ดิฉันแค่อยากมาแชร์เรื่องราวภายในครอบครัวค่ะ เรื่องมีอยู่ครอบครัวของดิฉันมีทั้งหมดสี่คนค่ะ แต่ทั้งสี่ชีวิตเหมือนเจอเวรกรรมที่ครอบครัวของดิฉันมาเจอค่ะพบแต่เรื่องแย่ๆค่ะ เริ่มต้นที่พ่อของดิฉัน เป็นสะเก็ดเงินหรือโรคผิวหนังเรื้อรังค่ะ เป็นมานานเกือบ 20 ปี โรคนี้รักษาไม่หายพ่อของดิฉันต้องทุกข์ทรมานกับอาการของโรคนี้มากค่ะ ถ้าโรคนี้กำเริบไปเจอคนข้างนอกทำสายตารังเกียจ พ่อต้องใส่เสื้อมิดชิดตลอดเวลาค่ะ พ่อของดิฉันทำงานรับจ้างส่งของทำให้ไม่ค่อยเจอผู้คนมากเท่าไหร่ค่ะ ต่อมาน้องสาวของดิฉัน น้องสาวของดิฉันก่อนหน้านี้เป็นเด็กที่แข็งแรงค่ะอาการแรกของน้องคือเป็นแค่โรคไมเกรนค่ะ พอเป็นมาสักพักก็มาเป็นโรคแพลนนิก โรคซึมเศร้า อาการของโรคนี้ต้องมีใครเข้าใจน้องอย่าให้น้องคิดมาก ต้องกินยาตลอดค่ะ ถ้าอาการกำเริบน่ากลัวทีเดียวเลยค่ะ น้องกำลังจะเรียนจบต้องต่อสู้กับโรคนี้อย่างมากเลยค่ะ ต่อมาเรื่องของแม่ของดิฉันค่ะ เป็นเรื่องที่ช๊อกสำหรับครอบครัวของดิฉันเลยค่ะ แม่ของดิฉันมีก้อนเนื้อบริเวณแถวกระเพาะค่ะ เลยไปตรวจโรงพยาบาลรัฐบาลแห่งหนึ่ง ไปรอแต่เช้ามากค่ะ พยาบาลทำบัตรคิวหายค่ะกว่าจะได้ตรวจ พอได้ตรวจ หมอก็บอกแค่ว่ากระดูกอ่อนมันโผล่ให้งดยกของหนัก แทบไม่ได้ตรวจอะไรเลยรู้ได้ไงเนี่ยเทพมากค่ะ รอตั่งแต่เช้าเจอแบบนี้เซงค่ะ เลยไปโรงพยาบาลแถวบ้านค่ะ แต่ผลกว่าจะได้ตรวจละเอียดคือรอนานไปหน่อยค่ะ เลยไปตรวจโรงพยาบาลที่มีพี่ที่รู้จักเป็นพยาบาลอยู่ที่นั้นค่ะ พอได้ตรวจหมอสันนิฐานอาจเส้นเลือดใหญ่บริเวณหัวใจมันพองถ้ามันใหญ่อาจเสียชีวิตได้ แต่กว่าจะได้ตรวจรอนานอีกเช่นเดิมเลยตัดสินใจไปตรวจโรงพยาบาลเอกชนค่อยเอาผลไปให้โรงพยาบาลรัฐบาลดูค่ะ ตรวจวันนั้นแพงสำหรับพวกเราเลยค่ะ ได้ผลวันนั้นเลยแต่เสียเป็นหมื่นเลยค่ะ หมอบอกผลว่ามีเนื้องอกในกระเพาะอาหารใหญ่เอาการ ประมาณ15 เซนเลยค่ะ ดิฉันจึงนำผลกับไปให้โรงพยาบาลอีกทีค่ะ หมอบอกอาการหนักเอาการ อาจเป็นมะเร็งอาจต้องผ่าตัดทั้งกระเพาะเลยค่ะ ตอนนี้แค่สันนิฐานค่ะ ต้องทำเรื่องบัตรทองก่อนค่ะ ถึงจะส่องกล้องเพื่อไปตัดชิ้นเนื้อไปตรวจค่ะ ขออย่าให้เป็นเรื่องไม่ดีเลยค่ะ แต่ทำใจไว้แล้วค่ะ เพราะหมอบอกเป็นหนักอยู่ค่ะ แถมค่ารักษามันแพงมาก ครอบครัวของดิฉันคงมีไม่มากขนาดนั้นค่ะคงต้องยืมคนอื่นเขามาค่ะ แม่ของดิฉันเป็นแม่บ้านหรือคนใช้นั้นเองค่ะ แม่ทำงานหนักมาก แม่เป็นขยันมากค่ะ.