10. ไบรอัน และ เดวิด ฟรีแมน ( Brian and David Freeman )
ไบรอัน อายุ 17 ปี และ เดวิด อายุ 16 ปี
สองพี่น้องยักษ์ปักหลักสูงกว่า 6 ฟุตหนักกว่า 200 ปอนด์
ภาพที่คุณเห็นข้างบนนั้นไม่ใช้รอยสักธรรมดา
แต่เป็นรอยสัก แก๊งนีโอนาซี
สองพี่น้องถูกตกเป็นผู้ต้องสงสัยทันที
หลังมีการพบศพแม่ของสองพี่น้องและน้อง ชายคน รอง
ถูกไม้กระบองทุบจนตายในเขตเมืองซอลส์บรี มลรัฐเพนซิลวาเนีย ในปี 1995
ซึ่งคืนก่อนหน้าที่เกิดเหตุมีเพื่อนบ้านได้ยินเสียงทะเลาะกัน
ระหว่างผู้ปกครองและสองพี่น้องดังกล่าว
สุดท้ายสองพี่น้องก็ถูกจับคุกตลอดชีวิต
9.เอ็ดมุนด์ เคม เปอร์ (Edmund Kemper)
27 สิงหาคม ปี 1964 ที่เบอร์แบงค์ แคลิฟอร์เนีย เอ็ดมุนด์ เคมเปอร์
ในขณะนั้นอายุแค่ 15 ปี ได้ยิงตากับยายด้วยปืนล่าสัตว์
(ยิงยายแล้วก็เอามีดหั่นเนื้อแทงยายซ้ำๆจน ปลายบิดงอ)
หลังถูกตำรวจจับกุมเขาอ้างเหตุผลในเวลาต่อมาว่า
แค่อยากรู้ว่าจะรู้สึกอย่างไรกับการฆ่ายาย
เด็กชายเคมเปอร์ถูกวินัจฉัยว่าเป็นโรคจิต (แต่ไอคิวถึง 140)
เขาถูกส่งตัวไปรักษาที่โรงพยาบาล
ปี 1969 เขาถูกปล่อยตัวเมื่อเคมเปอร์อายุ 21 ปี
แสร้งแกล้งทำเป็นว่าหายขาด
และถูกปล่อยสู่สังคมเมื่อออกสู่ภายนอก
เคมเปอร์ก็ก่อคดีฆาตกรรมต่อเนื่องซื้อ
รถคันหนึ่งรับเหยื่อที่เป็นผู้หญิงนักโบกรถ
และใช้ปืนยิงแล้วแทงให้ตายตัด ศีรษะ หั่นศพ ใช้กล้องบันทึกภาพ
บางรายนำเนื้อไปกินที่บ้านมีเหยื่อที่โดนวิธีนี้กว่า 6 ราย
วันที่ 20 เมษายน1973 เคมเปอร์ก็ฆ่าแม่ของตัวเอง
โดยการทุบหัวเธอด้วยค้อนขณะที่เธอหลับอยู่ตัดหัว
เธอออกแล้วข่มขืนศพที่ไร้หัวนั้น
จากนั้นเขาก็เอาหัวแม่มาใช้เป็นเป้าปา
ลูกดอกและเอากล่องเสียงไปทิ้งขยะ
เท่านี้ยังไม่พอเขายังฆ่าเพื่อนแม่อีกคน
ก่อนที่จะโทรแจ้งตำรวจมาจับตนเอง
(ตอนแรกตำรวจนึกว่าเรื่องตลกเคมเปอร์ต้อง ชี้แจ้งหลายนาทีกว่าตำรวจจะเชื่อ)
เคมเปอร์สารภาพต่อตำรวจว่า
แม่เป็นหญิงสารเลว สมควรตาย
สุดท้ายเคมเปอร์ถูกตัดสินคดีฆาตกรรม 8 คดี
และถูกลงโทษจำคุกตลอดชีวิต
8.วิลลี่ บอสเก็ต (Willie Bosket)
วิลลี่ บอสเก็ต เกิดเมื่อวันที่ 9 ธันวาคม 1962
เขาถูกตัดสินในคดีฆาตกรรมต่อเนื่องที่นิวยอร์ค
เขาฆ่าเหยื่อเพียงเพราะ ชิงทรัพย์เท่านั้น
แต่การตัดสินของเขาใช้กฎหมายผู้เยาว์
มันไม่สาสมต่อการกระทำอันอุกอาจของเขา
ทำให้สภาได้ร่างกฎหมาย
เพื่อให้เยาวชนต้องรับโทษแบบผู้ใหญ่ในคดีอุกฉกรรจ์ขึ้นมา
โดยก่อนหน้านั้น?ในวันที่ 19 มีนาคม 1978
วิลลี่ บอสเก็ตใช้ปืนยิงนายโนเอล เปเรส(Noel Perez)บนรถไฟใต้ดินนิวยอร์ค
เพียงเพื่อขโมยเงินจำนวนหนึ่งและนาฬิกาข้อมือ
แปดวันต่อมาวันเขายิงนายโมเลส เปเลส ( Moises Perez )
นามสกุลเหมือนกันแต่ไม่มีความสัมพันธ์กับเหยื่อรายแรก)และขโมยเงินของเหยื่อไป
เขาถูกตัดสินโดยกฎหมายเยาวชนก่อนที่ร่างกฎหมายใหม่นี้จะเสร็จเขาถูกจำคุก
แต่ออกมาอีก 4 ปีให้หลัง (ปล่อยในปี 1983)
แต่ต่อมาไม่นานเขาก็ถูกจับในคดีลอบวางเพลิง
และคดีร้ายแรงอีกมากมายและ
