[CR] ครั้งแรกที่ฮานอย - ซาปา ตอน 1
http://ppantip.com/topic/32689616
[CR] ครั้งแรกที่ฮานอย - ซาปา ตอน 2 Around Sapa
http://ppantip.com/topic/32689912
[CR] ครั้งแรกที่ฮานอย - ซาปา ตอน 3 175 km to Mù Cang Chai
http://ppantip.com/topic/32692814
[CR] ครั้งแรกที่ฮานอย - ซาปา ตอน 4 Comeback to Sapa Again
http://ppantip.com/topic/32706898
[CR] ครั้งแรกที่ฮานอย - ซาปา ตอน 5 Walk Hard in Hanoi
http://ppantip.com/topic/32720701
______________________________________________
ต่อจากตอนที่แล้ว หกโมงเช้าขณะที่กำลังเคลิบเคลิ้มหลับเป็นตายอยู่ในโบกี้ เสียงเคาะประตู ปังๆๆ จากเจ้าหน้าที่รถไฟก็ปลุกทุกคนบนขบวนเป็นสัญญาณว่าเรากำลังจะถึงเมืองลาวไก (Lào Cai) แล้ว
บรรยากาศสถานีรถไฟเช้าตรู่คนน้อยมาก ชวนให้งีบต่อเหลือเกิน แต่เราก็ต้องเดินไปขึ้นรถกันต่อ
ลาวไก เป็นเมืองทางตอนเหนือของเวียดนามที่มีพรมแดนติดกับมณฑลยูนนานประเทศจีน โดยตัวเมืองลาวไกเองมีแหล่งท่องเที่ยวสำคัญทางธรรมชาติต่างๆ มากมาย แต่ยังไม่เป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวมากนักเพราะส่วนใหญ่มักจะใช้เมืองลาวไกเป็นเพียงทางผ่านเพื่อไปยังซาปา
เราจองที่พักใน Sapa Summit Hotel จากฮานอยไปแล้ว พอมาถึงที่ลาวไกพนักงานของโรงแรมก็มารอเพื่อรับนักท่องเที่ยวที่จะไปโรงแรมด้วยการนั่งรถตู้ จากจุดนี้ใช้เวลาเดินทางเข้าตัวเมืองซาปาประมาณครึ่งชั่วโมง
แพลนสถานที่เที่ยวในวันนี้ของผมครับ เริ่มต้นด้วยการพักที่ Sapa Summit จากนั้นเราจะไปหาอะไรกินในตลาดก่อนที่จะไปหมู่บ้านกัตกัตและปิดท้ายแสงเย็นบนภูเขาฮามรองเพื่อชมเมืองซาปาจากมุมสูง
ห้องพักที่ Sapa Summit Hotel ครับ พักชั้น 5 เป็นชั้นที่มีแต่คนไทยเกือบทุกห้องเลย ในห้องไม่มีแอร์แต่อากาศเย็นสบาย ตัวห้องสะอาดดี ราคาที่ผมพักอยู่ที่ 20 USD ต่อคืน
ที่ชั้น 5 เราสามารถเดินออกมาตรงระเบียงได้ จะได้มุมแบบนี้เลย ช่วงเช้าๆ มีหมอกลอยบรรยากาศแบบยุโรปสุดๆ