ทำงานจนไม่มีเวลาพักเลย แต่ตัวดิฉันก็อาศัยกับเจ้านายแม่ค่ะ แม่ของดิฉันมาทำแล้วนอนอีกที่ค่ะ แต่ตัวดิฉันเหมือนต้องช่วยดูแลบ้านเจ้านายแม่ค่อยจัดโต๊ะอาหารรอเปิดประตูหน้าบ้าน ล้างจานบ้าง มันทำให้ตัวดิฉันไม่ต่างคนใช้เขาเลยค่ะอึดอัดมากมันไม่ใช่บ้านของตัวเองค่ะ ดิฉันอดทนอยู่ที่นี้มานานมากค่ะ ดิฉันอยากไปอยู่กับครอบครัวมากค่ะ พ่อแม่ชอบพูดให้อดทนให้เรามีบ้านค่อยไปอยู่ด้วยกัน บางทีเครียดร้องไห้บ้าง ทำไมเราต้องมาเจอแบบนี้ด้วยนะค่ะ คิดว่าเรียนจบเราจะได้มีชีวิตที่ดีกว่าแต่ชีวิตก็ยังเหมือนเดิมค่ะ แต่เจ้านายแม่เขาก็ช่วยครอบครัวของดิฉันดีนะค่ะ แต่ให้คิดว่าเขาเป็นใครแล้วเราเป็นใคร เขาคงไม่ได้เอาเรามาเป็นญาติเขาหรอกค่ะ เป็นได้แค่คนใช้เขาค่ะเพิ่งเรียนจบไม่ถึงปีค่ะ ทำงานที่แรกได้เงินเดือนประมาณ6000กว่าบาท จบปริญญาตรีนะค่ะ เป็นแค่ลูกจ้างรายวันค่ะ ทุกวันนี้ต้องอดทนเพื่อสักวันจะได้เป็นพนักงานประจำจะได้เงินเดือนเป็นหมื่นกับคนอื่นเขาบ้างค่ะ ความฝันที่อยากต่อโทกับทำงานที่ต่างประเทศคงอีกไกลค่ะ ทุกวันนี้ตัวของดิฉันยังไม่เห็นแสงสว่างในชีวิตเลยค่ะ ลูกคนนี้ยังไม่สามารถเลี้ยงพ่อแม่ได้ดีเลยค่ะ แต่ลูกคนนี้ต้องดิ้นรนเพื่อให้ครอบครัวของดิฉันมีความสุขให้ได้แม่ของดิฉันต้องหายจากโรคร้ายนี้ด้วยค่ะ ดิฉันสงสารแม่มากแม่ทำเข้มแข็งแต่ข้างในแม่อ่อนแอมากเลยค่ะ แม่ชอบพูดแล้วตัวดิฉันฟังแล้วรู้สึกไม่ดีเลยค่ะ รู้ว่าแม่เครียดมาก ทุกวันนี้ดิฉันต้องไม่อ่อนแอให้แม่เห็นค่ะ ถึงแม้ใจของดิฉันมันเหนื่อยมันท้อมากแค่ไหนก็เถอะค่ะ ดิฉันเชื่อคนเราต้องพบเจอเรื่องดีๆบ้างแค่วันนี้มันไม่ใช่วันของเราค่ะ ดิฉันขอบคุณทุกท่านเข้ามาอ่านเข้ามาให้กำลังใจให้กับครอบครัวของดิฉันค่ะ ถึงแม้ไม่มีใครอ่านอย่างน้อยดิฉันได้ระบายความในใจว่าครอบครัวดิฉันเจอเรื่องราวแย่ๆสารพัดค่ะ ถ้าคำบางอาจเขียนผิดหรือเขียนตกต้องขออภัยด้วยนะค่ะ และขอบคุณที่เข้ามาอ่านเรื่องราวชีวิตของดิฉัน ขอบคุณค่ะ
ชีวิตที่ต้องสู้ถึงแม้เบื้องหลังอาจจะเหนื่อย