เรื่องนี้เกิดขึ้นประมาณ 19.20 น. วันที่ 7 ตุลาคม พ.ศ. 2557

สถานที่ เลนในของถนนสายไหม (ถนนขาเข้าสองเลน-ขาออกสองเลน)
ช่วงก่อนถึงตลาด AC มุ่งหน้าไปทางตลาดวงศ์กร

ดิฉันซึ่งนั่งรถที่คุณแม่ขับกลับบ้านอย่างปกติสุขอย่างทุกๆวัน แต่วันนี้มันไม่เหมือนวันอื่นๆ
ได้มีรถกระบะขับรถมาชนท้ายรถของดิฉันซึ่งมีคุณแม่เป็นคนขับ ส่วนดิฉันนั่งข้างหลังจึงได้รับแรงกระแทกมาเต็มๆ
วันนี้มีน้องตัวเล็กอายุสองขวบนั่งมาด้วย โชคดีที่น้องนอนหลับเอนเบาะอยู่เบาะหน้าข้างคนขับ จึงไม่ได้รับบาดเจ็บอะไรมาก
ไม่มีใครบาดเจ็บสาหัส แต่ก็ไม่มีใครรู้สึกโอเคค่ะ

ทั้งๆที่เป็นซอยเล็กๆไม่น่าใช้ความเร็วได้มาก ถ้าขับอย่างระมัดระวังไม่น่าจะมีเหตุการณ์รถชนกันแรงขนาดนี้เกิดขึ้นได้
คนขับนายนั้นลงมาคุยด้วยท่าทางมึนเมาและได้กลิ่นแอลกอฮอลอย่างเห็นได้ชัด เขาใส่เสื้อกองทัพอากาศอยู่
เลยทำให้ดิฉันพอจะเดาได้ว่าเป็นทหารสังกัดกองทัพอากาศ

เพื่อนอีกคนหนึ่งซึ่งไม่มีอาการมึนเมากลับไม่เป็นคนขับ และไม่คิดที่จะเตือนเพื่อนด้วยกันเลย หาทางหลีกเลี่ยงอย่างเดียว !!!
เขาลงมาเคลียร์โดยพูดในเชิงว่าอย่าเอาเรื่องให้ถึงตำรวจ เพราะท่าทางจะโดนลงโทษเอาเรื่องอยู่

แต่ดิฉันไม่ยอม ดิฉันโทรหา 191 เวลา 19.34 น. ขอให้เจ้าหน้าที่ประสานงานและส่งตำรวจมาตรวจให้ แต่ตำรวจมาช้ามาก
จนประกันมาก็แล้ว ถ่ายรูปรถและใบขับขี่ไว้เป็นหลักฐานเรียบร้อย ดิฉันได้กล่าวตำหนิทั้งสองคนว่า ทำไมพวกคุณถึงเมาแล้วขับ

ถ้าเกิดเหตุการณ์ที่มากกว่านี้ มีคนได้รับอุบัติเหตุจนถึงแก่ชีวิตแล้วพวกเขาถึงจะมาคิดเหรอ
ว่าไม่ควรเมาแล้วขับ พวกเขาบอกว่าพวกเขาไปงานเลี้ยงนายมา
(มันใช่เหตุผลเหรอคะ???) ซึ่งทางฝ่ายนายก็ไม่ห้ามเลยเหรอ
ให้ขับรถกลับมาขณะมึนเมา ทั้งๆที่เขาควรจะเป็นทหารที่ปกป้องประชาชนแท้ๆ
เป็นตัวอย่างที่ดีให้กับประชาชนแท้ๆ แต่กลับมาเมาแล้วขับ