ที่โรงแรมผมเช่ามอเตอร์ไซต์มาด้วย เขาคิดคันละ 100,000 ดอง ต่อวัน ได้ฮอนด้าเวฟ 110 cc มาไม่แรงมาแต่ดีกว่ารถเกียร์ออโต้กว่ายามาฮ่านูโว สำหรับการเดินทางในซาปาใครที่มาแนะนำว่าควรจะต้องขี่มอเตอร์ไซต์เป็นนะครับ เพราะสถานที่เที่ยวแต่ละแห่งค่อนข้างไกล ถ้าจะจ้างรถพาเที่ยวคงจะไม่คล่องตัวนักแถมเปลืองเงิน อ๊ะ!? ในซาปามีปั๊มน้ำมันอยู่แห่งเดียวนะครับ
ก่อนจะไปหมู่บ้านกัตกัต มาเดินตลาดหาอะไรกินสักหน่อยเห็นพวกปลาน้ำจืดเป็นๆ ขายเต็มเลย มีปูนา หอย กุ้งด้วย ถ้าที่พักทำอาหารได้อยากจะปิ้งกุ้งกินซะจริงๆ
อันนี้เป็นเหมือนยำหมูครับ เห็นแล้วขอผ่านดีกว่า ไม่ค่อยถูกกับพวกยำเท่าไหร่ กินทีไรขี้แตกทุกที
สุดท้ายมาทานนี่ครับเข้ากับบรรยากาศช่วงเจพอดี ปอเปี๊ยะไส้ผัก ทอดกันสดๆ นี่แหละ น้ำมันเยิ้มเชียว ทานแบบไม่ต้องมีน้ำจิ้ม รสชาติไม่เลว แป้งเหนียวนุ่มดี
อีกอย่างที่ได้กินคือโดนัทงาเคลือบน้ำตาลครับ ชิ้นใหญ่มาก เจอเข้าไปแล้วอิ่มยาวเลย ผมใช้เวลาไม่นานในตลาดเพราะแค่มาหาอะไรรองท้องเท่านั้น เดี๋ยวเราไปกันต่อที่หมู่บ้านกัตกัตกันดีกว่า
แว๊นมอเตอร์ไซต์มาไม่นานก็ถึงที่หมู่บ้านกัตกัตแล้ว ถือว่าเป็นหนึ่งในแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมของนักท่องเที่ยวเนื่องจากเดินทางไม่ไกล ค่าเข้าชมหมู่บ้านอยู่ที่คนละ 15,000 ดอง
ในหมู่บ้านกัตกัตอย่างแรกที่เราสามารถเห็นได้เต็มๆ ตาก็คือนาขั้นบันได แต่ที่หมู่บ้านมีการเก็บเกี่ยวไปส่วนหนึ่งแล้ว สงสัยปลูกเร็วกกว่าจุดอื่นๆ
นอกจากนาแล้วก็ยังมีหมู่บ้านให้เห็นวิถีชีวิตของผู้คนครับ มีร้านขายของโอท็อปแบบทางภาคเหนือของบ้านเรา บรรยายกาศคล้ายกันซะจนคิดว่าเดินอยู่บนดอยปุย
ตัวอย่างสินค้าที่ขาย แสงลงซะได้อารมณ์
ระหว่างที่เดินอยู่ผมได้ยินเสียงน้ำตกมาแต่ไกล คิดไว้แล้วว่าต้องมีน้ำตกแน่ๆ และก็ไม่ผิดหวังเลย เมื่อเดินมาเรื่อยๆ เราจะพบกับน้ำตกเตียนสา (Tiên Sa) เป็นน้ำตกที่สวยงาม มีการไล่ระดับของหินหลายชั้น นักท่องเที่ยวสามารถเข้าไปชมได้ใกล้ๆ กันเลยทีเดียว
อีกมุมหนึ่งหลังจากเดินข้ามสะพานมา สวยงามไม่แพ้กัน
เข้ามาดูใกล้ๆ ด้วยความที่ตัวน้ำตกมีความสูงไม่มากนัก ตัวน้ำก็เลยไม่ฟุ้งมากระเด็นใส่นักท่องเที่ยวทำให้เราชื่นชมความงามแบบสบายๆ ใครที่ชอบถ่ายภาพน้ำตกไม่ควรพลาด
