คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 9
ระบบของญี่ปุ่น เค้าเชื่อมระหว่างตัววัดแรงแผ่นดินไหวหรือศูนย์ข้อมูลภัยพิบัติ แล้วส่งข้อมูลตรงเข้าสถานีท้องถิ่นและเครือข่ายโทรศัพท์ในบริเวณที่คาดว่าจะเกิดภัยทันที (ทั้งประเทศ ระบบจะเชื่อมถึงกันหมด)
ที่นู่นมีข้อกำหนดไว้ว่ามือถือทุกรุ่นทุกค่าย (ตั้งแต่ปี 2006-2007 ขึ้นไป) ต้องมีระบบเมล์เตือนภัยพิบัติจากผู้ให้บริการ ซึ่งจะส่งอีเมลไปให้ทุกๆคนในบริเวณ Cell Site ที่อยู่ในพื้นที่ๆคาดว่าเกิดภัยพิบัติ (แม้เครื่องปิดเสียงอยู่ แต่อีเมลนี้ เป็นระบบพิเศษ มือถือจะร้องเสียงดังมากเมื่ออีเมลนี้มา ดังสุดที่เครื่องจะทำได้ // ญี่ปุ่นใช้อีเมลมากกว่า SMS, MMS หรือกดโทรคุยกันซักอีก)
ส่วนทางทีวี ระบบเตือนภัยจะเชื่อมกับระบบออกอากาศเข้าไปที่สถานีทันที โดยถ้าคาดว่าจะเกิดภัย แม้ไม่แรงมาก (แต่รู้สึกได้) ก็จะเตือน โดยแยกความแรงตามเสียงสั่นไหวเล็กน้อย
- มีเสียงกุ้งกิ้ง = สั่นไหวเล็กน้อย แค่พอรู้สึก ไม่มีผลกระทบ แจ้งเฉยๆ
- มีเสียงกุ้งกิ้ง + เสียงอ่าน หรือ แจ้งพื้นที่ข้างจอแบบไม่มีเสียงอ่าน = แรงขึ้นมาอีกหน่อย รู้สึกได้เริ่มชัด อาจมีผลกระทบหรือไม่ก็ได้
- มีเสียงตื้ดๆ รัวๆ + เสียงอ่าน + แจ้งพื้นที่ๆคาดว่าได้รับผลกระทบ = แรงแน่นอน รู้สึกได้ อาจมีผลตามมาแน่ๆ และจะมีการตัดเข้าสตูดิโอข่าวทันที
ส่วนวิทยุก็คล้ายๆกัน เสียงจะส่งตรงจาก NHK ตัดเข้ามาทันทีพร้อมทีวี (ถ้าเราอยู่ในพื้นที่ๆไม่ได้รับผลกระทบ มือถือก็ไม่ร้อง แต่เราอาจเห็นหรือได้ยินการแจ้งเตือนได้จากทีวีและวิทยุ)
การตัดเข้าสตูดิโอข่าว จะเข้าของสถานีก่อน (ถ้า ณ ขณะนั้นเป็นรายการสด พิธีกรจะอ่านให้ทันที ไม่ว่าตอนนั้นจะฉายอะไรอยู่ก็ตาม) แต่ถ้าหนักแล้วสถานีจะใช้การรายงานข้อมูลกลาง จะตัดเข้าที่ NHK เพราะรายงานเหตุเร็วที่สุด และข้อมูลเยอะที่สุด ทั้งการคาดการณ์เวลาที่สึนามิจะมาถึง พร้อมความสูงของคลื่น, การแจ้งพื้นที่ประสบภัย, การถ่ายทอดสดผลกระทบในพื้นที่ๆต่าง และการรายงานเหตุถึง 5ภาษา (ถ้าเปิดที่ช่อง NHK G จะมีเสียงให้ถึง 5ภาษา คือ ญี่ปุ่น, อังกฤษ, จีน, เกาหลี และโปรตุเกส พร้อมคำบรรยายสดภาษาญี่ปุ่น)
เรื่องการรายงานเร็วช้า ช่อง TVTokyo เคยโดนล้อเลียนว่าเตือนภัยช้าเกินไป ในช่วงที่เกิดแผ่นดินไหวและสึนามิครั้งใหญ่ปี 2011 (ช้ากว่าช่องอื่นเกือบ 10นาที)
ส่วนระบบขนส่งอื่นๆก็มีระบบเตือนภัย โดยเฉพาะรถไฟ ถ้ามีเหตุแจ้งเตือนและรู้สึกได้ถึงแรงแผ่นดินไหว รถไฟจะหยุดเองทันที (โดยเฉพาะรถไฟชิงกันเซ็น) หรือถ้ารถไฟวิ่ง ก็อาจใช้ความเร็วไม่สูงในช่วงนี้เหตุยังไม่สงบ
