เพราะรักมีมากกว่าหนึ่ง

ผมได้อ่านเรื่องที่คนอื่นเอามาเล่าซะเยอะนะครับ อ่านๆไปก็มีบางช่วงบางตอนที่แอบเหมือนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริงกับผม

ผมก็เลยว่าลองมาเล่าให้ฟังบ้าง เผื่อใครจะมีความคิดดีๆ ช่วยผมได้บ้าง

เรื่องของผมเนี่ย จะว่าซับซ้อน มันก็ซับซ้อนนะ จะว่ามันไม่ซับซ้อน มันก็ซับซ้อนอยู่ดีแหละ เฮ้ออออ....

เรื่องมันเริ่มจากเมื่อกลางปีก่อนผมเลิกกับแฟน แล้วก็แน่นอนว่าต้องกลับมา “โสด” อีกครั้ง แรกๆก็เฟลอยู่นะครับ ตามประสา กินน้อย พูดน้อย
(จากที่เป็นคนพูดมาก)  พอเวลาผ่านไปซักเดือน 2 เดือน ผมก็เริ่มโอเคกับชีวิตมากขึ้น ผมก็เลยเริ่มเปิดใจคุยทำความรู้จักกับคนที่ทั้งเข้ามาหา
และผมเข้าไปหาเค้า มันไม่ใช่แค่นั้นหรอกครับ เรื่องมันเริ่มจากการที่ผมคุยอยู่หลายคนนี่แหละ ที่มันทำให้ผมปวดหัวในเวลาต่อมา
คนแรก ผมบังเอิญรู้จักกับเค้าในที่ที่ผมทำงานอยู่ แล้วเค้าก็พอดีต้องมาทำงานที่นี่เพียงเดือนเดียวเท่านั้น ผมสมมุติว่าเค้าชื่อ ซี ละกันเนอะ
ผมกับซีรู้จักกันในช่วง 4-5 วันสุดท้ายที่เค้าอยู่ที่ทำงานผม แต่เราก็ได้แลกไลน์กันไว้ครับ (ผมไม่เคยขอเบอร์ใครตั้งแต่เจอนะครับ ผมว่ามันเสียมารยาท) หลังจากนั้นเราก็คุยกันมาเรื่อยๆครับ (แต่ในระหว่างนั้นผมก็ยังมีคนอื่นที่คุยอยู่ด้วยนะครับ) หลังจากคุยกันได้ซักประมาน 2 เดือน ผมถึงขอเบอร์ซี
หลังจากนั้นเราก็เริ่มโทรคุยกันช่วงก่อนนอนทุกวัน และผมก็จะโทรไปปลุกซีทุกเช้านะครับ (ผมเป็นคนโรแมนติคมะ?)  พอเรามีเวลาว่างพร้อมๆกัน
เราก็จะนัดกันไปเที่ยวต่างจังหวัดครับ ช่วงที่ดูๆกันก็เป็นธรรมดาครับที่อาจจะมีแฮปปี้ มีงอนกันบ้าง แต่เมื่อเรารู้สึกมีความสุขมากกว่าเราก็เลยตกลง
เป็นแฟนกันครับ

อ้อ....ลืมบอกไปแน่ะ คุณซี แฟนผมเนี่ย อายุเยอะกว่าผมตั้ง 4-5 ปีเลยนะ แต่เค้าน่ารักเหมือนเด็กเลยนะ

เหมือนเรื่องทุกอย่างจะจบแบบแฮปปี้เอนดิ้งซะทีเดียว แต่....ยังครับ  มันยังไม่จบ...

หลังจากที่ผมมี ‘แฟน’ แล้ว แต่มิวายครับ...เมื่อมันมีคำว่า “คนแรก” แน่นอนว่ามันต้องมีคนที่สองและสาม ตามมาครับ
(นิสัยเจ้าชู้ มันเลิกยากเนอะ)