ผ่านจากน้ำตกเตียงสาแล้วก็จะเป็นการเดินชมนากันยาวๆ ละครับ ถ้ามาได้จังหวะดีๆ ก็จะเห็นชาวบ้านเดินเป็นแบบให้เราถ่ายภาพได้ในระยะไกล
อีกจุดที่ชอบที่สุดในหมู่บ้านกัตกัต มาได้เวลาที่แสงลงเป็นหย่อมๆ ได้มิติสุดๆ
นาในส่วนที่เก็บเกี่ยวไปแล้ว
ตอนมาลืมถ่ายภาพด้านหน้าทางเข้าให้เห็นเลยถ่ายขาออกให้เห็นแทนละกันครับ
หลังจากออกจากหมู่บ้านกัตกัต ระหว่างทางที่เข้าเมืองซาปาเราจะเห็นร้านกาแฟวิวโคตรแจ่มตั้งอยู่ท่ามกลางขุนเขา ถ้าได้มาจิบชาตอนเช้าๆ คงจะฟินไปได้อีกทั้งวัน
เข้ามาใจกลางเมืองแล้วครับ อย่างที่บอกไปตอนแรกแล้วว่าเย็นวันนี้ผมจะมาขึ้นไปชมเมืองซาปามุมสูงตอนเย็นและสถานที่นั้นก็คือ ภูเขาฮามรอง นั่นเอง ค่าเข้าอยู่ที่ 15,000 ดอง ครับ
ในตอนแรกผมคิดว่าที่การจะขึ้นเขาฮามรองนั้นต้องปีนเขาแบบพวกขาลุยซะอีก แต่กลายเป็นว่าด้านบนนี้เดินได้สบายๆ แถมยังมีพวกประติมากรรมตั้งอยู่ให้เพลินตาเต็มไปหมด
รวมไปถึงสวนที่เจ้าหน้าที่มาปลูกดอกไม้สวยงามเต็มไปหมด
ในบริเวณทั้งหมดของภูเขาฮามรองเขาแบ่งเป็นจุดท่องเที่ยวอีกประมาณ 10 กว่าจุด รวมถึงสวนที่เดินผ่านมาก่อนหน้านี้ด้วย ส่วนภาพนี้เป็นบรรยากาศระหว่างที่ผมเดินขึ้นไปจุดชมวิวฮามรอง
ยิ่งเดินสูงทางก็ยิ่งแคบ ลักษณะช่วงนี้เหมือนกำแพงที่กำลังบีบเราเข้ามาเลย เป็นอะไรที่อเมซิ่งมากกับธรรมชาติที่สร้างสรรค์ออกมาได้อย่างสวยงาม
เดินมาเรื่อยๆ พอเลยจุดนี้ถ้าเห็นหลังคาทรงร่มก็ถือว่าถึงแล้วครับ จุดชมวิวเมืองซาปา โอ้วเย้
ย้อนแสงเท่ห์ๆ
บนนี้เราสามารถเห็นเมืองซาปาได้ทั้งเมือง
ฝั่งซ้ายมือเห็นฉากหลังเป็นเทือกเขาฟานซีปัน ใหญ่โตอลังการมาก ใครมาถึงจุดนี้ก็มักจะถ่ายภาพคู่เป็นที่ระลึกกันทุกคน แต่ผมเหรอ เหอะ เหอะ ลืมถ่ายคู่ซะงั้น
ในช่วงเย็นจุดนี้เราจะเห็นพระอาทิตย์ตกลับภูเขาไปอย่างช้าๆ แต่วันที่ผมไปเมฆเยอะมากแถมยังไหลมาคลุมเมืองอย่างเร็วด้วยแรงลมที่พัดจนหนาวเข้ากระดูก แต่นั่นก็เลยทำให้เราได้ภาพถ่ายแสงเย็นที่สวยงามไปอีกแบบ
ก่อนฟ้าจะมืดเห็นเทือกเขาที่อยู่ไกลๆ นั่นไหม ภูเขาลูกนั้นคือเทือกเขาฟานซีปัน พรุ่งนี้ผมจะพาทุกท่านไปออกรอบกันยาวๆ ด้วยการขี่มอเตอร์ไซต์ผ่านเทือกเขาลูกนั้น แต่สถานที่ที่ผมจะไปคือที่ไหน ตอนหน้ารู้กันครับ รับรองว่าแจ่มแน่ๆ
