" ถามว่าเรารู้ได้ยังว่าเวลาเราได้งานทำแล้วลูกชอบป่วย" เราสังเกตเอาอ่ะหรือว่าเราอาจจะมโนไปเองก็ไม่รู้น่ะค่ะ (ปล.เราทำงานมา 3 ที่ แล้วค่ะ)

          1. ทำงานที่แรก เราได้งานตอนลูก 5 เดือนค่ะ พอเรารู้ว่าเราได้งาน เราก็พูดกับลูกเรา ว่า "ม๊าได้งานทำแล้วน่ะ หนูต้องเป็นเด็กดีอยุ่กับย่าน่ะ ม๊าไปทำงานหาเงินมาซื้อนมซื้อผ้าอ้อมให้หนูน่ะ" เขาก็ร้องค่ะ เราก็โอ๋ตามประสาเด็กร้องอ่ะคะ่ ตอนนั้นไม่ได้ใส่ใจอะไรค่ะ พอถึงวันไปทำงานเราก็ไปทำตามเวลาเข้าออก พอกับบ้านมา แม่สามีถามเราอ่ะค่ะ ลองจับลูกสิว่าใช้ตัวร้อนเปล่า เราก็อุ้มลูกมาจับที่มือกับเท้าเขาอ่ะค่ะ(ลูกเราเวลาตัวร้อนมือกับเท้าเขาจะร้อนมาก แต่หัวไม่ค่อยร้อน) เราก็บอก อื้อ มันเหมือนจะร้อน เราก็ไปเอาปรอทวัดไข้แบบเป็นแทงแก้วอ่ะค่ะมาวัด ปรากฏ ไข้ขึ้น 38 องศา เรา งง เลยค่ะ เราก็โทไปบอกแฟนว่าลูกไข้ขึ้นน่ะ เรากำลังพาลูกไปปหาหมอ ที่ รพ.เด็ก ให้เขาตามไป แฟนเรายัง งง อ่ะค่ะ ว่าอยู่ดีๆไหมไข้ขึ้น ไปถึงพยาบาลก็ให้กะมังกับผ้ามาเช็คตัวน้องไปพลางก่อนถึงคิวหมอตรวจ เราก็นั่งเช็คตัวลูกกับสามี 2 คน จนถึง คิว หมอบอกน้องเป็นไข้หหวัดใหญ่ เราเน่ เงิบ เลยค่ะ กับมาถึงบ้านก็ดึกมากแหละ ง่วงนอนมาก แต่นอนไม่ได้ลูก ทั้งอ้วกทั้งร้องงอแง้ กว่าจะได้นอน เพลียหน้า เหมือนหัวมันจะหนักๆ ได้นอนแปปหนึ่งก็ต้องลุกไปทำงาน ง่วงนอนมาก เป็นอย่างนี้อยู่อาทิตย์กว่าๆ พอน้องเริ่มดีๆ ขึ้นแหละ แฟนโทมาตาม บอกให้รีบกับบ้านด่วน น้องท้องเสีย ถ่ายไม่หยุดเลย เราก็เลยลางานครึ่งวันกับบ้านไปดูลูก ก็พาไปหาหมอ เหมือนเดิม หมอบอกอาจเป็นเพราะเป็นไข้นานเกินไปทำให้ลำไส้ติดเชื้อ เลยทำให้น้องถ่ายท้องบ่อย หมอก็เอา อึ น้องไปวิเคราะห์หาเชื้อ แล้วก็ให้เปลี่ยนนม เป็นตัว LA แทน กว่าน้องจะอาการดีขึ้นได้ก็ปาไป อาทิตกว่าเหมือนกัน เราก็หยุดงานบ้างลามาดูลูก สามีหยุดบ้างพลัดกันหยุด พออาการน้องดีขึ้นหายแหละ ไม่ถึงเดือนเลย ลุกเราก็ป่วยอีกเป็นไข้หวัดธรรมดา เราติดไข้ลูก สามีก็มาป่วยเป็นโรคหินปูนในหูหลุด เราก็ต้องลามาดูสามี เพราะแม่สามีต้องดูลูกเรา  สรุปเราทำงานที่แรก ได้ 4 เดือน ต้องขอลาออก (เพลียมากก) To T แต่พอเราลาออกมาลูกเราก็หายไม่เป็นไข้เลย
            2. ทำงานที่สอง เราก็หางานทำอีก ตอนนี้ลูกเรา 1 ขวบกว่าๆค่ะ เราก็พูดกับลูกอารมณ์แบบเดิม แต่ครั้งนี้ฝั่งบ้านเราบอกให้จุดธูปบอกเจ้าที่เจ้าทางที่บ้านด้วย เราก็ทำตามค่ะ พอถึงวันไปทำงานเราก็เอาลูกไปส่งให้แม่สามีอีกตามเคยค่ะ ครั้งนี้ลูกเราไม่ร้องค่ะ เล่นกับย่าเขาดี ครั้งนี้ดีหน่อยลูกเราปกติดีค่ะ แต่ ปกติได้ อาทิตย์เดียว 555 ก็ไม่สบายเหมือนเดิม T o T เป็นไข้ เป็นหวัด ถ่ายท้อง วนอยู่อย่างนี้ ตลอดสามเดือน จน รพ. คลีนิก แถวบ้านจำหน้าได้แล้วค่ะ