ถูกตัดสินโดยกฎหมายใหม่
ในที่สุดเขาถูกตัดสินจำคุกตลอดชีวิตและถูกขังเดี่ยว
ในเรือนจำนิวยอร์คตราบจนทุกวันนี้
7.โจชัวร์ ฟิลิปส์ ( Joshua Phillips )
คดีนี้เกิดขึ้นเมื่อ วันที่ 3 พฤศจิกายน ปี 1998 ในฟลอริด้า สหรัฐอเมริกา
เมื่อเด็กน้อยเพื่อนบ้านของโจชัวร์ ฟิลิปส์
ชื่อเด็กหญิง Maddie Clifton อายุ8 ขวบ
หายตัวไปจากบ้านของเขาเอง
ตำรวจและอาสาสมัครกว่า 400คนทำการค้นหา
และเสนอรางวัลเพื่อหาเบาะแสเพิ่มเดิม
แต่สุดท้ายก็ไร้ผล (คดี นี้ถึงมือ FBI)
หารู้ไม่ว่าเด็กน้อยคนนั้นอยู่ที่บ้านเพื่อนบ้านนี้แหละ
หากแต่เป็นศพแล้ว
7 วันต่อมาหลังการหายตัวไปของเด็ก
แม่ของโจชัวร์ ฟิลิปส์ทำความสะอาดห้องของเขาพบว่า
มีกลิ่นประหลาดและเธอตามหาที่มาของกลิ่นนั้น
จนกระทั้งพบร่างของ Maddie ซ่อนอยู่
เธอตกใจและหนีออกนอกบ้านแจ้งตำรวจ
โจชัวร์ ฟิลิปส์ ซึ่งตอนนั้นอายุ 15 ปี
สารภาพว่าเขาทุบตีเพื่อนบ้าน 8 ขวบด้วยไม้เบสบอลจนเสียชีวิต
และเขาหอบศพเธอซ่อนในห้องเขาและใช้มีดแทงเธอ อีก11 ครั้ง
คณะลูกขุนได้ตัดสินให้เขาจำคุกโดยปราศจากทัณฑ์บน
และตอนนี้เขายังอยู่ในคุก เรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน
6.ลอรี่ แทคเก็ต (Laurie Tackett)
เช้าวันเสาร์ของวันที่ 11 มกราคม ปี 1992
พี่น้องคู่หนึ่งได้ออกไปล่านกกระทาในเขตป่า Jefferson
และ แล้วเขาก็พบร่างหนึ่งที่ตอนแรกเขานึกว่าจะเป็นตุ๊กตา
แต่ปรากฏว่ามันเป็นศพ ของซานต้า ซาลีเออร์ (Shanda Sharerwho)
สภาพศพของเธอบ่งบอกถึงการกระทำอันโหดร้ายมีรอยไหม้อย่างรุนแรง
และรอยแผลที่ถูกฟันและแทงด้วยอาวุธมีคม
จากการสอบสวนพบว่าฆาตกรคือนางสาวลอรี่ แทคเกอร์ อายุ 18 ปี
ซึ่งเธอฆ่าซานต้าเพราะเป็นรักสามเศร้า(แบบเลสเบียน)
นางสาวลอรี่ แทคเกอร์
เกิดเมื่อวันที่ 5 ตุลาคม 1974 ในMadison อินเดียน่า
แม่ของเธอเคร่งศาสนาเป็นชาวคริสเตียน
ส่วนพ่อเป็นคนงานโรงงานต้องโทษคดีอาญาร้ายแรง
และเธออ้างเคยถูกทำร้ายเมื่อตอนอายุ 5 และ 12
(ฟังดูอาจธรรมดากว่าอันดับอื่นๆ ความจริงแล้วคดีนี้ดังมาก
ในวีพีมีเดียก็มี โดยคดีนี้มีชื่อ The murder of Shanda Renee Sharer
เนื้อหายาวๆ มากเพราะว่าเล่าตั้งแต่ความขัดแย้งของรักสามเศร้า)
5.เบรนด้า แอน สเปนเซอร์ (Brenda Anne Spencer)
วันจันทร์ 26 มกราคม ปี 1979
เบรด้าอายุ 16 ปี ใช้อาวุธปืนไรเฟิล automatic.22
ที่ได้รับเป็นของขวัญจากพ่อในวันคริสต์มาส
กราดยิงเด็ก 8 คนและเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยในโรงเรียนคลีฟแลนด์
อีลิเมนท์ทาลี่ สคูลในซานดิเอโก้
และพยายามฆ่าครูใหญ่เบอตัน แวคก์ และผู้ปกครอง
เธอถูกตำรวจจับกุมหลังจากนั้น 5 ชั่วโมง
และถูกตั้งคำถามถึงเหตุผลต่อการกระทำการฆาตกรรมหมู่ในโรงเรียนครั้งนี้
เธอยักไหล่และตอบกลับว่า
ฉันเกลียดวันจันทร์มันไม่มีเหตุผล
และฉันก็ทำไปเพราะมันสนุกมาก ๆ
เหมือนกับได้ยิงเป็ดในบ่อน้ำ
อีกอย่างเด็ก ๆ พวกนั้นเหมือนฝูงวัวตัวเมียยืนอยู่รอบๆ ซะด้วยสิ?