[CR] ครั้งแรกที่ฮานอย - ซาปา ตอน 2 Around Sapa
[CR] ครั้งแรกที่ฮานอย - ซาปา ตอน 2 Around Sapa http://ppantip.com/topic/32689912
[CR] ครั้งแรกที่ฮานอย - ซาปา ตอน 3 175 km to Mù Cang Chai http://ppantip.com/topic/32692814
[CR] ครั้งแรกที่ฮานอย - ซาปา ตอน 4 Comeback to Sapa Again http://ppantip.com/topic/32706898
[CR] ครั้งแรกที่ฮานอย - ซาปา ตอน 5 Walk Hard in Hanoi http://ppantip.com/topic/32720701
______________________________________________
ต่อจากตอนที่แล้ว หกโมงเช้าขณะที่กำลังเคลิบเคลิ้มหลับเป็นตายอยู่ในโบกี้ เสียงเคาะประตู ปังๆๆ จากเจ้าหน้าที่รถไฟก็ปลุกทุกคนบนขบวนเป็นสัญญาณว่าเรากำลังจะถึงเมืองลาวไก (Lào Cai) แล้ว
บรรยากาศสถานีรถไฟเช้าตรู่คนน้อยมาก ชวนให้งีบต่อเหลือเกิน แต่เราก็ต้องเดินไปขึ้นรถกันต่อ
ลาวไก เป็นเมืองทางตอนเหนือของเวียดนามที่มีพรมแดนติดกับมณฑลยูนนานประเทศจีน โดยตัวเมืองลาวไกเองมีแหล่งท่องเที่ยวสำคัญทางธรรมชาติต่างๆ มากมาย แต่ยังไม่เป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวมากนักเพราะส่วนใหญ่มักจะใช้เมืองลาวไกเป็นเพียงทางผ่านเพื่อไปยังซาปา
เราจองที่พักใน Sapa Summit Hotel จากฮานอยไปแล้ว พอมาถึงที่ลาวไกพนักงานของโรงแรมก็มารอเพื่อรับนักท่องเที่ยวที่จะไปโรงแรมด้วยการนั่งรถตู้ จากจุดนี้ใช้เวลาเดินทางเข้าตัวเมืองซาปาประมาณครึ่งชั่วโมง
แพลนสถานที่เที่ยวในวันนี้ของผมครับ เริ่มต้นด้วยการพักที่ Sapa Summit จากนั้นเราจะไปหาอะไรกินในตลาดก่อนที่จะไปหมู่บ้านกัตกัตและปิดท้ายแสงเย็นบนภูเขาฮามรองเพื่อชมเมืองซาปาจากมุมสูง
ห้องพักที่ Sapa Summit Hotel ครับ พักชั้น 5 เป็นชั้นที่มีแต่คนไทยเกือบทุกห้องเลย ในห้องไม่มีแอร์แต่อากาศเย็นสบาย ตัวห้องสะอาดดี ราคาที่ผมพักอยู่ที่ 20 USD ต่อคืน
ที่ชั้น 5 เราสามารถเดินออกมาตรงระเบียงได้ จะได้มุมแบบนี้เลย ช่วงเช้าๆ มีหมอกลอยบรรยากาศแบบยุโรปสุดๆ
