คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 4
เราเคยคบเพื่อนนิสัยคล้ายๆกับคนๆนี้เหมือนกันค่ะ ด้วยความไร้เดียงสาของเราทำให้เชื่อสนิทใจว่ามันคือเพื่อนสนิทคนหนึ่งของเราเลยทีเดียว
นางเป็นตุ๊ดร่างใหญ่และอ้วนมาก เริ่มแรกที่มาสนิทกับกลุ่มของเรา นางก็เล่าเรื่องต่างๆให้ฟังมากมายราวกับเธอผ่านชีวิตมาแล้วมากกว่า 30 ปี (ทั้งๆที่ตอนนั้นอยู่แค่ปี2)
เล่าว่าก่อนหน้านี้ครอบครัวเคยร่ำรวยมากๆ แล้วเจอวิกฤตเศรษฐกิจทำให้ต้องขายบ้าน เป็นหนี้สิน แม่ติดหนี้ท่วมหัว จนนางต้องออกไปขายตัวสมัยมัธยม แต่นางเอาตัวรอดโดยการแอบวางยานอนหลับให้แขก แล้วฉกทรัพย์สินไปเลยเอาตัวรอดมาได้เรื่อยๆ
ทั้งเล่าว่า แม่ขายนางให้เป็นเมียมาเฟียหัวรุนแรงคนหนึ่ง ต้องย้ายไปอยู่บ้านเขา แต่นางก็ไม่ยอมเป็นเมียเขาง่ายๆ เพราะก่อนหน้านี้เมื่อไม่นาน นางไปเก็บเด็กกำพร้าคนหนึ่งมาเป็นลูกบุญธรรมได้เลยให้ลูกนอนตรงกลาง มาเฟียคนนี้เลยใช้กำลังขืนใจนางไม่ได้ (บอกรักลูกมากแต่ไม่เคยพกรูปลูกติดตัวเลย เรากับเพื่อนขอดูก็บ่ายเบี่ยงบอกว่าไม่เคยถ่ายไว้)
นางเรียนจบมาจากโรงเรียนเตรียมฯชื่อดัง ทั้งเข้าชมรมประสานเสียงติดตัวแทนประจำโรงเรียนและเข้าชมรมยูโด (เราคิดในใจ หุ่นแบบนั้นจะเล่นไหวเหรอ) จากนั้นสามารถเข้ามหาวิทยาลัยดังมากๆของประเทศได้ แต่ทนสังคมของที่นั่นไม่ไหวเลยซิ่วมาเรียนที่นี่ (ม.เราเป็นม.รัฐเทคโนโลยี) อ๊ะๆ แต่ก่อนหน้านี้นางเรียนจบคว้าปริญญาจากมหาวิทยาลัยเปิดแห่งหนึ่งได้มาเรียบร้อยแล้ว และจริงๆแล้วนางอายุมากกว่าพวกเราถึง 4 ปี แต่เจ้าหน้าที่ที่ทำบัตรประชาชนให้ใส่ข้อมูลผิดพลาด พ.ศ.เกิดเลยปีเดียวกับเรา
นอกจากนี้ช่วงน้ำท่วมปี 2554 นางยังอัพสเตตัสเฟสบุ๊คว่าไปเที่ยวญี่ปุ่นกับสามีมาเฟีย แต่ไม่ถ่ายรูปใดๆมาลงเลย บอกว่าไม่ได้พกกล้องไปด้วย บอกว่าจะไปเที่ยวมัลดีฟ เครื่องออกตอน 2 ทุ่ม เพื่อนเรายังเห็นนางออนเฟสบุ๊คเลยถามว่าไม่ขึ้นเครื่องเหรอ นางบอกว่าสภาพอากาศไม่ดีเครื่องเลยดีเลย์ ตอนตี1 ก็ยังเห็นออนอยู่ นางก็บอกว่ายกเลิกเที่ยวบินไปแล้ว อุต๊ะ มีเรื่องอีกมากมายเลยค่ะ บางเรื่องก็ขัดแย้งกันเองบ้างอะไรบ้าง เราก็ฟังขำๆไป
