ในฐานะที่ดิฉันเคยเป็นเด็กมีปัญหาและเคยถูกเชิญผู้ปกครองเมื่อราวๆ 7-8ปีที่แล้ว
คุณเชื่อว่าการเชิญผู้ปกครองเป็นการแก้ไขปัญหาของเด็กนักเรียนได้อย่างยั่งยืนจริงๆหรือ?
หรือเป็นการโยนปัญหาให้ผู้ปกครอง?ในขณะที่ปัจจุบัน ครอบครัวเป็นครอบครัวแบบnuclear ค่อนข้างมาก
ครอบครัวเรา เป็ครอบครัวเดี่ยว ทุกคนทำงาน เราเป็นลูกคนโต
ถูกเชิญผู้ปกครองประปราย แต่ผู้ปกครองมาไม่ได้ เลยมีเพียงการโทรพูดคุย
เมิ่อเรากลับถึงบ้าน ไม่ต้องทำโทษด้วยไม้เรียว แค่คำพูดก็ทำให้เราเจ็บได้แล้ว
ปัญหาของเราไม่ใช่เรื่องร้ายแรง แต่เรางงว่าทำไมครูต้องทำให้เป็นเรื่องใหญ่?
จากเด็กไม่เกเร กลายเป็นเกเรจริง แม้เราจะติดเกมส์ มีคุยๆกับหนุ่มๆบ้าง
แต่เราไม่เคยโดดเรียนนะ ไม่เคยทะเลาะวิวาทด้วย
ติดเกมส์จนถึงจุดอิ่มตัวแล้วเราก็เลิกไปตอนจะขึ้น ม.4
เราโชคดีที่ได้โรงเรียนเล็กแต่ดีตอนช่วง ม.ปลาย ถึงมายืนตรงจุดนี้ได้
เราโดนเชิญผู้ปกครองเหมือนเดิม แต่เชิญในฐานะคณะกรรมการโรงเรียน
อย่าทำให้เด็กมีปัญหาไม่มาก กลายเป็นเด็กมีปัญหามาก
จิตวิทยาเด็ก เชื่อว่าคงเคยเรียนมา น่าจะหาวิธีการแก้ปัญหาที่ดีกว่านี้ได้
ความจริงที่ต้องยอมรับคือ ผู้ปกครองไม่ใช่คนว่างงาน พวกเขามีงานต้องทำเหมือนคุณ
งานของคุณคืองานสอน ไม่ใช่สอนแค่วิชาการ แต่มันรวมไปถึงจริยธรรมด้วย
พ่อแม่เด็กหลายคนไม่ได้เรียนจิตวิทยา ไม่มีความรู้ด้านจิตวิทยาใดๆ อาจหาวิธีที่สอนแล้วเด็กๆไม่เข้าใจในสิ่งที่สื่อ
เสียดายที่ไม่ได้เรียนครู เลยไม่รู้จะปฏิรูปการศึกษาได้ยังไง
#วิชาชีพครูไม่ใช่วิชาชีพธรรมดา
#งานสอนต้องเตรียมผลงานต้องทำ
#ความรับผิดชอบต้องสูง
คุณเชื่อว่า การเชิญผู้ปกครองของนักเรียนที่มีปัญหาในสภาพวงจรครอบครัวเช่นนี้คือการแก้ไขปัญหาอย่างยั่งยืนจริงๆหรอ
คุณเชื่อว่าการเชิญผู้ปกครองเป็นการแก้ไขปัญหาของเด็กนักเรียนได้อย่างยั่งยืนจริงๆหรือ?
หรือเป็นการโยนปัญหาให้ผู้ปกครอง?ในขณะที่ปัจจุบัน ครอบครัวเป็นครอบครัวแบบnuclear ค่อนข้างมาก
ครอบครัวเรา เป็ครอบครัวเดี่ยว ทุกคนทำงาน เราเป็นลูกคนโต
ถูกเชิญผู้ปกครองประปราย แต่ผู้ปกครองมาไม่ได้ เลยมีเพียงการโทรพูดคุย
เมิ่อเรากลับถึงบ้าน ไม่ต้องทำโทษด้วยไม้เรียว แค่คำพูดก็ทำให้เราเจ็บได้แล้ว
ปัญหาของเราไม่ใช่เรื่องร้ายแรง แต่เรางงว่าทำไมครูต้องทำให้เป็นเรื่องใหญ่?
จากเด็กไม่เกเร กลายเป็นเกเรจริง แม้เราจะติดเกมส์ มีคุยๆกับหนุ่มๆบ้าง
แต่เราไม่เคยโดดเรียนนะ ไม่เคยทะเลาะวิวาทด้วย
ติดเกมส์จนถึงจุดอิ่มตัวแล้วเราก็เลิกไปตอนจะขึ้น ม.4
เราโชคดีที่ได้โรงเรียนเล็กแต่ดีตอนช่วง ม.ปลาย ถึงมายืนตรงจุดนี้ได้
เราโดนเชิญผู้ปกครองเหมือนเดิม แต่เชิญในฐานะคณะกรรมการโรงเรียน
อย่าทำให้เด็กมีปัญหาไม่มาก กลายเป็นเด็กมีปัญหามาก
จิตวิทยาเด็ก เชื่อว่าคงเคยเรียนมา น่าจะหาวิธีการแก้ปัญหาที่ดีกว่านี้ได้
ความจริงที่ต้องยอมรับคือ ผู้ปกครองไม่ใช่คนว่างงาน พวกเขามีงานต้องทำเหมือนคุณ
งานของคุณคืองานสอน ไม่ใช่สอนแค่วิชาการ แต่มันรวมไปถึงจริยธรรมด้วย
พ่อแม่เด็กหลายคนไม่ได้เรียนจิตวิทยา ไม่มีความรู้ด้านจิตวิทยาใดๆ อาจหาวิธีที่สอนแล้วเด็กๆไม่เข้าใจในสิ่งที่สื่อ
เสียดายที่ไม่ได้เรียนครู เลยไม่รู้จะปฏิรูปการศึกษาได้ยังไง
#วิชาชีพครูไม่ใช่วิชาชีพธรรมดา
#งานสอนต้องเตรียมผลงานต้องทำ
#ความรับผิดชอบต้องสูง