           คุณหมอถามไปทำไรมาทำไมลูกถึงเป็นไข้บ่อยจัง เราก็ไม่รู้จะตอบไงอ่ะค่ะ ก็น้องเขาเป็นเองอ่ะค่ะ หมอบอก เดือนนี้เจอกัน สามครั้งแหละ เราก็แอบบ ฮา อยู่ในใจ คือก็ไม่มีใครอยากมา รพ.หรอกค่ะ เราก็พลัดกันหยุดกับสามีแบบเดิม แล้วเรื่องใหญ่ก็เกิดขึ้นค่ะ คือแม่สามีต้องไปอินเดียกับทางวัดค่ะ เป็นเวลา 21 วัน ตอนแรกแม่สามีก็จะไม่ไป ถ้าไปใครจะดูหลาน เราเห็นว่าท่านก็แก่แล้วไงก็เลยบอกให้ท่านไปเที่ยวเถอะไปเปิดหูเปิดตา ครั้งหนึ่งในชีวิตได้นั่งเครื่องบินฟรีไม่ต้องเสียค่าอะไรเลยน่ะ แถมไปทำบุญได้บุญด้วย ลูกหนู หนูดูแลได้ พอสามีรู้เรื่องก็โวยวาย เราก็เลยตอกไปคำ ว่าแกมีปัญหาก็ไปคุยกับแม่แกเองดิ ไม่มีก็อยู่เฉยๆ แกก็แค่ทำหน้าที่แทนแม่แกด้วยการดูแลพ่อแก แค่นั้นเอง เขาก็ไปคุยกับแม่เขาน่ะ  แม่มาเล่าให้เราฟังบอกว่าสามมีไม่อยากให้แม่ไป เพราะเขาจะไปภูเก็ตกับเพื่อนนนน  แรงมากกกก เนื่องด้วยเราหยุดบ่อยและยังไม่ผ่านโปรที่ใหม่ด้วย ผจก.เราเขาก็เลย เตือนน!!! เราว่ากลับไปอยู่บ้านดูแลลูกดีกว่าไม เราก็เลยตัดสินใจลาออกจากงานอีกครั้ง  (ทำได้ 4 เดือน)
            3. ทำงานที่สาม ลูกเรา 2 ขวบ เหมือนเดิมจ้า ลูกป่วย ไม่สบายหนัก นอนให้น้ำเกลือ เป็นมือเท้าปากเปลื่อย เป็นตาแดงติดกันทั้งบ้าน กับมาเป็นมือเท้าปากเปื่อยอีก แล้วก็เป็นหลอดลมติดเชื้อ ไอทั้งวัน ไอจนคอแดงมาก  อยู่ดีๆพี่แกก็นั่งอ้วกออกมาซ่ะงั้น กินข้าวกินยา ก็อ้วกออก คือ กินไรเข้าไปก็อ้วกออก ไปหาหมอ หมอก็ให้ยามาอีก ก็กินข้าวกินยา กินนม อ้วก  จนเราแบบ เห้ย เป็นไรอ่ะ เป็นอยู่เกือบเดือน โอ้ยยจะบ้า งานก็ต้องไปทำ หยุดบ่อยก็โดนเล่นอีก ม๊าเราเขาเลยบอกให้ลองลาออกดูดิ ลูกหนูจะหายป่วยไม เราก็ไม่อยากเชื่อน่ะค่ะ แต่ก็ลาออกค่ะ เจอแฟนว่าจนหูชาเลยค่ะ ( แต่ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อค่ะ ตั้งแต่ลาออกจากงานมา จนตอนนี้ลูกชาย 2 ขวบครึ่งแล้วค่ะ เพิ่งเข้าเตรียมอนุบาลไม่มีเป็นไข้หรือป่วยเลยค่ะ)

         บ้านเราเขาไปดูหมอมาเขาบอกว่าลูกเรายังไม่ให้ทำงาน เมื่อถึงเวลาเขาจะปล่อยเอง (ถ้ามันจริงก็อยากให้รีบปล่อยอ่ะค่ะ เพราะไม่มีจะกินแหละค่ะ)
คือจะว่าทางบ้านเรางมงายก็ได้น่ะค่ะ ที่เขาทำเพื่อให้เราสบายใจอ่ะค่ะ