[Spoil] ดาบหักปักเมียเพื่อน (Break Blade) ตอนที่ 72 - เจตจำนงที่สวนทางกัน

กลับมาพบ Spoil รายเดือนกันอีกครั้งนะครับ

งวดนี้หายไปเกือบครึ่งปีเลยแฮะกว่าจะออกตอนใหม่มา อาจเพราะช่วงนั้นตัวคนเขียนประสบอุบัติเหตุแขนเจ็บด้วย เลยออกช้าไปเยอะ (แต่ก็แลกมาด้วยจำนวนหน้าจุใจถึง 41 หน้าเลยทีเดียว)


เช่นเคย ท่านใดอยากอ่านดิบตัวเต็มก็ไปชมที่เวบนี้กันได้ครับ

http://comic-meteor.jp/breakblade/


*หมายเหตุ - อนึ่ง ในตอนก่อนๆ ที่ผ่านมาผมเข้าใจผิดว่าชิกิวน์ถูกขังอยู่ที่เมืองหลวงของอัสซัมครับ จริงๆ ชิกิวน์ถูกขังอยู่ที่อิริออส เมืองหลวงของอาเธเนสครับ (เป็นสาเหตุว่าทำไมเครโอ้ถึงไปเยี่ยมชิกิวน์แบบเช้าไปเย็นกลับได้ในตอนก่อนๆ) ต้องขออภัยในความเข้าใจผิดตรงนี้ด้วยครับ m[_ _]m





- เปิดตอนมาต่อจากตอนก่อน หลังพวกเครโอ้พาชิกิวน์แหกคุกหนีออกจากอิริออส เมืองหลวงของอาเธเนสไป

- ทางอาเธเนสออกคำสั่งไปยังด่านผ่านทางทุกด่านจนถึงชายแดนให้เพิ่มการเฝ้าระวังถึงระดับสูงสุด หากพบตัวชิกิวน์กับคนของตระกูลซาบลาฟให้จับตัวไว้ให้ได้ ถ้าจับเป็นไม่ได้ก็จับตายได้เลย


หอส่งข่าวของอาเธเนส คล้ายๆ หอส่งสัญญาณไฟสมัยก่อนเลยแฮะ (แต่ใช้หินควอตช์ส่งสัญญาณแสงแบบรหัสมอร์สแทน)



- ฉากตัดมาทางฝั่งเครโอ้ที่ขับโกเลมพาชิกิวน์กับแม่หนีอยู่ ชิกิวน์ตั้งข้อสังเกตว่าเราหนีกันมานานพอสมควรแล้วแต่กลับไม่เห็นใครตามมาเลย แม่เครโอ้ได้ยินที่ชิกิวน์พูดก็คิดในใจว่าที่เมืองหลวงมีโกเลมเอลเทมิสกับพริเกียซึ่งเป็นโกเลมสำหรับเคลื่อนที่เร็วอยู่ แถมกว่าจะไปถึงชายแดนก็ต้องแหกด่านอีกอย่างน้อยๆ 2 ด่าน ดังนั้นโอกาสโดนหน่วยไล่ล่าจากเมืองหลวงตามทันจึงมีสูงมาก (เรียกว่าอาจโดนตามทันที่ด่านไหนก็ได้นั่นแล)


สามสาวบนเส้นทางหนีตายจากการไล่ล่าของอาเธเนส



- ดังนั้น พวกชิกิวน์จึงเร่งเดินทางทั้งกลางวันกลางคืนโดยไม่หยุดพัก (แค่ให้เครโอ้กับแม่ผลัดเวรขับโกเลมเท่านั้น) เพื่อหนีให้พ้นชายแดนโดยเร็วที่สุด

- เดินทางกันมาได้พักหนึ่งก็เจอด่านผ่านทาง ซึ่งนายด่านสั่งเตรียมพร้อมรับการมาของพวกชิกิวน์อยู่แล้ว

- พวกชิกิวน์พยายามปีนเขาหลบด่านไป แต่ไม่อาจรอดพ้นสายตาทหารสังเกตการณ์ประจำด่านไปได้ นายด่านจึงสั่งหน่วยโกเลมให้ไปที่ภูเขาเพื่อโจมตีพกเครโอ้