ที่โรงแรมผมเช่ามอเตอร์ไซต์มาด้วย เขาคิดคันละ 100,000 ดอง ต่อวัน ได้ฮอนด้าเวฟ 110 cc มาไม่แรงมาแต่ดีกว่ารถเกียร์ออโต้กว่ายามาฮ่านูโว สำหรับการเดินทางในซาปาใครที่มาแนะนำว่าควรจะต้องขี่มอเตอร์ไซต์เป็นนะครับ เพราะสถานที่เที่ยวแต่ละแห่งค่อนข้างไกล ถ้าจะจ้างรถพาเที่ยวคงจะไม่คล่องตัวนักแถมเปลืองเงิน อ๊ะ!? ในซาปามีปั๊มน้ำมันอยู่แห่งเดียวนะครับ
ก่อนจะไปหมู่บ้านกัตกัต มาเดินตลาดหาอะไรกินสักหน่อยเห็นพวกปลาน้ำจืดเป็นๆ ขายเต็มเลย มีปูนา หอย กุ้งด้วย ถ้าที่พักทำอาหารได้อยากจะปิ้งกุ้งกินซะจริงๆ
อันนี้เป็นเหมือนยำหมูครับ เห็นแล้วขอผ่านดีกว่า ไม่ค่อยถูกกับพวกยำเท่าไหร่ กินทีไรขี้แตกทุกที
สุดท้ายมาทานนี่ครับเข้ากับบรรยากาศช่วงเจพอดี ปอเปี๊ยะไส้ผัก ทอดกันสดๆ นี่แหละ น้ำมันเยิ้มเชียว ทานแบบไม่ต้องมีน้ำจิ้ม รสชาติไม่เลว แป้งเหนียวนุ่มดี
อีกอย่างที่ได้กินคือโดนัทงาเคลือบน้ำตาลครับ ชิ้นใหญ่มาก เจอเข้าไปแล้วอิ่มยาวเลย ผมใช้เวลาไม่นานในตลาดเพราะแค่มาหาอะไรรองท้องเท่านั้น เดี๋ยวเราไปกันต่อที่หมู่บ้านกัตกัตกันดีกว่า
แว๊นมอเตอร์ไซต์มาไม่นานก็ถึงที่หมู่บ้านกัตกัตแล้ว ถือว่าเป็นหนึ่งในแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมของนักท่องเที่ยวเนื่องจากเดินทางไม่ไกล ค่าเข้าชมหมู่บ้านอยู่ที่คนละ 15,000 ดอง
ในหมู่บ้านกัตกัตอย่างแรกที่เราสามารถเห็นได้เต็มๆ ตาก็คือนาขั้นบันได แต่ที่หมู่บ้านมีการเก็บเกี่ยวไปส่วนหนึ่งแล้ว สงสัยปลูกเร็วกกว่าจุดอื่นๆ
นอกจากนาแล้วก็ยังมีหมู่บ้านให้เห็นวิถีชีวิตของผู้คนครับ มีร้านขายของโอท็อปแบบทางภาคเหนือของบ้านเรา บรรยายกาศคล้ายกันซะจนคิดว่าเดินอยู่บนดอยปุย
ตัวอย่างสินค้าที่ขาย แสงลงซะได้อารมณ์
ระหว่างที่เดินอยู่ผมได้ยินเสียงน้ำตกมาแต่ไกล คิดไว้แล้วว่าต้องมีน้ำตกแน่ๆ และก็ไม่ผิดหวังเลย เมื่อเดินมาเรื่อยๆ เราจะพบกับน้ำตกเตียนสา (Tiên Sa) เป็นน้ำตกที่สวยงาม มีการไล่ระดับของหินหลายชั้น นักท่องเที่ยวสามารถเข้าไปชมได้ใกล้ๆ กันเลยทีเดียว
อีกมุมหนึ่งหลังจากเดินข้ามสะพานมา สวยงามไม่แพ้กัน
เข้ามาดูใกล้ๆ ด้วยความที่ตัวน้ำตกมีความสูงไม่มากนัก ตัวน้ำก็เลยไม่ฟุ้งมากระเด็นใส่นักท่องเที่ยวทำให้เราชื่นชมความงามแบบสบายๆ ใครที่ชอบถ่ายภาพน้ำตกไม่ควรพลาด