หลังจากนั้น เพื่อนอีกคนนึงของเขา ขับมอเตอร์ไซส์มาสมทบ ใส่เสื้อกองทัพอากาศเหมือนกัน พอดิฉันพูดเหมือนจะไม่ยอม
คนขับที่มึนเมาก็พูดในเชิงว่า หรือจะเอาปืนในรถมาคุย!
ดิฉันโกรธมาก ทำไมถึงพูดแบบนี้ ทั้งๆที่เขาเป็นคนผิด แล้วยังจะมาขู่อีก หลังจากพูดคุยกันเรียบร้อยกับประกัน
ประกันบอกให้คนขับรถไปพบกันเพื่อบันทึกประจำวันที่ สน.สายไหม รอจนนานมากแล้ว จนเราจะแจ้งว่า ชนแล้วหนี อีกสักพัก
เพื่อนคนที่มาสมทบกับเขาทีหลัง(คนที่ขับมอเตอร์ไซ) เปลี่ยนชุดไม่ใส่เสื้อกองทัพอากาศแล้ว มารับทราบข้อกล่าวหาให้ เพียงแค่นั้น
ดิฉันขยั้นขยอขอให้ตามเพื่อนมาตรวจแอลกอฮอล์ เพราะแน่ใจว่าเขามึนเมา
ถ้าต่อไปคุณเมาแล้วไปขับรถถังในภาวะสงครามแล้วจะเกิดอะไรขึ้น????

อีกประเด็นหนึ่งที่ฉันไม่สบายใจเลย คือ ดิฉันไปแจ้งความที่ สน ว่าคนขับมีอาการมึนเมา แต่ตำรวจที่ สน ไม่ทำอะไรเลย บอกแค่ว่าถ้าไม่มีหลักฐานคือการตรวจแอลกอฮอล์ก็ไม่สามารถทำอะไรได้  ทั้งๆที่ดิฉันขอความกรุณาร่วมมือขอให้บอกให้เขามาตรวจแล้ว แต่ตำรวจไม่มีอาการร้อนรนอะไรเลย ทั้งๆที่มีคนหนึ่งคนที่มีอาการมึนเมากำลังขับรถอยู่บนถนนเวลานี้ !!! จนดิฉันบอกว่า ช่วยวอไปสกัดจับหน่อย จึงเริ่มไปบอกให้เจ้าหน้าที่ที่มีหน้าที่วอ วอไปบอกหน่วยต่างๆ ตอนแรกเจ้าหน้าที่คนนั้นก็ไม่มีท่าทีร้อนรนอะไรเลย จนดิฉันขยั้นขยอว่า พี่คะ รีบวอเลยได้ไหมคะ เขาจึงวอให้ ดิฉันกำชับว่า ถ้าจับได้แล้วช่วยตรวจแอลกอฮอล์เลยได้ไหมคะ เขาก็ทำท่าทีเฉยเมย จนดิฉันขยั้นขยออีกรอบ จึงวอให้ … จากเหตุการณ์นี้ทำให้ดิฉันรู้สึกแย่กับการดำเนินงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ค่อนข้างช้าและไม่ทันการเอามากๆ สรุปสุดท้าย ดิฉันโดนคนเมาแล้วขับชน แต่เขากลับไม่โดนทำโทษอะไรเลย แค่ต้องมาจ่ายค่าซ่อมรถให้ดิฉัน คนที่เมาแล้วขับลอยนวลและคงจะทำอีก เพราะครั้งนี้ก็ไม่โดนจับอะไรเลย กลับบ้านไปได้สบายๆ ซึ่งครั้งหน้าเขาอาจจะขับไปชนใครเสียชีวิตก็ได้ หรือถ้าน้องตัวเล็กของดิฉันลุกขึ้นยืนที่เบาะรถแล้วเขาขับมาชน น้องอาจจะหน้าคว่ำ ได้รับบาดเจ็บมากกว่านี้แล้วก็ได้


จนดิฉันนั่งร้องไห้เจ็บใจเป็นอย่างมาก ได้รับคำตอบมาจาก ตำรวจ ประโยคนึงว่า “ถ้าน้องโตน้องจะเข้าใจเอง “

เข้าใจว่า.. โตขึ้นให้เป็นทหารนะคะ จะได้เมาแล้วขับ โดนจับแล้วหนีได้!!!
เข้าใจว่า.. ไม่มีใครเป็นห่วงประชาชนอย่างแท้จริง จริงๆเหรอคะ?????