หลังจากนั้นนางก็ตีตัวออกห่างจากกลุ่มเราซะงั้น ทั้งๆที่ไม่ได้มีเรื่องหมางใจอะไรเกิดขึ้นเลย อาจารย์ที่สนิทก็ถามไถ่ว่ามีอะไรกันเหรอ ทะเลาะอะไรกันหรือเปล่า เรากับเพื่อนก็เงียบ ไม่อยากจะดิสเครดิตใครให้เปลืองน้ำลาย ส่วนนางก็ย้ายกลุ่มไปอยู่คนนั้นทีคนนี้ทีในห้อง แต่ก็อยู่กับใครได้ไม่นานเพราะนิสัย
และนิสัยส่วนตัวอื่นๆของนาง สุดท้ายเพื่อนแทบทุกคนในห้องก็รู้นิสัยนางโดยทั่วกัน และแทบไม่มีใครสมาคมกับนางอีก ทำเรากับเพื่อนแอบสะใจเบาๆ
พอเห็นกระทู้ของจขกท.เราเลยแปลกใจว่า เอ้อ คนแบบนี้ก็มีอีกเยอะเลยเหรอเนี่ยในสังคมนี้ ขอตอบคำถามคุณในส่วนตัวเรานะคะ
1. เป็นโรคจิตไหม? เราไม่แน่ใจค่ะ แต่เขาน่าจะขาดความอบอุ่นหรือความมั่นใจในตัวเองทำให้ต้องสร้างเรื่องต่างๆขึ้นมาให้คนสนใจ
2. ควรบอกไหม? เราคิดว่าเจ้าตัวเขาน่าจะรู้แล้วนะคะดูจากที่เขาโพสไปแล้วไม่มีใครสนใจเขาเลย ปล่อยให้เรื่องเงียบ ไม่มีใครครบ ไปแล้วให้เขาสลดเอาเองดีกว่า (ถ้าเป็นไปได้)
3. เหตุผลเพราะส่วนตัวความขี้โกหกของเขามันไร้สาระน่ะค่ะ ไม่ใช่สิ่งเลวร้ายอะไร แค่มันน่ารำคาญสำหรับคนทั่วไปเท่านั้น เฉยไว้ก็ไม่น่าจะเป็นปัญหาอะไร
4. ข้อนี้แหละค่ะสำคัญ ความนั้นส่งผลร้ายถึงคนอื่น ทำให้เพื่อนๆเดือดร้อน ถ้าเป็นเรื่องนี้แนะนำให้แฉกับอาจารย์เลยค่ะ เล่าให้ท่านฟังว่าเพื่อนคนนี้เป็นยังไง พร้อมให้เพื่อนๆคนอื่นในเซคมาสนับสนุนให้เรื่องนี้มีน้ำหนักมากขึ้น
สู้ๆนะคะ อย่ายอมให้คนที่แยกโลกความจริงกับโลกในจินตนาการไม่ออกมาส่งผลอะไรกับชีวิตเราได้ ตอนแรกที่เจอเราก็เฮิร์ทค่ะ เพราะเราเป็นคนให้ใจใครก็ใจๆเลย เจอแบบนี้เราลบเฟส ลบมันออกจากชีวิตเลยค่ะ ขณะเดียวกันก็พยายามแสดงออกว่าฉันไม่ได้ยี่หระอะไรกับเรื่องของหล่อนเลยสักนิด ไม่ได้มีค่าพอให้เก็บมาคิดรกสมอง
นางเป็นตุ๊ดร่างใหญ่และอ้วนมาก เริ่มแรกที่มาสนิทกับกลุ่มของเรา นางก็เล่าเรื่องต่างๆให้ฟังมากมายราวกับเธอผ่านชีวิตมาแล้วมากกว่า 30 ปี (ทั้งๆที่ตอนนั้นอยู่แค่ปี2)
เล่าว่าก่อนหน้านี้ครอบครัวเคยร่ำรวยมากๆ แล้วเจอวิกฤตเศรษฐกิจทำให้ต้องขายบ้าน เป็นหนี้สิน แม่ติดหนี้ท่วมหัว จนนางต้องออกไปขายตัวสมัยมัธยม แต่นางเอาตัวรอดโดยการแอบวางยานอนหลับให้แขก แล้วฉกทรัพย์สินไปเลยเอาตัวรอดมาได้เรื่อยๆ