- ตัดมาทางฝั่งชิกิวน์ แม่เครโอ้เห็นอีกฝ่ายรู้ตัวก็เปลี่ยนแผน ให้เครโอ้พาชิกิวน์กับมอเตอร์ไซค์ไปแอบอยู่ที่หลืบเขาด้านหนึ่งไม่ให้ศัตรูเห็น จากนั้นให้พาตัวเองขึ้นไปซุ่มสังเกตการณ์บนยอดเขาที่สูงที่สุดเพื่อดูการเคลื่อนไหวของหน่วยซุ่มโจมตีของศัตรูแล้วบอกตำแหน่งให้เครโอ้

- พอศัตรูตัวหนึ่งเข้ามาในระยะเคลื่อนไหวของโกเลมของเครโอ้ แม่เครโอ้ก็ส่งสัญญาณให้เครโอ้บุกโจมตีทันที

- เครโอ้บุกตีอย่างรวดเร็ว จัดการโกเลมของอีกฝ่ายไปได้เครื่องหนึ่ง (ไม่ได้ฆ่าคนขับ แค่ทำลายแขนขากับมอนิเตอร์ที่หัวเท่านั้น) แล้วถอยกลับไปซุ่มหลังหลืบเขาเหมือนเดิม


ความสดของเครโอ้ในตอนนี้



- ฝ่ายศัตรูตกใจที่โดนซุ่มโจมตี แม่เครโอ้ก็ฉวยโอกาสส่งสัญญาณให้โจมตีอีกครั้ง เก็บโกเล็มศัตรูไปได้อีกเครื่อง

- เห็นเพื่อนโดนเก็บไปสองเครื่องแบบนั้น โกเลมเครื่องสุดท้ายที่เหลือก็เอะใจว่าน่าจะมีคนสังเกตการณ์อยู่เลยกวาดตาหารอบด้าน จนไปเจอแม่ของเครโอ้ซุ่มอยู่บนยอดเขาเข้า เลยหันไปกระหน่ำยิงใส่ยอดเขาทันที

- เครโอ้ทำท่าจะออกไปช่วย แต่โดนแม่ส่งสัญญาณห้ามไว้

- ชิกิวน์เห็นแม่เครโอ้กำลังแย่ เลยตัดสินใจบึ่งรถออกจากหลืบเขาไปอีกทางหนึ่งเพื่อดึงความสนใจศัตรู

- แผนของชิกิวน์ได้ผล ศัตรูพอเห็นชิกิวน์ขี่มอเตอร์ไซค์หนีก็ละความสนใจจากแม่เครโอ้ หันไปยิงใส่ชิกิวน์ทันที กระสุนเจาะท้ายรถมอเตอร์ไซค์ของชิกิวน์จนปลิวไปทั้งคนทั้งรถ

- พอเห็นชิกิวน์โดนเล่นงานเครโอ้ก็โกรธ พุ่งออกจากที่ซ่อนไปยิงถล่มใส่โกเลมศัตรูจนเดี้ยงทันที (เล็งแต่แขนขากับหัวไม่เล็งห้องคนขับ)

- จัดการศัตรูเสร็จ เครโอ้ก็รีบเข้าไปดูอาการชิกิวน์ว่าบาดเจ็บแค่ไหน ชิกิวน์ก็ร้องบอกว่าไม่เป็นอะไร แล้วลุกขึ้นยืนให้ดูว่าไม่ได้เป็นอะไรจริงๆ

- ระหว่างที่กำลังโล่งใจเพราะจัดการหน่วยซุ่มโจมตีของศัตรูได้หมดแล้วนั้นเอง ก็มีโกเลมเอลเทมิสตัวหนึ่งโผล่มาจากไหนไม่รู้ มาจับตัวแม่ของเครโอ้ไว้

- คนที่ขับเอลเทมิสเครื่องนี้ก็คือ เอเลคต์ อดีตผู้บังคับบัญชาของเครโอ้นั่นเอง


เอาหน้าเอเลคต์มาให้ดูเผื่อใครลืมหน้าไปแล้ว



- เอเลคต์พยายามเกลี้ยกล่อมแกมขู่ให้เครโอ้ยอมจำนนแต่โดยดี ไม่อย่างนั้นแม่ของเครโอ้ตายแน่

- แต่เครโอ้ไม่ยอม แถมยังสวนกลับอีกว่าคนอย่างเอเลคต์ไม่มีทางฆ่าตัวประกันได้หรอก เล่นเอาเอเลคต์ถึงกับกัดฟันกรอดที่โดนจี้ใจดำ