แต่ไม่นะ...... ไม่... ผมไม่ได้เลิกกับซีนะครับ
  
จนผมจะได้เจอคนที่สอง นี่ล่ะครับ ผมเรียกเค้าว่า เอ็ม ละกันเนอะ กับเอ็มเนี่ยจริงๆ เค้าก็ไม่ได้มาช้ากว่าซีนะครับ เค้าก็มาพร้อมๆกับซีนั่นแหละครับ
มันเป็นช่วงที่ผมเปิดใจคุยกับหลายๆคนน่ะครับช่วงนั้นน่ะ เอ็มเนี่ยเค้าก็เป็นคนน่ารักนะครับ เป็นคนตัวเล็กๆ
(แต่ก็ไม่ใช่สเปคผมหรอก ผมชอบตี๋ๆใส่แว่น ฮ่าๆๆ) นิสัยดี เฮฮา ธรรมะธัมโมครับ แล้วก็เป็นเพื่อนของเพื่อนของเพื่อนอีกที
ผมเจอเอ็มตอนไปกินข้าวกับเพื่อนๆครับ แล้วด้วยนิสัยที่เลิกไม่ได้ ผมก็เห็นว่าเค้าน่ารักดีก็เลยแกล้งหยอกๆไป ขอไลน์ ขอเบอร์
ไม่คิดว่าจะได้หรอกครับ แหม่... ดันได้ซะอย่างงั้น ก็อย่างที่บอกแหละครับ เค้าไม่ใช่สเปค แต่ถึงอย่างงั้นก็เหอะ เค้าช่างเป็นคนมีเสน่ห์ซะเหลือเกิน
พอได้คุยกันมากขึ้น เอาล่ะสิทีนี้ ผมดันไปหลงเสน่ห์ของเค้าเข้าให้เต็มๆ แต่ด้วยความที่ผมมีแฟนอยู่แล้วทั้งคน ผมก็เลยหยุดความคิดและสถานะไว้แค่เพื่อนนั่นแหละครับ แต่ก่อนที่มโนสำนึกแบบนี้จะเกิดขึ้นกับผม มันก็ทำให้ผมกับเอ็มมีสถานะแบบนึงไปแล้ว

ไอ้เรื่องสถานะของผมกับเอ็มเนี่ยจะพูดยังไงดีอ่ะ มันเป็นเพื่อนที่แบบไม่ใช่เพื่อนอ่ะ มากกว่าเพื่อน ไม่ใช่แฟน ไม่มีความสัมพันธ์อื่นเกินเพื่อน
แต่ก็เยอะกว่าเพื่อนทั่วไปอยู่ดี (งงมั๊ยอ่ะครับ บางทีผมยังงงเองเลย) มันเป็นสถานะที่ประหลาดดีนะครับต่างฝ่ายต่างปฏิบัติต่อกันแบบนี้
เวลาเค้าอยากไปไหน เค้าก็มักจะโทรหาผมให้ผมพาไปบ้างเป็นบางครั้ง (แต่ก็เป็นส่วนใหญ่) มีปัญหาอะไรผมก็ไปปรึกษาเอ็ม เอ็มก็มาปรึกษาผม
แล้วเอ็มก็สามารถที่จะดุผมได้เหมือนเวลาแฟนผมดุใส่ผม ยังไงยังงั้น.... ช่วงเวลาที่คุยๆกัน เอ็มก็มีแฟนนะ มีมา 2-3 คนเห็นจะได้
ผมชอบเป็นห่วงเอ็มเวลาเค้าเลิกกับแฟนแล้วเค้าเศร้านะครับ ผมรู้สึกว่าผมก็เศร้าไปพร้อมๆกับเค้า พอเอ็มมีแฟนใหม่ผมก็รู้สึกเจ็บแปลบๆยังไงบอกไม่ถูกเหมือนนะ แต่ตอนนี้เหมือนผมเคยชินกับการที่มีเอ็มอยู่ในชีวิตไปซะแล้วล่ะมั้ง เคยมีบางช่วงนะที่ผมพยายามจะเลิกคุยกับเอ็ม ไม่โทรหา
ไม่ไลน์หา แต่แล้วพอเอ็มโทรมาหรือได้เจอกันโดยบังเอิญมันก็กลับทำให้ความรู้สึกเป็นห่วงเอ็มกลับขึ้นมาอีก

เฮ้ออออ....

จนมาถึงตอนนี้ผมกับซี แฟนผม ก็ยังรักกันดีเหมือนเดิมนะครับ เราจะไปเที่ยวต่างจังหวัดด้วยกัน เดือนละครั้ง
ครั้งนึงก็ 5-6 วัน ไปอยู่ด้วยกัน 2 คน พักผ่อนตามประสาแฟนกัน ^^