ทั้งเล่าว่า แม่ขายนางให้เป็นเมียมาเฟียหัวรุนแรงคนหนึ่ง ต้องย้ายไปอยู่บ้านเขา แต่นางก็ไม่ยอมเป็นเมียเขาง่ายๆ เพราะก่อนหน้านี้เมื่อไม่นาน นางไปเก็บเด็กกำพร้าคนหนึ่งมาเป็นลูกบุญธรรมได้เลยให้ลูกนอนตรงกลาง มาเฟียคนนี้เลยใช้กำลังขืนใจนางไม่ได้ (บอกรักลูกมากแต่ไม่เคยพกรูปลูกติดตัวเลย เรากับเพื่อนขอดูก็บ่ายเบี่ยงบอกว่าไม่เคยถ่ายไว้)
นางเรียนจบมาจากโรงเรียนเตรียมฯชื่อดัง ทั้งเข้าชมรมประสานเสียงติดตัวแทนประจำโรงเรียนและเข้าชมรมยูโด (เราคิดในใจ หุ่นแบบนั้นจะเล่นไหวเหรอ) จากนั้นสามารถเข้ามหาวิทยาลัยดังมากๆของประเทศได้ แต่ทนสังคมของที่นั่นไม่ไหวเลยซิ่วมาเรียนที่นี่ (ม.เราเป็นม.รัฐเทคโนโลยี) อ๊ะๆ แต่ก่อนหน้านี้นางเรียนจบคว้าปริญญาจากมหาวิทยาลัยเปิดแห่งหนึ่งได้มาเรียบร้อยแล้ว และจริงๆแล้วนางอายุมากกว่าพวกเราถึง 4 ปี แต่เจ้าหน้าที่ที่ทำบัตรประชาชนให้ใส่ข้อมูลผิดพลาด พ.ศ.เกิดเลยปีเดียวกับเรา
นอกจากนี้ช่วงน้ำท่วมปี 2554 นางยังอัพสเตตัสเฟสบุ๊คว่าไปเที่ยวญี่ปุ่นกับสามีมาเฟีย แต่ไม่ถ่ายรูปใดๆมาลงเลย บอกว่าไม่ได้พกกล้องไปด้วย บอกว่าจะไปเที่ยวมัลดีฟ เครื่องออกตอน 2 ทุ่ม เพื่อนเรายังเห็นนางออนเฟสบุ๊คเลยถามว่าไม่ขึ้นเครื่องเหรอ นางบอกว่าสภาพอากาศไม่ดีเครื่องเลยดีเลย์ ตอนตี1 ก็ยังเห็นออนอยู่ นางก็บอกว่ายกเลิกเที่ยวบินไปแล้ว อุต๊ะ มีเรื่องอีกมากมายเลยค่ะ บางเรื่องก็ขัดแย้งกันเองบ้างอะไรบ้าง เราก็ฟังขำๆไป
หลังจากนั้นนางก็ตีตัวออกห่างจากกลุ่มเราซะงั้น ทั้งๆที่ไม่ได้มีเรื่องหมางใจอะไรเกิดขึ้นเลย อาจารย์ที่สนิทก็ถามไถ่ว่ามีอะไรกันเหรอ ทะเลาะอะไรกันหรือเปล่า เรากับเพื่อนก็เงียบ ไม่อยากจะดิสเครดิตใครให้เปลืองน้ำลาย ส่วนนางก็ย้ายกลุ่มไปอยู่คนนั้นทีคนนี้ทีในห้อง แต่ก็อยู่กับใครได้ไม่นานเพราะนิสัย
และนิสัยส่วนตัวอื่นๆของนาง สุดท้ายเพื่อนแทบทุกคนในห้องก็รู้นิสัยนางโดยทั่วกัน และแทบไม่มีใครสมาคมกับนางอีก ทำเรากับเพื่อนแอบสะใจเบาๆ พอเห็นกระทู้ของจขกท.เราเลยแปลกใจว่า เอ้อ คนแบบนี้ก็มีอีกเยอะเลยเหรอเนี่ยในสังคมนี้ ขอตอบคำถามคุณในส่วนตัวเรานะคะ
1. เป็นโรคจิตไหม? เราไม่แน่ใจค่ะ แต่เขาน่าจะขาดความอบอุ่นหรือความมั่นใจในตัวเองทำให้ต้องสร้างเรื่องต่างๆขึ้นมาให้คนสนใจ