ผ่านจากน้ำตกเตียงสาแล้วก็จะเป็นการเดินชมนากันยาวๆ ละครับ ถ้ามาได้จังหวะดีๆ ก็จะเห็นชาวบ้านเดินเป็นแบบให้เราถ่ายภาพได้ในระยะไกล
อีกจุดที่ชอบที่สุดในหมู่บ้านกัตกัต มาได้เวลาที่แสงลงเป็นหย่อมๆ ได้มิติสุดๆ
นาในส่วนที่เก็บเกี่ยวไปแล้ว
ตอนมาลืมถ่ายภาพด้านหน้าทางเข้าให้เห็นเลยถ่ายขาออกให้เห็นแทนละกันครับ
หลังจากออกจากหมู่บ้านกัตกัต ระหว่างทางที่เข้าเมืองซาปาเราจะเห็นร้านกาแฟวิวโคตรแจ่มตั้งอยู่ท่ามกลางขุนเขา ถ้าได้มาจิบชาตอนเช้าๆ คงจะฟินไปได้อีกทั้งวัน
เข้ามาใจกลางเมืองแล้วครับ อย่างที่บอกไปตอนแรกแล้วว่าเย็นวันนี้ผมจะมาขึ้นไปชมเมืองซาปามุมสูงตอนเย็นและสถานที่นั้นก็คือ ภูเขาฮามรอง นั่นเอง ค่าเข้าอยู่ที่ 15,000 ดอง ครับ
ในตอนแรกผมคิดว่าที่การจะขึ้นเขาฮามรองนั้นต้องปีนเขาแบบพวกขาลุยซะอีก แต่กลายเป็นว่าด้านบนนี้เดินได้สบายๆ แถมยังมีพวกประติมากรรมตั้งอยู่ให้เพลินตาเต็มไปหมด
รวมไปถึงสวนที่เจ้าหน้าที่มาปลูกดอกไม้สวยงามเต็มไปหมด
ในบริเวณทั้งหมดของภูเขาฮามรองเขาแบ่งเป็นจุดท่องเที่ยวอีกประมาณ 10 กว่าจุด รวมถึงสวนที่เดินผ่านมาก่อนหน้านี้ด้วย ส่วนภาพนี้เป็นบรรยากาศระหว่างที่ผมเดินขึ้นไปจุดชมวิวฮามรอง
ยิ่งเดินสูงทางก็ยิ่งแคบ ลักษณะช่วงนี้เหมือนกำแพงที่กำลังบีบเราเข้ามาเลย เป็นอะไรที่อเมซิ่งมากกับธรรมชาติที่สร้างสรรค์ออกมาได้อย่างสวยงาม
เดินมาเรื่อยๆ พอเลยจุดนี้ถ้าเห็นหลังคาทรงร่มก็ถือว่าถึงแล้วครับ จุดชมวิวเมืองซาปา โอ้วเย้
ย้อนแสงเท่ห์ๆ
บนนี้เราสามารถเห็นเมืองซาปาได้ทั้งเมือง
ฝั่งซ้ายมือเห็นฉากหลังเป็นเทือกเขาฟานซีปัน ใหญ่โตอลังการมาก ใครมาถึงจุดนี้ก็มักจะถ่ายภาพคู่เป็นที่ระลึกกันทุกคน แต่ผมเหรอ เหอะ เหอะ ลืมถ่ายคู่ซะงั้น
ในช่วงเย็นจุดนี้เราจะเห็นพระอาทิตย์ตกลับภูเขาไปอย่างช้าๆ แต่วันที่ผมไปเมฆเยอะมากแถมยังไหลมาคลุมเมืองอย่างเร็วด้วยแรงลมที่พัดจนหนาวเข้ากระดูก แต่นั่นก็เลยทำให้เราได้ภาพถ่ายแสงเย็นที่สวยงามไปอีกแบบ
ก่อนฟ้าจะมืดเห็นเทือกเขาที่อยู่ไกลๆ นั่นไหม ภูเขาลูกนั้นคือเทือกเขาฟานซีปัน พรุ่งนี้ผมจะพาทุกท่านไปออกรอบกันยาวๆ ด้วยการขี่มอเตอร์ไซต์ผ่านเทือกเขาลูกนั้น แต่สถานที่ที่ผมจะไปคือที่ไหน ตอนหน้ารู้กันครับ รับรองว่าแจ่มแน่ๆ