เพราะเขาเป็นทหาร เขาอาจได้รับโทษหนัก หากเมาแล้วขับ เราจึงไม่ควรเอาเรื่อง?
(เพราะไม่ควรทำมากๆไม่ใช่เหรอคะ โทษจึงหนัก!!!)
เพราะเขามีครอบครัวต้องดูแล จึงมารับโทษไม่ได้????
(ดิฉันไม่มีครอบครัวเหรอคะ???)


แล้วถ้าเกิดวันนึง เขาเมาแล้วขับไปชนใครเสียชีวิต คนที่มีครอบครัวแล้วตาย
ทุกคนจึงถึงจะเห็นความสำคัญของการได้รับโทษตรงนี้ใช่ไหม?????
ต้องมีคนต้องสูญเสียชีวิตก่อน ถึงจะเป็นอุทาหรณ์ได้ใช่ไหม?

ถ้าเป็นคนธรรมดาเมาแล้วขับรถมาชนคนในครอบครัวคุณ คุณทหารคงไม่นิ่งแน่นอน ดิฉันเชื่อแบบนั้น !!!!


ได้โปรดให้สังคมช่วยพิจารณา ไม่ขอให้เขาได้รับโทษอะไร เพราะไม่มีหลักฐานผลตรวจแอลกอฮอล์ว่าเมา
นอกจาก คุณ ก็รู้ตัวคุณเองนะคะ ว่าเมาแค่ไหน กลิ่นหึ่งแค่ไหน พูดไม่รู้เรื่องแค่ไหน !!!
แค่อยากให้รับรู้และสำนึกบ้าง รถดิฉันซ่อมได้ แต่ถ้าชีวิตคนไม่น่าจะซ่อมได้นะคะ

ถ้าคุณทหารคนที่ขับรถเมาแล้วมาชนดิฉันได้มาอ่าน อยากจะบอกว่า

ถ้าคุณไม่หนีไปแบบนั้น กลับมาเจอกันที่ สน ดีๆ มายอมรับโทษที่เมาแล้วขับ !!!!
ดิฉันเชื่อว่าคุณไม่ต้องการได้รับโทษตรงนี้ จึงหนีไป !!!!
ดิฉันก็คงไม่ต้องทำแบบนี้หรอกค่ะ !!!!
กล้าทำแล้วกล้ารับหน่อยสิคะ !!! กล้าจะเมาแล้วขับมาชน จะหนีทำไมคะ?????


ใช่ค่ะ ทหารก็เป็นคน สามารถทำผิดได้ แต่ในเมื่อคุณทำหน้าที่รับใช้ประชาชนแล้ว

ควรจะมีวินัยมากกว่าคนทั่วไป มีสติยั้งคิดยั้งทำมากกว่านี้หรือเปล่าคะ ด้วยอาชีพและหน้าที่????


เคยคิดว่าไม่อยากให้เรื่องใหญ่โต ต้องปลงบ้าง แต่เพราะมีแต่คนปลงแบบนี้ไงคะ
รั้วของชาติจึงได้ทำร้ายประชาชนแล้วหนีไปหน้าตาเฉย...
ดิฉันคงต้องใจร้ายหน่อยในครั้งนี้ เมาแล้วขับมันผิดกฏหมายอยู่แล้วนะคะ!!!


ดิฉันอาจจะโอเวอร์ไปในบางข้อความ แต่ดิฉันคิดมากตรงนี้จริงๆค่ะ
พอเจอกับตัวแล้วมันนิ่งไม่ออก....

ไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นอีก แม้จะเป็นประชาชนธรรมดาก็ตาม
เมาแล้วไม่ควรขับจริงๆค่ะ...

คนที่เขาไม่ได้เมาสนุกอะไรไปกับคุณเลยต้องมารับเคราะห์อีกเท่าไรดีคะ ถึงจะพอ....


ทั้งนี้ทั้งนั้นไม่ได้จะมาว่า ว่าทหารและตำรวจทั้งหมดไม่ดีนะคะ
แต่ยังมีคนในเครื่องแบบส่วนหนึ่งที่ใจร้ายกับประชาชนแบบนี้จริงๆ

อยากให้ทุกคนเห็นความสำคัญตรงนี้ให้มากขึ้นค่ะ