2. ควรบอกไหม? เราคิดว่าเจ้าตัวเขาน่าจะรู้แล้วนะคะดูจากที่เขาโพสไปแล้วไม่มีใครสนใจเขาเลย ปล่อยให้เรื่องเงียบ ไม่มีใครครบ ไปแล้วให้เขาสลดเอาเองดีกว่า (ถ้าเป็นไปได้)
3. เหตุผลเพราะส่วนตัวความขี้โกหกของเขามันไร้สาระน่ะค่ะ ไม่ใช่สิ่งเลวร้ายอะไร แค่มันน่ารำคาญสำหรับคนทั่วไปเท่านั้น เฉยไว้ก็ไม่น่าจะเป็นปัญหาอะไร
4. ข้อนี้แหละค่ะสำคัญ ความ
นั้นส่งผลร้ายถึงคนอื่น ทำให้เพื่อนๆเดือดร้อน ถ้าเป็นเรื่องนี้แนะนำให้แฉกับอาจารย์เลยค่ะ เล่าให้ท่านฟังว่าเพื่อนคนนี้เป็นยังไง พร้อมให้เพื่อนๆคนอื่นในเซคมาสนับสนุนให้เรื่องนี้มีน้ำหนักมากขึ้นสู้ๆนะคะ อย่ายอมให้คนที่แยกโลกความจริงกับโลกในจินตนาการไม่ออกมาส่งผลอะไรกับชีวิตเราได้ ตอนแรกที่เจอเราก็เฮิร์ทค่ะ เพราะเราเป็นคนให้ใจใครก็ใจๆเลย เจอแบบนี้เราลบเฟส ลบมันออกจากชีวิตเลยค่ะ ขณะเดียวกันก็พยายามแสดงออกว่าฉันไม่ได้ยี่หระอะไรกับเรื่องของหล่อนเลยสักนิด ไม่ได้มีค่าพอให้เก็บมาคิดรกสมอง
แสดงความคิดเห็น
มีเพื่อนร่วมห้องเรียนนิสัยขี้โกหก+เห็นแก่ตัวสุดติ่ง จะทำยังไงกันดีคะ?
คือเท่าที่ทราบ พี่พอตเตอร์เป็นคนที่ดังพอสมควรค่ะ ด้วยรูปร่างและหน้าตา รวมไปถึงการศึกษา ทุกอย่างพี่ perfect มากกกก
แต่..
ตัว จขกท. ไม่ได้รู้จักกับพี่เค้าเป็นการส่วนตัวค่ะ แต่ก่อนอื่น จขกท. ขออนุญาตเล่าอะไรซักอย่าง เพื่อบอกเล่าความเป็นไปว่า เกี่ยวข้องกับพี่พอตเตอร์อย่างไร (อ่านจบแล้วอาจจะรู้สึกว่า พี่เค้าไม่ได้เกี่ยวอะไรด้วยเลย แต่มีคนบางคน ลากชื่อของพี่เข้ามาเกี่ยวข้องค่ะ)
จขกท. เรียนอยู่ที่ ม.ราชภัฏแห่งนึง ในสาขาที่เรียนเปิดรับคนค่อนข้างน้อยจึงมีแค่ sec เดียว ไปไหนมาไหนด้วยกันรักกันมาก ทุกคนดีและน่ารัก
แต่ มีอยู่คนหนึ่งที่ไม่เป็นไปในทิศทางนั้นค่ะ เธอเป็นผู้หญิงที่มีลุคแบบเด็กเรียน ไม่สนใจเรื่องแฟชั่นและความงาม สวมแว่นหนาเตอะ ผิวเข้มและผมหยิกหย็อง รูปการณ์โดยทั่วไปเธอไม่ดูไม่มีเสน่ห์เลยแม้แต่น้อย ไม่เตะตา ไม่โดดเด่น แต่เธอก็ตัดสินใจสร้างเรื่องราวเพื่อให้ตัวเองโดดเด่นขึ้นมาได้
เธอบอกว่า เธอเรียนเกี่ยวกับสาขาทางการแพทย์ที่ มข. ควบไปด้วย โดยเธอลงเรียนเสาร์ - อาทิตย์
และที่เด่นโอเว่อร์ยิ่งไปกว่านั้นคือ...