(I don’t like Mondays. This livens up the day. She also said,
I had no reason for it, and it was just a lot of fun.
It was just like shooting ducks in a pond and
[The children] looked like a herd of cows standing around it was really easy pickings. )
ผลสุดท้าย เบรนด้า ถูกตั้งข้อหาฆ่าคน
และบาดเจ็บสาหัสอีกหลายราย
ส่วนประโยค ฉันไม่ชอบวันจันทร์นั้น ได้ถูกนำไปใส่ในหนังเรื่อง
The Breakfast Club(1985) และยังเป็นแรงดลใจในเพลง
ฉันไม่ชอบวันจันทร์(I don’t like Mondays) โดยศิลปิน Boomtown Rats
4.จอน เวนาเบิล และโรเบิร์ต ทอมป์สัน (Jon Venables and Robert Thompson)
ปี1993 ที่ลิเวอร์พูล ประเทศอังกฤษ
จอน เวนาเบิล และโรเบิร์ต ทอมป์สัน 2 เด็กจากครอบครัวมีปัญหา
(ทั้งคู่ตอนนั้นอายุ 10 ขวบ) วันนั้นเป็นวันเปิดเรียน
แต่เด็กสองคนนี้ไม่ได้ไปเรียน
พวกเขาไปห้างสรรพสินค้า ขโมยลูกกวาด, ตุ๊กตาคอหมุนๆ,
แบตเตอรี่จำนวนหนึ่ง,กระป๋องสเปย์สีน้ำเงิน 1 กระป๋อง
และบังเอิญพวกเขาเห็นสิ่งหนึ่งน่าขโมยเป็นบ้าเลย(ไอเดียนรก)
มันคือ เด็กน้อยนามเจมส์ บัลเกอร์ (James Bulger)
อายุ เพียง 2 ปีกับ 11 เดือนเท่านั้น
เด็กสองคนเลยลักพาตัวเด็กออกจากห้างเสียเลย
(เด็กเล็ก(เจมส์)ถูกจูงมือโดย เด็กชายจอน
และมีโรเบิร์ตเดินนำหน้าทั้งสองดูเหมือนสนิทสนมกัน
แต่ไม่มีใครรู้ เลยว่านี้เป็นภาพสุดท้ายที่บันทึกเจมส์ในขณะมีชีวิตอยู่)
ไม่รู้ว่าเมื่อออกจากห้างทั้งสองทำอะไรกับเด็กบ้าง
รู้แน่ ๆพวกเขาพาเด็กเดินจนขาลากไปกว่าหลายไมล์เรื่อยเปื่อยเป็นเวลานาน
จนกระทั่งมาถึงรางรถไฟจากนั้นก็ไม่รู้เพราะอะไร
อีกทั้งสองตัดสินใจฆ่าเด็กโดยฉีด สีสเปย์ใส่ตาเจมส์
จากนั้นก็รุมทุบตีด้วยมือและเท้าท่อนเหล็ก
และก้อนหินกระหน่ำไปใส่ที่หัวของเด็กน้อยกว่า 42แผล
ด้วยความเมามันจนกะโหลกแตก
จากนั้นก็เปลือยท่องร่างเอาแบตเตอรี่ยัดที่รูทวาร
จากนั้นก็ลากศพเด็กไปวางบนรางรถไฟ
เพื่อให้รถไฟทับเพื่ออำพรางคดี
และเมื่อมีการพบศพเจมส์ในเวลาต่อมา
เด็กทั้งสองก็ถูกจับเกือบทันที
เพราะหลักฐานจากกล้องวีดีโอวงจรปิด
หลังจากถูก จับกุมทั้งสองเอาแต่ร้องโวยวาย
ใช้ความเป็นเด็กไร้เดียงสาบอกว่าไม่รู้เรื่อง
