอยกระทงด้วยกัน แสงเทียนจากกระทงที่มากระทบหน้าเธอ มันยิ่งทำให้เธอดูน่ารักยิ่งขึ้นไปอีก ผมอดไม่ได้ที่จะถ่ายรูปเธอไว้ด้วยกล้องจากโทรศัพท์ โนเกีย 6230 ที่เดี๋ยวนี้เลิกผลิตไปแล้ว ทุกวันนี้ผมยังสงสัยอยู่ว่า ทำไมเราไม่ถ่ายรูปคู่กัน ทุกอย่างดำเนินไปได้ด้วยดีจนเราขึ้นปี 3
ครอบครัวเธอก้อยังไม่ยอมรับผมเหมือนเดิม ผมเริ่มติดเพื่อน เวลาเราอยู่ด้วยกันมันกลายเป็นช่วงเวลาที่ดูอึดอัด เพราะเราอยู่ด้วยกันมากเกินไป เราเริ่มไม่รู้จะไปไหน อะไรที่เราอยากกิน เราก้อไปมาหมดแล้ว ตอนอยู่ด้วยกันก้อต่างคนต่างนอน ตอนเย็นเธอก้อกลับบ้าน ลึกๆในใจผมรู้ว่าเรายังรักกันอยู่ แต่เพราะความน่าเบื่อของตัวผมเอง ผมเริ่มบ่ายเบี่ยงและไปช้าในเวลาที่เธอให้ไปหา ผมติดเพื่อน เล่นสนุ๊ก เล่นไพ่ ตอนนั้นเราทำงานพาร์ทไทม์ที่เดียวกัน เป็นข้อผิดพลาดมหันต์ และเป็นข้อห้ามเลยที่คนเป็นแฟนกันจะทำงานที่เดียวกัน ด้วยความน่ารักของเธอ เธอมักจะโดนให้ยืนเป็นพนักงานต้อนรับหน้าร้าน และมีบ้างที่จะต้องมาดูแลลูกค้าในร้าน ผมทนไม่ได้เวลาเห็นเธอโดนลูกค้าเกาะแกะ แม้กระทั่งเวลาเธอยิ้มหวานให้คนอื่นตามหน้าที่ก้อเถอะ ผมเริ่มงี่เง่ามากขึ้นเรื่อยๆ เราทะเลาะกันบ่อยขึ้น เวลามีลูกค้าน่ารักๆมา ผมจะแกล้งทำเป็นสนใจ จากที่ไม่เคยสนใจใครเลย เพราะรู้ว่าเธอมองอยู่ มันเป็นวิธีที่ผิด ที่ประชดกันแบบนี้ เราประชดกันไปกันมา ไม่มีการปรับความเข้าใจกัน เราเริ่มคุยกันน้อยลง ผมไม่โทรไปเธอก้อไม่โทรมา แต่ผมอยู่ไม่ได้ เวลาไม่มีเธอ ผมรู้ว่าเธอชอบขนมอร่อยๆ หรือพวกของน่ารักๆ แต่เน้นว่าต้องสีชมพูเท่านั้น เพราะเธอชอบสีชมพูมากกกก กระเป๋า รองเท้า เสื้อคลุม ที่คาดผม ของประดับต้องเป็นสีชมพูทั้งหมด แน่นอนเธอต้องแพ้พิกเล็ต ผมซื้อพิกเล็ตไปง้อเธอ เราเริ่มปรับความเข้าใจกัน และกลับมาดีกันได้ประมาณเดือนนึง แล้วเธอคนนั้นก้อเข้ามา คนที่มาเปลี่ยนชีวิตของเราสองคนไปตลอดกาล [ขอเคลียร์งานแปบนะครับ เดี๋ยวมาต่อ ไม่รู้จะมีใครอยากอ่านรึเปล่า เพราะมันค่อนข้างเวินเว้อ และยาวนานมากในสิ่งที่ผมอยากระบาย]
HeMoGobin