เธอบอกว่าเธอคบอยู่กับพี่พอตเตอร์ นศ แพทย์ มข. ค่ะ
กลุ่มเพื่อนก็วี้ดว้ายกันสิ เฮ้ยเธอ!! เธอเก่งมากเลยนะ เรียนสองทางแบบนี้สุดยอดมาก แล้ว แฟนเธอนี่ระดับพระเอกในนิยายเลยนะ คือแบบว่ากลายเป็นทอล์ค ออฟ เดอะ เซค กันเลยทีเดียว แล้วนางก็สร้างเรื่องราวระหว่างตัวนางเองกับพี่พอตเตอร์มาเล่าให้เพื่อนๆฟังมากมาย จนเพื่อนๆเชื่อและคล้อยตาม
แต่ ในใจหลายๆคนคิดคล้ายๆกัน คนหล่อแถมโปรไฟล์ดีขนาดนั้น ทำไมมาคบกับนางได้?? (อันนี้อย่าพึ่งมองว่า จขกท. มองคนแค่ภายนอกนะคะ เพราะ จขกท. ก็เคยรักนางและคบกับนางด้วยมิตรภาพที่ดีมาตลอดจนกระทั่งรู้ความจริง) แต่ก็เอาเถอะ คนเรารักกันเค้าต้องรักกันที่ใจ ไม่ใช่หน้าตา เชื่อก็ได้
นางสวมสร้อยข้อมือเส้นนึงประจำค่ะ สีพาสเทล แบบที่เคยฮิตกันมากๆ ที่สร้อยมีตัวอักษรห้อยเรียงกัน เป็นชื่อเล่นของนาง และ P O T T E R
เท่านั้นยังไม่พอค่ะ นางบอกว่า อย่าวี้ดว้ายกันไป เพราะที่นางเป็นอยู่ตอนนี้ก็เป็นได้แค่ "แฟนแอบๆ" ด้วยความที่ว่า พี่เค้าหน้าตาดี และโปรไฟล์ดี แฟนคลับเยอะ ส่วนตัวนางซึ่งเป็นแค่ลูกเป็ดขี้เหร่ จึงทำอะไรไม่ได้ นอกจากยอมให้พี่พอตคบกับพี่อุ้ม (แฟนตัวจริงพี่พอตเตอร์) เพื่อบังหน้า
ตอนนั้นในใจเราเริ่มคิด ฟุดฟิดๆ Gu เริ่มได้กลิ่นนิยายรักวัยรุ่นที่มีชื่อสำนักพิมพ์อันแสนสดใสละ... แต่ คงไม่ใช่หรอก เด็กเรียนแบบนั้นจะโกหกทำไม
หลังจากนั้น ก็เริ่มมีอวตารใน facebook มาโพสท์,คอมเม้นท์,พูดคุยเกี่ยวกับเนื้อหาวิชาทางการแพทย์ใน facebook ส่วนตัวของนาง
และ อวตารหลักๆ ก็คือ อวตารพี่พอตเตอร์ และเพื่อนๆในก๊วนค่ะ
Doctor Doc Rafael (อวตารพี่พอตเตอร์)
Doctor Doc Pedro (อวตารพี่โจ)
Rapeepat Nes (อวตารพี่เนส)
Nok Ratchanok (อวตารเพื่อนสาว ชื่อนก)
โดยทั้งหมดคือสังคมสมมติฟาก มข. ของนาง ที่มาปรากฏตัวในโพสท์ต่างๆ บน facebook ส่วนตัวของนางอยู่เนืองๆ และเรียกนางว่า ยัยโก๊ะ
พูดคุยหยอกล้อกันบ้าง แซวกันบ้าง คุยกันเรื่องเนื้อหาวิชาเรียนของคณะแพทย์ฯ บ้าง อวยนางบ้างว่าเรียนเก่ง ทั้งๆที่เรียนไปได้แค่ไม่เท่าไหร่ (เหวอ)