ทีนี้...ไอ้เรื่องข้างบนทั้งหมดที่ว่ามาน่ะครับ มันก็ดำเนินไปในแบบที่ควรจะเป็น ทั้งกับแฟน ทั้งกับคนอีกคนที่คุยกันแบบเพื่อน(ที่ห่วงใย)
แล้วด้วยอะไรก็ไม่รู้ครับ มันเป็นความบังเอิญ (อีกแล้ว บ่อยจิงๆนะเมิงงง) ที่ผมต้องไปประชุมพร้อมกับซีที่โรงแรมแห่งหนึ่ง แล้วก็ต้องทำงาน
ทั้งอยู่ ทั้งกิน ที่โรงแรมนั้นนั่นแหละครับ ไอ้ช่วงที่ไปประชุมนี่ล่ะครับ ผมก็ได้เจอกับคนที่ 3 (เห็นมั๊ยครับ ถ้ามันลองได้เริ่มต้นว่า คนแรก มันก็จะมี 2 และ 3 ตามมา) ซึ่งเป็นน้องคนนึงที่ทำงานอยู่ที่โรงแรมนั้น ผมเรียกน้องเค้าว่า น้องปิง ละกันนะ น้องปิงเค้าก็น่ารักดีนะ เป็นคนตลกดี
(แต่น้องไม่ตี๋ และไม่ใส่แว่น ฮ่าๆๆ) ผมก็ได้คุยกับน้องปิงแค่เผินๆไม่ได้อะไรมากมายครับ แต่ก็แลกไลน์กันน่ะแหละครับ
คุยแบบไม่คิดอะไรมาก เพราะน้องปิงเค้าค่อนข้างน่ารัก คุยออกแนวติดตลกซะมากกว่า คิดว่าน้องเค้าคงไม่ได้อะไรกับผมมากมาย
ที่สำคัญน้องปิงอายุน้อยกว่าผมตั้ง 3-4 ปี (ซึ่งหลังๆมานี้ผมไม่ค่อยชอบคนอายุน้อยกว่าแล้วอ่ะครับ คุยกันไม่ค่อยเข้าใจ) แต่พอคุยๆไปเรื่อย
มันเริ่มไม่เป็นอย่างที่คิดล่ะสิครับ น้องปิงเริ่มจริงจังมากขึ้น โทรมาทุกวัน ไลน์หาสม่ำเสมอ ก่อนนอนก็มีการโทรมาบอก มีการบอกฝันดีก่อนนอน
และอื่นๆอีกมากมาย ที่มากกว่าพี่น้องคุยกัน บลาๆๆ จนผมก็เริ่มคิดแล้วนะ ว่าผมจะคุยกับน้องปิงยังไงดี ว่าผมมีแฟนแล้วและผมไม่ได้คิดกับ
น้องมากกว่าน้องจริงๆ

ทุกครั้งที่น้องปิงโทรมาคุย น้องปิงจะเป็นคนพูดเพราะ เสียงอ่อนเสียงหวาน ขี้อ้อนครับ เวลาผมคิดจะพูดอะไรไปเลยกลัวว่าน้องปิงจะเสียใจมากครับ
ผมเลยไม่รู้จะทำยังไงดีเหมือนกัน ทุกวันนี้ก็ยังคงคุยกับน้องปิงมาเรื่อยๆ

จนบางครั้งครับ เหตุการณ์น่าสะพรึงกลัวมันชอบเกิดขึ้น คือ ผมอ่ะใช้โทรศัพท์ 2 เครื่อง แล้วมีเบอร์ 3 เบอร์ โทรเข้ามาในโทรศัพท์ทั้ง 2 เครื่องนี้
ผมก็ไม่รู้จะรับอันไหนก่อนดี แต่ก็แน่นอนล่ะครับ ผมก็ต้องรับเบอร์แฟนก่อนสิเนอะ แล้วอีก 2 เบอร์ที่กำลังรอให้รับล่ะจะทำยังไงดี
เพราะอีก 2 คนนี่จะชอบงอนเวลาไม่รับโทรศัพท์ ผมก็ต้องหาคำอธิบายที่ดีพอที่จะไม่ทำให้ใครโกรธเลย (คำอธิบายนะครับ ไม่ใช่คำโกหก
แต่อาจจะพูดไม่หมด ฮุฮุฮุ) จนถึงทุกวันนี้ผมก็ยังปวดหัวอยู่เลยครับว่าจะจัดการกับเรื่องแบบนี้ยังไงดี ก็ต้องโทษทั้งความเจ้าชู้ของผมเอง แล้วก็....
(โทษอะไรอีกดีอ่ะ ที่มันช่วยแชร์ความผิดไปได้อ่ะ) แล้วก็..... ช่างมัน โทษตัวเองอย่างเดียวละกัน ถ้าแฟนผมจับได้ผมว่าผมโดนเละแน่เลย
ครั้นจะบอกกับเอ็มตามตรงว่าเราเลิกคุยกันมั๊ย ผมก็ห่วงว่าเอ็มจะไม่มีใครให้โทรหา พาไปโน่นไปนี่ ถึงแม้ผมจะรู้ว่าเค้าเพื่อนเยอะก็เหอะ
แต่เค้าชอบแอบเหงาอยู่บ่อยๆ ส่วนน้องปิง ผมก็กลัวว่าถ้าบอกตรงๆ ผมก็กลัวน้องปิงเสียใจ บางทีผมก็ว่าผมเห็นแก่ตัวนะ
เพราะผมกลัวจะเสียใครไปหรือกลัวจะทำให้ใครเสียใจ  คือสถานะแบบเพื่อน(ที่ห่วงใยมากกว่าเพื่อน แต่ไม่ใช่แฟนเนี่ย) กับ
น้องที่น่ารักตลกเฮฮา ผมว่ามันก็โอเคสำหรับผมนะ แต่เอ็มกับน้องปิง เค้าจะโอเคด้วยรึป่าวนี่สิ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่