โยนความผิดไปอีกฝ่ายไป ๆ มาจนคดีนี้ไม่แน่ชัดว่า
ใครต้นคิดใครฆ่าเจมส์กันแน่ท้ายสุดศาลอังกฤษตัดสินจำ
คุกเด็กสองคนแบบกฎหมายผู้ใหญ่
และทั้งสองถูกปล่อยตัวออกไปในปี 2001
3.เจสซี่ โพเมอร์รอย (Jesse Pomeroy)
เจสซี่ โพเมอร์รอยถูกตำรวจจับกุมได้ในขณะที่เขาอายุ 14 ในปี 1874
ในข้อหาสังหารเด็ก 2 คนอย่างน่ากลัว
เขาถูกตั้งฉายาว่า เด็กมารร้ายแห่งเมืองบอสตัน (อเมริกา)
ก่อนหน้านั้น 3 ปีก่อน (1871-1872)
เขาออกอาละวาดทำร้ายและทรมานเด็กชาย 7 คน
และถูกจับส่งตัวไปโรงเรียนดัดสันดานที่บอสตัน
(มีรายงานว่าเขามีอาการทางจิต)
ปี 1875 ถูกปล่อยตัวออกมา โดยมีทัณฑ์บนไว้
เขาเฉลิมฉลองการออกจากที่คุมขัง
โดยการฆ่าเด็กสาววัย 10 ขวบชื่อ Katie Curran
ด้วยการตัดแขนขาเหมือนตุ๊กตาของเล่นไม่มีผิด
แต่เขาไม่หยุดแต่เพียงเท่านี้
เขาลักพาตัวเด็กชาย Horace Mullen วัย10 ขวบ
ไปที่บึงและสังหารเขาด้วยการใช้มีดแทงอย่างโหดร้าย
และเกือบตัดหัวของเด็ก ชายจนหลุดจากบ่า
เจสซี่ให้เหตุผลว่าเขาฆ่าเด็กชายคนนั้น
เพราะมีดวงตาที่ แปลก(เด็กชายมีตาสีขาว)
เขายอมรับผิดในเวลาต่อมา และถูกจับคุก 40 ปีอย่างโดดเดี่ยว
(เจสซี่รับได้บันทึกสถิติว่าเป็นฆาตกรต่อเนื่องอายุน้อยที่ สุดที่ตัดสินในอเมริกา)
สุดท้ายเจสซี่ตายเพราะสิ้นอายุไขเมื่อวันที่ 29กันยายน 1932 ขณะอายุ 72 ปี
2.แมรี่ เบล(Mary Bell)
วันที่ 25 พฤษภาคม ปี 1968
ที่ย่านนิวคาสเซิล ทางตอนเหนือของอังกฤษ
เป็นวันคล้ายวันเกิดครบ 11 ปี ของ แมรี่ เบล
เด็กจากครอบครัวมีปัญหา(อีกแหละ)
เธอเลยฉลองวันเกิดนี้โดยการบีบคอ
เด็กมาร์ติน บราวน์ เด็กชายอายุ 3-4 ขวบ
จนถึงแก่ความตายแล้วยังไปยั่วแม่ของเด็กทำนองว่า?
ลูกคุณตายแล้วเหงาหรือ เปล่า
ลูกคุณตายแล้วร้องไห้หรือเปล่า?
แต่นี้ยังไม่พอสำหรับเธอ เมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม
เธอกับเพื่อนของเธอชื่อ นอม่า เบล (นามสกุลเหมือนกันแต่ไม่ใช่ญาติ)
ได้ฆ่าเด็กชายไบรอัน โฮล วัย 4 ขวบ
และสลักที่ท้องของเด็กชายด้วยอักษรย่อ M และ N ด้วยใบมีดโกน
พวกเธอทั้งสองถูกศาลพิจารณาคดีในข้อหาสังหารโหดมนุษย์ 2 ศพ
ผลคือคือแมรี่ เบลถูกจำคุกและไปบำบัดจิต
ส่วนเพื่อนอีกคนพ้นข้อกล่าวหา (ได้ไง?)