เป็นแค่บัตรผ่านไม่มีสิทธิ์ลงรูปสินะ.. ถ้ามีภาพประกอบด้วยคงดี 555+
จากนั้น อวตารเหล่านี้ก็เริ่มคืบคลานเข้ามายังกลุ่มเพื่อนๆ จขกท. ทางนี้ มีคอมเม้นท์หยอกล้อกับเพื่อนๆมากมาย
หลายต่อหลายครั้งที่นางบอกเล่า และอีกหลายครั้งที่อวตารเหล่านั้นเคยโพสท์เรียกเหยื่อ ประมาณว่า เอ๊...วันนี้ว่างๆ ไปหายัยโก๊ะสักหน่อยน่าจะดี
อ้าว แบบนี้ก็มีวี้ดว้ายสิคะ คนดังระดับนั้น จะมาปรากฏโฉมให้พวกเราได้เห็นตัวจริงกันจะๆ ดังนั้น มีหรือที่เพื่อนๆจะไม่ตื่นเต้น ทุกคนตื่นเต้นมากค่ะที่จะได้เจอ แต่นาง มีข้ออ้างเสมอ พี่พอตติดธุระบ้าง พี่พอตยังงู้นยังงี้ เลยมาเจอพวกแกไม่ได้แล้ว อ้าวเงิบสิคะ แต่ก็ไม่เป็นไร เข้าใจว่าพี่เค้าคงยุ่ง
facebook ส่วนตัวของนางยังคงมีโพสท์สวีทวี้ดวิ่วกับ "พี่พอตเตอร์" อยู่เป็นประจำ โดยเฉพาะช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์
เป็นต้นว่า ออกไปกินข้าวด้วยกันบ้าง ไปร้านกาแฟนั่งดื่มกาแฟด้วยกันบ้าง ทำขนม ทำเครปชาเขียวด้วยกันที่บ้านบ้าง
บางครั้งก็หนักถึงขนาดที่ว่า นางโพสท์ภาพมือสองมือที่กุมกันอยู่บนโต๊ะ และสวมแหวนแบบเดียวกัน นางโพสท์ประมาณว่า สองมือนั้นคือมือนาง และ "พี่พอตเตอร์" แต่เพื่อนๆกลับไปเจอภาพนั้นในเว็บอากู๋
แต่ที่หนักที่สุด เห็นจะเป็นตอนที่นางไปฉกรูปที่พี่พอตเตอร์ถ่ายคู่กับพี่อุ้ม แล้วเอามาตัดต่อใส่หน้าตัวเองลงไปแทนที่ใบหน้าพี่อุ้มค่ะ
แถมสร้างกระแสด้วยการปั้นเรื่องประมาณว่า อวตารพี่โจ รักชอบที่จะพูดคุยกับนาง จนอวตารพี่พอตเตอร์ โพสท์พร้อมกับ tag facebook ส่วนตัวของนางและอวตารพี่โจ ว่า
"เพราะคำว่าไว้ใจ ตัวฉันเลยไม่ทันคิด
ว่าเพื่อนสนิทจะคิดทำร้าย
ไม่เคยนึกฝันว่าจะมีวันนี้ ทั้งเขาและเธอ
แอบมีใจให้กัน คนหนึ่งคือคนรัก
และอีกคนคือเพื่อนที่คบมานาน
บอกกันมาสักคำ ว่ามันแปลว่าอะไร"
และยังมีอีกมากมาย ที่ จขกท. ขี้เกียจกล่าวถึง
หลายคน (รวม จขกท. ด้วย) เริ่มทนไม่ไหว โพสท์จิกกัดบ้างแต่ไม่ระบุชื่อว่าด่านาง บางคนก็รับไม่ได้ ตัดเพื่อนกับนางไปเลยก็มีค่ะ
