นายนริศ ชัยสูตร อธิบดีกรมธนารักษ์ เปิดเผยว่า ตั้งคณะกรรมการสอบสวนกรณีเหรียญ 10 บาท ที่ผลิตใน ปี 2533 ที่หายไปจากคลังเหรียญ 18 เหรียญว่าหายไปได้อย่างไร และไปอยู่ในมือนักสะสมได้อย่างไร เพราะเหรียญดังกล่าวผลิตออกมาเพียง 100 เหรียญ และนำไปแจกจ่ายเป็นที่ระลึกต่างประเทศไป 20 เหรียญ และขณะนี้อยู่ในคลังเหรียญของกรม 62 เหรียญ

ดังนั้น ต้องไปดูว่าเหรียญที่หายไป 18 เหรียญนั้นเป็นการหายไปอย่างไร หรือกรมมอบให้ใครไปบ้าง เพราะเหรียญดังกล่าวถือเป็นทรัพย์สินของรัฐ ดังนั้นหากไม่ได้มีการแจกในไทย เหรียญไม่ควรหลุดออกไป

“ทรัพย์สินของรัฐนั้นเป็นของที่ตกน้ำไม่ไหลตกไม่ไหม้ดังนั้นควรต้องมีการตรวจสอบว่าเหรียญดังกล่าวหลุดออกไปได้อย่างไรโดยให้เวลาสอบสวนภายใน60 วันตั้งแต่ต้นเดือนกันยายน คาดว่าไม่เกินเดือนพฤศจิกายน น่าจะทราบอย่างชัดเจน”นายนริศ กล่าว

รายงานข่าวจากกรมธนารักษ์ กล่าวว่า ทีมสอบสวนคงต้องย้อนไปดูเอกสารตั้งแต่ปี 2533 เป็นปีที่ผลิตเหรียญว่ามีการแจกจ่ายเหรียญดังกล่าวไปอย่างไรบ้าง และแจกให้ผู้มีอุปการคุณในไทยหรือไม่ พร้อมทั้งต้องย้อนกลับไปดูว่าข้าราชการที่ดูแลเหรียญในสมัยนั้นเป็นใคร เพื่อไปสอบถามถึงข้อเท็จจริง เพราะเหรียญดังกล่าวผลิตมานานถึง 24 ปี เอกสารบางส่วนถูกทำลายไปแล้ว ก็ไม่แน่ใจว่าระยะเวลาที่นายนริศให้สอบ 60 วันนั้นจะสามารถทำได้หรือไม่ ถ้าทำไม่ทันต้องขอต่ออายุการสอบสวนออกไปอีก

ทั้งนี้ เมื่อช่วงเดือนสิงหาคมมีข่าวร้านขายเหรียญสะสม จ.ระยองประกาศซื้อเหรียญ 10 บาทในปี 2533 ในราคาถึงเหรียญละ 1 แสนล้านบาท สร้างความฮือฮาให้กับคนไทยในช่วงนั้นมาก ซึ่งกรมได้มาตรวจสอบการผลิตเหรียญ 10 ในปี 2533 พบว่าหายไป 18 เหรียญ


ข่าวจาก  :  มติชนออนไลน์
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1412828232