ปี 1980 เธอถูกปล่อยตัวจากคุกเมื่ออายุได้ 22 ปี
ทั้งๆ ที่รักษาโรคจิตไม่หาย เธอมีลูกและหายสาปสูญไปจากสังคม
และวันที่ 21 พฤษภาคม ปี 2003 ทางการก็ประกาศว่าเธอเป็นบุคคลนิรนาม
1. สังหารหมู่ในโรงเรียน (School Shootings)
15 พฤศจิกายน 1995 เจมี่ เราซ์ (Jamie Rouse) วัย17ปี
แต่งชุดดำไปโรงเรียนริชแลนด์ ที่ไจลส์ เคาน์ตี้ รัฐเทนเนสซี่
พร้อม ปืนเรมิงตัน ขนาด.22 เขายิงครูไป 2 คน
และ หันปืนเล็งยิงโค้ชทีมฟุตบอล พร้อมยิ้มระบายบนใบหน้า
แต่พอดีเด็กคนหนึ่งเดินสวนพอดี จึงโดนแทน
۞۞۞ ⑩ อันดับเด็กน่ากลัวที่สุดในโลก ۞۞۞
10. ไบรอัน และ เดวิด ฟรีแมน ( Brian and David Freeman )
ไบรอัน อายุ 17 ปี และ เดวิด อายุ 16 ปี
สองพี่น้องยักษ์ปักหลักสูงกว่า 6 ฟุตหนักกว่า 200 ปอนด์
ภาพที่คุณเห็นข้างบนนั้นไม่ใช้รอยสักธรรมดา
แต่เป็นรอยสัก แก๊งนีโอนาซี
สองพี่น้องถูกตกเป็นผู้ต้องสงสัยทันที
หลังมีการพบศพแม่ของสองพี่น้องและน้อง ชายคน รอง
ถูกไม้กระบองทุบจนตายในเขตเมืองซอลส์บรี มลรัฐเพนซิลวาเนีย ในปี 1995
ซึ่งคืนก่อนหน้าที่เกิดเหตุมีเพื่อนบ้านได้ยินเสียงทะเลาะกัน
ระหว่างผู้ปกครองและสองพี่น้องดังกล่าว
สุดท้ายสองพี่น้องก็ถูกจับคุกตลอดชีวิต
9.เอ็ดมุนด์ เคม เปอร์ (Edmund Kemper)
27 สิงหาคม ปี 1964 ที่เบอร์แบงค์ แคลิฟอร์เนีย เอ็ดมุนด์ เคมเปอร์
ในขณะนั้นอายุแค่ 15 ปี ได้ยิงตากับยายด้วยปืนล่าสัตว์
(ยิงยายแล้วก็เอามีดหั่นเนื้อแทงยายซ้ำๆจน ปลายบิดงอ)
หลังถูกตำรวจจับกุมเขาอ้างเหตุผลในเวลาต่อมาว่า
แค่อยากรู้ว่าจะรู้สึกอย่างไรกับการฆ่ายาย
เด็กชายเคมเปอร์ถูกวินัจฉัยว่าเป็นโรคจิต (แต่ไอคิวถึง 140)
เขาถูกส่งตัวไปรักษาที่โรงพยาบาล
ปี 1969 เขาถูกปล่อยตัวเมื่อเคมเปอร์อายุ 21 ปี
แสร้งแกล้งทำเป็นว่าหายขาด
และถูกปล่อยสู่สังคมเมื่อออกสู่ภายนอก
เคมเปอร์ก็ก่อคดีฆาตกรรมต่อเนื่องซื้อ
รถคันหนึ่งรับเหยื่อที่เป็นผู้หญิงนักโบกรถ
และใช้ปืนยิงแล้วแทงให้ตายตัด ศีรษะ หั่นศพ ใช้กล้องบันทึกภาพ
บางรายนำเนื้อไปกินที่บ้านมีเหยื่อที่โดนวิธีนี้กว่า 6 ราย
วันที่ 20 เมษายน1973 เคมเปอร์ก็ฆ่าแม่ของตัวเอง
โดยการทุบหัวเธอด้วยค้อนขณะที่เธอหลับอยู่ตัดหัว
เธอออกแล้วข่มขืนศพที่ไร้หัวนั้น
จากนั้นเขาก็เอาหัวแม่มาใช้เป็นเป้าปา
ลูกดอกและเอากล่องเสียงไปทิ้งขยะ
เท่านี้ยังไม่พอเขายังฆ่าเพื่อนแม่อีกคน
ก่อนที่จะโทรแจ้งตำรวจมาจับตนเอง
(ตอนแรกตำรวจนึกว่าเรื่องตลกเคมเปอร์ต้อง ชี้แจ้งหลายนาทีกว่าตำรวจจะเชื่อ)
เคมเปอร์สารภาพต่อตำรวจว่า
แม่เป็นหญิงสารเลว สมควรตาย
สุดท้ายเคมเปอร์ถูกตัดสินคดีฆาตกรรม 8 คดี
และถูกลงโทษจำคุกตลอดชีวิต
8.วิลลี่ บอสเก็ต (Willie Bosket)
วิลลี่ บอสเก็ต เกิดเมื่อวันที่ 9 ธันวาคม 1962
เขาถูกตัดสินในคดีฆาตกรรมต่อเนื่องที่นิวยอร์ค
เขาฆ่าเหยื่อเพียงเพราะ ชิงทรัพย์เท่านั้น
แต่การตัดสินของเขาใช้กฎหมายผู้เยาว์
มันไม่สาสมต่อการกระทำอันอุกอาจของเขา
ทำให้สภาได้ร่างกฎหมาย
เพื่อให้เยาวชนต้องรับโทษแบบผู้ใหญ่ในคดีอุกฉกรรจ์ขึ้นมา
โดยก่อนหน้านั้น?ในวันที่ 19 มีนาคม 1978
วิลลี่ บอสเก็ตใช้ปืนยิงนายโนเอล เปเรส(Noel Perez)บนรถไฟใต้ดินนิวยอร์ค
เพียงเพื่อขโมยเงินจำนวนหนึ่งและนาฬิกาข้อมือ
แปดวันต่อมาวันเขายิงนายโมเลส เปเลส ( Moises Perez )