นอกจากการโกหกเรื่องแฟนแสนเพอร์เฟ็กต์แล้ว นางยังมีพฤติกรรมที่เห็นแก่ตัวอย่างร้ายกาจ งานกลุ่มนางไม่ค่อยทำค่ะ จะโผล่หน้ามาแบ่งงานให้เพื่อนๆ ส่วนตัวเอง พูดว่า
"เธอเอาอันนี้ไปทำให้หมดเลยนะ ฉันทำไม่เป็น ฉันไม่ว่าง"
แต่เมื่อถึงเวลา present งาน นางก็ไม่พลาดค่ะ... ไม่พลาดที่จะ present หน้า
เท่านั้นยังไม่พอค่ะ
มีอยู่ 1 วิชา ที่หนักกว่าชาวบ้าน สอนโดย อ.พิเศษ ที่เก่งและน่ารักมากๆ เป็นอาจารย์ที่จบมาจากจุฬาฯ นางทักแชทไปคุยกับอาจารย์ เกี่ยวกับเนื้อหารายวิชาที่สอน แนวข้อสอบ และวิธีการสอน กับอาจารย์ใน facebook ส่วนตัว โดยการทำตัวเป็น "ลูกขุน"
ค่ะ นางเป็นคนเลือกเนื้อหาการเรียนการสอน เลือกวิธีการสอน และเลือกแม้กระทั่งแนวข้อสอบ "ในนามของตัวแทนเพื่อนทั้งห้อง"
และอาจารย์ก็ตกลงกันกับนางค่ะ นางก็ทำตัวเป็นลูกขุนที่แสนดีเหลือเกินค่ะ ไม่บอกเพื่อนเลยแม้แต่แนวข้อสอบ แถมอาสาติวให้เพื่อนชนิดมั่วแหลกแหกสะบั้น จนเพื่อนมองกันตาปริบๆ เห็นแก่ตัวและหวงวิชามาก เวลาเพื่อนออกไปพูดหน้าชั้นเรียน นางก็เบะปากเหยียดๆใส่พร้อมกับมองด้วยหางตา แล้วก็ปั้นหน้าปกติพูดคุยกับเพื่อน ถามว่านางเรียนเก่งมั้ย? นางเก่งในระดับนึงค่ะ แต่ยังไม่ใช่คนที่เก่งที่สุด ที่สำคัญคือนางมั่นใจในตัวเองมากว่านางเก่ง
โกหกพกลมมาก็มาก เห็นแก่ตัวมาก็มาก จนเพื่อนไม่ไหว ตีตัวออกห่าง และเริ่มมีปากเสียงกับนาง เพื่อนคนนึงบอกนางไปตามตรง ว่า Gu ไม่เชื่อ mung ละ mung โกหกเรื่องพี่พอตเตอร์
นางคงตั้งใจจะจบนิยายรักของนาง เพื่อสยบข่าวลือค่ะ
ล่าสุด วันนี้เองค่ะ วันที่นางดราม่าใน facebook ส่วนตัว ทำนองว่า พี่พอตเตอร์หลอกนาง
"ไม่น่าเชื่อว่าวันที่ฉันรู้ความจริงทุกอย่าง....มันจะกลายเป็นวันที่ฉันสูญเสียทุกอย่างไปแล้วเช่นกัน
ตลกดีเนอะ...พ่อกับแม่สอนเสมอว่า 'ถ้าเราให้ความเชื่อใจใคร และให้ความจริงใจกับใครไป เขาก็จะเชื่อใจและจริงใจตอบเราเช่นกัน' ในสายตาเธอ...ฉันคงดูเป็นคนโง่ งมงาย มากเลยสิ #ไม่อยากจะเชื่อว่าคนสุดท้ายที่เทอจะทำลายมันจะกลายเป็น ฉัน!!!!! #ขอให้มีความสุขกับสิ่งที่เทอทำ สุดท้ายนี้.... #จะไปตายที่ไหนก็ไปปปปป!!!!!!!"
