..."การเพ่งโทษผู้อื่น ไม่ทำให้จิตใจเราสบาย"...
" .. ทั้งผู้โกรธยาก โกรธน้อยและผู้โกรธง่าย
โกรธมาก ควรอย่างยิ่งที่จะได้สนใจสังเกต
ให้รู้ว่าจิตใจของตนมีความสุขทุกข์เย็นร้อนอย่างไร
ทั้งในเวลาที่โกรธและในเวลาที่ไม่โกรธปกตินั้น
เมื่อโกรธก็มักจะเพ่งโทษไปที่ผู้อื่นว่า
เป็นเหตุให้ความโกรธเกิดขึ้น
คือมักจะไปคิดว่าผู้อื่นนั้นพูดเช่นนั้น
ทำเช่นนั้นที่กระทบกระเทือนถึงผู้โกรธ
การเพ่งโทษผู้อื่นเช่นนี้
ไม่ใช่เป็นการทำให้จิตใจตนเองสบาย ตรงกันข้าม
กลับเป็นการเพิ่มความไม่สบายให้ยิ่งขึ้นเพียงนั้น
แต่ถ้าหยุดเพ่งโทษผู้อื่นเสีย เขาจะพูดจะทำอะไรก็ตาม
อย่าไปเพ่งดู ให้ย้อนเข้ามาเพ่งดูใจตนเองว่า
กำลังมีความสุขทุกข์อย่างไร มีอารมณ์อย่างไร
ใจจะสบายขึ้นได้ด้วยการเพ่งนั้น .. "
...โอวาทธรรม สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก...
...ขออนุโมทนาบุญกับเจ้าของภาพประกอบ
ขอให้ท่านผู้อ่านเจริญในธรรม...
..."การเพ่งโทษผู้อื่น ไม่ทำให้จิตใจเราสบาย"โอวาทธรรม สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก...!!!
..."การเพ่งโทษผู้อื่น ไม่ทำให้จิตใจเราสบาย"...
" .. ทั้งผู้โกรธยาก โกรธน้อยและผู้โกรธง่าย
โกรธมาก ควรอย่างยิ่งที่จะได้สนใจสังเกต
ให้รู้ว่าจิตใจของตนมีความสุขทุกข์เย็นร้อนอย่างไร
ทั้งในเวลาที่โกรธและในเวลาที่ไม่โกรธปกตินั้น
เมื่อโกรธก็มักจะเพ่งโทษไปที่ผู้อื่นว่า
เป็นเหตุให้ความโกรธเกิดขึ้น
คือมักจะไปคิดว่าผู้อื่นนั้นพูดเช่นนั้น
ทำเช่นนั้นที่กระทบกระเทือนถึงผู้โกรธ
การเพ่งโทษผู้อื่นเช่นนี้
ไม่ใช่เป็นการทำให้จิตใจตนเองสบาย ตรงกันข้าม
กลับเป็นการเพิ่มความไม่สบายให้ยิ่งขึ้นเพียงนั้น
แต่ถ้าหยุดเพ่งโทษผู้อื่นเสีย เขาจะพูดจะทำอะไรก็ตาม
อย่าไปเพ่งดู ให้ย้อนเข้ามาเพ่งดูใจตนเองว่า
กำลังมีความสุขทุกข์อย่างไร มีอารมณ์อย่างไร
ใจจะสบายขึ้นได้ด้วยการเพ่งนั้น .. "
...โอวาทธรรม สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก...
...ขออนุโมทนาบุญกับเจ้าของภาพประกอบ
ขอให้ท่านผู้อ่านเจริญในธรรม...