นามสกุลเหมือนกันแต่ไม่มีความสัมพันธ์กับเหยื่อรายแรก)และขโมยเงินของเหยื่อไป
เขาถูกตัดสินโดยกฎหมายเยาวชนก่อนที่ร่างกฎหมายใหม่นี้จะเสร็จเขาถูกจำคุก
แต่ออกมาอีก 4 ปีให้หลัง (ปล่อยในปี 1983)
แต่ต่อมาไม่นานเขาก็ถูกจับในคดีลอบวางเพลิง
และคดีร้ายแรงอีกมากมายและ
ถูกตัดสินโดยกฎหมายใหม่
ในที่สุดเขาถูกตัดสินจำคุกตลอดชีวิตและถูกขังเดี่ยว
ในเรือนจำนิวยอร์คตราบจนทุกวันนี้
7.โจชัวร์ ฟิลิปส์ ( Joshua Phillips )
คดีนี้เกิดขึ้นเมื่อ วันที่ 3 พฤศจิกายน ปี 1998 ในฟลอริด้า สหรัฐอเมริกา
เมื่อเด็กน้อยเพื่อนบ้านของโจชัวร์ ฟิลิปส์
ชื่อเด็กหญิง Maddie Clifton อายุ8 ขวบ
หายตัวไปจากบ้านของเขาเอง
ตำรวจและอาสาสมัครกว่า 400คนทำการค้นหา
และเสนอรางวัลเพื่อหาเบาะแสเพิ่มเดิม
แต่สุดท้ายก็ไร้ผล (คดี นี้ถึงมือ FBI)
หารู้ไม่ว่าเด็กน้อยคนนั้นอยู่ที่บ้านเพื่อนบ้านนี้แหละ
หากแต่เป็นศพแล้ว
7 วันต่อมาหลังการหายตัวไปของเด็ก
แม่ของโจชัวร์ ฟิลิปส์ทำความสะอาดห้องของเขาพบว่า
มีกลิ่นประหลาดและเธอตามหาที่มาของกลิ่นนั้น
จนกระทั้งพบร่างของ Maddie ซ่อนอยู่
เธอตกใจและหนีออกนอกบ้านแจ้งตำรวจ
โจชัวร์ ฟิลิปส์ ซึ่งตอนนั้นอายุ 15 ปี
สารภาพว่าเขาทุบตีเพื่อนบ้าน 8 ขวบด้วยไม้เบสบอลจนเสียชีวิต
และเขาหอบศพเธอซ่อนในห้องเขาและใช้มีดแทงเธอ อีก11 ครั้ง
คณะลูกขุนได้ตัดสินให้เขาจำคุกโดยปราศจากทัณฑ์บน
และตอนนี้เขายังอยู่ในคุก เรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน
6.ลอรี่ แทคเก็ต (Laurie Tackett)
เช้าวันเสาร์ของวันที่ 11 มกราคม ปี 1992
พี่น้องคู่หนึ่งได้ออกไปล่านกกระทาในเขตป่า Jefferson
และ แล้วเขาก็พบร่างหนึ่งที่ตอนแรกเขานึกว่าจะเป็นตุ๊กตา
แต่ปรากฏว่ามันเป็นศพ ของซานต้า ซาลีเออร์ (Shanda Sharerwho)
สภาพศพของเธอบ่งบอกถึงการกระทำอันโหดร้ายมีรอยไหม้อย่างรุนแรง
และรอยแผลที่ถูกฟันและแทงด้วยอาวุธมีคม
จากการสอบสวนพบว่าฆาตกรคือนางสาวลอรี่ แทคเกอร์ อายุ 18 ปี
ซึ่งเธอฆ่าซานต้าเพราะเป็นรักสามเศร้า(แบบเลสเบียน)
นางสาวลอรี่ แทคเกอร์
เกิดเมื่อวันที่ 5 ตุลาคม 1974 ในMadison อินเดียน่า
แม่ของเธอเคร่งศาสนาเป็นชาวคริสเตียน
ส่วนพ่อเป็นคนงานโรงงานต้องโทษคดีอาญาร้ายแรง
และเธออ้างเคยถูกทำร้ายเมื่อตอนอายุ 5 และ 12
(ฟังดูอาจธรรมดากว่าอันดับอื่นๆ ความจริงแล้วคดีนี้ดังมาก
ในวีพีมีเดียก็มี โดยคดีนี้มีชื่อ The murder of Shanda Renee Sharer
เนื้อหายาวๆ มากเพราะว่าเล่าตั้งแต่ความขัดแย้งของรักสามเศร้า)
5.เบรนด้า แอน สเปนเซอร์ (Brenda Anne Spencer)
วันจันทร์ 26 มกราคม ปี 1979
เบรด้าอายุ 16 ปี ใช้อาวุธปืนไรเฟิล automatic.22
ที่ได้รับเป็นของขวัญจากพ่อในวันคริสต์มาส
กราดยิงเด็ก 8 คนและเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยในโรงเรียนคลีฟแลนด์
อีลิเมนท์ทาลี่ สคูลในซานดิเอโก้
และพยายามฆ่าครูใหญ่เบอตัน แวคก์ และผู้ปกครอง
เธอถูกตำรวจจับกุมหลังจากนั้น 5 ชั่วโมง
และถูกตั้งคำถามถึงเหตุผลต่อการกระทำการฆาตกรรมหมู่ในโรงเรียนครั้งนี้
เธอยักไหล่และตอบกลับว่า
ฉันเกลียดวันจันทร์มันไม่มีเหตุผล
และฉันก็ทำไปเพราะมันสนุกมาก ๆ
เหมือนกับได้ยิงเป็ดในบ่อน้ำ
อีกอย่างเด็ก ๆ พวกนั้นเหมือนฝูงวัวตัวเมียยืนอยู่รอบๆ ซะด้วยสิ?