---------
สำหรับเมืองไทย ถ้าอยากเร็วและด่วนแบบญี่ปุ่น ต้องทำระบบเตือนภัยเชื่อมสัญญาณกับระบบออกอากาศโดยตรง ก็จะแจ้งเตือนเร็ว
ปัจจุบันพอเตือนภัย ทางสถานีจะต้องหาข้อมูลหาข่าวก่อนถึงจะรายงานได้ เพื่อป้องกันความผิดพลาดและข้อมูลไม่ตรงความจริง
มันต้องมีความพร้อมครับ บ้านเราไม่ค่อยเกิด หรือถ้าเกิดก็ไม่ค่อยหนัก แต่พอหนักทีก็เตรียมไม่ค่อยทันเลย เพราะไม่ได้พร้อมว่ามันจะเกิด
ที่ญี่ปุ่นบทเรียนเยอะครับ ระบบเตือนภัยจึงสำคัญมาก ต้องมีคนคอยสังเกตตลอดเวลา พัฒนาระบบจนเป็นที่ 1 ในโลกแล้วเรื่องการเตือนภัยพิบัติให้ประชาชนรู้ ทางฟิลิปปินส์เริ่มนำระบบญี่ปุ่นไปใช้งานแล้ว แต่เหมือนไม่ค่อยได้ผลเท่าไร น่าจะเพราะโครงข่ายเชื่อมไม่สมบูรณ์เท่าไรนัก
ถ้าสถานี หรือ Mux และหน่วยงานที่เกี่ยวกับเรื่องการแจ้งเตือนภัยพิบัติ ทำระบบร่วมกัน เชื่อมข้อมูลกัน ก็จะเป็นประโยชน์ แจ้งเตือนได้รวดเร็ว แม้จะไม่เลิศเท่าญี่ปุ่น แต่เตือนภัยเร็วขึ้นและแม่นขึ้น ก็ถือว่าดีกว่ารายงานช้า จนกว่าจะรู้ก็เกิดการสูญเสียมากแล้ว
ที่นู่นมีข้อกำหนดไว้ว่ามือถือทุกรุ่นทุกค่าย (ตั้งแต่ปี 2006-2007 ขึ้นไป) ต้องมีระบบเมล์เตือนภัยพิบัติจากผู้ให้บริการ ซึ่งจะส่งอีเมลไปให้ทุกๆคนในบริเวณ Cell Site ที่อยู่ในพื้นที่ๆคาดว่าเกิดภัยพิบัติ (แม้เครื่องปิดเสียงอยู่ แต่อีเมลนี้ เป็นระบบพิเศษ มือถือจะร้องเสียงดังมากเมื่ออีเมลนี้มา ดังสุดที่เครื่องจะทำได้ // ญี่ปุ่นใช้อีเมลมากกว่า SMS, MMS หรือกดโทรคุยกันซักอีก)
ส่วนทางทีวี ระบบเตือนภัยจะเชื่อมกับระบบออกอากาศเข้าไปที่สถานีทันที โดยถ้าคาดว่าจะเกิดภัย แม้ไม่แรงมาก (แต่รู้สึกได้) ก็จะเตือน โดยแยกความแรงตามเสียงสั่นไหวเล็กน้อย
- มีเสียงกุ้งกิ้ง = สั่นไหวเล็กน้อย แค่พอรู้สึก ไม่มีผลกระทบ แจ้งเฉยๆ
- มีเสียงกุ้งกิ้ง + เสียงอ่าน หรือ แจ้งพื้นที่ข้างจอแบบไม่มีเสียงอ่าน = แรงขึ้นมาอีกหน่อย รู้สึกได้เริ่มชัด อาจมีผลกระทบหรือไม่ก็ได้
- มีเสียงตื้ดๆ รัวๆ + เสียงอ่าน + แจ้งพื้นที่ๆคาดว่าได้รับผลกระทบ = แรงแน่นอน รู้สึกได้ อาจมีผลตามมาแน่ๆ และจะมีการตัดเข้าสตูดิโอข่าวทันที
ส่วนวิทยุก็คล้ายๆกัน เสียงจะส่งตรงจาก NHK ตัดเข้ามาทันทีพร้อมทีวี (ถ้าเราอยู่ในพื้นที่ๆไม่ได้รับผลกระทบ มือถือก็ไม่ร้อง แต่เราอาจเห็นหรือได้ยินการแจ้งเตือนได้จากทีวีและวิทยุ)