ตามด้วยอีกหนึ่งสเตตัส
"เห้ยแกกกก...ได้ข่าวว่า #ถูกถีบหัวส่งหรอ ก็อย่างนี้ล่ะนะคบกับคนหน้าตาดี โดยที่ไม่ดูตัวเอง เอาเถอะๆ ก็ขอให้เจอคนใหม่ที่คู่ควรโดยเร็วนะ"
ฉันไม่เคยนึกเลยนะว่าเพิ่ลมนุษย์ด้วยกันจะพูดกันได้ถึงขนาดนี้ #ทุกคนที่อ่านว่าแรงเกินไปมั้ยคะ? สำหรับฉันแล้ว... #มันยังไม่ได้ครึ่งนึงของผู้ชายคนนึงที่ทำไว้กับฉันเลย"
จากนั้นนางได้ทักแชท และโทรไปหาเพื่อนๆหลายคน ขอความเห็นใจในทำนองว่า เธอถูกผู้ชายที่ชื่อพอตเตอร์ หลอก และทอดทิ้งกันไปโดยไม่ไยดี
นางโทรหาเพื่อนคนหนึ่ง แล้วน่าจะคุยจนเงินหมด จากนั้นนางก็ทักแชทไปหาคนที่สอง ที่สาม และบอกให้โทรกลับหานางที่เบอร์ 09XXXXXXXX เพราะนางเงินหมด นางจะเล่ารายละเอียดให้ฟัง แต่ไม่มีใครโทรไปค่ะ นางจึงบอกว่า "งั้นไว้วันจันทร์ก่อน เจอกันที่มหา'ลัย ฉันจะเล่าให้พวกเธอฟัง" นางบอกประมาณว่านางต้องการให้พี่พอตเตอร์ช่วยมายืนยันกับเพื่อนๆที ว่าเรื่องราวระหว่างนางและพี่พอตเตอร์นั้นเป็นความจริง วันนี้นางไปเรียนที่ มข. แล้วเจอพี่พอตเตอร์ เลยเดินเข้าไปคุย แต่... พี่เค้าบอกกับนางว่า ต่อไปนี้เราเลิกยุ่งเกี่ยวกันเหอะ
นางทักแชทมาแบบฟูมฟาย Gu ผิดหรอที่อยากมีรักดีๆแบบในนิยาย อยากเจอเจ้าชายในชีวิตจริง แต่สุดท้ายมันก็คือตัวร้ายในคราบเจ้าชาย มันทำแบบนี้กับ Gu ทำไม ไอผู้ชายที่มันทำให้เพื่อนๆเข้าใจผิดว่าฉันเป็นคนโกหกหน้าตาย ไม่จริงใจ หลอกลวง
เพื่อนๆหลายคนหนักใจค่ะ โกหกกันมาตลอด พอเพื่อนจับได้
ที่จริงก็ไม่ผิดนะที่อยากมีรักแบบนั้น แต่ที่นางทำอยู่ล่ะ??
คือทุกคนสงสัยและคาใจมากว่าเรื่องราวระหว่างนาง และพี่พอตเตอร์ เป็นความจริงมั้ย?
คำถามที่ จขกท. อยากถาม
1. คิดว่าเพื่อนคนนี้ "เป็น" โรคจิตประสาท หรืออะไรซักอย่างทำนองนี้มั้ยคะ?
2. ควรบอกความจริงกับนางทุกเรื่องที่เรารู้ แล้วให้ดูหลักฐานที่เรามีมั้ยคะ?
3. ถ้าไม่ควรบอกไปตรงๆ คิดว่ามีเหตุผลอื่นอีกมั้ยคะที่เราควรทำเป็นไม่รู้เรื่องต่อไป
4. การทำตัวเป็นลูกขุนของนางมีผลต่อการเรียนของทุกๆคนมาก ไม่มีใครเรียนรู้เรื่องอีกเลยหลังจากที่อาจารย์แย้มว่า มีลูกขุนคอยปรับปรุงการเรียนการสอนให้
สุดท้ายขอขอบพระคุณที่อ่านมาจนจบค่ะ ไม่รู้จะแท็กห้องไหน พอดีเป็นกระทู้แรก