(I don’t like Mondays. This livens up the day. She also said,
I had no reason for it, and it was just a lot of fun.
It was just like shooting ducks in a pond and
[The children] looked like a herd of cows standing around it was really easy pickings. )
ผลสุดท้าย เบรนด้า ถูกตั้งข้อหาฆ่าคน
และบาดเจ็บสาหัสอีกหลายราย
ส่วนประโยค ฉันไม่ชอบวันจันทร์นั้น ได้ถูกนำไปใส่ในหนังเรื่อง
The Breakfast Club(1985) และยังเป็นแรงดลใจในเพลง
ฉันไม่ชอบวันจันทร์(I don’t like Mondays) โดยศิลปิน Boomtown Rats
4.จอน เวนาเบิล และโรเบิร์ต ทอมป์สัน (Jon Venables and Robert Thompson)
ปี1993 ที่ลิเวอร์พูล ประเทศอังกฤษ
จอน เวนาเบิล และโรเบิร์ต ทอมป์สัน 2 เด็กจากครอบครัวมีปัญหา
(ทั้งคู่ตอนนั้นอายุ 10 ขวบ) วันนั้นเป็นวันเปิดเรียน
แต่เด็กสองคนนี้ไม่ได้ไปเรียน
พวกเขาไปห้างสรรพสินค้า ขโมยลูกกวาด, ตุ๊กตาคอหมุนๆ,
แบตเตอรี่จำนวนหนึ่ง,กระป๋องสเปย์สีน้ำเงิน 1 กระป๋อง
และบังเอิญพวกเขาเห็นสิ่งหนึ่งน่าขโมยเป็นบ้าเลย(ไอเดียนรก)
มันคือ เด็กน้อยนามเจมส์ บัลเกอร์ (James Bulger)
อายุ เพียง 2 ปีกับ 11 เดือนเท่านั้น
เด็กสองคนเลยลักพาตัวเด็กออกจากห้างเสียเลย
(เด็กเล็ก(เจมส์)ถูกจูงมือโดย เด็กชายจอน
และมีโรเบิร์ตเดินนำหน้าทั้งสองดูเหมือนสนิทสนมกัน
แต่ไม่มีใครรู้ เลยว่านี้เป็นภาพสุดท้ายที่บันทึกเจมส์ในขณะมีชีวิตอยู่)
ไม่รู้ว่าเมื่อออกจากห้างทั้งสองทำอะไรกับเด็กบ้าง
รู้แน่ ๆพวกเขาพาเด็กเดินจนขาลากไปกว่าหลายไมล์เรื่อยเปื่อยเป็นเวลานาน
จนกระทั่งมาถึงรางรถไฟจากนั้นก็ไม่รู้เพราะอะไร
อีกทั้งสองตัดสินใจฆ่าเด็กโดยฉีด สีสเปย์ใส่ตาเจมส์
จากนั้นก็รุมทุบตีด้วยมือและเท้าท่อนเหล็ก
และก้อนหินกระหน่ำไปใส่ที่หัวของเด็กน้อยกว่า 42แผล
ด้วยความเมามันจนกะโหลกแตก
จากนั้นก็เปลือยท่องร่างเอาแบตเตอรี่ยัดที่รูทวาร
จากนั้นก็ลากศพเด็กไปวางบนรางรถไฟ
เพื่อให้รถไฟทับเพื่ออำพรางคดี
และเมื่อมีการพบศพเจมส์ในเวลาต่อมา
เด็กทั้งสองก็ถูกจับเกือบทันที
เพราะหลักฐานจากกล้องวีดีโอวงจรปิด
หลังจากถูก จับกุมทั้งสองเอาแต่ร้องโวยวาย
ใช้ความเป็นเด็กไร้เดียงสาบอกว่าไม่รู้เรื่อง
โยนความผิดไปอีกฝ่ายไป ๆ มาจนคดีนี้ไม่แน่ชัดว่า
ใครต้นคิดใครฆ่าเจมส์กันแน่ท้ายสุดศาลอังกฤษตัดสินจำ
คุกเด็กสองคนแบบกฎหมายผู้ใหญ่
และทั้งสองถูกปล่อยตัวออกไปในปี 2001
3.เจสซี่ โพเมอร์รอย (Jesse Pomeroy)
เจสซี่ โพเมอร์รอยถูกตำรวจจับกุมได้ในขณะที่เขาอายุ 14 ในปี 1874