การตัดเข้าสตูดิโอข่าว จะเข้าของสถานีก่อน (ถ้า ณ ขณะนั้นเป็นรายการสด พิธีกรจะอ่านให้ทันที ไม่ว่าตอนนั้นจะฉายอะไรอยู่ก็ตาม) แต่ถ้าหนักแล้วสถานีจะใช้การรายงานข้อมูลกลาง จะตัดเข้าที่ NHK เพราะรายงานเหตุเร็วที่สุด และข้อมูลเยอะที่สุด ทั้งการคาดการณ์เวลาที่สึนามิจะมาถึง พร้อมความสูงของคลื่น, การแจ้งพื้นที่ประสบภัย, การถ่ายทอดสดผลกระทบในพื้นที่ๆต่าง และการรายงานเหตุถึง 5ภาษา (ถ้าเปิดที่ช่อง NHK G จะมีเสียงให้ถึง 5ภาษา คือ ญี่ปุ่น, อังกฤษ, จีน, เกาหลี และโปรตุเกส พร้อมคำบรรยายสดภาษาญี่ปุ่น)
เรื่องการรายงานเร็วช้า ช่อง TVTokyo เคยโดนล้อเลียนว่าเตือนภัยช้าเกินไป ในช่วงที่เกิดแผ่นดินไหวและสึนามิครั้งใหญ่ปี 2011 (ช้ากว่าช่องอื่นเกือบ 10นาที)
ส่วนระบบขนส่งอื่นๆก็มีระบบเตือนภัย โดยเฉพาะรถไฟ ถ้ามีเหตุแจ้งเตือนและรู้สึกได้ถึงแรงแผ่นดินไหว รถไฟจะหยุดเองทันที (โดยเฉพาะรถไฟชิงกันเซ็น) หรือถ้ารถไฟวิ่ง ก็อาจใช้ความเร็วไม่สูงในช่วงนี้เหตุยังไม่สงบ
---------
สำหรับเมืองไทย ถ้าอยากเร็วและด่วนแบบญี่ปุ่น ต้องทำระบบเตือนภัยเชื่อมสัญญาณกับระบบออกอากาศโดยตรง ก็จะแจ้งเตือนเร็ว
ปัจจุบันพอเตือนภัย ทางสถานีจะต้องหาข้อมูลหาข่าวก่อนถึงจะรายงานได้ เพื่อป้องกันความผิดพลาดและข้อมูลไม่ตรงความจริง
มันต้องมีความพร้อมครับ บ้านเราไม่ค่อยเกิด หรือถ้าเกิดก็ไม่ค่อยหนัก แต่พอหนักทีก็เตรียมไม่ค่อยทันเลย เพราะไม่ได้พร้อมว่ามันจะเกิด
ที่ญี่ปุ่นบทเรียนเยอะครับ ระบบเตือนภัยจึงสำคัญมาก ต้องมีคนคอยสังเกตตลอดเวลา พัฒนาระบบจนเป็นที่ 1 ในโลกแล้วเรื่องการเตือนภัยพิบัติให้ประชาชนรู้ ทางฟิลิปปินส์เริ่มนำระบบญี่ปุ่นไปใช้งานแล้ว แต่เหมือนไม่ค่อยได้ผลเท่าไร น่าจะเพราะโครงข่ายเชื่อมไม่สมบูรณ์เท่าไรนัก
ถ้าสถานี หรือ Mux และหน่วยงานที่เกี่ยวกับเรื่องการแจ้งเตือนภัยพิบัติ ทำระบบร่วมกัน เชื่อมข้อมูลกัน ก็จะเป็นประโยชน์ แจ้งเตือนได้รวดเร็ว แม้จะไม่เลิศเท่าญี่ปุ่น แต่เตือนภัยเร็วขึ้นและแม่นขึ้น ก็ถือว่าดีกว่ารายงานช้า จนกว่าจะรู้ก็เกิดการสูญเสียมากแล้ว
แสดงความคิดเห็น
ถ้าเกิดแผ่นดินไหวหรือสึนามิขึ้น ทีวีดิจิตอลของไทยจะมีการเตือนภัยแบบของทางญี่ปุ่นหรือป่าวครับ
เห็นที่ญี่ปุ่นทางเทคนิคทีวีดิจิตอลเขาจะตัดสัญญาณจากผังรายการปกติไปสู่การเตือนภัยเลยครับ เพื่อให้ประชาชนเกาะติดสถานการณ์ เขาจะมีการเตือนหน้าจอสดๆเลยครับว่าขณะนี้กำลังเกิดเหตุว่าแผ่นดินไหวกี่ริคเตอร์
แล้วของไทยล่ะครับถ้าเกิดเหตุการณ์อย่างงี้จะมีการเตือนภัยอย่างไรจะเหมือนแบบทางญี่ปุ่นหรือมั้ย วานผู้รู้ด้านนี้ช่วยตอบด้วยนะครับ ขอบพระคุณอย่างสูง