- แม่เครโอ้ก็พูดเสริมขึ้นมาว่าตั้งแต่ตัดสินใจทำแบบนี้ ตัวเธอกับเครโอ้ก็เตรียมใจไว้แล้วว่าจะไม่ได้กลับอาเธเนสอีกแน่ ดังนั้นต่อให้เอเลคต์เกลี้ยกล่อมยังไงก็เปล่าประโยชน์ เอเลคต์ถึงกับไปไม่เป็นอีกรอบ

- เครโอ้ก็พูดต่อว่าสิ่งที่ทางอาเธเนสทำมันผิดนะ เอเลคต์ก็ตอบกลับว่าประเทศคือสิ่งซึ่งแสดงตัวตนของมนุษย์ออกมา ดังนั้นย่อมมีด้านมืดอยู่ไม่มากก็น้อย หากคิดจะใช้กำลังรบที่มีอยู่ต่อกรกับความมืดเหล่านั้นทั้งหมดละก็ ต่อให้ประเทศมีกำลังรบมากแค่ไหนก็ไม่พอหรอก และบอกต่อว่าถึงไม่เห็นด้วยกับการตัดสินใจของประเทศแค่ไหนเครโอ้ก็ไม่ควรทำแบบนี้ ควรยื่นหนังสือร้องเรียนกับเบื้องบนอย่างตรงไปตรงมามากกว่า

- เครโอ้ก็แย้งกลับว่ากว่าจะถึงตอนนั้นชิกิวน์ก็โดนยิงเป้าไปแล้วสิ เอเลคต์ก็สะอึกเพราะแย้งไม่ออก

- สุดท้ายเมื่อเห็นชัดแล้วว่าไม่มีทางเกลี้ยกล่อมเครโอ้ได้ เอเลคต์ก็วางแม่เครโอ้กลับที่เดิมบนยอดเขา แล้วยกปืนเล็งไปทางเครโอ้พร้อมยิงตัดกระบังหน้าของโกเลมของเครโอ้หลุดไปข้างหนึ่ง และประกาศว่า กระสุนนัดเมื่อกี้ถือเป็นสัญญาณบอกว่าเครโอ้ที่เคยเป็นเพื่อนร่วมหน่วยของเขาได้ตายไปแล้ว เหลือแต่กบฏเครโอ้ผู้ทรยศต่อชาติบ้านเมืองตัวเองเท่านั้น ในฐานะทหารของอาเธเนส เขาจะกำจัดเครโอ้เสียที่นี่แล้วจับตัวชิกิวน์กลับไป





- เครโอ้ได้ยินแบบนั้นก็ทำหน้าเศร้าขึ้นมา เอเลคต์ก็บอกต่อว่าตอนบุกคริชน่าครั้งนั้น (ช่วงเล่มต้นๆ ตอนไรแกทได้เดลฟิงก์ครั้งแรกๆ) เครโอ้ทำได้ดีมาก เขาภุมิใจจริงๆ ที่เคยมีลูกน้องดีๆ อย่างเครโอ้

- เครโอ้นิ่งหลับตาอยู่ครู่ใหญ่ ก่อนจะลืมตาขึ้น ดวงตาฉายแววมุ่งมั่นแรงกล้า พร้อมประกาศว่า ขอบคุณสำหรับทุกอย่างที่ผ่านมา

- สิ้นคำพูดนั้น โกเลมทั้งสองเครื่องก็ตั้งท่าเตรียมสู้ทันที





- จบตอนที่ 72 -







สรุปว่าเกมแมวจับหนูงวดนี้ยังไม่มีใครตายแฮะ

ไม่ค่อยห่วงเรื่องระหว่างเครโอ้กับเอเลคต์เท่าไหร่แฮะ เพราะอย่างน้อยเอเลคต์ก็ยังเป็นชายชาติทหารมีศักดิ์ศรีมีสัจจะ ไม่ใช้วิธีสกปรกในการต่อสู้แน่ๆ ที่น่าห่วงก็คือยัยผู้คุมหน้ากากที่เป็นสายลับทำงานสกปรกให้อาเธเนสนี่แหละ ถ้ายัยนี่ตามมาทันละก็คงได้มีอะไรสยองๆ ให้ดูแน่ๆ

รอตอนต่อไปโลดครับ ยิ้ม
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่