ในข้อหาสังหารเด็ก 2 คนอย่างน่ากลัว
เขาถูกตั้งฉายาว่า เด็กมารร้ายแห่งเมืองบอสตัน (อเมริกา)
ก่อนหน้านั้น 3 ปีก่อน (1871-1872)
เขาออกอาละวาดทำร้ายและทรมานเด็กชาย 7 คน
และถูกจับส่งตัวไปโรงเรียนดัดสันดานที่บอสตัน
(มีรายงานว่าเขามีอาการทางจิต)
ปี 1875 ถูกปล่อยตัวออกมา โดยมีทัณฑ์บนไว้
เขาเฉลิมฉลองการออกจากที่คุมขัง
โดยการฆ่าเด็กสาววัย 10 ขวบชื่อ Katie Curran
ด้วยการตัดแขนขาเหมือนตุ๊กตาของเล่นไม่มีผิด
แต่เขาไม่หยุดแต่เพียงเท่านี้
เขาลักพาตัวเด็กชาย Horace Mullen วัย10 ขวบ
ไปที่บึงและสังหารเขาด้วยการใช้มีดแทงอย่างโหดร้าย
และเกือบตัดหัวของเด็ก ชายจนหลุดจากบ่า
เจสซี่ให้เหตุผลว่าเขาฆ่าเด็กชายคนนั้น
เพราะมีดวงตาที่ แปลก(เด็กชายมีตาสีขาว)
เขายอมรับผิดในเวลาต่อมา และถูกจับคุก 40 ปีอย่างโดดเดี่ยว
(เจสซี่รับได้บันทึกสถิติว่าเป็นฆาตกรต่อเนื่องอายุน้อยที่ สุดที่ตัดสินในอเมริกา)
สุดท้ายเจสซี่ตายเพราะสิ้นอายุไขเมื่อวันที่ 29กันยายน 1932 ขณะอายุ 72 ปี
2.แมรี่ เบล(Mary Bell)
วันที่ 25 พฤษภาคม ปี 1968
ที่ย่านนิวคาสเซิล ทางตอนเหนือของอังกฤษ
เป็นวันคล้ายวันเกิดครบ 11 ปี ของ แมรี่ เบล
เด็กจากครอบครัวมีปัญหา(อีกแหละ)
เธอเลยฉลองวันเกิดนี้โดยการบีบคอ
เด็กมาร์ติน บราวน์ เด็กชายอายุ 3-4 ขวบ
จนถึงแก่ความตายแล้วยังไปยั่วแม่ของเด็กทำนองว่า?
ลูกคุณตายแล้วเหงาหรือ เปล่า
ลูกคุณตายแล้วร้องไห้หรือเปล่า?
แต่นี้ยังไม่พอสำหรับเธอ เมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม
เธอกับเพื่อนของเธอชื่อ นอม่า เบล (นามสกุลเหมือนกันแต่ไม่ใช่ญาติ)
ได้ฆ่าเด็กชายไบรอัน โฮล วัย 4 ขวบ
และสลักที่ท้องของเด็กชายด้วยอักษรย่อ M และ N ด้วยใบมีดโกน
พวกเธอทั้งสองถูกศาลพิจารณาคดีในข้อหาสังหารโหดมนุษย์ 2 ศพ
ผลคือคือแมรี่ เบลถูกจำคุกและไปบำบัดจิต
ส่วนเพื่อนอีกคนพ้นข้อกล่าวหา (ได้ไง?)
ปี 1980 เธอถูกปล่อยตัวจากคุกเมื่ออายุได้ 22 ปี
ทั้งๆ ที่รักษาโรคจิตไม่หาย เธอมีลูกและหายสาปสูญไปจากสังคม
และวันที่ 21 พฤษภาคม ปี 2003 ทางการก็ประกาศว่าเธอเป็นบุคคลนิรนาม
1. สังหารหมู่ในโรงเรียน (School Shootings)
15 พฤศจิกายน 1995 เจมี่ เราซ์ (Jamie Rouse) วัย17ปี
แต่งชุดดำไปโรงเรียนริชแลนด์ ที่ไจลส์ เคาน์ตี้ รัฐเทนเนสซี่
พร้อม ปืนเรมิงตัน ขนาด.22 เขายิงครูไป 2 คน
และ หันปืนเล็งยิงโค้ชทีมฟุตบอล พร้อมยิ้มระบายบนใบหน้า
แต่พอดีเด็กคนหนึ่งเดินสวนพอดี จึงโดนแทน
CREDIT
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้